สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นนักศึกษามหาลัยฯ ป.ตรี แห่งนึง ไม่ระบุว่าเขตไหนนะคะ 555
สมัครบัญชีมาเพื่อตั้งกระทู้ ใช้คำผิดหรือพิมพ์ยาวขออภัยนะคะ งงๆไม่รู้จะแท็กห้องไหนเหมือนกัน
อาจจะดูจั๋วหัวแรงไปนิด แต่แค่อยากให้มุมมองกับวัยรุ่นหรือคนที่ยังไม่พร้อมอีกหลายๆคนด้วยค่ะ
เราจะอธิบายเหตุผลสั้นๆนะคะ จะได้รีบเข้าเรื่องตอนไปใช้บริการที่โรงบาล
คือเราก็มีแฟนค่ะ มีเพศสัมพันธ์กับแฟน ใช้ถุงยางบ้างไม่ใช่บ้าง
ซึ่งเราไม่ได้ห่วงเรื่อง HIV ค่ะ เพราะไปตรวจกันทั้งคู่แล้วที่ "คลินิคนิรนาม"
อาจจะมาตั้งกระทู้แนะนำเรื่องไปตรวจเพิ่มให้ค่ะถ้ามีคนอยากได้
เราทานยาคุมแบบ 28 เม็ดเผื่อไว้ด้วยค่ะ แต่กินไม่ค่อยตรงเวลา
ถึงแฟนไม่หลั่งใน แต่สำหรับเราก็ยังรู้สึกว่า มันมีโอกาสท้องอยู่ดี
ค่อนข้างไม่สบายใจมาเรื่อยๆ เลยตัดสินใจหาวิธีคุมกำเนิดวิธีอื่น
เราดูทั้งวิธีแบบฉีดยา แบบห่วงยาคุมแต่ก็รู้สึกมันมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง
เรากังวลเลยหาวิธีอื่นดูแล้วก็เจอวิธีนี้ค่ะ ซึ่งเราว่ามันโอเคมากๆ
ซึ่งตอนแรกนางก็ไม่ค่อยโอเค กลัวผลข้างเคียง แต่เราบอกว่าเราทำแล้วสบายใจนางก็ยอม
การฝังยาคุมกำเนิดจะฝังยาไว้ใต้ท้องแขนข้างที่เราไม่ถนัดค่ะ
ฝัง 1 เข็มคุมได้ 3 ปี ฝัง 2 เข็มคุมได้ 5 ปี
สามารถเอาออกได้ถ้าต้องการตั้งครรภ์ค่ะ
และวิธีนี้คุมกำเนิดได้ค่อนข้างสูง ผลค้างเคียงเราว่าต่ำกว่าแบบอื่น
ควรทำช่วงที่มีประจำเดือนและไม่เกิน 5 วันหลังเป็นประจำเดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านเพิ่มเติมที่
https://medthai.com/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94/
หรือทางเพจของศิริราชเองเลยก็ได้ค่ะ จะมีเบอร์ติดต่อกับข้อมูลด้วย
https://www.facebook.com/permalink.php?id=359955817473692&story_fbid=360004814135459
เราเลือกทำที่ รพ.ศิริราชเพราะเห็นหลายๆกระทู้แนะนำมา
เราก็โทรไปสอบถาม เขาก็บอกว่าให้โทรมาหาอีกทีหลังประจำเดือนมาวันแรก
แล้วก็ถ้ายังไม่มีบัตร รพ. ให้สมัครออนไลน์แล้วเก็บเลขที่ส่งไปทางอีเมลไว้
ซึ่งการสมัครจะใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังสมัครถึงจะได้รหัส
พอหลังจากประจำเดือนเรามาเราก็โทรไปนัด เขาก็บอกว่าให้เข้ามาแต่เช้า ไม่เกิน 11 โมง
เราไปถึงช่วง 9 โมง ตึกแอบหายาก ขนาดเล็กๆ อยู่แถวๆตึกคลอดลูกอะคะ ถามๆคนเอา
