คือหลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ได้เลิกลากันไปเป็นที่เรียบร้อย ฝ่ายชายก็มีติดต่อมาตลอด เคยรับโทรศัพท์ครั้งนึงค่ะเพราะอยากฟังความจริงบางอย่างจากปากเค้า หลังจากนั้นก็ไม่เคยรับเลย ส่วนเค้าก็ส่งข้อความมาง้อ อธิบายต่างๆนาๆขอโอกาสเริ่มต้นใหม่

แต่มันเริ่มใหม่ไม่ได้ละคะ ตั้งแต่เลิกกันไปเรื่องที่เค้าปิดบังเรามาตลอดตั้งแต่คบกันก็เริ่มฝุดขึ้นเรื้อยๆคือ

1.เค้ามีเฟสบุ๊ค 3อัน อันแรกไว้ใช้เล่นกับคนในโลกความจริง คือ เรา เพื่อน ญาติพี่น้อง คนที่ทำงาน อันที่สองไว้คุยกับคนในโลกหลอกลวง ส่วนอันที่3ไว้คุยกับ ผญ. คนนึงในที่ทำงานเพราะเฟสแรกเรารู้รหัสเลยสร้างอีกเฟสแอบคุยกัน

ถ้าถามว่าเรารู้เรื่องนี้ได้ไงคือบ่อยครั้งเวลาเราทักแชทในเฟสเค้าไปเวลาเค้าไปข้างนอก ทำงาน เค้าจะไม่ค่อยตอบ ต้องถามในlineถึงตอบ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรก็เชื่อตามที่เค้าบอก

แล้วอยู่มาวันนึงหลังจากที่เลิกกันเราก้ติดใจเรื่องนี้ เราเลยใช้เฟสของเพื่อนลองค้นหาชื่อที่เค้าชอบใช้ตั้งต่างๆก้เจอเลยค่ะ

2.ตลอดเวลาที่คบกันมาเค้าเล่นแชทต่างๆในมือถือคุยกับคนอื่นตลอดแต่พอกลับห้องมาคือลบแอฟในมือถือทิ้ง พอออกจากห้องไปก็โหลดมาใหม่

เรื่องนี้รู้เพราะเราถามว่าคนในเฟสอีกเฟสรู้จักได้ไงมาจากที่ไหนเค้าก้ตอบว่ามาจากโปรแกรมแชทเหล่านั้น

3.ทุกครั้งที่ทะเลาะกับเรา เค้าก็ไปคุยกับคนอื่นโดยที่ไม่แยแสเราเลยสักครั้ง(อันนี้เรามานั่งทบทวนดูเองค่ะ เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกันเค้าก้จะหยิบโทรศัพท์มาแชทตลอดเราก้เลยถามไปเค้าก้ตอบว่าใช่) ส่วนเราทุกครั้งที่ทะเลาะกันหรอนั่งร้องไห้เอง เช็ดน้ำตาเอง หายเอง พอเราหายเค้าก็ทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น

4.ไปเจอถุงยางอนามัยที่เค้าซ่อนไว้ แต่บังเอิญเค้าเอาไปยัดไว้ในกล่องเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้พอเรายกกล่องกลับบ้านเลยเปิดมาเจอพอถามเค้าบอกว่ามีครั้งนึงที่ทะเลาะกับเราละออกไปข้างนอกไปดื่มเหล้าและเค้าไปคนเดียวบังเอิญรู้จักโต๊ะข้างๆเลยไปต่อที่หอน้องคนนั้น

ข้อดีของผู้ชายคนนี้ที่เราเห็นชัดเจนคือก็เนี่ยแหละคะ เวลาเราจับได้เค้าจะพูดความจริงกับเราทุกเรื่อง และถ้าเค้าสัญญากับเราว่าจะหยุดเค้าก็หยุดจริง แต่จะหยุดหลังที่เรารู้นะคะ

แต่ถ้าเราไม่รู้เค้าก็ไม่เคยหยุด ที่เค้าเรื่องพูดความจริงไม่ใช่เพราะเค้าเป็นคนดีหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะเค้ารู้นิสัยเรา ทุกเรื่องถ้าเค้าพูดความจริงเราจะไม่ค่อยโกรธเค้า ต่อให้ร้ายแรงแค่ไหนก็ไม่เคยโกรธ ขอแค่ให้พูดความจริงและแก้ไข ที่เราทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะเราโง่รักเค้าจนหัวปักหัวปลำนะคะแต่กับทุกคนเราก็เป็นแบบนี้  แต่ครั้งนี้มันเกินเยียวยาละคะ

