วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2559) เรากับแม่ได้มีโอกาสเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ
ทางเข้าสนามหลวงจะอยู่ตรงฝั่งด้านโรงแรมรัตนโกสินทร์
ถ้ามารถเมล์ก็ลงแถวราชดำเนินแล้วเดินย้อนขึ้นมา
ถ้ามาแท็กซี่ก็สะดวกเลยให้คนขับเลี้ยวมาทางถนนหน้าโรงแรมได้เลย
ตรงบริเวณฝั่งตรงข้ามกันจะสังเกตเห็นผู้คนชุดดำต่อแถวรออยู่



คือนี่มาถึงตอนตีห้า คนก็มหาศาลแล้วจ้า ตอนแรกนึกว่าวันธรรมดาคนจะน้อย
แต่กลับไม่น้อยเลยสักนิด ทว่าอาจจะน้อยกว่าช่วงวันหยุด



อย่างไรก็ดี ต้องถือว่าการจัดระบบคิวทำได้รวดเร็วดีและไม่ชวนงงนะ
เริ่มต้นด้วยการเดินข้ามสะพานเล็กๆ ผ่านจุดสแกน ตรวจกระเป๋า และบัตรประชาชน (อันหลังไม่เห็นดูเลยแฮะ)



ก็จะเข้ามาสู่ถนนหน้าศาลฎีกา ก็ให้ข้ามถนนไปยังฝั่งสนามหลวง
จังหวะนี้ให้เร่งสปีดเดินไวได้ก็เดิน แต่อย่าวิ่ง เดี๋ยวจะหกล้มเจ็บตัว
ถ้าถามหาลูกศรบอกทาง ไม่ต้องมองหา ขอแค่เดินตามกันไปเรื่อยๆ ก็พอ
จะเจอช่องให้ต่อแถวรออยู่ที่เต้นท์ใหญ่ในสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ก็เข้าไปต่อแถวเลย



จะเลี้ยวไปเลี้ยวมาหน่อย เดินไกลด้วย และต้องหยุดรอกันยาวๆ อีกสักพักใหญ่ๆ เลยล่ะ
ถึงขั้นต้องนั่งรอกับพื้นเลยนะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมกระดาษหรือเสื่อไปปูรองนั่ง
ที่สำคัญคือพัด พกไปก็ดีต่อใจไม่ใช่น้อย ถึงช่วงเช้าๆ จะไม่ค่อยร้อนมาก
แต่พอฝูงชนมารวมตัวกันเยอะๆ ก็อาจจะอึดอัดและเหงื่อแตกได้
ถ้าถามว่ามีอะไรแจกมั้ย รอบที่ไปคือไม่เจอเลย หรือเพราะเป็นวันธรรมดา?
เราจะต่อแถวโซนนี้อยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำพาเราไปอีกจุด
ก็เดินตามกันไปเป็นแถวเช่นเคย ระหว่างนี้จะเห็นภาพจากทีวีจอยักษ์



ฉายให้ดูบรรยากาศภายในพระที่นั่งฯ ซึ่งคนที่เข้าไปก่อนกำลังกราบสักการะพระบรมศพอยู่
ช่วงนี้เราก็เดินไปด้วยน้า อย่าเพิ่งหยุด พอเจอเต้นท์ใหญ่ๆ ก็ให้จับจองที่นั่งกัน แต่แค่แป๊บเดียว



เพราะสักพักเจ้าหน้าที่จะบอกให้ลุกขึ้นแล้วเดินไปเข้าช่องทางเดินข้างสนามหลวง
ซึ่งฝั่งตรงข้ามเราจะเป็นศาลฎีกานั่นเอง และตรงนี้จะเจอจุดยืมผ้าด่านแรก



ระหว่างนี้ก็รอต่อไปยาวๆ เพราะภายในพระที่นั่งฯ เหมือนจะจัดพิธีช่วงพิธีเช้าอยู่
แถวจะค้างนานอยู่สักพัก ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งเราก็ตามๆ กันไป



ข้างๆ จะมีห้องน้ำให้ออกไปเข้า จะมีนักศึกษามาแจกยาดม มีทหารมาแจกน้ำบ้าง







พอเราเดินเลี้ยวมายังช่องทางเดินฝั่งตรงข้ามวัดพระแก้ว
ก็จะมีเต็นท์อาหารของพระบรมฯ รอบที่ไปเป็นโจ๊กโรงแรมแลนด์มาร์กรออยู่
ก็สามารถออกจากแถวไปต่อคิวได้ แต่ควรให้เพื่อนรออยู่ในแถวกันงงด้วยนะ







