ขออนุญาตเกริ่นก่อนนะครับว่าเรื่องทั้งหมดที่พิมพ์ต่อไปนี้เรื่องจริงทั้งหมด //อาจมีเพิ่มเติมนิดหน่อยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน//
ตัวละครทั้งหมดมีอยู่จริง // ขออนุญาตใช้นามสมมุติแทนตัวละครจริง // เรื่องเกิดขึ้นเป็นสถานที่จริง
ในหนึ่งปีการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยในเขตสังกัดของมหาวิทยาลัย จะมีการจัดแข่งกีฬาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทุกปี ในปีนี้ก็เช่นกัน
นักกีฬา นักศึกษา จากจังหวัดอื่นๆก็นำทัพนักศึกษา กีฬามาจากจังหวัดของตน เพื่อมาแข่งกีฬากระชับความสัมพันธ์ มีหลายประเภทกีฬา เช่น
ฟุตบอล ตะกร้อ วอลเล่บอล ปิงปอง กรีฑา และกีฬาชนิดอื่นๆ แน่นอนว่า เมื่อชายหญิง จากต่างสถาบันมาเจอกันก็อาจจะมีการแซว หรือมองสบตากันบ้าง
บางคนก็อาจจะได้แฟน จากการเจอกันครั้งนี้ หนุ่มเหนือ สาวเหนือ มีลักษณะท่าทาง อ่อนหวาน นุ่มนิ่ม ขาว ดูละมุน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องถูกตา ถูกใจกันบ้าง
ไก่(นามสมมุติ) นักกีฬาจากเมืองล้านนาตะวันออก เดินทางมาแข่งกีฬาครั้งนี้ด้วย พร้อมกับเพื่อนๆในสถาบันของเค้าเอง ที่ขนกันมาทั้งอาจารย์
นักกีฬา นักศึกษาที่มาทำหน้าที่เป็นคนเดินขบวนนำนักกีฬาเข้าสู่สนาม แน่นอนว่าจากหนึ่งสถาบันต้องมากันเกิน 100 คน
ไก่นักกีฬาปิงปองนัดนี้ ต้องมาแข่งกับต๋อง นักกีฬาจากเมืองระแหง การแข่งขันดุเดือนมากทีเดียว เรียกเสียงเชียร์จากข้างสนามได้มาก
หลังจากการแข่งขันกันเสร็จ ต่างคนต่างแยกย้ายกลับที่พัก และคืนนี้ ก็เป็นคืนสุดท้ายที่ต้องนอนพักที่นี้
สถาบันแห่งนี้อยู่ในใจกลางหุบเขา มีอากาศหนาวเย็น สบายๆทั้งปี ตอนเช้าๆมักจะมีหมอกปกคุมไปทั้งสถาบัน พอตอนเย็นๆค่ำๆ
อากาศก็จะหนาวเย็นเช่นกัน ไก่ และเพื่อนๆ 4-5คน ที่มาจากสถาบันเดียวก้ได้ซื้อเครื่องดื่ม มานั่งเดิมข้างสนามกีฬากลางของมหาวิทยาลัย
อาจจะเป็นเวลาไม่ดึกมากนัก แต่ที่นี้ค่อนข้างมืด เมื่อทั้งหมดเดิมไปค่อนข้างเมามาย แต่ยังคงมีสติสายตาก็หันไปพบหญิงสาวคนหนึ่ง
ร่างกายสมส่วน ผิวพรรณดี หน้าตาดี ตามแบบชาวเหนือ เมื่อเกิดอาการเมา แน่นอนว่าเรื่องชู้สาวก็ต้องเกิด เป็นปกติธรรมดาของมนุษย์โลก
ไก่ ได้อาสาพาโฉมงามกลับไปส่งที่หอ และได้บอกให้เพื่อนๆของตนกลับไปที่พักก่อน เมื่อตกลงกันแล้วเพื่อนๆก็ต่างกันพาแยกย้ายกลับที่พัก