คนเยอะมาก มีแต่คนโตๆแล้วบางคนก็ตั้งครรภ์ เราดูเด็กมากไปเลยค่ะ
เราไปคนเดียวค่ะ ไม่อยากให้แฟนมา 555 ตอนแรกเรานึกว่าจะนาน แต่ก็ไม่นานมากเท่าไหร่ค่ะ
เพราะเหมือนคนอื่นที่มารอน่าจะใช้บริการอื่นๆกันมากกว่า
พอถึงเคาเตอร์พี่เขาก็บอกให้เอาเลขกับบัตรประชาชน ไปแลกเป็นบัตรโรงบาลก่อนค่ะ
จากนั้นเขาก็ถามว่ามาทำไรบ้างแล้วก็รันคิวให้ เราก็ไปนั่งรอค่ะ
เราจะอธิบายเป็นขั้นตอนนะคะ
1.เรียกคุย เขาก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปเรียกคุยค่ะ วันนั้นมี นศ.แพทย์แผนไทย มหิดล มาขอฟังด้วย
มองๆดูแล้วอายุพอๆกัน อายนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไร เขาก็จะถามพวกประวัติคร่าวๆ อื่นๆที่จำได้ก็จะมี
1.ความสัมพันธ์ = มีแฟนแล้ว
2.จะฝังกี่เข็ม = 1 (คุม 3 ปี)
แล้วพี่เขาก็ถามว่ามีแพลนแต่งงานมีลูกหลังเรียนเลยมั้ย เราก็บอกตามตรงว่าไม่อยากมีลูกด้วยซ่ำ
เขาก็เลยบอกว่างั้นก็ฝัง 2 เข็มเลยมั้ย ราคาเท่ากันจะได้คุมไปเลยทีเดียว เราก็โอเคตกลงฝัง 2 เข็ม (คุม 5 ปี)
3.ใช้ยาหรือเป็นโรคประจำตัวอะไรอยู่มั้ย เราก็บอกว่าเราเป็นซึมเศร้า
เขาก็บอกว่าเดี๋ยวถามหมอก่อนนะ ว่าฝังได้มั้ยแต่ไม่น่ามีปัญหา เพราะยาบางตัวมันไปลดประสิทธิภาพการคุมกำเนิด
4.เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนไหน เกิน 2 ปีมั้ย
เราก็ตอบว่าประมาณ 2-3 ปี เขาก็เลยแนะนำให้ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยเลย
เราก็โอเค อยากตรวจอยู่แล้ว ผลจะส่งไปให้หลังจากตรวจ 2 อาทิตย์
เขาบอกว่าตรวจฟรีนะ ถ้าจำไม่ผิด แล้วก็พูดเรื่องผลข้างเคียงกับข้อดีของการฝังแบบนี้
2.ตรวจมะเร็งปากมดลูก+ฝังยาคุม
ช่วงตรวจปากมดลูกก็ขึ้นนอนวางขากับที่ยกขาสำหรับตรวจภายในค่ะ
เป็นประจำเดือนไม่เป็นไรค่ะ คุณหมอจะเช็ดให้ก่อนแล้วก็มีใช้เครื่องกับใช้นิ้วตรวจดู
จากนั้นพอถึงคิวฝังยาเราก็นอนลงกับเตียงค่ะ พยาบาลเอาผ้ามาปิดตาไว้
ยืดแขนข้างที่ไม่ถนัดออก มี นศ.แพทย์กลุ่มเดิมมาดูด้วยค่ะ
หมอจะฉีดยาชา ตอนนี้บอกเลยว่าเจ็บมาก เราว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างทนความเจ็บได้ระดับนึง
เพราะเป็นขี้โรคมากตอนเด็ก ฉีดยาประจำเป็นว่าเล่น แต่อันนี้เจ็บมากอยู่ค่ะ
จากนั้นก็รู้สึกเหมือนเขาฝั่งอะไรเข้ามาใต้แขน แล้วก็ปิดแผล แล้วปิดด้วยเทปกันน้ำอีกที
พอเปิดผ้าให้ดูหมอก็ให้คลำๆเข็มดู เราก็ให้ นศ.แพทย์มาคลำดูด้วย
