สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆยามค่ำคืนนะคะ ขอบคุณทุกๆความเห็นเลย
กระทู้ตอนแรกแมวฟ้าได้ตอบไปแล้วเนอะว่าเริ่มรู้สึกว่ามี " ญาณ" เมื่อไหร่ คืนนี้ต่อภาค 2
ระหว่างนั้นแมวฟ้าก็เข้าปฏิบัติธรรมเป็นว่าเล่น
จากคนแทบไม่เคยเข้าวัด ก็กลายเป็นคนที่รู้สึกอยาก อยากไปวัดมากๆซะงั้น... แมวฟ้าตระเวนไปวัดต่างๆเท่าที่ไปได้ วันละวัดสองวัด
บางที่ไปถึงแล้วก็รู้สึกวูบวาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
โดยเฉพาะที่วัดแขกค่ะ ไม่รู้จักวัดนี้มาก่อนนะ เห็นผ่านๆในเน็ตก็นึกอยากไปต้องไปให้ได้
พอถึงวัดแขกเริ่มมีอาการมึนขึ้นเรื่อยๆ เป็นของมันเอง ทั้งที่เราสบายดีปกติ
ความรู้สึกมันเหมือนสติจะออกจากตัวยังไงยังงั้น ยังรู้ตัวอยู่ แต่คุมกริยาท่าทางตัวเองไม่ได้
เทพอะไรบ้างก็ไม่รู้จักสักกะองค์.... เงยหน้าขึ้นมองภาพบนเพดานโบสถ์ เข้าใจว่าเป็นพระแม่อุมา น้ำตาไหลพราก....
พลังงานบางอย่างที่พาแมวฟ้าเดินไปรอบๆวัด ทำความรู้จักชื่อเทพต่างๆ ก่อนกลับ
แมวฟ้าขอใช้คำว่า พลังงานบางอย่าง เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และไม่อยากให้ใครงมงาย...
พระพุทธเจ้าตรัสแล้ว เรื่องแปลกพิศดารบนโลก ยังมีอีกมาก ไม่ต้องไปตามรู้ทุกอย่าง จะมีส่วนในการเป็นบ้าได้ อจินไตย!
สถานปฏิบัติโปรดที่ชอบไป ได้เพื่อนคนนึงเชียร์ให้มา คือที่ มูลนิธิสถานว่องวานิช แถวเทพารักษ์
อาหารมังสวิรัติอร่อยมากค่ะ 55555 ถูกอกถูกใจชวนให้อยากไปบ่อยๆตรงนี้แหละ บรรยากาศสิ่งแวดล้อมร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ มีทะเลสาบลมโบกสบาย ห้องนอนสบายติดแอร์เป็นสัดส่วน มีทั้งปฟูกนอนพื้น และแบบเตียงสองชั้น ห้องน้ำสะอาด คนมาปฏิบัติก็ไม่เยอะ และไม่มีค่าใช้จ่ายนอกจากทำบุญตามจิตศรัทธา
ส่วนมากเวลาที่แมวฟ้าไปปฏิบัติก็จะถือศีลแปดเลย ปกติแค่ศีลห้าก็พอเขาไม่ได้บังคับนะคะ
(การบวชชี-พราห์ม ที่เราเคยเข้าใจไม่มีในศาสนาพุทธนะคะ มีแต่ถือศีลแปด หรือ อุโบสถศีล ไม่ถือเป็นการบวช เป็นแค่สาวิกา )
การนั่งสมาธิก็ไปฝึกมาแล้วหลายแบบไม่ว่าจะ กสิน มโนมยิทธิ สุดท้ายก็ ลงตัวดีที่สุดคือ อานาปานสติ หรือ กายคตาสติค่ะ เป็นทั้ง สมถะและ วิปัสสนาในตัวเดียวกัน ความวูบวาบ หวือหวา เช่น การเห็นแสงสี ไอ้นั่นไอ้นี่ การปรุงแต่งน้อยลงไปชัดเจน สงบกว่ามาก หนึบหนับๆๆ!
