“เพียงแค่ผมรัก...ผมก็ได้กลิ่นของคุณ
และเพียงแค่ผมเดิน...ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะนั้น
และแล้ววันหนึ่ง...ทุกอย่างของคุณก็จะหายไป
ผมจารึกทุกอย่างลงบนดวงตานี้...
ผมไม่คิดว่ามันคือสิทธิของผม...แต่มันคือหน้าที่ของผมแล้ว
โชคชะตาและอนาคต
คำพูดเหล่านี้นั้นถึงจะเอื้อมมือ...ไปไกลเท่าไหร่ก็ไม่อาจจะไปถึง จากสถานที่ที่เราได้รักกันได้
เข็มนาฬิกาและเราทั้งสองคน...ต่างเดินไปข้างหน้าระหว่างที่เหลือบมองกัน
ในโลกใบนั้นเราทั้งสองคน...ใช้ชีวิตหนึ่งชีวิต
ไม่สิ ไม่ว่าจะอีกกี่บทกี่ตอน
เราจะมีชีวิตอยู่ผ่านมัน”
“Kimi no Na wa”
ขณะที่ช่วงนี้มีกระแสหนังมาแรงอย่าง inferno แต่อยู่ๆ จขกท ก็ตามกระแสรีวิวไปดูการ์ตูนเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คอการ์ตูน แทบจะไม่ดุการ์ตูนเลย ยกเว้น เจ้าขุนทอง (555+ รุ่นไหนว่ะเนีย) แต่พอดู Trailer ก็รู้สึกว่ามันมีพลังงานบางอย่าง อยากลองดู
การตามหาคนๆ หนึ่ง ที่เรารู้สึกคุ้นเคย รู้สึกได้ถึงกายทิพย์ (ยังคงอินกับ Dr.Strange) ฃองเขา ว่ามันจะต้องมีลักษณะแบบนี้นะ
ท่าทางแบบนี้ ยิ้มแบบนี้ อบอุ่นแบบนี้ อ่อนโยนแบบนี้ คนที่เราเข้าใจว่าเค้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราจะต้องตามหาเข้าให้เจอ
เรารู้จักคนๆ นี้ดีทุกอย่าง ยกเว้นชื่อของเค้า...!
ขณะดูก็ซาบซึ้งไปด้วย ชอบมาก เหมือนมันแฝงด้วยปรัชญาที่มีพลังงานมหาศาล
รวมความเชื่อเกี่ยวกับด้ายแดงที่ผูกคนสองคนไว้ด้วยกัน (Soul Mate) ด้วยความที่เป็นหนังการ์ตูน ก็จะต้องมีความเป็นการ์ตูนเช่นการสลับร่างกันของพระเอก นางเอก ซึ่งหากจะนำมาเชื่อมโยงให้อธิบายได้ขึ้นมาระดับหนึ่ง ก็อุปมาเหมือนเวลาที่เราฝันถึงใครสักคน
ฝันดีมาก แต่พอตื่นมาเรากลับจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่เราอยากจดจำและอยากให้ฝันนั้นดำเนินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
คิดไปเองนะ ว่ามันก็เหมือนการที่จิตสำนึกเรารู้ดีว่าเราต้องการอะไร ต้องการใครในชีวิต
คนๆ นั้นมีรูปร่างลักษณะ หรือจิตใจแบบไหน เรารู้จักคนๆ นี้ดีมาก ในทุกๆ ด้าน แต่เราไม่รู้เลยว่าเค้าชื่ออะไร อยู่ที่ไหน
และโลกนี้มันก็ประหลาดมากที่ให้เราต้องตามหาคนที่รู้จักดีด้วยตัวของเราเอง
ออกมาจากโรงหนังด้วยความรีบเร่ง เพราะต้องการจะเก็บความรู้สึกเศร้าเหงานี้ไว้กับตัวเอง
ความรู้สึกที่มันอบอุ่น เมื่อคิดถึงคนที่เรากำลังตามหา และก็เหงาไปด้วยเวลาเดียวกัน ว่าเมื่อไรเราจะพบคนๆ นั้นสักที
เค้ามีจริงมั้ย...?