เหมือนเขาคลำไม่เจอเราเลยบอกว่าไม่เป็นไรกดได้ไม่เจ็บ
มี นศ ชายคนนึงต้องดมยาดมไปนั่งพักเลยทีเดียว ฮะๆ
แล้วก็ใช้ผ้าพันเคล็ดสีเนื้อพันรอบค่ะ 4 ชั่วโมงค่อยเอาออกได้
หมอบอกว่ามาฝังดีแล้วเพราะยาคุมกำเนิดจะมีผลต่อโรถคซึมเศร้า
แต่ฝังยาแบบนี้ไม่มีผลอะไร แรกๆอาจจะปวดแผล ทานพาราได้ ถ้าอาการไม่ดีก็กลับมา
7 วันค่อยแกะผ้าปิดแผลออก อย่าให้โดนน้ำ และระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ต้องป้องกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดูคลิปวิธีทำที่นี้
https://www.youtube.com/watch?v=6W20XgP0btM
3.จ่ายยา
จากนั้นเขาจะให้เราเอาใบเสร็จไปจ่ายที่อีกตึกค่ะ เป็นค่าอุปกรณ์ในการทำเท่านั้น
ราวๆ ไม่เกิน 800 บาท รวมค่าส่งจดหมายส่งผลตรวจมะเร็งปากมดลูก 25 บาท
ค่าอื่นๆ สำหรับคนที่มีที่อยู่ใน กทม เบิกได้ค่ะ ถ้าโทรไปถามแล้วเขาบอกว่า
ค่าใช้จ่าย 3000 ก็ถามเรื่องเบิกไปนะคะ ตอนแรกเราก็ตกใจเหมือนกัน 555
จากนั้นเขาจะให้ตะกร้าอุปกรณ์มา เราก็เอาไปคืนที่เคาเตอร์ตึกเดิมค่ะ
แล้วเขาจะให้ใบนัดมา นัดปีล่ะครั้งค่ะ สะดวกวันอื่นก็โทรเลื่อนได้
อาการหลังจากนั้นจนครบ 7 วัน
วันแรก คือวันแรกที่ทำแล้วกลับมานะคะ มีอาการช้ำในช่วงใกล้ๆแผล
พอเอาผ้าพันออก มีเลือดไหลซิบๆออกมานิดนึง พอนอนพักเลือดก็ไหลเพิ่มจ้า
แล้วพอถึงดึกๆเลือดก็ไหลเพิ่มไปเกือบครึ่งๆผ้าปิดแผลไรงี้
มีปวดๆจี๊ดๆก็กินพาราด้วย แต่ไม่ได้ปวดตลอดนะ ปวดแค่ช่วงเย็น
รอยช้ำจากม่วงๆเขียวๆก็เริ่มๆแดงขึ้น กดแล้วไม่ปวด
วันที่ 2 โทรไปถามหมอ เขาก็บอกว่าถ้าเลือดไม่ไหลออกนอกที่ปิดกันน้ำก็ไม่เป็นไร
แล้วถ้าไม่ป่วยไม่มีไข้ก็โอเค ถ้าหลอดออกอีกก็ไปทำแผลใหม่ก็ได้ (อารมณ์เหมือนจะได้ดูสะอาด)
วันนี้มีเลือดไหลนิดหน่อย แต่เลือดเริ่มแห้งแล้ว มีปวดจี๊ดบ้างก็ทานพารา รอยช้ำก็เหมือนเยอะขึ้น
วันที่ 3 ก็เลือดไม่ไหลแล้ว เลือดแห้งเลย ที่ช้ำๆก็ยังเป็นสภาพเดิม
ปวดอยู่ก่อนนอน แต่วันนี้เลี่ยงทานพาราเอา มีจี๊ดๆบ้าง
วันที่ 4 เริ่มเป็นโรคจิต กดๆดูตรงเข็มบ่อยขึ้น มีเจ็บๆปวดๆบ้าง
แต่ก็อดจับดูไม่ได้ มีเจ็บปวดจี๊ดบ้าง แต่น้อยลงแล้ว ไม่เป็นบ่อย
วันที่ 5 ปวดแค่ช่วงจับๆดูเข็ม (จับทำไม...) มีปวดบ้าง แต่น้อยลงมาก รอยช้ำก็เริ่มจางๆลงไปบ้าง เริ่มมันคันๆแผล
วันที่ 6 เริ่มคันมากขึ้น อยากแกะมาเกาะมาก