หนุ่ม(นามสสมุติ) เพื่อนสนิทไก่ ได้เห็นไก่เดินตามสาวที่พึ่งจะรู้จักเข้าไปในซอย ที่ค่อนข้างเปลี่ยว ข้างๆสนามกีฬากลางที่ตนได้นั่งดื่มเหล้า แต่หนุ่มไม่ได้สังเกตมากนัก ว่าในซอยนั้น มีหอพักตามที่สาวคนนั้นได้บอกตนเองและเพื่อนๆหรือไม่ แล้วไก่ก็เดินเข้าไปในซอยแล้วก็หายไปกับความมืดพร้อมหญิงสาว หน้าตาน่ารักคนนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น นักศึกษา นักกีฬา อาจารย์จากต่างสถาบันก็พากันกลับบ้าน บ้างก็เอารถส่วนตัวมา รถบัสของมหาลัยมา หรือนั่งรถทัวร์มากัน ตามความสะดวก ทุกคนเก็บของ อาบน้ำ และพร้อมเดินทาง อาจารย์ก็ค่อยตรวจเช็คว่าลูกศิษย์ของตนมาครบหรือไม่ ปรากฏว่า ไก่ ยังไม่กลับมา เพื่อนๆอาจารย์ก็พากันตามหา โทรหาแต่ก็ไม่รับสาย หนุ่มและเพื่อนๆออกกันตามหา เจอมือถืออยู่บนที่นอน หนุ่มเลยลองไปตามที่ไก่เดินเข้าไปในซอยข้างสนามกีฬา ปรากฏว่าในซอยนั้น เป็นซอยตัน และเป็นทางดินแดงไม่มีการสัญจรของรถและคนแน่นอน
ทุกคนออกตามหาทั้งวันก็ไม่พบ เพื่อนๆต่างสถาบันก็พากันออกตามหา หรือโทรหาคนรู้จักที่คาดว่าน่าจะรู้จักไก่ หนุ่มโทรหาอาของไก่ที่พักอยู่ในตัวเมืองของจังหวัด แต่อาก็บอกว่าไก่ ไม่ได้มาหาและโทรหาเลย และไม่ทราบด้วยว่าไก่มาแข่งกีฬาที่นี้ การออกตามหากินเวลานานเป็นครึ่งวัน ล้วงเลยไปจนบ่ายแก่ๆของวันนั้น จนอาจารย์ตัดสินใจโทรหาพ่อแม่ของไก่ที่บ้าน บอกว่าลูกชายหายตัวไป ตามความเชื่อของชาวล้านนา หรือชาวเหนือมักจะเชื่อถือไสยศาสตร์ หมอผี มนต์ดำ พ่อแม่ของไก่ก็ไปหาหมอผี หมอผีก็บอกว่าตอนนี้ยังอยู่ อยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน อยู่แถวๆนั้นละ แต่อยู่ในช่องแคบๆ ข้างล่างเป็นน้ำ ไม่ไกลมากนัก รีบหาให้เจอ ต่างคนก็ต่างหากันหาเดินหน้ากระดานเรียงหนึ่งตั้งแต่ปากทางมหาลัยไปยันท้ายมหาลัยก็ไม่พบ
เวลาผ่านไปนาน 4-5 วันข่าวคราวว่าจะเจอก็ยังไม่วี่แววมาแม้แต่น้อย อาจารย์เลยนิมนต์พระชื่อดังและหมอผีในจังหวัดมาทำพิธี ก็พบความว่า ไก่ยังอยู่แต่ มีคนเอาน้ำ เอาอาหารมาให้ทานอยู่ตลอด(อิ่มทิพย์) แต่ร่างการจริงๆไม่ไหวเพราะไม่ได้ทานอะไรเลยมาตั้ง 5 วัน ถ้ายังหาไม่เจออาจจะต้องจะมีเรื่องเศร้าเกิดขึ้น มีพระอาจารย์องค์หนึ่งบอกว่า ท่านได้นิมิตรดูพบว่าไก่อยู่กับหญิงสาวคนหนึ่งในป่า มีเถาวัลย์และหินผาเต็มไปหมด หญิงสาวคนนั้นคอยปฏิบัติต่อไก่แบบคนรัก หาข้าว หาปลาให้ไก่ทานอยู่ตลอด(ประมาณว่าไก่หลับฝันว่าตนได้กินข้าวกินน้ำแต่ร่างกายไม่ได้สารอาหาร)