เค้าตายไปแล้ว...?
หรือเค้ากำลังตามหาเราอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้เหมือนกัน...?
เวลาก็เหมือนด้ายเหล่านี้ ที่ถักทอ สาน พันกันไปมา บางครั้งขาดก็นำมาผูกต่อกัน เหมือนเป็นการ
“ผูกความคิดถึงไว้กับการรอคอย”
คิดถึงช่วงเวลาที่เรามีความสุข คนที่ทำให้เรามีความสุข และรอคอยว่าสักวันหนึ่งเราจะได้พบกันอีก
“แค่อีกนิดเดียว...หลังจากนี้อีกเพียงแค่นิดเดียว
เพราะว่าฉันนั้นขอแค่อีกนิดเดียวเท่านั้น
แค่อีกนิดเดียว...หลังจากนี้อีกเพียงแค่นิดเดียว
เพราะว่าฉันนั้นขอแค่อีกนิดเดียวที่จะได้อยู่กับคุณ”
ทาคิคุงของเรามีสองคนด้วยกัน คนแรกคือคนที่เราคิดถึงแทบจะตลอดเวลา
เรารู้ดีว่าเค้าเป็นใคร สามารถสัมผัสถึงความสุข และความอบอุ่นใจทุกครั้งที่คิดถึงช่วงเวลาที่เคยใช้ร่วมกัน
แต่การเวลาก็ทำให้คนที่เราคุ้นเคย ไม่คุ้นเคยกันอีกต่อไป อาจจะเหมือนกันการที่มัตสึฮะเข้าไปถามทาคิคุงในรถไฟฟ้า
แต่เค้ากลับจำอะไรไม่ได้เลย แล้วคิดว่า “ผู้หญิงอะไรแปลกชะมัด”
บางครั้งคนที่เราอยากย้อนเวลากลับไปหา เค้ายังคงดำเนินชีวิตอยู่ในที่ๆ เรารู้จัก
ยังคงใช้ชื่อเดิม แต่เค้าจำเราไม่ได้แล้ว ชื่อของเขาที่เราเรียกในวันนั้น (วันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่น่าจดจำ)
ไม่เหมือนกับชื่อของเขาที่เราเรียกในวันนี้
“สายลมที่พัดผ่านระหว่างสองเรานั้น ได้พัดนำพาความเงียบเหงานั้นมาจากแห่งไหนแสนไกลกัน”
คนที่เราตามหาคนที่สองคือคนที่เราคิดว่า
“ฉันจะตามหาเธอ...แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน”
เธอจะต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้
“พวกเราคือผู้บินผ่านกาลเวลา...ฉันนั้นเคยรู้จักคุณมาก่อน
เนิ่นนานก่อนที่ฉันนั้นจะจำชื่อตัวเองได้ซะอีก
เมื่อไม่มีคุณ โลกนี้ก็ยังคงมีความหมายอะไรซักอย่างแน่นอน
แต่โลกที่ไม่มีคุณก็เหมือนกับเดือนสิงหาคมที่ไม่มีวันปิดเทอมฤดูร้อน
โลกที่ไม่มีคุณก็เหมือนซานต้าที่ไม่มีรอยยิ้ม
โลกที่ไม่มีคุณ…
แต่ไม่เป็นไรหรอก แน่นอนไม่เป็นไรหรอก
ฉันกำลังจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ..
"...คุณที่ร้องไห้ได้อย่างสะดุดตา น้ำตาเหล่านั้นฉันอยากจะหยุดมัน
แต่ว่า คุณก็ปฏิเสธ และเมื่อฉันเห็นน้ำตาที่เหลือร่วงหล่น ฉันก็รู้ว่าทำไม
ร้องไห้ด้วยความดีใจ ยิ้มด้วยความเศร้าใจ
หัวใจของฉันนั้นได้เดินเลยหน้าตัวของฉันแล้ว...”