วันที่ 7 ยังคันอยู่ แอบๆเกาะๆถูกๆผ่านผ้าเลย TT มันคันอะ
เย้!!!!!!!!!!!! เอาออกได้แล้ว ดึงออกแล้วล้างพวกคราบอะไรงี้เลยทันที
เกาๆไปด้วย ไม่แรงมา ก็มันคัน พวกรอยช้ำก็จางลงแล้ว เป็นรอยแผลเล็กๆอยู่
วันต่อๆมา รอยช้ำก็หายไปค่ะ เหลือแค่สะเก็ดแผลเล็กๆ
ถ้ายกแขนมาดูบางมุมจะเห็นเป็นเข็มนูนขึ้นมานิดหน่อยเลย
ทาง รพ.มีโทรถามติดตามอาการด้วยค่ะ น่ารักมาก
รูปอยู่ในนี้นะคะ ลองเปิดดูเอง
5 รูปแรกเป็นช่วงของวันแรกค่ะ รูปที่ 6 ของวันที่ 2 รูปต่อๆไปคือวันถัดๆมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.mx7.com/view2/ztK57Xf5z3W6DGTa
***หมายเห็ด อาจจะมีดราม่าเรื่องอายุหรืออะไรนะคะ เราจะขอพูดในมุมมองของเรา
เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งซึ่งตอนนี้เราก็ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าเปิดเผยเลยหรือยังไงนะคะ
แต่มันเป็นเรื่องที่ควรยอมรับและหาวิธีป้องกันแทนการปิดกั้นข้อมูลอะไรหลายๆอย่างมากกว่า
ถามว่าใช้ถุงยางในการป้องกันได้มั้ย มันได้ค่ะ แต่โดยนิสัยของเราบางทีก็ไม่ได้พกกันทั้งคู่
แล้วสถานการณ์มันเอื้อ เราก็ทำด้วยอารมณ์ แต่ก็ทานยาคุมแผงควบด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รู้สึกไม่ชอบใส่ถุงยางด้วยอีกกรณี
แต่เราก็ห่วงพวกประสิทธิภาพที่มันอาจจะต่ำลงหรือน้อย เราก็ห่วงอนาคต
ก็เลยตัดสินใจทำค่ะ ถามว่าอายมั้ยตอนไปทำตอนเจอหมอ เจอคนที่นั้น
ตอบเลยค่ะว่าไม่ เราว่าเวลาฝากครรภ์มันคงน่าอายกว่าเป็นไหนๆค่ะ
ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 800 รวมถึงตรวจ HIV ก็ฟรี บวกๆค่าเดินทางหน่อย
มันคงไม่แพงมาก หารๆกัน 2 คน ค่าเลี้ยงลูกคงแพงกว่านะคะ
ถ้าจะทำก็ต้องรับผิดชอบ ป้องกันเป็น ดูแลตัวเอง ก็ไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
รวมถึงคนที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรด้วยนะคะ ป้องกันไว้ดีกว่า
***ข้อตอบเรื่องที่หลายคนเตือนเรื่อง HIV ค่ะ
อย่างที่บอกแล้วว่าไปตรวจกันทั้งคู่ แต่ถ้าสุดท้ายก็มาเตือนเพราะกลัวผู้ชายไปมั่ว
คือเรารู้จักแฟนเราดีค่ะ พ่อแม่อะไรเขาเราก็รู้จักกันแล้ว ผู้ชายไม่ได้เลวหมดค่ะ เคนะ
และถ้าจะให้พูดถึงโรคอื่นๆเราก็ศึกษาตลอดค่ะ กระทู้นี้เราอยากให้ความรู้เรื่องคุมกำเนิดตั้งแต่วัยรุ่นค่ะ
เรื่องอื่นๆยังไม่อยากยกเป็นประเด็นมามากค่ะ ถ้าสุดท้ายกลัวโรคนะคะ แนะนำว่า