การฝึกภาวนาวิปัสนาสมาธิแบบอานาปานสติ ช่วยให้แมวฟ้ารู้จักจิตใจภายในตัวเองมากขึ้น เห็นการไป-การมา การเกิด-ดับ ความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง รู้จักเจ้าตัวนิวรณ์ 5 มากขึ้น
ซึ่งก็ทำให้จิตเราเริ่มมีพลัง เวลาที่จิตเรารู้สึกมีพลัง มันจะรู้สึกหนักแน่น สงบอยู่กับตัวเองค่ะ
ถ้ามีพลังมากๆ บางทีอารมณ์อยากจะปล่อยพลังคลื่นเต่า มันจะรู้สึกหน่วงๆหนักๆที่จิตอธิบายไม่ถูก
และแทบทุกครั้งที่เป็นอย่างนั้นก็มักจะมีเหตุให้ได้ปลดปล่อยใช้พลัง โดยเฉพาะในการดูดวงเปิดไพ่
มีครั้งนึงที่แมวฟ้าไม่รู้ล่วงหน้าว่าลูกค้าที่จะมาเป็นใคร หนักถึงขั้นอาเจียน จนกว่าจะได้ดูดวงเสร็จถึงจะโล่งกลับสู่สภาวะปกติ
จากภาพแมวฟ้ากลับมาอ้วนท้วนสมบูรณ์ เพราะโรค Bipolar การรักษาและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เรามองโลกอย่างเข้าใจมากขึ้น
แมวฟ้าไม่ได้เป็นทุกข์เพราะอ้วนอีกแล้ว แม้ว่าจะยังอยากผอมอยู่ก็ตาม เรายอมรับสภาพความจริง ไปตามจังหวะชีวิต มีขึ้นมีลง ไม่คร่อมจังหวะ เรียนรู้แง่มุมชีวิตให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย ความผอมสวย มันทำให้เรารู้สึกดีก็จริง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราโตขึ้นเท่านี้
ใครที่เคยติดตามแมวฟ้ามาก่อน แมวฟ้าไม่ได้ละทิ้งฝัน เพียงแต่เปลี่ยนวิธีเท่านั้นเอง
ชีวิตคนเราไม่เที่ยง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ลองไปยึดสิ ทุกข์หนักกว่าเก่า
อันที่จริง ถ้าไม่มี Getcha ในวันนั้น ก็คงไม่มี หมอดับทุกข์ แมวฟ้า ญาณทิพย์ แบบวันนี้ ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม 5555
โลกธรรม 8 ทุกอย่างมีสองด้าน บัดนี้เรามัวทำอะไรกันอยู่ ไม่รีบรู้อริยสัจ 4!!!!
ออกตัวก่อนนะคะ ไม่ได้เก่งธรรมมะ แต่ชอบธรรมมะค่ะ
กลับเข้าเรื่องสำคัญต่อ.....
การฝึกอานาปานสติวิปัสนาสมาธิ ไม่มีการนั่งสมาธิตัวโยกโครงเครงหรือล้มคว่ำคมำอีกเหมือนตอนที่ไปฝึกที่อื่น ตอนนั้นค่ะนั่งสมาธิจนล้มคว่ำไปข้างหน้าขยับไม่ได้ คนเรียกชื่อเรา ได้ยินแต่ลืมตาก็ไม่ได้ ถูกหิ้วปีกพาไปด้านนอก และต้องกลับบ้านไปในวันที่ 6 เกือบครบ 7 วันของคอร์สปฏิบติ ปวดหัวสุดๆกลับมาแล้ว...