พอหญิงสาวรู้ว่าพระอาจารย์กำลังมายุ่งกับตนเองและไก่
จึงได้ต่อว่าและอาลวาดพระอาจารย์ว่า "จะมายุ่งกับกูทำไม นี้มันเรื่องของผัวเมีย คนอื่นออกไปไกลๆ" พระอาจารย์ถามต่อว่า "ทำไมเอาคนนั้นมาอยู่ด้วย ไม่ปล่อยคนนั้นไป" หญิงสาวตอบว่า "เค้าและไก่ เป็นคนรักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน สัญญารักกันว่าจะรักกันตลอดไปทุกชาติไป" แต่ไก่ก็มาตายก่อนแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์อีกชาติหนึ่ง แต่หญิงสาวยังไม่มาเกิด พอไก่มาแข่งกีฬา ไก่มาในที่ที่เคยเจอกัน เคยสัญญากันไว้ ก็เลยให้มาพบกัน เนื่องจากหญิงสาวได้ออกตามหาไก่อยู่ตลอด
พระอาจารย์คงนั้นยังเล่าต่ออีกว่า ตอนที่หญิงสาวคนนั้นมาหาไก่ ได้แปลงกายเป็นหญิงสาวโฉมงาม หน้าตาคล้ายคนสมัยโบราณแต่สวยคมคาย ผิวสีน้ำผึ้ง ผมดำยาวสลวย ปากแดงสีชาติ ในตากลมโต แต่จริงๆแล้วเป็นนางไม้ที่แปลงกายมามาไก่ ถ้าหากให้หญิงสาวคนนั้นแปลงกายกลับแบบเดิมก็จะน่ากลัว เพราะมีผิวพรรณเหี่ยวย่น ตาแดงโต มีอายุ แก่
(ให้นึกถึงผี ที่น่ากลัวๆ) พระอาจารย์ได้ขอบิณฑบาตรขอไก่คืน แต่หญิงสาวก็ยังไม่ปล่อยไก่ออกมา หญิงสาวคนนั้นก็ยังขู่อีกว่า "ไม่ใช่เรื่องของตน ก็อย่ามายุ่ง" หากพระอาจารย์ยังยุ่งเรื่องของตนอยู่ อาจจะได้เห็นดีกัน พระอาจารย์เลยปล่อยให้เป็นไปตามลิขิตเวรกรรมของคนนั้นๆ
เวลาผ่านไปนานถึง 10 วันโอกาสที่จะตามหาไก่เจอดูแล้วไม่มีทีท่าว่าไก่จะกลับ หมอผีต่างๆที่ได้ดูดวงก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหากพ้นเย็นนี้ไป ไก่อาจจะไม่รอดกลับมา เพราะร่างกายของไก่ไม่ได้รับสารอาหารเลยนอกจากการกินทิพย์ ทุกคนต่างท้อแท้กับการออกตามหาไก่ และดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะค่อยๆเงียบลง หลายคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ นักเรียน นักศึกษาก็พากันเข้าเรียน ตามปกติ เช้าไปเรียน เย็นกลับหอ