ใส่ถุงตลอดค่ะ หรือถ้าแต่งงานแล้วอยากสด ก็ระวังสามีตัวเองด้วยนะคะ
หาตังลงอ่างง่ายกว่าเด็กมหาลัยเยอะค่ะ
ไม่ได้พูดแรงนะคะ แต่เรื่องจริง
ใครมีคำถามอะไรข้อความมาถามได้หรือคอมเม้นท์ไว้ได้นะคะเดี๋ยวไปตอบ
[CR] [Review]เป็นยังไงถ้านักศึกษาไปฝังยาคุมกำเนิด
สมัครบัญชีมาเพื่อตั้งกระทู้ ใช้คำผิดหรือพิมพ์ยาวขออภัยนะคะ งงๆไม่รู้จะแท็กห้องไหนเหมือนกัน
อาจจะดูจั๋วหัวแรงไปนิด แต่แค่อยากให้มุมมองกับวัยรุ่นหรือคนที่ยังไม่พร้อมอีกหลายๆคนด้วยค่ะ
เราจะอธิบายเหตุผลสั้นๆนะคะ จะได้รีบเข้าเรื่องตอนไปใช้บริการที่โรงบาล
คือเราก็มีแฟนค่ะ มีเพศสัมพันธ์กับแฟน ใช้ถุงยางบ้างไม่ใช่บ้าง
ซึ่งเราไม่ได้ห่วงเรื่อง HIV ค่ะ เพราะไปตรวจกันทั้งคู่แล้วที่ "คลินิคนิรนาม"
อาจจะมาตั้งกระทู้แนะนำเรื่องไปตรวจเพิ่มให้ค่ะถ้ามีคนอยากได้
เราทานยาคุมแบบ 28 เม็ดเผื่อไว้ด้วยค่ะ แต่กินไม่ค่อยตรงเวลา
ถึงแฟนไม่หลั่งใน แต่สำหรับเราก็ยังรู้สึกว่า มันมีโอกาสท้องอยู่ดี
ค่อนข้างไม่สบายใจมาเรื่อยๆ เลยตัดสินใจหาวิธีคุมกำเนิดวิธีอื่น
เราดูทั้งวิธีแบบฉีดยา แบบห่วงยาคุมแต่ก็รู้สึกมันมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง
เรากังวลเลยหาวิธีอื่นดูแล้วก็เจอวิธีนี้ค่ะ ซึ่งเราว่ามันโอเคมากๆ
ซึ่งตอนแรกนางก็ไม่ค่อยโอเค กลัวผลข้างเคียง แต่เราบอกว่าเราทำแล้วสบายใจนางก็ยอม
การฝังยาคุมกำเนิดจะฝังยาไว้ใต้ท้องแขนข้างที่เราไม่ถนัดค่ะ
ฝัง 1 เข็มคุมได้ 3 ปี ฝัง 2 เข็มคุมได้ 5 ปี
สามารถเอาออกได้ถ้าต้องการตั้งครรภ์ค่ะ
และวิธีนี้คุมกำเนิดได้ค่อนข้างสูง ผลค้างเคียงเราว่าต่ำกว่าแบบอื่น
ควรทำช่วงที่มีประจำเดือนและไม่เกิน 5 วันหลังเป็นประจำเดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเลือกทำที่ รพ.ศิริราชเพราะเห็นหลายๆกระทู้แนะนำมา
เราก็โทรไปสอบถาม เขาก็บอกว่าให้โทรมาหาอีกทีหลังประจำเดือนมาวันแรก
แล้วก็ถ้ายังไม่มีบัตร รพ. ให้สมัครออนไลน์แล้วเก็บเลขที่ส่งไปทางอีเมลไว้
ซึ่งการสมัครจะใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังสมัครถึงจะได้รหัส
พอหลังจากประจำเดือนเรามาเราก็โทรไปนัด เขาก็บอกว่าให้เข้ามาแต่เช้า ไม่เกิน 11 โมง
เราไปถึงช่วง 9 โมง ตึกแอบหายาก ขนาดเล็กๆ อยู่แถวๆตึกคลอดลูกอะคะ ถามๆคนเอา
คนเยอะมาก มีแต่คนโตๆแล้วบางคนก็ตั้งครรภ์ เราดูเด็กมากไปเลยค่ะ