ถามว่าฝึกกสินเป็นอย่างไรบ้าง? ฝึกกสินคือการเพ่งไปที่สิ่งใดสิ่งนึงแล้วจำรูปมันให้ได้ค่ะ มีกสินหลายประเภท เช่น กสิน ดิน น้ำ แสง ไฟ สีเขียว ขาว เหลือง แดง เขาว่ากันว่าเป็นการฝึกที่ได้สมาธิได้ไวค่ะ ซึ่งก็จริงนะ ตอนนั้นแมวฟ้าเลือกฝึกกสินสีขาวค่ะ สมาธิไวมากเพราะจิตมีเป้าหมายอันเบ้อเร่อตั้งตรงหน้า มีที่ให้จิตเกาะชัดเจน แต่ก็ยังรู้สึกไม่โอเคกับการฝึกสมาธิแบบนี้นะ
ฝึกไปฝึกมาเราเริ่มเห็นว่ามันเป็นการฝึกส่งจิตออกนอก ไม่ไหวอ่ะ ทุกวันนี้ก็ส่งจิตออกนอกเยอะอยู่แล้ว!
โอกาสที่จะทำให้เรายิ่งเห็นนิมิตปลอมๆมีมากมาย
แมวฟ้ามีเพื่อนที่ฝึกกสินนะ เขาค่อนข้างจะหลงอยู่กับนิมิตต่างๆที่เขาเห็น พญานาคสีเขียว สีแดง โอ๊ยสารพัดค่ะ
ซึ่งส่วนมากมันเป็นสัญญาเก่า การปรุงแต่งเท่านั้นเองนั่นแหละ
แมวฟ้าต้องการปฏิธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์ อย่างน้อยก็ความสงบเจริญปัญญา ไม่ได้มุ่งฤิทธิ์
มโนมยิทธิ เป็นไงบ้างเหรอคะ?
วันแรกไปแบบสบายมากไม่คาดหวังอะไร เขาว่าอะไรว่าตามกันทำได้หมด รู้สึกปีติเป็นอันมากที่ได้มีโอกาสขึ้นไปถึงชั้นพระนิพพาน!!!!!!
ตอนหลังมาศึกษาคำสอนที่ออกจากพระโอษฐ์พุทธเจ้าถึงเพิ่งเข้าใจว่า มโนมยิทธิ นั้นแท้จริง คือ การถอดกายหยาบออกจากกายละเอียดได้ และ นิพพานไม่ใช่ที่เที่ยวของปุถุชน เป็นสภาวะธรรมนึง ที่มีอยู่แล้วในพวกเราทุกคนนั่นแหละ
ใครที่รู้บทสวด ปฏิจสมุปบาท จะเข้าใจ
ซึ่งก็เป็นบทสวดหลักที่แมวฟ้าสวดเป็นประจำเรื่อยมาถึงทุกวันนี้ค่ะ
ขอปิดภาคสองนี้ด้วยบทสวด ที่แมวฟ้าสวดสาธยายธรรมประจำนะคะ
กระทู้ตอนแรกแมวฟ้าได้ตอบไปแล้วเนอะว่าเริ่มรู้สึกว่ามี " ญาณ" เมื่อไหร่ คืนนี้ต่อภาค 2
ระหว่างนั้นแมวฟ้าก็เข้าปฏิบัติธรรมเป็นว่าเล่น
จากคนแทบไม่เคยเข้าวัด ก็กลายเป็นคนที่รู้สึกอยาก อยากไปวัดมากๆซะงั้น... แมวฟ้าตระเวนไปวัดต่างๆเท่าที่ไปได้ วันละวัดสองวัด
บางที่ไปถึงแล้วก็รู้สึกวูบวาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
โดยเฉพาะที่วัดแขกค่ะ ไม่รู้จักวัดนี้มาก่อนนะ เห็นผ่านๆในเน็ตก็นึกอยากไปต้องไปให้ได้
พอถึงวัดแขกเริ่มมีอาการมึนขึ้นเรื่อยๆ เป็นของมันเอง ทั้งที่เราสบายดีปกติ
ความรู้สึกมันเหมือนสติจะออกจากตัวยังไงยังงั้น ยังรู้ตัวอยู่ แต่คุมกริยาท่าทางตัวเองไม่ได้
เทพอะไรบ้างก็ไม่รู้จักสักกะองค์.... เงยหน้าขึ้นมองภาพบนเพดานโบสถ์ เข้าใจว่าเป็นพระแม่อุมา น้ำตาไหลพราก....
