สวัสดี เพื่อนๆ PANTIP
สวัสดี กลุ่มรักภูกระดึง
และ..
สวัสดี.. ภูเขารูปหัวใจ ปุยเมฆฟ้าใส ปุยเมฆฟ้าฝน ไอหมอก ลูกสน มอสเฟิร์น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว
น้องทาก น้องกวาง คุณลุง คุณป้า ..
..การเดินทางของใครแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป แต่การเดินทางของใครบางคนก็มีจุดหมายเดียวกัน..
เชื่อว่าจะต้องมีใครสักคนที่อยากไปหา เขา สักลูก...เพื่อที่จะออกตามหาบางสิ่ง !
แต่อาจจะยังลังเลใจว่าจะไปหา เขา ดีไหม ?
ต่างคนก็ต่างมุมมองออกไป บางคนก็เป็นเรื่องสนุกท้าทาย บางคนก็เป็นเรื่องหน้าเหนื่อล้าร่างกาย..
แต่เชื่อเถอะว่า..ลองเขาสักครั้งคุณจะไม่มีวันลืม..
พวกเรากำลังจะออกตามหา ประสบการณ์ แรงบันดาลใจ ความสบายใจ และ..อากาศที่ดีต่อร่างกาย 5555
คืน วันศุกร์ บายยย กทม
เราเริ่มต้นเดินทางมุ่งหน้าสู่หมอชิต เพื่อนเตรียมขึ้นรถทัวร์
และนี่ก็คือตั๋วรถทัวร์ของพวกเรา ที่จะพาพวกเรามุ่งหน้าสู่ ผานกเค้า ในอีก 6 ชั่วโมงข้างหน้าคะ
รถทัวร์ของพวกเราต้องเรียกได้ว่า สะดวกสบายมาก มีทีวีจอเล็กให้ดูแก้เบื่อ มีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ (แต่ขอกระซิบว่าบางตำแหน่งอาจใช้ไม่ได้ หรือ บางทีก็ใช้ไม่ได้ทั้งคันไปเล๊ยยย 5555) มีน้ำดื่มแจกให้หนึ่งขวด ขนมคุ้กกี้ใส่สับประรด และแอร์ที่หนาวมากคะ เนื่องด้วยรถทัวร์ที่พวกเราจองจะออกจาก กทม ช่วงเวลา 22:00 พวกเราจึงขอตัวไปหลับบนรถกันก่อนน่ะคะ แล้วเจอกันนน...
เช้าตรู่ วันเสาร์ 5:00 น.
ถึงแล้ววว ผานกเค้า ยังมืดอยู่เลยค่ะ อาจจะยังเห็นผาไม่ชัดมาก แวะล้างหน้า แปรงฟัน ทานข้าวเช้าเตรียมตัวที่จะไปใช้พลังมหาศาล หลังจากทานข้าวทำธุระเสร็จเรียบร้อยก็ไม่อยากจะรีรอแล้วค่ะ รีบเรียกรถสองแถวสีแดงบึ่งตรงไป ภูกระดึงกันเลยดีกว่าค่ะ
สภาพของพวกเรา แลดู พร้อมที่จะไปสนุกกันมากเลยคะ ย้อนมาเห็นเองก็ยังขำๆนะคะ 555555
บรรยากาศสองข้าทางที่เราผ่านมา รถน้อยไม่จอแจเหมือนเช้าใน กทม มีม่านหมอกปกคลุมมองไกลออกไปเห็นภูผา เห็นดวงอาทิตย์ที่กำลังฝ่าเงาหมอกขึ้นมา อากาศเย็นๆ แบบนี้สิพลังที่ธรรมชาติมอบให้พวกเราก่อนขึ้นภู
ถึงแล้ววว ถึงตีนภูจ้าาา 5555 แน่นอนมีรูปเท่นี้ได้เพราะผู้หญิงอย่างเราเสียสละถ่ายรูปให้พวกนายไง สังเกตสัมภาระของพวกผู้ชายเลยค่ะ มีไปตั้งแต่ 8-16 กิโลกรัมเลยนะค่ะ สู้น่ะ เท่สุดๆไปเลย
จ๊ะเอ๋.... 5555 รูปรวมพวกเราาา ขอขอบพระคุณพี่สาวคนสวยทั้งสองที่เดาใจพวกเราถูกว่าจะไปขอให้พี่ๆถ่ายรูปให้นะคะ แลกกันน่ะคะ
หลังจากนี้สิของจริงคะ หลังจากที่ จขกท จัดแจงกระจายรายได้ให้ลูกหาบก็พร้อมออกเดินมุ่งหน้าสู่ยอดภูกันแล้วคะ ไม่มีอะไรมากคะหยิบไม้ค้ำแล้วเดินไปด้วยกันคะ ก้าวแต่ละก้าวและทุกลมหายใจต่อจากนี้เพื่อภูกระดึงเลยคะ บอกแบบนี้เพื่อให้กำลังใจตัวเองก้าวเดินไปเรื่อยๆ
ขอบคุณกำลังใจผ่านมาทางเสียงเรียกเชิญชวนแต่ละ ซำ จากคุณลุงคุณป้า ระหว่าง ซำ พวกเราแวะนั่งพักบ้าง เติมพลังบ้าง ชมวิวทิวทัศ "ซำ แปลว่า น้ำที่ซับออกมาจากพื้นดิน และเป็นแหล่งที่หาน้ำได้ "
น้ำแข็งใสหวานเย็นชื่นใจ กับ บรรยากาศดีๆแบบนี้ มันช่าง....
