สวัสดีครับ พอดีผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวเขาค้อ และ ภูทับเบิก วันที่ 12-14 พ.ย. ที่ผ่านมานี้ เลยอยากจะขอมาอวดซะหน่อย รูปที่อัพคือรูปจากหลังกล้อง XA-2 กับ ไอโฟน 5se นะครับ ผ่านแค่การบีบอัดแบบมั่วๆ รูปเลยมัวๆ ออกตัวเลยยัง ซิง!! << รีวิว ถ่ายรูป บีบไฟล์ (ยังมือใหม่อยู่ + ขี้เกียจแต่งรูป ><)        แต่แอบหวังว่าเพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่เคยไป แล้วกำลังจะไป กระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ให้ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ^^

โปรแกรมทริปคร่าวๆ ก็ประมาณนี้
วันแรก: กินไก่ย่างบัวตอง , ไร่ GB ดูกังหันลมยักษ์ , นอนที่ Lake Hill บนเขาค้อ
วันสอง: ไร่ BN , วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว , วัดป่าภูทับเบิก , นอนที่ไร่ลุงหั่งบนภูทับเบิก
วันที่สาม: รูท 12 , ครัวเขาค้อ , ไร่กำนันจุล , กลับบ้าน

วันแรก 12 พ.ย. 2559
       ออกจากบ้านที่กรุงเทพฯ ประมาณ 9.30น. ขับรถไปประมาณ บ่ายโมง นิดๆ ถึงร้านไก่ย่างบัวตองที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ระหว่างทางก็มีแวะปั๊มนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้แวะกินอะไรเลย ก็หวังจะมาฝากท้องที่ร้านเนี่ยแหละ เห็นเค้าว่าอร่อยกัน แต่ดันลืมถ่ายรูปมานี้สิ พลาดเลยประเดิมทริปก็ไม่มีรูปมาอวดซะละ (แต่ขอสัญญาหลังจากนี้จะมีรูปมาให้ดูทุกๆที่ๆไป) ทางร้านเค้ามีไก่ย่างให้เลือก 2 แบบ คือแบบแห้งกับไม่แห้ง  ผมเลยสั่งมาทั้ง 2 อย่างเลย ส่วนตัวชอบแบบแห้งมากกว่านะ แบบไม่แห้งหนังมันยังนิ่มๆอยู่เลยบางส่วน แต่ก็ต่างกันไม่มากเท่าไร ทีเด็ดเลยคือน้ำจิ้มไก่ของเค้า เด็ดจริงไรจริง สั่งไป 7 อย่าง กับขนมถ้วยและขนมเปียกปูนหัวหงอก(เปียกปูนโรยด้วยมะพร้าว เมนูนี้จัดว่าโดน) เช็คบิลมาค่าเสียหาย 800 กว่าบาท ก็ถือว่าไม่แพงเท่าไร ส้มตำจานละ 40 บาท
พอดีเจอรูปซากอาหารเอาไปดูกันก่อนละกันนะ ^^


       หลังจากกินกันเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อ เพชรบูรณ์ถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่จังหวัดนึง จากร้านไก่ย่างบัวตองกว่าจะไปถึงเขาค้อก็ใช้เวลาอีกพอสมควรเลยทีเดียว ได้ขึ้นเขาก็ล่อไป บ่าย 3 กว่า เลยรีบดิ่งไปเที่ยวก่อนค่อยเข้าที่พัก ที่แรกที่เล็งไว้ก็ ไร่สตอเบอรี่ GB ไปดูกังหันลมอันหย่ายยย



       ซึ่งบนนี้ก็มีของขายเยอะแยะตามที่คิดไว้ ส่วนมากก็เป็นพวก ผัก ผลไม้ ที่ปลูกได้จากบนนี้ สดๆจากไร่ เลยจัดมันเผากับข้าวโพดไป รสชาติหอมหวานบาดคอ เหลือหลาย เดินไปอีกหน่อยก็จัดน้ำสตอเบอรี่ต่อไปอีก ขวดนึง 35 บาท (3 ขวด 100) รสชาติเหมือนแยมละลายน้ำ หวานมาก ยิ่งกินยิ่งหิวน้ำ จะให้ดีต้องกินคู่กับน้ำแข็ง - -


