สวัสดีครับ สืบเนื่องจากกระทู้ http://ppantip.com/topic/35654903

วันนี้ก็มีใบสั่งใบที่ 2 มาถึงบ้านผมเรียบร้อยแล้วครับ ภาพในใบสั่งครั้งนี้ชัดกว่าเดิม รูปพรรณรถไม่ใช่รถผมแน่นอน รอบนี้เห็น Sunroof ชัดเจนมากครับ (รถผมไม่มี Sunroof) ที่สำคัญทางด้านขวาของกระจกหน้ารถ เหมือนจะมีป้ายคล้ายๆ กับป้ายต่อภาษีรถยนต์ด้วยครับ (ปลอมแบบก๊อปเกรด A จริงๆ ครับ) เหตุการณ์รถคันที่สวมทะเบียนปลอมคันนี้ กระทำผิดวันเดียวกันคือวันที่ 10 กันยายน 2559 โดยช่วงเช้ากระทำผิดถนนนครอินทร์ จ.นนทบุรี และช่วงบ่ายไปทำผิดที่วงแหวนตะวันออกแถวๆ คลองหลวง

=============================================
ใบสั่งใบที่ 1 มาถึงช่วงเดือนตุลาคม -- ทำผิดที่ถนนนครอินทร์ นนทบรี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ใบสั่งใบที่ 2 (เพิ่งมาถึงวันนี้ครับ) -- ทำผิดวงแหวนตะวันออก แถวๆ คลองหลวง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ภาพเปรียบเทียบรูปพรรณรถของผม กับรถที่สวมป้ายทะเบียนปลอม ซึ่งแตกต่างชัดเจน Teana J32 ปี 2010 กับ J32 Minor change
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

=============================================

หลังจากที่ผมโดนใบสั่งใบแรก ผมก็ดำเนินการยื่นหนังสือร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ทันที ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




ต้องขอขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ล. ปนัดดา ดิศกุล และคณะทำงานของท่านด้วยครับ ที่ให้ความสำคัญและใส่ใจหนังสือร้องเรียนที่ผมส่งไป โดยได้มีหนังสือตอบกลับมาถึงผมรวดเร็วมากครับ ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2559 แนบหนังสือกลับมา 3 ฉบับครับ

ฉบับแรก แจ้งให้ผมทราบว่าสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการส่งต่อเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ฉบับที่ 2 ส่งเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ฉบับที่ 3 ส่งเรื่องไปยังกรมการขนส่งทางบก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากนั้นไม่นาน วันที่ 8 พฤศจิกายน ทางสถานีตำรวจอำเภอเมืองนนทบรี โทรมาหาผม ขอให้ผมเข้าให้ปากคำ เพื่อสอบถามรายละเอียดและทำความเข้าใจกรณีที่เกิดขึ้น ต้องขอขอบพระคุณทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจอำเภอเมืองนนทบรีมากๆ ครับ ที่ใส่ใจเรื่องร้องเรียนของผม และทำงานรวดเร็วมาก โดยผมเข้าไปให้ปากคำ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผมว่า ทางตำรวจเองได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก อยากจับกุมคนที่กระทำผิดที่ปลอมเลขทะเบียน ซึ่งผมเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเขาไม่มีทางทราบว่าทะเบียนรถผม ปลอมหรือไม่ปลอม เนื่องจากเมื่อมีภาพถ่ายกระทำผิดเข้ามา ก็ตรวจสอบข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก ว่ายีห้อรถ เลขทะเบียน สีรถ ตรงกับในฐานข้อมูลหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบได้แค่นี้เท่านั้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งผมว่า ถ้าพบเลขทะเบียนของผมในพื้นที่ของเขา จะดำเนินการเรียกเพื่อตรวจสอบทันที โดยให้ผมพกหลักฐานในรถไว้ตลอดเวลา

ตอนนี้ผมจึงรอความรับผิดชอบจากกรมการขนส่งทางบก ว่าจะดำเนินการช่วยเหลือผู้ได้รับปัญหานี้อย่างไรบ้าง กลายเป็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำคะแนน ทำงานได้รวดเร็วกว่ากรมการขนส่งทางบกในขั้นต้นไปแล้วครับ เห็นข่าวที่ทางผู้เสียหายในกรณีเดียวกับผมที่ชลบุรีได้รับการแก้ปัญหาในขั้นต้นแล้วเช่นเดียวกัน  (http://www.matichon.co.th/news/355004) กรณีนี้สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรีก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วมากครับ ขอชื่นชมจากใจ

ผมก็หวังว่าทางกรมการขนส่งทางบก จะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายนี้ในไม่ช้าเช่นเดียวกันนะครับ จริงๆ ผมจะแก้ปัญหาโดยทำเรื่องขอเปลี่ยนเลขทะเบียนเองก็ทำได้ แต่ผมอยากกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐแก้ปัญหา ทำงานเชิงรุก ซึ่งทั้งผมและผู้เสียหายรายอื่นๆ จะได้ทราบและได้มีบรรทัดฐานในการแก้ปัญหาที่เหมือนกัน ซึ่งผมได้แนะนำแนวทางแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาวไปในหนังสือที่ผมร้องเรียนไปด้วยครับ

ระยะสั้น: อายัดเลขทะเบียนที่ถูกสวม และออกป้ายเลขทะเบียนใหม่ให้แทน โดยผู้ที่ถูกสวมเลขทะเบียนนี้ สามารถเลือกเลขทะเบียนรถได้ใหม่ จากรอบจองเลขทะเบียนรถประจำสัปดาห์ของกรมการขนส่งทางบก และให้งดเว้นค่าธรรมเนียมใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนเลขทะเบียนนี้ และแจ้งเลขทะเบียนที่ถูกอายัดนี้ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการจับกุมผู้ที่ใช้เลขทะเบียนนี้ต่อไป

ระยะยาว: ควรมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการพิสูจน์สิทธิของผู้ครอบครองป้ายทะเบียน การเก็บข้อมูลรูปพรรณรถยนต์ โดยอาจมีการฝังชิฟเข้ารหัสที่เฉพาะสำหรับเลขทะเบียนของรถคันนั้นๆ ติดไว้ที่ป้ายชำระภาษีรถหรือป้ายทะเบียน และการเข้าถึงฐานข้อมูลในการตรวจเช็คความถูกต้องของเลขทะเบียนรถนั้นได้ทันที


ปล. พอเห็นป้ายชำระภาษีติดหน้ารถยนต์ของรถคันที่สวมทะเบียนปลอม ทำให้ผมอดคิดและต้องตั้งขอสังเกตว่า มีคนในกรมการขนส่งทางบกเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ทุกอย่างจะได้คำตอบในไม่ช้า ถ้าเรื่องร้องเรียนที่ถูกส่งไปถึงกรมการขนส่งทางบกเงียบไป ก็คงจะเข้าใจเป็นแบบนั้นได้จริงๆ