ไข่ปิ้งที่เผลอทานและยัดใส่ปากเพื่อนๆช่วยเรียกความหิวได้คะ เพราะเหนื่อยมาก เรากพักกันไม่นานเพราะอยากขึ้นไปให้ถึงหลังแปเร็วๆ
มะขามป้อมหวานชุ่มคอ หลังจากที่หอบแฮกมาตลอดทาง ชื่นใจ...
รูปต่อจากนี้อยากส่งผ่านความรู้สึกระหว่างทางเดินขึ้นเขานะคะ
และนี้คือตัวอย่างของความสุขที่แต่ละคนมีต่างกันไป บางคนเดินคนเดียว เดินเป็นคู่ วิ่ง เล่น แวะถ่ายรูป แบกของ เหนื่อยล้า แต่นั้นคือความสุขทุกครั้งที่ได้ทำตามใจตัวเอง ก้าวแต่ละก้าวที่เลือกหินหรือทางเดินที่มั่นคงสอนให้เรากล้าตัดสินใจ พลังกายพลังใจสอนให้เราไม่ย่อท้อ
และแล้วเราก็มาถึงลานกางเต้นท์วังกวางงง เย้ๆ ไม่มีอะไรมาก พักผ่อนกันก่อนน่ะคะ
แต่แล้ว..สิ่งที่เราเฝ้าฝันก็ปรากฎขึ้น "ทางช้างเผือกกก" นี้คือการยืนรอและล่อน้องทาก
คิดถึงความเฮฮาของพี่เต้นท์ตรงข้าม และขอบคุณที่พี่ๆช่วยไล่น้องทากนะคะ
เช้าวันอาทิตย์ เดินกันแบบไม่คิดชีวิตไปหล่มสัก
เช้าวันนี้เราวางแผนกันไว้ว่าเราจะใช้เส้นทางน้ำตก เพื่อที่จะเดินไปผาหล่มสัก ระหว่างทางจะมีน้ำตกมากกมายให้แวะเยี่ยมชม ทั้งพระพุทธเมตตา ทั้งน้ำตกถ้ำใหญ่ สระอโนดาต น้ำตกสอเหนือ เส้นทางนี้จะต้องระวังช้างป่า และไม่เหมาะที่จะใช้รถจักรยานนะคะ เดินล้วนๆเลยจ้า
น้ำตกถ้ำใหญ่ ที่เงียบสงบน้ำในลำธารไหลเย็นชุ่มฉ่ำ เราแวะพักถ่ายรูปกันก่อนเนอะ
นี้คือน้ำตกสอเหนือ พวกเราลองดื่มแล้ว กรองตรงจุดที่ถ่ายรูปมาเลย พี่ๆกลุ่มนึงบอกเราว่าดื่มได้แต่ต้องมาจากแหล่งน้ำที่ไหลตลอด ส่วนสีน้ำตาลอ่อนๆนั้นคือเศษใบไม้ ที่เน่าสลายทับถมกัน ส่วนตัวแล้วตื่มไปก็ไม่เป็นอะไรคะ รสชาติปกติดี
เดินไปค่ะ ระยะทางยังอีกยาวไกล
และนี่ก็คือ ผาหล่มสัก ลมหนาวเย็นและกาแฟกับบราวนี่นั้นมันช่างมีความสุขจริงๆ ที่นี้เป็นจุดหมายของใครหลายคนที่อยากจะไปนอนอยู่ตรงหินก่อนนั้น พวกเราเวียนกันถ่ายรูปด้วยความกล้าๆกลัวๆ พี่ๆที่เฝ้ารอดวงอาทิตย์ตกก็เฝ้ามองกลุ่มพวกเราด้วยความลุ้นระทึกบ้าง หวาดเสียวบ้าง ตลกขบขันบ้าง พี่บางคนถ่ายรูปพวกเรากลับมาแซวกันในเฟสกลุ่ม พี่บางคนตะโกนด้วยเสียงหวานเสียวว่า พอได้แล้ววว ~ ต่างๆกันไป นี้คือความสนุกของผาหล่มสักก่อนที่ดวงตะวันจะคล้อยลาไป
เมื่อแสงสุดท้ายของวันได้ลาจากเราไปแล้ว แล้ว?? พวกเราจะอยู่กับใคร 5555 ทันทีที่แสงหมดนักท่องเที่ยวก็รีบเร่งกันเดินกลับหายไปกันหมด แต่พวกเรานะหรอมัวยืนซื้อกาแฟดื่มกันอยู่เลย เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็รีรอไม่ได้รีบจ้ำไม่คิดชีวิตด้วยความเร็วสูงเลยจ้า กลัวอันตรายกับป่าที่มืดมิด แต่นั้นไม่เป็นปัญหาเลย เราเหลียวมองไปด้านหลัง ไม่ได้มองกลุ่มคนที่เราเดินแซงมา ไม่ได้มองอะไร.. แต่มองทางช้างเผือกที่กำลังขึ้นจ้า 18:50 กว่านาทีได้ มาแล้ววว ไม่รีรอขออีกภาพความทรงจำคะ