ล่าสุดมีข่าวมาจากชาวหาบ้านมาแจ้งอาจารย์ในมหาลัยว่าพบผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในป่าใก้ลหนองน้ำใส่ชุดกีฬา นอนสลบอยู่ ทั้งอาจารย์ ชาวบ้านและเพื่อนนักศึกษาก็ไปหากันไปออกตามหา ตามที่ชาวบ้านแจ้งว่าพบผู้ชายดังกล่าวในป่า พอไปถึงที่เกิดเหตุ ก็ต้องตะลึงกันไปปรากฏว่าคนที่พบนอนสลบอยู่คือนายไก่ ที่หายไปตั้งแต่ต้นสัปดาห์ก่อนในสภาพ นอนคว่ำอยู่ในสระ หัวมุดเข้าไปในหลุมเล็กๆ ในหนองน้ำ ในชุดกีฬาสีน้ำเงิน มีสภาพเนื้อตัวซีด และเปื้อยยุ่ยบางส่วนเหมือนโดยปลากัด ชาวบ้านก็พากันนำตัวขึ้นมาจากสระ และส่งให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไป และทางมหาวิทยาลัยก็ได้แจ้งเรื่องไปยังพ่อแม่ของนายไก่ด้วย
เพื่อนนายไก่เล่าว่า นายไก่เป็นคนดี รักครอบครัว นิสัยดี เรียนเก่ง แต่นายไก่ไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบออกมาอยู่คนเดียวเคยขอพ่อแม่มาเรียนนอกจังหวัดหลายครา แต่พ่อแม่นายไก่ก้ไม่ยอม เป็นไปได้ว่าพ่อแม่นายไก่อาจจะรู้ว่า ถ้าหากปล่อยนายไก่ออกมาจังหวัดที่ตนอาศัย อาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็เป็นได้
ปล.1 ขออนุญาตนำเรื่องมาเล่า / ขออโหสิต่อการกระทำนี้ด้วย
ปล.2 เรื่องทั้งหมดมาจากเรื่องจริง / มีแต่งเติมเพียงนิดหน่อยเพื่ออรรถรสในการอ่าน แต่ไม่ได้บิดเบือนเนื้อหา
ปล.3 หากมีการใช้คำที่ไม่ถูกต้อง / เขียนผิด ขออภัยด้วย / ติ หรือ ชมได้ / ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
เรื่อง สัญญาเมื่อชาติปางก่อน
ตัวละครทั้งหมดมีอยู่จริง // ขออนุญาตใช้นามสมมุติแทนตัวละครจริง // เรื่องเกิดขึ้นเป็นสถานที่จริง
ในหนึ่งปีการศึกษาของนักศึกษามหาวิทยาลัยในเขตสังกัดของมหาวิทยาลัย จะมีการจัดแข่งกีฬาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทุกปี ในปีนี้ก็เช่นกัน
นักกีฬา นักศึกษา จากจังหวัดอื่นๆก็นำทัพนักศึกษา กีฬามาจากจังหวัดของตน เพื่อมาแข่งกีฬากระชับความสัมพันธ์ มีหลายประเภทกีฬา เช่น
ฟุตบอล ตะกร้อ วอลเล่บอล ปิงปอง กรีฑา และกีฬาชนิดอื่นๆ แน่นอนว่า เมื่อชายหญิง จากต่างสถาบันมาเจอกันก็อาจจะมีการแซว หรือมองสบตากันบ้าง
บางคนก็อาจจะได้แฟน จากการเจอกันครั้งนี้ หนุ่มเหนือ สาวเหนือ มีลักษณะท่าทาง อ่อนหวาน นุ่มนิ่ม ขาว ดูละมุน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องถูกตา ถูกใจกันบ้าง
ไก่(นามสมมุติ) นักกีฬาจากเมืองล้านนาตะวันออก เดินทางมาแข่งกีฬาครั้งนี้ด้วย พร้อมกับเพื่อนๆในสถาบันของเค้าเอง ที่ขนกันมาทั้งอาจารย์