พลังงานบางอย่างที่พาแมวฟ้าเดินไปรอบๆวัด ทำความรู้จักชื่อเทพต่างๆ ก่อนกลับ
แมวฟ้าขอใช้คำว่า พลังงานบางอย่าง เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และไม่อยากให้ใครงมงาย...
พระพุทธเจ้าตรัสแล้ว เรื่องแปลกพิศดารบนโลก ยังมีอีกมาก ไม่ต้องไปตามรู้ทุกอย่าง จะมีส่วนในการเป็นบ้าได้ อจินไตย!
สถานปฏิบัติโปรดที่ชอบไป ได้เพื่อนคนนึงเชียร์ให้มา คือที่ มูลนิธิสถานว่องวานิช แถวเทพารักษ์
อาหารมังสวิรัติอร่อยมากค่ะ 55555 ถูกอกถูกใจชวนให้อยากไปบ่อยๆตรงนี้แหละ บรรยากาศสิ่งแวดล้อมร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ มีทะเลสาบลมโบกสบาย ห้องนอนสบายติดแอร์เป็นสัดส่วน มีทั้งปฟูกนอนพื้น และแบบเตียงสองชั้น ห้องน้ำสะอาด คนมาปฏิบัติก็ไม่เยอะ และไม่มีค่าใช้จ่ายนอกจากทำบุญตามจิตศรัทธา
ส่วนมากเวลาที่แมวฟ้าไปปฏิบัติก็จะถือศีลแปดเลย ปกติแค่ศีลห้าก็พอเขาไม่ได้บังคับนะคะ
(การบวชชี-พราห์ม ที่เราเคยเข้าใจไม่มีในศาสนาพุทธนะคะ มีแต่ถือศีลแปด หรือ อุโบสถศีล ไม่ถือเป็นการบวช เป็นแค่สาวิกา )
การนั่งสมาธิก็ไปฝึกมาแล้วหลายแบบไม่ว่าจะ กสิน มโนมยิทธิ สุดท้ายก็ ลงตัวดีที่สุดคือ อานาปานสติ หรือ กายคตาสติค่ะ เป็นทั้ง สมถะและ วิปัสสนาในตัวเดียวกัน ความวูบวาบ หวือหวา เช่น การเห็นแสงสี ไอ้นั่นไอ้นี่ การปรุงแต่งน้อยลงไปชัดเจน สงบกว่ามาก หนึบหนับๆๆ!
การฝึกภาวนาวิปัสนาสมาธิแบบอานาปานสติ ช่วยให้แมวฟ้ารู้จักจิตใจภายในตัวเองมากขึ้น เห็นการไป-การมา การเกิด-ดับ ความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง รู้จักเจ้าตัวนิวรณ์ 5 มากขึ้น
ซึ่งก็ทำให้จิตเราเริ่มมีพลัง เวลาที่จิตเรารู้สึกมีพลัง มันจะรู้สึกหนักแน่น สงบอยู่กับตัวเองค่ะ
ถ้ามีพลังมากๆ บางทีอารมณ์อยากจะปล่อยพลังคลื่นเต่า มันจะรู้สึกหน่วงๆหนักๆที่จิตอธิบายไม่ถูก
และแทบทุกครั้งที่เป็นอย่างนั้นก็มักจะมีเหตุให้ได้ปลดปล่อยใช้พลัง โดยเฉพาะในการดูดวงเปิดไพ่
มีครั้งนึงที่แมวฟ้าไม่รู้ล่วงหน้าว่าลูกค้าที่จะมาเป็นใคร หนักถึงขั้นอาเจียน จนกว่าจะได้ดูดวงเสร็จถึงจะโล่งกลับสู่สภาวะปกติ
จากภาพแมวฟ้ากลับมาอ้วนท้วนสมบูรณ์ เพราะโรค Bipolar การรักษาและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เรามองโลกอย่างเข้าใจมากขึ้น
แมวฟ้าไม่ได้เป็นทุกข์เพราะอ้วนอีกแล้ว แม้ว่าจะยังอยากผอมอยู่ก็ตาม เรายอมรับสภาพความจริง ไปตามจังหวะชีวิต มีขึ้นมีลง ไม่คร่อมจังหวะ เรียนรู้แง่มุมชีวิตให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย ความผอมสวย มันทำให้เรารู้สึกดีก็จริง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราโตขึ้นเท่านี้
ใครที่เคยติดตามแมวฟ้ามาก่อน แมวฟ้าไม่ได้ละทิ้งฝัน เพียงแต่เปลี่ยนวิธีเท่านั้นเอง
ชีวิตคนเราไม่เที่ยง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ลองไปยึดสิ ทุกข์หนักกว่าเก่า
อันที่จริง ถ้าไม่มี Getcha ในวันนั้น ก็คงไม่มี หมอดับทุกข์ แมวฟ้า ญาณทิพย์ แบบวันนี้ ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม 5555
โลกธรรม 8 ทุกอย่างมีสองด้าน บัดนี้เรามัวทำอะไรกันอยู่ ไม่รีบรู้อริยสัจ 4!!!!