เราไปคนเดียวค่ะ ไม่อยากให้แฟนมา 555 ตอนแรกเรานึกว่าจะนาน แต่ก็ไม่นานมากเท่าไหร่ค่ะ
เพราะเหมือนคนอื่นที่มารอน่าจะใช้บริการอื่นๆกันมากกว่า
พอถึงเคาเตอร์พี่เขาก็บอกให้เอาเลขกับบัตรประชาชน ไปแลกเป็นบัตรโรงบาลก่อนค่ะ
จากนั้นเขาก็ถามว่ามาทำไรบ้างแล้วก็รันคิวให้ เราก็ไปนั่งรอค่ะ
เราจะอธิบายเป็นขั้นตอนนะคะ
1.เรียกคุย เขาก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปเรียกคุยค่ะ วันนั้นมี นศ.แพทย์แผนไทย มหิดล มาขอฟังด้วย
มองๆดูแล้วอายุพอๆกัน อายนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไร เขาก็จะถามพวกประวัติคร่าวๆ อื่นๆที่จำได้ก็จะมี
1.ความสัมพันธ์ = มีแฟนแล้ว
2.จะฝังกี่เข็ม = 1 (คุม 3 ปี)
แล้วพี่เขาก็ถามว่ามีแพลนแต่งงานมีลูกหลังเรียนเลยมั้ย เราก็บอกตามตรงว่าไม่อยากมีลูกด้วยซ่ำ
เขาก็เลยบอกว่างั้นก็ฝัง 2 เข็มเลยมั้ย ราคาเท่ากันจะได้คุมไปเลยทีเดียว เราก็โอเคตกลงฝัง 2 เข็ม (คุม 5 ปี)
3.ใช้ยาหรือเป็นโรคประจำตัวอะไรอยู่มั้ย เราก็บอกว่าเราเป็นซึมเศร้า
เขาก็บอกว่าเดี๋ยวถามหมอก่อนนะ ว่าฝังได้มั้ยแต่ไม่น่ามีปัญหา เพราะยาบางตัวมันไปลดประสิทธิภาพการคุมกำเนิด
4.เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนไหน เกิน 2 ปีมั้ย
เราก็ตอบว่าประมาณ 2-3 ปี เขาก็เลยแนะนำให้ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยเลย
เราก็โอเค อยากตรวจอยู่แล้ว ผลจะส่งไปให้หลังจากตรวจ 2 อาทิตย์
เขาบอกว่าตรวจฟรีนะ ถ้าจำไม่ผิด แล้วก็พูดเรื่องผลข้างเคียงกับข้อดีของการฝังแบบนี้
2.ตรวจมะเร็งปากมดลูก+ฝังยาคุม
ช่วงตรวจปากมดลูกก็ขึ้นนอนวางขากับที่ยกขาสำหรับตรวจภายในค่ะ
เป็นประจำเดือนไม่เป็นไรค่ะ คุณหมอจะเช็ดให้ก่อนแล้วก็มีใช้เครื่องกับใช้นิ้วตรวจดู
จากนั้นพอถึงคิวฝังยาเราก็นอนลงกับเตียงค่ะ พยาบาลเอาผ้ามาปิดตาไว้
ยืดแขนข้างที่ไม่ถนัดออก มี นศ.แพทย์กลุ่มเดิมมาดูด้วยค่ะ
หมอจะฉีดยาชา ตอนนี้บอกเลยว่าเจ็บมาก เราว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างทนความเจ็บได้ระดับนึง
เพราะเป็นขี้โรคมากตอนเด็ก ฉีดยาประจำเป็นว่าเล่น แต่อันนี้เจ็บมากอยู่ค่ะ
จากนั้นก็รู้สึกเหมือนเขาฝั่งอะไรเข้ามาใต้แขน แล้วก็ปิดแผล แล้วปิดด้วยเทปกันน้ำอีกที
พอเปิดผ้าให้ดูหมอก็ให้คลำๆเข็มดู เราก็ให้ นศ.แพทย์มาคลำดูด้วย
เหมือนเขาคลำไม่เจอเราเลยบอกว่าไม่เป็นไรกดได้ไม่เจ็บ
มี นศ ชายคนนึงต้องดมยาดมไปนั่งพักเลยทีเดียว ฮะๆ
