เพราะรัก..

แรกรัก

ผมไม่แน่ใจว่า  เมื่อแรกเริ่ม
ความรักระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับพสกนิกรชาวไทยนั้น
อุบัติขึ้นเมื่อใดและอย่างไร
แต่เมื่อพิจารณาว่า  คนไทยผูกพันกับสถาบันกษัตริย์มาอย่างยาวนาน
หากจะกล่าวว่า  คนไทยรักพระองค์ในฐานะ ”กษัตริย์” ของพวกเขา
นับแต่วันแรกที่ทราบว่า  พระองค์ทรงรับที่จะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่๙ แล้ว
คงเป็นคำกล่าวที่ไม่ผิดจากความเป็นจริงนัก
ดังมีหลักฐานแห่งความรัก  ปรากฏในบันทึกของพระองค์  เมื่อ19 ส.ค.2489
ถึงประโยคประวัติศาสตร์ที่ว่า

“..ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน..”

ประโยคที่บ่งบอกถึงความรัก  ความผูกพัน  ที่คนไทยมีต่อ ”กษัตริย์” ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี


9 มิ.ย. 2489

วันที่ต้องตัดสินพระทัยรับขึ้นครองราชย์ขณะทรงพระเยาว์นั้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นกระทันหัน  อย่างไม่ทันที่ใครจะตั้งตัว
เป็นที่เปิดเผยเมื่อภายหลังว่า  ที่ทรงรับขึ้นครองราชย์ ณ.ขณะนั้น
ทรงตั้งพระทัย  เพื่อจะประกอบพระราชพิธีพระบรมศพรัชกาลที่๘ ให้สมพระเกียรติเท่านั้น
ห้วงขณะนั้น  ในพระทัยคงมีแต่ความโศกเศร้าอาดูร
“รัก” อาจไม่ได้เกิดขึ้นฉับพลันทันใด
แต่วันที่ทรงตัดสินพระทัย  ที่จะรับเอาสุข  ทุกข์ของคนไทยนับสิบๆล้านคน  มาเป็นพระราชภาระนั้น
นอกจากความกล้าหาญ  ความเสียสละอันยิ่งใหญ่แล้ว
สิ่งที่ต้องอุบัติขึ้นในพระทัยอย่างแน่แท้แล้วในขณะนั้น  คือ  ความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์  



เทิดภักดิ์ภูวดล


“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม  เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

พระราชสัญญา  ที่สั้นและจริงแท้

เมื่อวัยเยาว์  รักที่ผมมีต่อพระองค์  คงเป็นเฉกเช่นเด็กๆทั่วไป
ที่ยังไม่ได้เรียนรู้ถึงเหตุผล  เป็นความรักที่เกิดในสมองส่วนของอารมณ์ความรู้สึก
เมื่อเติบใหญ่  ผมค่อยๆรับรู้สิ่งที่พระองค์ทำ
ค่อยๆเข้าใจความหมายที่มีอยู่ในคำทุกคำ  ของพระปฐมบรมราชโองการ
ค่อยๆประจักษ์ชัดถึง ”เหตุ” และ ”ผล” ของความรักที่มีต่อพระองค์
ยิ่งนานวัน..   ยิ่งรับรู้..    ยิ่งเข้าใจ..
รักที่มีต่อพระองค์ท่าน  ก็ยิ่งลึกซึ้ง  เพิ่มพูน  ทบทวี
ความรู้สึกเช่นนี้  คงไม่แตกต่างจากพสกนิกรชาวไทยทั้งปวง
ที่รักและเทิดทูนพระองค์ในฐานะ ”กษัตริย์” นับแต่วันแรก
และเมื่อได้ตระหนักถึง ”รัก” และ ”การให้” อย่างไม่สิ้นสุดของพระองค์
ดวงใจของเหล่าพสกนิกร  ก็รับพระองค์สถิตไว้ในฐานะ ”พ่อ” ของทุกดวงใจ



สถิตกมล  ตราบนิรันดร์


13  ตุ.ค.2559

วันที่ความโศกเศร้า  เผาใจเราจนสิ้นสูญ
วันที่ความอาดูร  พรากขวัญเราสิ้นสลาย
แต่รักที่  มีให้พ่อ  มิเสื่อมคลาย
ด้วยลูกเทิด  บูชาไว้  ตราบนิรันดร์

ใจเราหายไป..   ขวัญเราหายไป..
แต่..บอกกับตัวเองว่า..ตั้งสติ..
แม้วันนี้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว.
เราก็ยัง..ทำอะไร..เพื่อถวายพระองค์ได้.

ผมหวนระลึกถึงพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2552  ความตอนหนึ่งว่า

“...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้า  จะเกิดขึ้นได้  ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ  มั่นคง  เป็นปกติสุข...”

เป็นพระราชดำรัสที่..ทุกคำ..เปี่ยมด้วยความรัก.
ผมจะขอใช้ชีวิต  เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้  บ้านเมืองของเรามีความเจริญ  มั่นคง  เป็นปกติสุข
เพื่อว่า..ยามที่พระองค์ทอดพระเนตรลงมาจะทรงพระสรวลได้.

วันนี้..แม้พระองค์จะจากไปแล้ว
แต่ ”รัก” ของพระองค์  ยังคงอยู่ในหัวใจของชาวไทยทุกคน
และเราจะช่วยกันส่งต่อ ”รัก” ของพระองค์  ให้ลูกหลานไทย  จากรุ่นสู่รุ่น
เพื่อให้ “รัก” ของพระองค์  สถิตอยู่คู่ไทยตราบนิรันดร์.


วันนี้..
ผมยังรู้สึกถึงความรักของพระองค์  ในอากาศ  ในน้ำ  ในผืนดินและทุกสิ่งรอบตัว
วันนี้..
ผมยังหายใจรักของพระองค์เข้าไป  และหายใจรักของผมออกมา.
เช่น..ทุกๆวัน


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่