ออกตัวก่อนนะคะ ไม่ได้เก่งธรรมมะ แต่ชอบธรรมมะค่ะ
กลับเข้าเรื่องสำคัญต่อ.....
การฝึกอานาปานสติวิปัสนาสมาธิ ไม่มีการนั่งสมาธิตัวโยกโครงเครงหรือล้มคว่ำคมำอีกเหมือนตอนที่ไปฝึกที่อื่น ตอนนั้นค่ะนั่งสมาธิจนล้มคว่ำไปข้างหน้าขยับไม่ได้ คนเรียกชื่อเรา ได้ยินแต่ลืมตาก็ไม่ได้ ถูกหิ้วปีกพาไปด้านนอก และต้องกลับบ้านไปในวันที่ 6 เกือบครบ 7 วันของคอร์สปฏิบติ ปวดหัวสุดๆกลับมาแล้ว...
ถามว่าฝึกกสินเป็นอย่างไรบ้าง? ฝึกกสินคือการเพ่งไปที่สิ่งใดสิ่งนึงแล้วจำรูปมันให้ได้ค่ะ มีกสินหลายประเภท เช่น กสิน ดิน น้ำ แสง ไฟ สีเขียว ขาว เหลือง แดง เขาว่ากันว่าเป็นการฝึกที่ได้สมาธิได้ไวค่ะ ซึ่งก็จริงนะ ตอนนั้นแมวฟ้าเลือกฝึกกสินสีขาวค่ะ สมาธิไวมากเพราะจิตมีเป้าหมายอันเบ้อเร่อตั้งตรงหน้า มีที่ให้จิตเกาะชัดเจน แต่ก็ยังรู้สึกไม่โอเคกับการฝึกสมาธิแบบนี้นะ
ฝึกไปฝึกมาเราเริ่มเห็นว่ามันเป็นการฝึกส่งจิตออกนอก ไม่ไหวอ่ะ ทุกวันนี้ก็ส่งจิตออกนอกเยอะอยู่แล้ว!
โอกาสที่จะทำให้เรายิ่งเห็นนิมิตปลอมๆมีมากมาย
แมวฟ้ามีเพื่อนที่ฝึกกสินนะ เขาค่อนข้างจะหลงอยู่กับนิมิตต่างๆที่เขาเห็น พญานาคสีเขียว สีแดง โอ๊ยสารพัดค่ะ
ซึ่งส่วนมากมันเป็นสัญญาเก่า การปรุงแต่งเท่านั้นเองนั่นแหละ
แมวฟ้าต้องการปฏิธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์ อย่างน้อยก็ความสงบเจริญปัญญา ไม่ได้มุ่งฤิทธิ์
มโนมยิทธิ เป็นไงบ้างเหรอคะ?
วันแรกไปแบบสบายมากไม่คาดหวังอะไร เขาว่าอะไรว่าตามกันทำได้หมด รู้สึกปีติเป็นอันมากที่ได้มีโอกาสขึ้นไปถึงชั้นพระนิพพาน!!!!!!