แล้วก็ใช้ผ้าพันเคล็ดสีเนื้อพันรอบค่ะ 4 ชั่วโมงค่อยเอาออกได้
หมอบอกว่ามาฝังดีแล้วเพราะยาคุมกำเนิดจะมีผลต่อโรถคซึมเศร้า
แต่ฝังยาแบบนี้ไม่มีผลอะไร แรกๆอาจจะปวดแผล ทานพาราได้ ถ้าอาการไม่ดีก็กลับมา
7 วันค่อยแกะผ้าปิดแผลออก อย่าให้โดนน้ำ และระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ต้องป้องกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3.จ่ายยา
จากนั้นเขาจะให้เราเอาใบเสร็จไปจ่ายที่อีกตึกค่ะ เป็นค่าอุปกรณ์ในการทำเท่านั้น
ราวๆ ไม่เกิน 800 บาท รวมค่าส่งจดหมายส่งผลตรวจมะเร็งปากมดลูก 25 บาท
ค่าอื่นๆ สำหรับคนที่มีที่อยู่ใน กทม เบิกได้ค่ะ ถ้าโทรไปถามแล้วเขาบอกว่า
ค่าใช้จ่าย 3000 ก็ถามเรื่องเบิกไปนะคะ ตอนแรกเราก็ตกใจเหมือนกัน 555
จากนั้นเขาจะให้ตะกร้าอุปกรณ์มา เราก็เอาไปคืนที่เคาเตอร์ตึกเดิมค่ะ
แล้วเขาจะให้ใบนัดมา นัดปีล่ะครั้งค่ะ สะดวกวันอื่นก็โทรเลื่อนได้
อาการหลังจากนั้นจนครบ 7 วัน
วันแรก คือวันแรกที่ทำแล้วกลับมานะคะ มีอาการช้ำในช่วงใกล้ๆแผล
พอเอาผ้าพันออก มีเลือดไหลซิบๆออกมานิดนึง พอนอนพักเลือดก็ไหลเพิ่มจ้า
แล้วพอถึงดึกๆเลือดก็ไหลเพิ่มไปเกือบครึ่งๆผ้าปิดแผลไรงี้
มีปวดๆจี๊ดๆก็กินพาราด้วย แต่ไม่ได้ปวดตลอดนะ ปวดแค่ช่วงเย็น
รอยช้ำจากม่วงๆเขียวๆก็เริ่มๆแดงขึ้น กดแล้วไม่ปวด
วันที่ 2 โทรไปถามหมอ เขาก็บอกว่าถ้าเลือดไม่ไหลออกนอกที่ปิดกันน้ำก็ไม่เป็นไร
แล้วถ้าไม่ป่วยไม่มีไข้ก็โอเค ถ้าหลอดออกอีกก็ไปทำแผลใหม่ก็ได้ (อารมณ์เหมือนจะได้ดูสะอาด)
วันนี้มีเลือดไหลนิดหน่อย แต่เลือดเริ่มแห้งแล้ว มีปวดจี๊ดบ้างก็ทานพารา รอยช้ำก็เหมือนเยอะขึ้น
วันที่ 3 ก็เลือดไม่ไหลแล้ว เลือดแห้งเลย ที่ช้ำๆก็ยังเป็นสภาพเดิม
ปวดอยู่ก่อนนอน แต่วันนี้เลี่ยงทานพาราเอา มีจี๊ดๆบ้าง
วันที่ 4 เริ่มเป็นโรคจิต กดๆดูตรงเข็มบ่อยขึ้น มีเจ็บๆปวดๆบ้าง
แต่ก็อดจับดูไม่ได้ มีเจ็บปวดจี๊ดบ้าง แต่น้อยลงแล้ว ไม่เป็นบ่อย
วันที่ 5 ปวดแค่ช่วงจับๆดูเข็ม (จับทำไม...) มีปวดบ้าง แต่น้อยลงมาก รอยช้ำก็เริ่มจางๆลงไปบ้าง เริ่มมันคันๆแผล
วันที่ 6 เริ่มคันมากขึ้น อยากแกะมาเกาะมาก
วันที่ 7 ยังคันอยู่ แอบๆเกาะๆถูกๆผ่านผ้าเลย TT มันคันอะ
เย้!!!!!!!!!!!! เอาออกได้แล้ว ดึงออกแล้วล้างพวกคราบอะไรงี้เลยทันที
เกาๆไปด้วย ไม่แรงมา ก็มันคัน พวกรอยช้ำก็จางลงแล้ว เป็นรอยแผลเล็กๆอยู่
