ถ้าจะลุกลามบานปลายใหญ่โต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งได้รับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เกิดเหตุจราจลอย่างหนักในสหรัฐ มีทั้งการประท้วงเผาบ้านเผาเมืองเกิดขึ้น ทั้งกระแสต่อต้าน รวมไปถึงการขอย้ายประเทศ ที่ไม่เว้นแม้แต่คนดังก็ประกาศขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศอื่นด้วย จนทำให้เว็บไซต์ตรวจคนเข้าเมืองแคนาดาถึงกับล่มไป
แต่ที่เป็นกระแสอย่างหนักก็คงจะหนีไม่พ้น เหล่าคนดังจากซิลิคอนวัลเล่ย์อย่างเช่น Shervin Pishevar นักลงทุนในอูเบอร์, Hyper Loop และ Jason Calacanis ที่เป็น Angel Investor ชื่อดัง ที่ออกมาเรียกร้องให้แคลิฟอร์เนียฐานที่ตั้งของซิลิคอนวัลเลย์แยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกา เพื่อมาตั้งรัฐอิสระเองในชื่อ “Calexit”
โดยซิลิคอนวัลเลย์มีฐานะเป็นเมืองใหญ่ทางเศรษฐกิจอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และยังเป็นศูนย์รวมของบริษัทชั้นนำด้านไอทีที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งฐานเสียงส่วนใหญ่ของเมืองนี้คือผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตของนางฮิลลารี คลินตัน แต่เมื่อนางฮิลลารีพลาดหวัง จึงทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่ผู้นำองค์กรของบริษัทเทคโนโลยี การที่เหล่าซีอีโอจะมองการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ดีนักก็ไม่แปลก เนื่องจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์มีท่าทีต่อต้านเทคโนโลยี และปิดโอกาสในการเติบโตของเมืองให้หยุดชะงัก ทั้งเรื่องการกีดกันแรงงานข้ามชาติไม่ให้เข้ามาแย่งงานพลเมืองอเมริกัน อีกทั้งการเห็นค้านกับบริษัทที่ไปลงทุนผลิตสินค้าในจีนที่ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ
เป็นเรื่องที่น่าจับตามองมากสำหรับประเทศที่เป็นต้นแบบแห่งระบอบประชาธิปไตย ที่พวกเขาภูมิใจถึงขั้นที่ว่าต้องบังคับให้ประเทศอื่นหันมาใช้แนวทางเดียวกัน แถมพวกเขายังเคยกล่าวกับประเทศอื่นที่ไม่ยอมรับระบอบนี้ว่าเป็นประเทศเผด็จการ มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งตอนนี้นับว่าตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่อย่างสิ้นเชิง
แหล่งข่าว
http://www.atimedesign.com/webdesign/silicon-valley/
ซิลิคอนวัลเลย์เดือด! นักลงทุนหนุนกระแส "Calexit" แยกตัวเป็นรัฐอิสระ
ถ้าจะลุกลามบานปลายใหญ่โต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งได้รับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เกิดเหตุจราจลอย่างหนักในสหรัฐ มีทั้งการประท้วงเผาบ้านเผาเมืองเกิดขึ้น ทั้งกระแสต่อต้าน รวมไปถึงการขอย้ายประเทศ ที่ไม่เว้นแม้แต่คนดังก็ประกาศขอลี้ภัยไปอยู่ประเทศอื่นด้วย จนทำให้เว็บไซต์ตรวจคนเข้าเมืองแคนาดาถึงกับล่มไป
แต่ที่เป็นกระแสอย่างหนักก็คงจะหนีไม่พ้น เหล่าคนดังจากซิลิคอนวัลเล่ย์อย่างเช่น Shervin Pishevar นักลงทุนในอูเบอร์, Hyper Loop และ Jason Calacanis ที่เป็น Angel Investor ชื่อดัง ที่ออกมาเรียกร้องให้แคลิฟอร์เนียฐานที่ตั้งของซิลิคอนวัลเลย์แยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกา เพื่อมาตั้งรัฐอิสระเองในชื่อ “Calexit”
โดยซิลิคอนวัลเลย์มีฐานะเป็นเมืองใหญ่ทางเศรษฐกิจอันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และยังเป็นศูนย์รวมของบริษัทชั้นนำด้านไอทีที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งฐานเสียงส่วนใหญ่ของเมืองนี้คือผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตของนางฮิลลารี คลินตัน แต่เมื่อนางฮิลลารีพลาดหวัง จึงทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่ผู้นำองค์กรของบริษัทเทคโนโลยี การที่เหล่าซีอีโอจะมองการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ดีนักก็ไม่แปลก เนื่องจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์มีท่าทีต่อต้านเทคโนโลยี และปิดโอกาสในการเติบโตของเมืองให้หยุดชะงัก ทั้งเรื่องการกีดกันแรงงานข้ามชาติไม่ให้เข้ามาแย่งงานพลเมืองอเมริกัน อีกทั้งการเห็นค้านกับบริษัทที่ไปลงทุนผลิตสินค้าในจีนที่ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ
เป็นเรื่องที่น่าจับตามองมากสำหรับประเทศที่เป็นต้นแบบแห่งระบอบประชาธิปไตย ที่พวกเขาภูมิใจถึงขั้นที่ว่าต้องบังคับให้ประเทศอื่นหันมาใช้แนวทางเดียวกัน แถมพวกเขายังเคยกล่าวกับประเทศอื่นที่ไม่ยอมรับระบอบนี้ว่าเป็นประเทศเผด็จการ มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งตอนนี้นับว่าตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่อย่างสิ้นเชิง
แหล่งข่าว http://www.atimedesign.com/webdesign/silicon-valley/