ตอนหลังมาศึกษาคำสอนที่ออกจากพระโอษฐ์พุทธเจ้าถึงเพิ่งเข้าใจว่า มโนมยิทธิ นั้นแท้จริง คือ การถอดกายหยาบออกจากกายละเอียดได้ และ นิพพานไม่ใช่ที่เที่ยวของปุถุชน เป็นสภาวะธรรมนึง ที่มีอยู่แล้วในพวกเราทุกคนนั่นแหละ
ใครที่รู้บทสวด ปฏิจสมุปบาท จะเข้าใจ
ซึ่งก็เป็นบทสวดหลักที่แมวฟ้าสวดเป็นประจำเรื่อยมาถึงทุกวันนี้ค่ะ
ขอปิดภาคสองนี้ด้วยบทสวด ที่แมวฟ้าสวดสาธยายธรรมประจำนะคะ
แสดงความคิดเห็น
หมอดับทุกข์ แมวฟ้า ญาณทิพย์/The Soul Therapist คนนี้..เธอคือใคร?
สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวพันทิพทุกคน กระทู้นี้แมวฟ้าตั้งใจลองเขียนดู ทำไมต้องเขียนที่ห้องนี้? แมวฟ้าก็ไม่แน่ใจแต่อยากให้ลองอ่านดู และโปรดใช้วิจารณญาณตัวท่านเอง
หวังว่าเรื่องของแมวฟ้าคงเป็นธรรมทานให้เพื่อนๆที่ได้อ่านจนจบได้....ไม่มากก็น้อย
ที่จริงแมวฟ้าแค่เกิดความรู้สึกว่าทั้งชีวิตชั้น ทำคุณคนไม่ขึ้น! ทำอะไรก็แล้วแต่ ส่วนมากคนใกล้ตัวมักมองไม่เห็น คนไกลตัวกลับมองเห็นสิ่งที่เราทำ...
หรือหลายครั้งที่ชีวิตเรียกว่าเกือบถึงจุดสุดยอดแระ ดั๊น...มันก็มีอันต้องเป็นไป
สำหรับแมวฟ้าอยากจะเรียกว่า ปาฏิหาริย์ ซะจริงๆ เพราะแต่ละอย่าง ไม่คาดคิดว่าจะทำได้หรือเกิดขึ้น!
แมวฟ้า...ปัจจุบัน "โสด" จ้า
เป็นคน กทม. ตั้งแต่เกิด จบปริญญาตรีคณะมนุษยศาสตร์ จากมหาลัยราคำแหง จบ 9 ปีพอดี นับเป็นเลขสิริมงคลยิ่ง อิอิ
แมวฟ้ามาจากครอบครัวฐานะดี แต่ก็เป็นครอบครัวที่แตกแยกขาดความอบอุ่นมาแต่เล็ก มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน พี่ชาย 2 ตัวเองเป็นลูกสาวคนสุดท้อง คุณแม่อยากมีลูกสาวมากถึงกับตั้งใจไปขอแมวฟ้ามาจาก ท่านท้าวหิรัญฯ ที่ รพ. พระมงกุฏฯ ค่ะ ซึ่งถ้าแมวฟ้าจำไม่ผิดท่านเป็นเทพอสูรประจำรัชกาลที่ 6
ถือกำเนิดเกิดมาด้วยน้ำหนัก 3.8 โลค่ะ มีพุงตั้งแต่เด็ก อ้วน ดำ ฟันเหยิน ใส่แว่น 55555 ครบ
ทุกคืนก่อนนอนได้แต่ขอพรให้ตัวเองผอม ขอทุกคืน แต่ไม่ขยับทำอะไร จนกระทั่งน้ำหนักตัวพุ่งปรี๊ดไปที่ 136++ โล
วันนึงเกิดแรงฮึดเพราะชีวิตจนตรอก จำเป็นต้องลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเอง!
