สวัสดีค่ะเพื่อนๆห้องชายคา ขอเกริ่นก่อนว่าจขกท.เพิ่งซื้อบ้านใหม่เลยมีความคิดจะตกแต่งบ้าน ส่วนตัวแล้วชอบสไตล์ลอฟท์มาก ฝันไว้ว่าถ้ามีบ้านก็อยากตกแต่งให้มีอารมณ์คล้ายๆร้านกาแฟ ครั้นจะไปจ้างinteriorไอ้เราก็เบี้ยน้อยหอยน้อย เลยตัดสินใจว่าจะตกแต่งกันเองด้วยสกิลช่างแบบงูๆปลาๆของเราและแฟน เอาวะ...ถ้ามันจะพังก็ด้วยด้วยมือเราเนี่ยแหละ

ขอเอารูปผลงานมาให้ชมสักนิดก่อนนะคะ
   เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงเริ่มออกแบบคร่าวๆกัน บ้านของจขกท.เป็นบ้านแฝด2ชั้น แต่วันนี้ที่รีวิวเป็นส่วนชั้นล่างค่ะ เดิมเป็นพื้นที่โล่งๆโครงการทาสีขาวและปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้

สภาพก่อนแปลงโฉม

สิ่งที่คิดจะทำมีดังนี้
1.เปลี่ยนพื้นจากกระเบื้องแกรนิตโต้เป็นกระเบื้องไวนิลลายไม้
2.ผนังด้านที่วางทีวีอยากเพิ่มความลอฟท์ด้วยอิฐโชว์แนว
3.ทำผนังปูนเปลือย  ด้วยความที่เลี้ยงน้องหมาอยู่ในบ้าน2ตัว เลยปัญหาว่าผนังสีขาวจะดูสกปรกเพราะน้องหมา ยืนเกาะผนังบ้าง หรือรอยกรงหมาขูดผนังเป็นรอยดำบ้าง ทำความสะอาดยากมากๆ ด้วยความขี้เกียจมาเช็ดบ่อยๆ เลยคิดขึ้นมาว่าน่าจะทำเป็นปูนเปลือย ให้ดูหลอกลวงว่าผนังไม่เปื้อน 5555

   ส่วนของผนังอิฐนี่เราซื้ออิฐเทียมมาแปะกับผนังเดิมนะคะ ทำเองได้ไม่ยาก ว่างๆจะมารีวิววิธีทำให้ชมกัน
  
   ผนังหลังแปะอิฐเสร็จได้แบบนี้ค่ะ
แหม่ ยังลอฟท์ไม่สาแก่ใจต้องเอาปูนเปลือยเข้าไปฟีทเจอริ่งหน่อย

   เผอิญไปเดินเล่นงานบ้านและสวน เจอสีตัวใหม่ของเบเยอร์ที่เค้าทาโชว์ไว้พอทาออกมาแล้วคล้ายผนังปูนเปลือย พนักงานขายบอกทำเองได้ไม่ยาก เลยสอยมาซะ ถ้าจำไม่ผิดชื่อรุ่นArt Effect loft serie รุ่นนี้มี3สี สีเข้ม กลาง อ่อน เราเลือกสีเทาเข้ม(blackgrey)มาทามุมทีวี และสีเทากลาง(naturalgrey)ทาส่วนอื่น เค้าขายเป็นเซ็ทราคา1500บาทต่อเซ็ท มีสี1กระป๋อง ทินเนอร์ แวกซ์เคลือบ เกรียงปาด พนักงานบอกชุดนึงทาได้10-15ตรม. เอาเข้าจริงทาได้แค่5ตรม.เองอ่ะ คุณหลอกดาว

หน้าตาสีเป็นแบบนี้นะคะ (เลอะเทอะนิดนึง ลืมถ่ายก่อนทา)

พนักงานขายบอกว่าสีตัวนี้ทาได้2แบบคือ
1.ถ้าอยากได้ผนังแบบปูนฉาบธรรมดาให้ทาด้วยลูกกลิ้ง2รอบ
2.ถ้าอยากได้ผนังปูนเปลือยขัดมันให้ทาด้วยลูกลิ้งเพื่อรองพื้น1รอบ แล้วใช้เกรียงปาดเพื่อทำลาย ตามด้วยแว้กซ์ เดี๋ยวเราจะทาวิธีนี้กัน

เริ่มจากทำความสะอาดผนัง เช็ดคราบสกปรกออก ติดกระดาษกาวปิดส่วนขอบและปลั้กไฟที่ไม่ต้องการให้เลอะ ปูหนังสือพิมพ์ที่พื้น พร้อมแล้วก็ลุยจ้า