นักกีฬา นักศึกษาที่มาทำหน้าที่เป็นคนเดินขบวนนำนักกีฬาเข้าสู่สนาม แน่นอนว่าจากหนึ่งสถาบันต้องมากันเกิน 100 คน
ไก่นักกีฬาปิงปองนัดนี้ ต้องมาแข่งกับต๋อง นักกีฬาจากเมืองระแหง การแข่งขันดุเดือนมากทีเดียว เรียกเสียงเชียร์จากข้างสนามได้มาก
หลังจากการแข่งขันกันเสร็จ ต่างคนต่างแยกย้ายกลับที่พัก และคืนนี้ ก็เป็นคืนสุดท้ายที่ต้องนอนพักที่นี้
สถาบันแห่งนี้อยู่ในใจกลางหุบเขา มีอากาศหนาวเย็น สบายๆทั้งปี ตอนเช้าๆมักจะมีหมอกปกคุมไปทั้งสถาบัน พอตอนเย็นๆค่ำๆ
อากาศก็จะหนาวเย็นเช่นกัน ไก่ และเพื่อนๆ 4-5คน ที่มาจากสถาบันเดียวก้ได้ซื้อเครื่องดื่ม มานั่งเดิมข้างสนามกีฬากลางของมหาวิทยาลัย
อาจจะเป็นเวลาไม่ดึกมากนัก แต่ที่นี้ค่อนข้างมืด เมื่อทั้งหมดเดิมไปค่อนข้างเมามาย แต่ยังคงมีสติสายตาก็หันไปพบหญิงสาวคนหนึ่ง
ร่างกายสมส่วน ผิวพรรณดี หน้าตาดี ตามแบบชาวเหนือ เมื่อเกิดอาการเมา แน่นอนว่าเรื่องชู้สาวก็ต้องเกิด เป็นปกติธรรมดาของมนุษย์โลก
ไก่ ได้อาสาพาโฉมงามกลับไปส่งที่หอ และได้บอกให้เพื่อนๆของตนกลับไปที่พักก่อน เมื่อตกลงกันแล้วเพื่อนๆก็ต่างกันพาแยกย้ายกลับที่พัก
หนุ่ม(นามสสมุติ) เพื่อนสนิทไก่ ได้เห็นไก่เดินตามสาวที่พึ่งจะรู้จักเข้าไปในซอย ที่ค่อนข้างเปลี่ยว ข้างๆสนามกีฬากลางที่ตนได้นั่งดื่มเหล้า แต่หนุ่มไม่ได้สังเกตมากนัก ว่าในซอยนั้น มีหอพักตามที่สาวคนนั้นได้บอกตนเองและเพื่อนๆหรือไม่ แล้วไก่ก็เดินเข้าไปในซอยแล้วก็หายไปกับความมืดพร้อมหญิงสาว หน้าตาน่ารักคนนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น นักศึกษา นักกีฬา อาจารย์จากต่างสถาบันก็พากันกลับบ้าน บ้างก็เอารถส่วนตัวมา รถบัสของมหาลัยมา หรือนั่งรถทัวร์มากัน ตามความสะดวก ทุกคนเก็บของ อาบน้ำ และพร้อมเดินทาง อาจารย์ก็ค่อยตรวจเช็คว่าลูกศิษย์ของตนมาครบหรือไม่ ปรากฏว่า ไก่ ยังไม่กลับมา เพื่อนๆอาจารย์ก็พากันตามหา โทรหาแต่ก็ไม่รับสาย หนุ่มและเพื่อนๆออกกันตามหา เจอมือถืออยู่บนที่นอน หนุ่มเลยลองไปตามที่ไก่เดินเข้าไปในซอยข้างสนามกีฬา ปรากฏว่าในซอยนั้น เป็นซอยตัน และเป็นทางดินแดงไม่มีการสัญจรของรถและคนแน่นอน