ช่วงนั้นจะขลุกอยู่ที่คลับลดความอ้วน ด้วยล๊อคอิน Getcha แรกๆ ก็เข้าไปศึกษาหาข้อมูลลดน้ำหนัก
ไปๆมาๆ กลายเป็นกูรู วิทยากร ออกหนังสือ รายการทีวีหลายรายการ มีชื่อเสียงขึ้นมาด้วยเวบพันทิพนี่แหละ ออกรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง เรียกได้ว่าช่วงนั้น มีคนจำแมวฟ้าได้เข้ามาทักแมวฟ้าเยอะเลย ชีวิตเหมือนฝันเว่อ งง ๆ สุดท้าย....
ด้วยมรสุมชีวิตและความที่ขาดธรรมมะ ไม่อาจต้านทานคนที่เขาไม่ชอบเราได้
ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงบอกว่า ก็แค่ไม่อ่านปิดคอมซะ แต่ความจริงมันเจอมากกว่านั้น หึๆๆๆ... ตัวคนเดียว ไม่มีที่ปรึกษา
ช่วงนั้นสิ่งที่ภูมิใจก็คือการได้เป็นแรงบันดาลใจเรื่องลดน้ำหนักอย่างมีความสุข ให้คำแนะนำผู้คนมากมายรวมถึงอาสาพาคนไม่เคยเข้าฟิตเนสเข้าฟิตเนสเรียกความมั่นใจในตัวเองให้เขา สมัยนั้นคนอ้วนอายที่จะเข้าฟิตเนส
จริงๆช่วงนั้นแมวฟ้ามีความสุขสุดยอดนะคะ สุดยอดมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ จึงประมาท...
มรสุมชีวิตที่โหมกระหน่ำไม่ทันตั้งตัว....... ทำให้แมวฟ้า ป่วยเป็นโรค Bipolar เป็นโรคเจ็บป่วยทางอารมณ์ ที่เกิดจากความขาดสมดุลของเคมีสมอง ส่วนนึงมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ และปัจจัยแวดล้อม
เป็นหนักมากถึงขนาดเข้าไปอยู่ในหวอดจิตเวชถึง 2 รอบ
ชนิดที่ว่าตื่นขึ้นมาไม่อยากเชื่อว่าตัวเองอยู่ที่ไหน.. เหลือบไปเห็นป้ายชื่อที่ข้อมือเรา โอ้นี่เราอยู่ รพ. บ้าจริงๆแล้วหรือนี่ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้กลับออกไป ชีวิตจะเป็นยังไงต่อล่ะฉัน!
ดูรอบตัวเราสิ มีแต่คนไข้ท่าทางแปลกๆ
อากาศในนั้นอึดอัด เย็นๆแปลกๆ เสื้อหนาวนี่ถอดเข้าถอดออก กลิ่นไอของโรงพยาบาล เพื่อนๆคงพอนึกออก
หวอดจะแบ่งแยกคนไข้ชาย และหญิง อาบน้ำเป็นเวลาค่ะ ครั้งแรกที่เข้าไปจำได้ว่าเดินจงกรม สวดมนต์เป็นว่าเล่นพยามดึงสติให้ได้มากที่สุด ไม่สนใจคนอื่นจะทำอะไร 555555 ต่างคนต่างทำ มีหลายคนที่เดินจงกรมเหมือนแมวฟ้า บางคนด้วยอาการป่วย ส่วนแมวฟ้าด้วยฤิทธิ์ผลข้างเคียงของยาที่ทำให้กระสับกระส่ายถึงขั้นต้องเดินไปมานั่งไม่ได้...
ถึงเวลากินยามีพยาบาลเข็นรถเข็นยามาแจกจ่าย ทุกคนต้องทานยาต่อหน้าพยาบาล ถึงจะเข้านอนได้ ...
รอบแรกที่ admit เข้าหวอดจิตเวชถูกพี่ชายพาเข้าไปค่ะ แมวฟ้าไปอาละวาดที่ชัยนาทมา
รอบที่สอง admit เพราะรู้ตัวเองว่าสติกำลังจะหลุด ไม่ไหวแล้ว ไปถึง รพ. ถูกมัดฉีดยาให้สงบ นึกว่าจะง่วงหลับสบาย
ที่ไหนได้ยาที่ฉีดทำให้รู้สึกหมดแรงมึนๆเหมือนคนเมาเหล้า คันก็คันถูกมัดเกาไม่ได้อีกต่างหาก
ยังจำภาพที่เขาเข็นเตียงเราขึ้นไปตึกหวอดจิตเวชได้ดี เพราะมันเป็นครั้งที่สอง...