อร่อยใช้ได้เลย หรือเพราะหิวด้วยแหละ สักพักก็มีเสียงสั่งให้นั่งลง
เพราะขบวนรถของสมเด็จพระเทพฯ ออกมาจากวังพอดี
หลังจากนี้ก็เข้าสู่เวลาเคารพธงชาติ แปดโมงเช้าแล้ว
แดดมาพร้อม แนะนำถ้าไม่ได้พกร่มไป ควรยืนอยู่แถวริมซ้ายสุด



ระหว่างนี้เองแหละที่เริ่มรอคิวนาน เพราะข้างหน้าจะค่อยๆ ทยอยไปทีละนิด









เพื่อออกไปยังที่นั่งรอตรงบริเวณเต็นท์หน้าวัดมหาธาตุ ตึกสีแดงๆ สวยๆ จะมีจุดยืมผ้าอีกด่านด้วย
ก็นั่งรอกันไป เก้าอี้ฝั่งขวาจะไม่โดนแดด ซึ่งช่วงเวลานี้ก็ยังไม่มีอะไรมาแจกนะ



แต่พอเขยิบๆ ไปข้างหน้าจนถึงทางจะเดินไปประตูวัง ก็เริ่มมีน้ำ มียาดม มีลูกชิ้นมาแจก
ซึ่งอย่างหลังอร่อยมาก เราจะรออยู่ตรงจุดนี้ประมาณชั่วโมงหนึ่งเห็นจะได้





จากนั้นก็ได้เวลาเดินเข้าสู่ประตูวัง ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าพอดี
เราต้องเดินไปเข้าประตูมณีนพรัตน์ ซึ่งอยู่ฝั่งใกล้ๆ กับศาลหลักเมือง



เดิมเราจะต้องเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี แต่รอบที่ไปมา คือเปลี่ยนแปลงแล้ว
ให้ย้ายไปเข้าทางประตูที่ว่าแทน โดยเราจะเดินลัดเลาะไปตามทางเดิน
ที่ข้างๆ เป็นผนังลวดลายจิตรกรรมภายในวัดพระแก้ว (จะเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวกันตามปกติ)
ก็ชมกันไปเพลินๆ เพิ่มเติมคือมีพัดลมให้ทั่วถึงดี ไม่ร้อนเลย ไม่โดนแดดด้วย



เราจะรออยู่ตรงนี้สักพักใหญ่ นั่งรอกันไปเลยยาวๆ บอกเพิ่มเติมสำหรับผู้หญิง
ใส่กระโปรงบานๆ ไปก็สะดวกสบายนะ เพราะต้องลุกนั่งอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน
พอเริ่มสิบเอ็ดโมงกว่าๆ เราก็ได้ออกเดินกันต่อเพื่อเข้าไปยังพระบรมมหาราชวัง





ตรงโซนนี้จะเดินกันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องหยุดรอแล้ว กางร่มได้ เพราะแดดตอนเช้าแรง
แต่พอเดินมาถึงทางเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว
ให้เก็บกล้อง (ห้ามถ่ายรูป) และร่มทันที จากนั้นก็แบ่งเป็นสองแถวตอน เดินไปรับถุงดำ
ถอดรองเท้าถุงเท้าใส่ถุงแล้วมัดปาก หิ้วไว้ ส่วนกระเป๋าห้ามสะพายนาจา ต้องหิ้วไว้เช่นกัน
ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงสิบนาทีพอดี สรุปรวมแล้วใช้เวลาเข้าคิวอยู่เจ็ดชั่วโมงเต็มๆ
ระหว่างนี้แถวก็เคลื่อนไปต่อ จนกระทั่งได้ขึ้นไปข้างบนพระที่นั่งฯ และได้พบกับพระบรมโกศ
ณ นาทีนั้นรู้สึกตื่นตะลึงและแอบขนลุกกับบรรยากาศของการจัดงานพระราชพิธีสำคัญเช่นนี้
ทั้งยังรู้สึกตื้นตันและระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้จะอยู่ข้างในนั้นแค่ไม่ถึงห้านาทีก็ตาม แต่มันก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
และรู้สึกว่าตัวเองมีบุญที่ได้มาอยู่ใกล้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ถึงขนาดนี้
หลังจากเจ้าหน้าที่สั่งให้เรากราบแล้ว ก็จะให้เราลุกขึ้นและเดินกลับลงไป
เสร็จสิ้นภารกิจตอนเที่ยงสิบห้านาที พอคืนถุงดำและใส่รองเท้าเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นก็ให้เดินออกไปทางประตูทางซ้ายที่มีเจ้าหน้าที่ยืนรอแจกภาพพระบรมโกศอยู่