ทุกคนออกตามหาทั้งวันก็ไม่พบ เพื่อนๆต่างสถาบันก็พากันออกตามหา หรือโทรหาคนรู้จักที่คาดว่าน่าจะรู้จักไก่ หนุ่มโทรหาอาของไก่ที่พักอยู่ในตัวเมืองของจังหวัด แต่อาก็บอกว่าไก่ ไม่ได้มาหาและโทรหาเลย และไม่ทราบด้วยว่าไก่มาแข่งกีฬาที่นี้ การออกตามหากินเวลานานเป็นครึ่งวัน ล้วงเลยไปจนบ่ายแก่ๆของวันนั้น จนอาจารย์ตัดสินใจโทรหาพ่อแม่ของไก่ที่บ้าน บอกว่าลูกชายหายตัวไป ตามความเชื่อของชาวล้านนา หรือชาวเหนือมักจะเชื่อถือไสยศาสตร์ หมอผี มนต์ดำ พ่อแม่ของไก่ก็ไปหาหมอผี หมอผีก็บอกว่าตอนนี้ยังอยู่ อยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน อยู่แถวๆนั้นละ แต่อยู่ในช่องแคบๆ ข้างล่างเป็นน้ำ ไม่ไกลมากนัก รีบหาให้เจอ ต่างคนก็ต่างหากันหาเดินหน้ากระดานเรียงหนึ่งตั้งแต่ปากทางมหาลัยไปยันท้ายมหาลัยก็ไม่พบ
เวลาผ่านไปนาน 4-5 วันข่าวคราวว่าจะเจอก็ยังไม่วี่แววมาแม้แต่น้อย อาจารย์เลยนิมนต์พระชื่อดังและหมอผีในจังหวัดมาทำพิธี ก็พบความว่า ไก่ยังอยู่แต่ มีคนเอาน้ำ เอาอาหารมาให้ทานอยู่ตลอด(อิ่มทิพย์) แต่ร่างการจริงๆไม่ไหวเพราะไม่ได้ทานอะไรเลยมาตั้ง 5 วัน ถ้ายังหาไม่เจออาจจะต้องจะมีเรื่องเศร้าเกิดขึ้น มีพระอาจารย์องค์หนึ่งบอกว่า ท่านได้นิมิตรดูพบว่าไก่อยู่กับหญิงสาวคนหนึ่งในป่า มีเถาวัลย์และหินผาเต็มไปหมด หญิงสาวคนนั้นคอยปฏิบัติต่อไก่แบบคนรัก หาข้าว หาปลาให้ไก่ทานอยู่ตลอด(ประมาณว่าไก่หลับฝันว่าตนได้กินข้าวกินน้ำแต่ร่างกายไม่ได้สารอาหาร)
พอหญิงสาวรู้ว่าพระอาจารย์กำลังมายุ่งกับตนเองและไก่
จึงได้ต่อว่าและอาลวาดพระอาจารย์ว่า "จะมายุ่งกับกูทำไม นี้มันเรื่องของผัวเมีย คนอื่นออกไปไกลๆ" พระอาจารย์ถามต่อว่า "ทำไมเอาคนนั้นมาอยู่ด้วย ไม่ปล่อยคนนั้นไป" หญิงสาวตอบว่า "เค้าและไก่ เป็นคนรักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน สัญญารักกันว่าจะรักกันตลอดไปทุกชาติไป" แต่ไก่ก็มาตายก่อนแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์อีกชาติหนึ่ง แต่หญิงสาวยังไม่มาเกิด พอไก่มาแข่งกีฬา ไก่มาในที่ที่เคยเจอกัน เคยสัญญากันไว้ ก็เลยให้มาพบกัน เนื่องจากหญิงสาวได้ออกตามหาไก่อยู่ตลอด
พระอาจารย์คงนั้นยังเล่าต่ออีกว่า ตอนที่หญิงสาวคนนั้นมาหาไก่ ได้แปลงกายเป็นหญิงสาวโฉมงาม หน้าตาคล้ายคนสมัยโบราณแต่สวยคมคาย ผิวสีน้ำผึ้ง ผมดำยาวสลวย ปากแดงสีชาติ ในตากลมโต แต่จริงๆแล้วเป็นนางไม้ที่แปลงกายมามาไก่ ถ้าหากให้หญิงสาวคนนั้นแปลงกายกลับแบบเดิมก็จะน่ากลัว เพราะมีผิวพรรณเหี่ยวย่น ตาแดงโต มีอายุ แก่