วันต่อๆมา รอยช้ำก็หายไปค่ะ เหลือแค่สะเก็ดแผลเล็กๆ
ถ้ายกแขนมาดูบางมุมจะเห็นเป็นเข็มนูนขึ้นมานิดหน่อยเลย
ทาง รพ.มีโทรถามติดตามอาการด้วยค่ะ น่ารักมาก
รูปอยู่ในนี้นะคะ ลองเปิดดูเอง
5 รูปแรกเป็นช่วงของวันแรกค่ะ รูปที่ 6 ของวันที่ 2 รูปต่อๆไปคือวันถัดๆมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
***หมายเห็ด อาจจะมีดราม่าเรื่องอายุหรืออะไรนะคะ เราจะขอพูดในมุมมองของเรา
เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งซึ่งตอนนี้เราก็ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าเปิดเผยเลยหรือยังไงนะคะ
แต่มันเป็นเรื่องที่ควรยอมรับและหาวิธีป้องกันแทนการปิดกั้นข้อมูลอะไรหลายๆอย่างมากกว่า
ถามว่าใช้ถุงยางในการป้องกันได้มั้ย มันได้ค่ะ แต่โดยนิสัยของเราบางทีก็ไม่ได้พกกันทั้งคู่
แล้วสถานการณ์มันเอื้อ เราก็ทำด้วยอารมณ์ แต่ก็ทานยาคุมแผงควบด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่เราก็ห่วงพวกประสิทธิภาพที่มันอาจจะต่ำลงหรือน้อย เราก็ห่วงอนาคต
ก็เลยตัดสินใจทำค่ะ ถามว่าอายมั้ยตอนไปทำตอนเจอหมอ เจอคนที่นั้น
ตอบเลยค่ะว่าไม่ เราว่าเวลาฝากครรภ์มันคงน่าอายกว่าเป็นไหนๆค่ะ
ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 800 รวมถึงตรวจ HIV ก็ฟรี บวกๆค่าเดินทางหน่อย
มันคงไม่แพงมาก หารๆกัน 2 คน ค่าเลี้ยงลูกคงแพงกว่านะคะ
ถ้าจะทำก็ต้องรับผิดชอบ ป้องกันเป็น ดูแลตัวเอง ก็ไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
รวมถึงคนที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรด้วยนะคะ ป้องกันไว้ดีกว่า
***ข้อตอบเรื่องที่หลายคนเตือนเรื่อง HIV ค่ะ
อย่างที่บอกแล้วว่าไปตรวจกันทั้งคู่ แต่ถ้าสุดท้ายก็มาเตือนเพราะกลัวผู้ชายไปมั่ว
คือเรารู้จักแฟนเราดีค่ะ พ่อแม่อะไรเขาเราก็รู้จักกันแล้ว ผู้ชายไม่ได้เลวหมดค่ะ เคนะ
และถ้าจะให้พูดถึงโรคอื่นๆเราก็ศึกษาตลอดค่ะ กระทู้นี้เราอยากให้ความรู้เรื่องคุมกำเนิดตั้งแต่วัยรุ่นค่ะ
เรื่องอื่นๆยังไม่อยากยกเป็นประเด็นมามากค่ะ ถ้าสุดท้ายกลัวโรคนะคะ แนะนำว่า
ใส่ถุงตลอดค่ะ หรือถ้าแต่งงานแล้วอยากสด ก็ระวังสามีตัวเองด้วยนะคะ
หาตังลงอ่างง่ายกว่าเด็กมหาลัยเยอะค่ะ ไม่ได้พูดแรงนะคะ แต่เรื่องจริง
ใครมีคำถามอะไรข้อความมาถามได้หรือคอมเม้นท์ไว้ได้นะคะเดี๋ยวไปตอบ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น