มันเกินคำว่านิสัยไปละ

และไม่รู้ว่ายังมีเรื่องโกหกอะไรอีกที่เราไม่รู้

ตอนแรกที่เลิกกันไปเราก็คิดนะคะว่าเรายังพอจะเป็นเพื่อนกันได้ มีอะไรให้เราช่วยได้เราก็จะช่วย

แต่พอเจอความจริงพวกนี้ไปคือจุกค่ะ เสียใจมาก น้ำตาตกในเลยแหละคะ ถึงตอนนี้ก็ยังติดอยู่ในใจอยู่บ้าง

แต่ก็ก้าวข้ามผ่านจุดนั่นมาได้ละคะ ตอนนี้กลายเป็นว่าขอต่างคนต่างอยู่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวดีกว่า

แต่ตอนนี้มันกำลังจะมีเหตุให้ไปข้องเกี่ยวค่ะ คือตอนแรกก็มีเฟสของน้องผู้หญิงที่ทำงานที่เค้าแอบคุยกันทักมาหาเราว่าให้บอกคนของเราเลิกยุ่งกับเค้าด้วย เราก็อ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไร ผญ.คนนั้น

พอเวลาผ่านไปอีก ผญ.คนนั้นก็ทักเรามาอีกว่าไปบอกคนของเราหรือยังว่าให้เลิกยุ่งกับเค้าเราก็เงียบอีกไม่ได้ตอบ

เราเลยปลดบล็อคlineฝ่ายชายและส่งแชทที่ผญ.คนนั้นแชทมาให้เค้าดูว่าคนที่เทอคุยด้วยที่ทำงานฝากฉันมาบอกเทอแบบนี้นะ

ฝ่ายชายก็บอกเราว่าตั้งแต่วันที่เรารู้ความจริงคือเค้าก็ไม่ได้คุยกับ ผญ.คนนี้เลยกะจะหาไปเลยเงียบๆแล้วให้เรื่องมันจบไป

กับน้องคนนี้ก็ไม่ได้มีไรเกินเลยแค่คุยเล่นด้วยตอนว่างๆไม่รู้ทำไร เราก็ไม่อะไรก็แค่ฟังตอนแรกก็ไม่เชื่อจนเค้าเอาแชทที่ไปบอกน้อง ผญ.คนนั้นว่าอย่ามไปยุ่งกับเราให้เราดู
และในนั้นมันก็มีอะไรหลายๆอย่างที่ฝ่ายชายพูดไปว่าเค้าสองคนแค่คุยไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันด้วยซ้ำ

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกับฝ่ายชายเลย แต่เค้าก็ง้อเราเหมือนเดิม พ่อแม่ พี่น้องเค้าก็โทรมาแต่เราไม่เคยคุยด้วยเลยสักครั้ง

พอจบเรื่องนี้ไปสักพักใหญ่ๆจนมาเมื่อวานนี้มีจดหมายมาหาแม่เราที่บ้านและบอกถึงพฤติกรรมของฝ่ายชายที่เกิดขึ้นในบริษัท และให้แม่เรามาเตือนเราว่าอย่าคบ ที่บอกเพราะหวังดีสงสารเรา

คือตอนนี้เรา งง มาก ว่าคนส่งเอาที่อยู่บ้านเรามาจากไหน แล้วเราสามารถจัดการเรื่องนี้และตามหาว่าใครเป็นคนส่งได้ยังไงบ้าง

จดหมายที่ส่งมาคือคนส่งพิมพ์ข้อความมาคะไม่ได้เขียน และการส่งก็ส่งด้วยการติดแสตมป์มา จำนวน 15บาท

จริงๆเรื่องนี้แม่เราก็บอกนะคะว่าช่างเค้าเค้าอยากทำไรก็แล้วแต่เราก็ไม่ต้องไปยุ่งไปบอกหรือติดต่อกับแฟนเราว่ามีจดหมายอะไรมาบ้าน

แต่เรากลัวค่ะกลัวมันจะไม่จบแค่นี้ เพราะทุกครั้งเราเงียบมาตลอดแต่มันก็ไม่เคยจบเลย

เราอยากขอความคิดเห็นหน่อยค่ะว่าเราควรจัดการกับเรื่องนี้แบบไหนดี ถ้าไปแจ้งความก็เกรงว่าคุณตำรวจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ

ส่วนเพื่อนเราก็บอกให้เอาไปประจารที่บริษัทแฟนเก่าเราเลย แต่ด้วยหน้าที่การงานเค้าเราก็ไม่อยากให้เค้าเสียหน้าหรือเสื่อมเสียกับเรื่องพวกนี้และอีกอย่างคือตัวเราเองนิแหละคะที่จะดูไม่ดีไปด้วย