ในระแวกเดียวกันนี้ มีไร่อื่นอยู่ด้วยนะ ติดกันแบบกลิ้งไปยังได้


บนนี้ยังมีทีเด็ดบนนี้อีกอย่างนึง คือนี่เลย
ชิงช้าชาวเขานั่งโยกไปโยกมาเล่นได้บรรยากาศมากๆแต่รูปเบลอไปนิด (แอบเสียวอยู่นะ มันแกว่งออกนอกเหว T T)

คนในรูปนี้คือพี่สาวผมนะครับ เดียวจะเข้าใจผิดกันนึกว่าเป็นหนุ่มเซอไว้ผมยาว

      หลังจากเตร่ไปเตร่มาอยู่ที่นี้จนพระอาทิตย์เริ่มลับตาไปแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าที่พักไปเชคอิน ที่พักที่จองไว้ก็คือ Lake Hill ที่อยู่ติดกับ ไปรษณีเขาค้อ ที่พักดี วิวสวย ราคา ณ วันที่ไป คือ 4,500 บาท สำหรับห้องพัก 4 คน เป็น กระโจมพร้อมเต้นที่ระเบียง นอนเต๊น 2 คน กระโจม 2 คนมีห้องน้ำในตัวบ้านกระโจม
บรรยากาศที่พักตอนกลางคืนก็ประมาณนี้


ที่ๆต้องมากินอาหารเช้าในวัพรุ้งนี้

ที่พักที่จองไว้ กระโจมสำหรับ 4 คน เห็นแล้วคือดีอ่ะ ชิวเลยมีที่ให้จิบเบียร์ เย็นๆ ดูบรรยากาศ พอดีพี่เปิดร้านขายเบียร์นอกอยู่ในตัวเมืองจันทบุรี ชื่อร้าน Garage Cafe เลยได้อนิสงค์มีเบียร์กินตลอดงานด้วย




มีเครื่องทำน้ำอุ่น รอดตายละ 5555

ภายในเต๊น

       หลังจากได้ยลโฉมที่ๆจะฝากชีวิตไว้ในค่ำคืนนี้กันแล้ว ก็ได้เวลาออกหากินซักที ตอนผ่านมาเห็นมีร้านอาหารขายอยู่ เลยขับรถวนกลับไป
แล้วก็มาหยุดอยู่ที่ร้านนี้ที่มีปูตัวใหญ่ๆ ร้านนี้ขายแต่ข้าวผัดเป็น สิบๆเมนู เขียนวนไปวนมา ปูกุ้ง ปูกุนเชียง กุ้งกุนเชียง - - แต่บอกเลย โคตรอร่อยผัดมาแบบรสชาติพอดี หอมกลิ่นไหม้ๆ เม็ดข้าวเรียงตัวสวยงาม ถ้าเทียบเฉพาะ รส กลิ่น สัมผัส ระหว่างข้าวผัดด้วยกันเอาไปเลย 9/10 แต่จะเทียบความหลากหลายหรืออะไรหลายๆอย่างก็ เอาไป 7/10 ก็พอหักข้อหาเขียนเมนูกวนตีน (555 ล้อเล่น)



พอดีร้านข้างๆขายตามสั่งสามารถสั่งมากินในร้านได้ รสชาติถือว่าดีเหมือนกัน ข้าวอร่อย

     พอกินกันเสร็จก็ได้เวลาที่รอคอยซักที นั่งจิบเบียร์เย็นๆหน้าที่พักดูดาว

พอตกดึกหน่อยซัก 5 ทุ่ม หมอกเริ่มมาบางๆให้พอได้เห็นแล้วจร้า แสดงว่าพรุ้งนี้ตื่นมาเห็นทะเลหมอกชัวว อุณหภูมิตอนนั้นก็อยู่ราวๆ 20 องศาเห็นจะได้เลยเริ่มแยกย้ายไปนอนดีฟ่า