(ให้นึกถึงผี ที่น่ากลัวๆ) พระอาจารย์ได้ขอบิณฑบาตรขอไก่คืน แต่หญิงสาวก็ยังไม่ปล่อยไก่ออกมา หญิงสาวคนนั้นก็ยังขู่อีกว่า "ไม่ใช่เรื่องของตน ก็อย่ามายุ่ง" หากพระอาจารย์ยังยุ่งเรื่องของตนอยู่ อาจจะได้เห็นดีกัน พระอาจารย์เลยปล่อยให้เป็นไปตามลิขิตเวรกรรมของคนนั้นๆ
เวลาผ่านไปนานถึง 10 วันโอกาสที่จะตามหาไก่เจอดูแล้วไม่มีทีท่าว่าไก่จะกลับ หมอผีต่างๆที่ได้ดูดวงก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหากพ้นเย็นนี้ไป ไก่อาจจะไม่รอดกลับมา เพราะร่างกายของไก่ไม่ได้รับสารอาหารเลยนอกจากการกินทิพย์ ทุกคนต่างท้อแท้กับการออกตามหาไก่ และดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะค่อยๆเงียบลง หลายคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ นักเรียน นักศึกษาก็พากันเข้าเรียน ตามปกติ เช้าไปเรียน เย็นกลับหอ
ล่าสุดมีข่าวมาจากชาวหาบ้านมาแจ้งอาจารย์ในมหาลัยว่าพบผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในป่าใก้ลหนองน้ำใส่ชุดกีฬา นอนสลบอยู่ ทั้งอาจารย์ ชาวบ้านและเพื่อนนักศึกษาก็ไปหากันไปออกตามหา ตามที่ชาวบ้านแจ้งว่าพบผู้ชายดังกล่าวในป่า พอไปถึงที่เกิดเหตุ ก็ต้องตะลึงกันไปปรากฏว่าคนที่พบนอนสลบอยู่คือนายไก่ ที่หายไปตั้งแต่ต้นสัปดาห์ก่อนในสภาพ นอนคว่ำอยู่ในสระ หัวมุดเข้าไปในหลุมเล็กๆ ในหนองน้ำ ในชุดกีฬาสีน้ำเงิน มีสภาพเนื้อตัวซีด และเปื้อยยุ่ยบางส่วนเหมือนโดยปลากัด ชาวบ้านก็พากันนำตัวขึ้นมาจากสระ และส่งให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไป และทางมหาวิทยาลัยก็ได้แจ้งเรื่องไปยังพ่อแม่ของนายไก่ด้วย
เพื่อนนายไก่เล่าว่า นายไก่เป็นคนดี รักครอบครัว นิสัยดี เรียนเก่ง แต่นายไก่ไม่ชอบอยู่บ้าน ชอบออกมาอยู่คนเดียวเคยขอพ่อแม่มาเรียนนอกจังหวัดหลายครา แต่พ่อแม่นายไก่ก้ไม่ยอม เป็นไปได้ว่าพ่อแม่นายไก่อาจจะรู้ว่า ถ้าหากปล่อยนายไก่ออกมาจังหวัดที่ตนอาศัย อาจจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็เป็นได้
ปล.1 ขออนุญาตนำเรื่องมาเล่า / ขออโหสิต่อการกระทำนี้ด้วย
ปล.2 เรื่องทั้งหมดมาจากเรื่องจริง / มีแต่งเติมเพียงนิดหน่อยเพื่ออรรถรสในการอ่าน แต่ไม่ได้บิดเบือนเนื้อหา
ปล.3 หากมีการใช้คำที่ไม่ถูกต้อง / เขียนผิด ขออภัยด้วย / ติ หรือ ชมได้ / ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน