Donald Trump ทำให้ผมคิดถึงคนในประวัติศาสตร์2คน
- คนแรก
Julius Caesar ราชานักรบของโรมัน เป็นนายพลที่เก่งมากจนได้เป็นจักรพรรดิ ช่วงชีวิตของซีซ่าตอนวัยหนุ่มนี้ Party Hard มาก สังคมไฮโซรู้จักซีซ่าหมด ซีซ่าใจใหญ่ จัดเลี้ยงเพื่อนฝูงมากมาย และเป็นนักพูดที่ชาวบ้านชอบ (โรมันจะมีลานให้ชาวโรมันแสดงออกทางความคิด นักการเมืองดังๆมักเกิดจากจุดนั้น)
...และชอบตีท้ายครัวชาวบ้านทำให้ชื่อเสีย(ง)เขาโด่งดังมาก (คล้ายๆทรัมป์555)
ชื่อเสียงและชื่อเสียของซีซ่ามีมากมาย คนรักก็มากคนชังก็เยอะ ด้วยความโผงผางและเด็ดขาดทำให้เขาได้ขึ้นเป็นเผด็จการของโรมัน
จุดที่คล้ายกันของทรัมป์และซีซ่าคือ "การขยายชื่อเสียงของตนเองโดยไม่สนใจว่าจะเป็นด้านดีหรือร้าย" เป็นการแสดงจุดยืน/ตัวตนของตัวเองอย่างชัดเจน นักการเมืองในสภาด่าซีซ่าทุกวันว่าเป็นเผด็จการขัดต่อสาธารณรัฐ(ถ้าเป็นปัจจุบันก็คงโดนนักวิชาการด่าว่าไม่ชาทิปไตยเบย) แต่ซีซ่าก็ไม่สนใจรวบอำนาจ ขยายดินแดน และมอบ"ขนมปังและไวน์"ให้ชาวโรมันสุขสบายลืมว่าสาธารณรัฐคืออะไร
ทรัมป์ก็เช่นกัน เขาพยายามออกสื่อมาทั้งชีวิต เป็นทั้งตัวประกอบหนัง ขึ้นเวทีมวยปล้ำ จนถึงจัดรายการRealityของตนเอง ทรัมป์ยอมแม้กระทั่งจ่ายเงินสร้างลานสเก็ตให้ชาวนิวยอร์คเพื่อโปรโมตตัวเอง
การหาเสียงของทรัมป์พูดจาโผงผางตรงไปตรงมา โอ้อวดตัวเอง ด่าทอผู้อื่น เหยียดเชื้อชาติ แน่นอนว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนกล้าแตะประเด็นละเอียดอ่อนนี้เพราะ
"กลัวเสียฐานคะแนน" แต่ไม่ใช่กับทรัมป์ เขาเลือกชัดเจนที่จะมีคนรักและเกลียด ให้คนด่าเขามากๆเกิดเป็นกระแสทรัมป์ในอินเตอร์เนต หลายคนคิดว่าเขาคือตัวตลกหรือไอ้บ้าเหยียดเชื้อชาติสร้างความขัดแย้ง แต่ทุกคนกลับคิดถึงทรัมป์ตลอดเวลา เป็นหลักการตลาดสร้างDramaให้คนสนใจโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท(ดอลลาร์)
-คนที่สอง
Adolf Hitler ฮิตเลอร์เป็นนักพูดฝีปากเอกของพรรคนาซีเยอรมัน สร้างตัวขึ้นมาผ่านการ"พูด" เพื่อปลุกเร้าชาวเยอรมันที่กำลังเสียกำลังใจพ่ายแพ้จากสงครามโลกครั้งที่1 การขึ้นเวทีของฮิตเลอร์แต่ละครั้งเต็มไปด้วยพลัง ความแค้น ความมุ่งมั่นที่จะฟื้นคืนชาติเยอรมันที่ยิ่งใหญ่
...และคนทรยศ คนผิดที่หักหลังชาวเยอรมันคือพวกยิว!!
ชาวยิวคือพวกทรยศที่ขายความลับ บั่นทอนชาวเยอรมันขณะที่กำลังสู้รบอยู่แนวหน้า พวกยิวกลับรวยเอาๆ คือสิ่งที่ฮิตเลอร์บอกชาวเยอรมัน
ความผิดทั้งหมดทั้งปวงโทษคนอื่นนั่นแหละดีเป็นสันดานของมนุษย์โลกที่มองความผิดผู้อื่นเท่าผู้เขา ของเราเท่าขนมด
ทำให้คนเยอรมันชอบฮิตเลอร์มากกกก ได้เป็นผู้นำสูงสุดบอกให้ฆ่าชาวยิวไป6ล้านคนเหมือนผักปลาก็ไม่รู้สึกผิด วาจาคนมันช่างน่ากลัว
ทรัมป์เช่นกัน เขาใช้ความกลัวความเกลียดสร้าง Hate speech เขารู้ว่าชาวผิวขาวอเมริกันกำลังผิดหวังกับประเทศของตัวเอง เศรษฐกิจที่ถดถอย บรรษัทยักษ์ใหญ่หนีไปตั้งโรงงานต่างประเทศ คนอเมริกันตกงาน พวกผู้อยพยทั้งผิวเหลืองผิวดำนี่หล่ะที่ผิด! มันมาแย่งงานเรา มันทำให้เราจนลง มันไม่ทำงาน เราต้องทำงานแทบตายเพื่อจ่ายภาษีไปเลี้ยงพวกมัน!
ความกลัวการก่อการร้ายในใจคนอเมริกันก็ใช้ได้ผล พวกเขากลัวชาวอิสลามที่จะมาก่อการร้าย การเหมาว่าอิสลามเป็นผู้ก่อการร้ายทั้งหมดก็ได้ผล ทรัมป์เลือกที่จะสั่งห้ามไม้ให้มุสลิมเข้าประเทศ เปิดแผลความกลัวในใจคนที่ไม่กล้าพูดออกมา
ทรัมป์คงเหมือนลุงที่ลุกขึ้นไปด่าเพื่อนบ้านที่ชอบเมาโวยวายข้างบ้านคุณ คุณไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นคนยังไงแต่มันด่าได้ถูกใจเหลือเกิน
ส่วนฮิลลารีคงเหมือนคุณป้าไฮโซตีกระบังออกงานชอบพูดเรื่องพาไปทำบุญ ดูดีหัวยันเท้า แต่ลับหลังนินทาลูกสะใภ้ยันคนใช้ข้างบ้าน
เวรรกรรมของอเมริกาแท้ๆ....
Donald Trump จูเลียส์ ซีซ่า และอดอล์ฟ ฮิตเลอร์
Donald Trump ทำให้ผมคิดถึงคนในประวัติศาสตร์2คน
- คนแรก Julius Caesar ราชานักรบของโรมัน เป็นนายพลที่เก่งมากจนได้เป็นจักรพรรดิ ช่วงชีวิตของซีซ่าตอนวัยหนุ่มนี้ Party Hard มาก สังคมไฮโซรู้จักซีซ่าหมด ซีซ่าใจใหญ่ จัดเลี้ยงเพื่อนฝูงมากมาย และเป็นนักพูดที่ชาวบ้านชอบ (โรมันจะมีลานให้ชาวโรมันแสดงออกทางความคิด นักการเมืองดังๆมักเกิดจากจุดนั้น)
...และชอบตีท้ายครัวชาวบ้านทำให้ชื่อเสีย(ง)เขาโด่งดังมาก (คล้ายๆทรัมป์555)
ชื่อเสียงและชื่อเสียของซีซ่ามีมากมาย คนรักก็มากคนชังก็เยอะ ด้วยความโผงผางและเด็ดขาดทำให้เขาได้ขึ้นเป็นเผด็จการของโรมัน
จุดที่คล้ายกันของทรัมป์และซีซ่าคือ "การขยายชื่อเสียงของตนเองโดยไม่สนใจว่าจะเป็นด้านดีหรือร้าย" เป็นการแสดงจุดยืน/ตัวตนของตัวเองอย่างชัดเจน นักการเมืองในสภาด่าซีซ่าทุกวันว่าเป็นเผด็จการขัดต่อสาธารณรัฐ(ถ้าเป็นปัจจุบันก็คงโดนนักวิชาการด่าว่าไม่ชาทิปไตยเบย) แต่ซีซ่าก็ไม่สนใจรวบอำนาจ ขยายดินแดน และมอบ"ขนมปังและไวน์"ให้ชาวโรมันสุขสบายลืมว่าสาธารณรัฐคืออะไร
ทรัมป์ก็เช่นกัน เขาพยายามออกสื่อมาทั้งชีวิต เป็นทั้งตัวประกอบหนัง ขึ้นเวทีมวยปล้ำ จนถึงจัดรายการRealityของตนเอง ทรัมป์ยอมแม้กระทั่งจ่ายเงินสร้างลานสเก็ตให้ชาวนิวยอร์คเพื่อโปรโมตตัวเอง
การหาเสียงของทรัมป์พูดจาโผงผางตรงไปตรงมา โอ้อวดตัวเอง ด่าทอผู้อื่น เหยียดเชื้อชาติ แน่นอนว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนกล้าแตะประเด็นละเอียดอ่อนนี้เพราะ"กลัวเสียฐานคะแนน" แต่ไม่ใช่กับทรัมป์ เขาเลือกชัดเจนที่จะมีคนรักและเกลียด ให้คนด่าเขามากๆเกิดเป็นกระแสทรัมป์ในอินเตอร์เนต หลายคนคิดว่าเขาคือตัวตลกหรือไอ้บ้าเหยียดเชื้อชาติสร้างความขัดแย้ง แต่ทุกคนกลับคิดถึงทรัมป์ตลอดเวลา เป็นหลักการตลาดสร้างDramaให้คนสนใจโดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท(ดอลลาร์)
-คนที่สอง Adolf Hitler ฮิตเลอร์เป็นนักพูดฝีปากเอกของพรรคนาซีเยอรมัน สร้างตัวขึ้นมาผ่านการ"พูด" เพื่อปลุกเร้าชาวเยอรมันที่กำลังเสียกำลังใจพ่ายแพ้จากสงครามโลกครั้งที่1 การขึ้นเวทีของฮิตเลอร์แต่ละครั้งเต็มไปด้วยพลัง ความแค้น ความมุ่งมั่นที่จะฟื้นคืนชาติเยอรมันที่ยิ่งใหญ่
...และคนทรยศ คนผิดที่หักหลังชาวเยอรมันคือพวกยิว!!
ชาวยิวคือพวกทรยศที่ขายความลับ บั่นทอนชาวเยอรมันขณะที่กำลังสู้รบอยู่แนวหน้า พวกยิวกลับรวยเอาๆ คือสิ่งที่ฮิตเลอร์บอกชาวเยอรมัน
ความผิดทั้งหมดทั้งปวงโทษคนอื่นนั่นแหละดีเป็นสันดานของมนุษย์โลกที่มองความผิดผู้อื่นเท่าผู้เขา ของเราเท่าขนมด
ทำให้คนเยอรมันชอบฮิตเลอร์มากกกก ได้เป็นผู้นำสูงสุดบอกให้ฆ่าชาวยิวไป6ล้านคนเหมือนผักปลาก็ไม่รู้สึกผิด วาจาคนมันช่างน่ากลัว
ทรัมป์เช่นกัน เขาใช้ความกลัวความเกลียดสร้าง Hate speech เขารู้ว่าชาวผิวขาวอเมริกันกำลังผิดหวังกับประเทศของตัวเอง เศรษฐกิจที่ถดถอย บรรษัทยักษ์ใหญ่หนีไปตั้งโรงงานต่างประเทศ คนอเมริกันตกงาน พวกผู้อยพยทั้งผิวเหลืองผิวดำนี่หล่ะที่ผิด! มันมาแย่งงานเรา มันทำให้เราจนลง มันไม่ทำงาน เราต้องทำงานแทบตายเพื่อจ่ายภาษีไปเลี้ยงพวกมัน!
ความกลัวการก่อการร้ายในใจคนอเมริกันก็ใช้ได้ผล พวกเขากลัวชาวอิสลามที่จะมาก่อการร้าย การเหมาว่าอิสลามเป็นผู้ก่อการร้ายทั้งหมดก็ได้ผล ทรัมป์เลือกที่จะสั่งห้ามไม้ให้มุสลิมเข้าประเทศ เปิดแผลความกลัวในใจคนที่ไม่กล้าพูดออกมา
ทรัมป์คงเหมือนลุงที่ลุกขึ้นไปด่าเพื่อนบ้านที่ชอบเมาโวยวายข้างบ้านคุณ คุณไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นคนยังไงแต่มันด่าได้ถูกใจเหลือเกิน
ส่วนฮิลลารีคงเหมือนคุณป้าไฮโซตีกระบังออกงานชอบพูดเรื่องพาไปทำบุญ ดูดีหัวยันเท้า แต่ลับหลังนินทาลูกสะใภ้ยันคนใช้ข้างบ้าน
เวรรกรรมของอเมริกาแท้ๆ....