เรื่องเล่าเยอะค่ะในนั้น 55555 บางเรื่องนึกย้อนไปก็ฮาตัวเอง บางเรื่องนึกย้อนไปก็ซุปเปอร์หลอนค่ะ
สิ่งที่ได้กลับมา และคิดว่าเป็นตอนที่ 'ญาณ' จุดติดใหม่ๆ คือตอนที่ได้บทเรียนที่ว่าอะไรมีค่าที่สุดในชีวิต " สติ" ค่ะ!
กลัวเป็นบ้ามากกว่ากลัวตายเสียอีก โลกของคนเกือบบ้ามันน่ากลัวมาก... เล่าเป็นนิยายได้เลยหละ
สำหรับแมวฟ้าการที่ลดน้ำหนักจาก 136 ลงมาเหลือ 66 โล ได้ ด้วยการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ครั้งที่ 1 ค่ะ
.............
ป่วย ต่อสู้กับโรค Bipolar (ยินดีให้คะแนะนำเรื่องนี้นะคะ)
............
เริ่มเข้าสู่ทางธรรม..... ปกติแมวฟ้าก็ชอบเรื่องเร้นลับนะ แต่เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือศาสนาอะไรเนี่ย..ไม่อินเลยตอนนั้น ไม่ได้คลุกคลีหรือศึกษามาก่อน คือไม่มีความรู้เลย รู้แต่ว่าชอบความตื่นเต้นเวลาได้คุยกับหมอดูทั้งหลาย ก็ชอบดูดวงพอสมควรนะ ถึงแม้ว่าหมอดูส่วนมาก เขาจะไม่ค่อยคุยสักเท่าไหร่ โหดสุดคือหมอดูที่ Paradise park ค่าครู 500 บาท เอาวันเดือนปีเกิดเราคีย์เข้าคอมพิวเตอร์แล้วอ่านสดต่อหน้า 55555
คุณแม่แมวฟ้าเอง เมื่อก่อนท่านก็เคยเป็นโหร ท่านศึกษาตำราพลูหลวง มีชื่อเสียง ลง นสพ. ที่อเมริกาค่ะ ปัจจุบันคุณแม่เลิกดูดวงและอุทิศบั้นปลายให้พุทธศาสานา
ช่วงที่แมวฟ้าป่วยแรกๆ ว่างๆ แมวฟ้าก็เลยไปสมัครเรียนหมอดูค่ะ ตอนแรกก็เรียนพวกวันเดือนปีเกิดนะ แต่มันไม่ทันใจ จับไพ่ดันจุดติดขนาดที่ว่า เห็นภาพนูนเด่นออกมาจากไพ่ในหลายๆครั้ง เวลาทำนายบ่อยครั้งที่ปากขยับ คำพูดไหลพรั่งพรูออกมาเอง โดยที่เราไม่รู้สึกว่ามันมาจากสมองเรา ปากขยับพูดไป ในใจก็หวาดเสียวพูดอะไรอยู่ฟระ ตัวเราจริงๆจะพูดอีกแบบด้วยซ้ำ เป็นอย่างนั้นไม่ทุกครั้งแต่ก็บ่อยมาก ทำให้เราเรียนรู้การดูดวงไปด้วยในตัว
บางครั้งก็มีเสียงมากระซิบค่ะ บางครั้งก็เห็นนิมิต เอ๊ะหรือว่าแมวฟ้าโรคจิต?
อ้าวแต่ว่ามันก็ตรงซะเป็นส่วนใหญ่
สรุปแมวฟ้าคิดว่ามันผสมๆกันในช่วงแรกๆของการมีญาณค่ะ
ถึงตอนนี้ งง สงสัยอะไร ยินดีให้ถามค่ะ ตอบได้เท่าที่จะตอบได้นะคะ!
..............
เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ5555555