เช้าวันจันทร์ เดินกันให้มันไปเล้ยยย
วันนี้เราทานข้าวเช้ากันปกติ ดื่มกาแฟและ..ถ่ายรูปน้องกวาง
และเนื่องจากเมื่อคืนถึงแม้เราจะเดินทางกลับที่พักโดยใช้เส้นทางเลียบผาแต่เราก็มองไม่เห็นอะไรเลย เราจึงตัดสินใจว่าวันนี้เราจะมีจุดมุ่งหมายก็คือ "ผาเหยียบเมฆ" ใช้เส้นทาง เข้าน้ำตกวังกวาง ลานพระพุทธเมตตา สระแก้ว ออกผานาน้อย แล้วขึ้นไปผาเหยียบเมฆกันคะ
เส้นทางนี้ค่อนข้างลำบากน่ะคะ โขดหิน เนินสูง พื้นลื่น พื้นแฉะ และดงน้องทากคะ
น้ำตกวังกวาง เป็นน้ำตกที่มีลานกว้างเหมือนเป็นที่ให้สัตว์ป่าได้มายืนดื่มน้ำได้ พอปีนก้อนหินลงมาก็จะเห็นน้ำตกเป็นชั้นๆลดหลั่งกันไป
ชั้นบนที่มีพวกเรายืนจะเป็นลานกว้างๆมีน้ำไหลผ่านนะคะ
ระหว่างทางตรงนี้ เราก็เดินไปเรื่อยๆเลยค่ะ แต่เราหาสระแก้วไม่เจอน่ะคะ คุณป้าร้านนาน้อยบอกว่าจะเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ เวลาทีแสงอาทิตย์สาดส่องจะเห็นเป็นเหมือนแก้วเจ็ดสีระยิบระยับเลยคะ พวกเราฝ่าดงพงไพรออกมาโผล่ปุ๊บที่ผานาน้อยคะ แวะนั่งพัก ทานอาหาร แต่ผานาน้อยก็สวยมากเหมือนกัน ยามเช้าทำให้เราได้เห็นอีกมุมมองคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สระแก้วก่อนหน้านี้สวยมากคะคุณป้าบอก และทากเยอะคะ เลือดอาบออกมาเลยคะ 5555
และท้ายที่หมายวันนี้คือ ผาเหยียบเมฆนั้นเอง ผานี้ก็สามารถดูดวงอาทิตท์ตก ดูดาว ดูทางช้างเผือก ได้เหมือนกันนะคะ อากาศหนาวเย็นค่ะ มีโขดหินที่ธรรมชาติสรรสร้างมาให้เราได้ยืนได้กระโดด ได้นอนพักพิงคะ วันจันทร์คนน้อย เลยนอนตากแดดคลายหนาวกันอยู่ตรงหน้าผาเลย คุณป้าแม่ค้าดูดีใจที่เรามาและแกก็บอกว่าตกลงกับร้านข้างๆว่าแบ่งลูกค้ากันนะ 5555
อังคาร จากลา
เมื่อคืนพวกเราเก็บข้าวของเพื่อที่จะมาจ้างลูกหาบแต่เช้า เพราะเจ้าหน้าที่เตือนว่าเดี๋ยวของจะลงไม่ทัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่รถเราตั้ง 20:00 5555วันนี้เรากำลังจะกลับแล้ว ไม่อยากจากลาเลย เงินในกระเป๋าที่เหลือเพียงน้อยนิดของพวกเราไม่เท่ากับใจที่อยากอยู่ต่อเลย แต่ไม่เป็นไรน่ะ เราจะได้พบกันอีกแน่นอน ขออนุญาติปิดด้วยรูปรัวๆเลยนะคะ อยากให้ทุกคนรู้สึกเหมือนพวกเราจัง
[CR] ..เทเหรียญ.. " ขึ้นภูกระดึง " ความรักแรกพบที่มีแต่ 'เขา' ทั้ง 'หัวใจ'
น้องทาก น้องกวาง คุณลุง คุณป้า ..
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น