   ทาสีรอบแรก ผสมสีกับทินเนอร์ เพราะสีเพียวๆจะเหนียวมากกกกก ตามข้างกระป๋องทินเนอร์บอกให้ผสมไป10-20% เป็นเด็กดีทำตามที่บอกสรุปเหนียวมากจ้า  ทาทีกล้ามจะขึ้นแถมเปลืองสีอีก จากที่ลองผิดลองถูกคิดว่าใส่ทินเนอร์ไป20-30%กำลังดี ผสมๆกวนๆให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็เทใส่ถาดสี เนื้อข้นๆประมาณนี้
ใช้ลูกกลิ้งจุ่มๆแล้วก็กลิ้งให้ทั่วผนังเลยค่ะ ส่วนริมๆก็ใช้แปรงขนาดเล็กเก็บรายละเอียด
ในรูปคือเกณฑ์เพื่อนมาช่วย ค่าจ้างเป็นน้ำเก็กฮวยเย็นๆ
   อยากบอกว่าทาไปเมากลิ่นสีกับทินเนอร์กันไป กลิ่นแรงมากกกก ดึงดาวกันเลยทีเดียว สีแห้งค่อนข้างไวประมาณครึ่งชม.ก็แห้งดี สีก็จะอ่อนลงกว่าตอนทาค่ะ
คล้ายๆปูนเพิ่งฉาบเสร็จแต่จะยังไม่เนียน ใครชอบแบบนี้ก็กลิ้งซ้ำอีกรอบเลยค่ะ แต่เราจะทำลายปูนเปลือยต่อ

   เตรียมสีสำหรับปาดลายก็ผสมทินเนอร์เหมือนเดิมแต่ให้เหลวกว่าตอนทารองพื้น สัดส่วนบอกไม่ถูกค่ะกะๆเอา 5555
   วิธีการปาดก็ใช้เกรียงที่เค้าให้มาในชุดจกสีออกมาโปะไปที่ผนังแล้วก็ปาดโลด เทคนิคคือพยายามปาดให้เป็นแนวโค้งไปทางเดียวกัน
บริเวณขอบก็ใช้เกรียงอันเล็กๆแบบคนขายขนมโตเกียวใช้ไม่รู้ชื่อเกรียงอะไรเรียกไม่ถูก5555 ปาดๆเก็บมุมกันไป

ด้านบนคือปาดลายแล้ว ด้านล่างยังไม่ทำ

พอสีแห้งดีแล้วก็ลงเคลือบแว็กซ์กันค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้
กลิ่นเหมือนยาขัดรองเท้าเลย วิธีลงแว็กซ์ก็ใช้เกรียงจกออกมาปาดบางๆให้ทั่วผนังเลยด้านบนคือลงแว็กซ์แล้วค่ะแต่ยังไม่แห้งดี

พอแห้งแล้วสีจะเข้มกว่าตอนยังไม่ทาแว็กซ์นิดนึงแล้วก็จะเห็นลายชัดชึ้น เสร็จเรียบร้อยแล้วเชิญชมค่า

จัดเฟอร์นิเจอร์ลง ติดโคมไฟเพิ่มก็เสร็จแล้วจ้า

ห้องทำงานด้านบนจขกท.ใช้ตัวmementoสุดฮิตของnipponด้วยค่ะ เลยจะสรุปเปรียบเทียบให้
นี่รูปผนังที่ใช้mementoค่ะ

ข้อดี
-เหมือนปูนจริงมากกว่าmemento ทั้งสีและtexture
-กะน้ำหนักมือง่ายกว่า ปาดๆไปยังไงก็ออกมาดูดี mementoค่อนข้างกะน้ำหนักมือยากหนักมือไปมีด่างได้ เจอมาแล้วจ้า5555
-มีหลายเฉดให้เลือก เข้มมากเข้มน้อยแล้วแต่ชอบ

ข้อเสีย
-ราคาสูงกว่า ทั้งสองตัวทาได้พื้นที่พอๆกัน mementoอยู่ที่พันต้นๆ art effectอยู่ที่พันกลาง
-หาซื้อยาก จขกท.ซื้อในงานมาทั้งหมด3ชุดแต่ใช้ไม่พอเลยต้องซื้อเพิ่ม ปรากฏว่าไม่มีขายทั่วไปจ้าต้องสั่งตรงจากบริษัทเท่านั้น สั่งกับบริษัทชุดละ1400บาทส่งให้ฟรี
-กลิ่นเหม็นถึงเหม็นมาก แต่พอสีแห้งก็เหม็นน้อยลง
-ขั้นตอนทายุ่งยากกว่าmemento ต้องผสมก่อน

ส่วนตัวค่อนข้างพอใจกับผลงาน เอาไว้เป็นอีกทางเลือกให้คนชอบแต่งแนวลอฟท์แล้วกันนะคะ ไว้มีโอกาสจะมารีวิวใหม่จ้า