นอกจากนี้จะมียาหม่อง และข้าวเปลือกที่ติดคำว่าพอเพียง
ด้วยลายพระหัตถ์ของในหลวง โดยประตูที่เราออกมาจะเจอกับท่าช้าง
จะมีน้ำแดงจากโรงเรียนจิตรลดา และน้ำเรดดี้รอแจกอยู่



ถ้าเรายังอยากเข้าไปเดินดูของแจกในสนามหลวงแถวๆ ฝั่งตรงข้ามธรรมศาสตร์ เช่น พวกภาพในหลวง
หรือหาอาหารจากหน่วยที่มาแจกรับประทาน ก็ให้ผ่านจุดตรวจอีกครั้งตรงหน้าศิลปากรจ้า
จะมีภาพวาดของนักศึกษาจัดแสดงอยู่ข้างหน้าด้วย



และพอเดินกลับเข้าไปในสนามหลวง
ก็จะเจอเต้นท์ของจิตอาสาจากหน่วยต่างๆ มาร่วมแจกอาหารเพียบ แถวจะยาวเหยียดเลย
แต่บางเต็นท์จะเปิดเป็นเวลา ซึ่งก็ดูได้จากป้ายที่ติดไว้ข้างหน้า ถือว่าเป็นระบบระเบียบดี
สำหรับเรากับแม่ ก็เดินดูอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะตัดสินใจกลับบ้าน
ก็ให้เดินออกตรงช่องที่ติดว่าทางออกได้เลย
ซึ่งถนนจากท่าพระจันทร์มาธรรมศาสตร์ยังเปิดปกตินะ และมีรถโดยสารวิ่งให้บริการตามเดิมจ้า
สำหรับเจ็ดชั่วโมงกับอีกสิบห้านาทีในวันนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่มีคุณค่าต่อจิตใจจริงๆ
เหนือยิ่งกว่าสิ่งใดคือความตื้นตันใจที่ได้เห็นคนไทยรักในหลวงมากมายขนาดนี้

'ฉันภูมิใจที่ได้เกิดในสมัยรัชกาลที่ 9'



Note
- เจ้าหน้าที่ทุกคนใจดีและเป็นกันเองมาก รวมทั้งพี่ๆ น้องๆ จิตอาสาก็เช่นกัน
- การแต่งกายของทั้งชายและหญิงควรเป็นสีดำสุภาพตามที่กำหนด
- ผู้ชายสามารถเสื้อใส่โปโลได้ ส่วนผู้หญิงเน้นว่ากระโปรงต้องยาวคลุมเข่าเท่านั้น
- เรื่องรองเท้า แอบเห็นบางคนไม่ได้ใส่สีดำและไม่ใช่คัตชู (เป็นสีขาวบ้าง ผ้าใบสีดำบ้าง) แต่ก็เข้ากันไปได้
เพราะช่วงที่ไปไม่มีจุดยืมรองเท้าแล้ว เลยคิดว่าทางเจ้าหน้าที่อาจจะอนุโลมให้
แต่ถ้าจะให้ดี ใส่รองเท้าไปให้ถูกต้องตามที่กำหนดก็จะไม่เสียเวลาจ้า
- ระหว่างเข้าคิวยาวๆ ใส่รองเท้าแตะไปได้ ถ้ากลัวรองเท้ากัด
แล้วค่อยไปเปลี่ยนตอนนั่งรอที่เต้นท์หน้าวัดมหาธาตุ
- ถ้าจะออกเช้าๆ อย่างตีสี่ตีห้าในวันธรรมดา แนะนำให้กินอะไรรองท้องมาก่อนก็ดี
แต่อย่าจัดหนักเดี๋ยวจะต้องวิ่งออกจากแถวไปเข้าห้องน้ำ ถ้าเกิดแถวเลื่อนพอดี จะตามหาคนที่มาด้วยกันวุ่นได้จ้า
- อย่าลืมเสื่อผืนเล็กๆ กับพัดคลายร้อนด้วย ที่สำคัญอีกอย่างอย่าพยายามขนอะไรไปเยอะ จะหนักเปล่าๆ นะ
- อีกอย่างที่อยากบอกคือควรนอนหลับพักผ่อนไปให้เพียงพอ
ถ้าไม่สบายอยู่ ไม่ควรมา เพราะอาจจะเป็นลมได้จ้า
- สุดท้ายนี้เตรียมถุงพลาสติกแบบใส่นิตยสารไปด้วยก็ดี
เผื่อมีคนแจกพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง จะได้มีถุงใส่และไม่ยับด้วยนะ