หัวใจของเราหลายๆ คน ได้เดินเลยหน้าตัวเราเองไปนานแล้ว ด้วยความฝัน ความหวัง
หัวใจของเราแทบจะไม่ได้ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับเราเลย เราไม่รู้เลยว่าเนื้อหาของเพลงที่เราหามาจากอากู๋
จะให้ความหมายที่ตรงกับเนื้อหาภาษาญี่ปุ่นจริงๆ อย่างไร แต่เรามีความรู้สึกตอนที่ได้ฟัง (และอ่านคำแปลไปด้วย)
รู้สึกได้ถึงความหมายลึกซึ้งและปรัชญาที่แฝงอยู่
ชอบประโยคนี้มาก “เมื่อไม่มีคุณ โลกนี้ก็ยังคงมีความหมายอะไรซักอย่างแน่นอน”
เพราะยังไงชีวิตจะยังคงดำเนินไป แต่จะดำเนินไปด้วยความเหงาเศร้าหรือความสุขจนล้นใจเพียงเท่านั้นเอง
ชีวิตก็มีอยู่เท่านี้ เราเกิดมาเพื่อหาสิ่งเติมเต็ม หรือคนที่ด้ายแดงได้ผูกเราไว้กับเขาจากที่แห่งหนึ่งบนโลกใบนี้
ความรู้สึกเราตอนนี้เหมือน ทาคิคุงที่ไปเดทกับรุ่นพี่ที่เราแอบชอบ แต่รุ่นพี่ก็รับรู้ได้ว่า เรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว (ที่ไม่ใช่รุ่นพี่)
จะต่างกันตรงกันก็ที่เราไม่รู้จักคนที่เราแอบชอบเลย ไม่มีแม้วิวทิศทัศน์ของสถานที่ๆเค้าอยู่ ไม่มีความทรงจำของความเป็นอยู่ของครอบครัวเขา มีแต่ความรู้สึกที่ว่ามันคงจะดีมากถ้าเราจะได้พบกันสักครั้ง
ต่อให้ต้องไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก เดินทางไกลสักเพียงไหนเพื่อให้ได้พบเจอ
แต่การพบเจอของเรานั้นจะควรค่าแก่การรอคอยและความพยายามทั้งหมด
“หัวใจของฉันนั้นได้เดินเลยหน้าตัวของฉันเอง...ไปตั้งนานแล้ว”
*เพิ่มเติม
คำใน "..." คือเนื้อเพลง
http://devbuntestproduct.sogoodweb.com/Article/Detail/54963
http://devbuntestproduct.sogoodweb.com/Article/Detail/54921
...เหงาเมื่อไรก็แวะมา...กระทู้ Kimi no Na Wa!!
[CR] Kimi no Na Wa …[Your Name] “ฉันจะตามหาเธอ...แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน”
และเพียงแค่ผมเดิน...ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะนั้น
และแล้ววันหนึ่ง...ทุกอย่างของคุณก็จะหายไป
ผมจารึกทุกอย่างลงบนดวงตานี้...
ผมไม่คิดว่ามันคือสิทธิของผม...แต่มันคือหน้าที่ของผมแล้ว
โชคชะตาและอนาคต
คำพูดเหล่านี้นั้นถึงจะเอื้อมมือ...ไปไกลเท่าไหร่ก็ไม่อาจจะไปถึง จากสถานที่ที่เราได้รักกันได้
เข็มนาฬิกาและเราทั้งสองคน...ต่างเดินไปข้างหน้าระหว่างที่เหลือบมองกัน
ในโลกใบนั้นเราทั้งสองคน...ใช้ชีวิตหนึ่งชีวิต
ไม่สิ ไม่ว่าจะอีกกี่บทกี่ตอน
เราจะมีชีวิตอยู่ผ่านมัน”
ท่าทางแบบนี้ ยิ้มแบบนี้ อบอุ่นแบบนี้ อ่อนโยนแบบนี้ คนที่เราเข้าใจว่าเค้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราจะต้องตามหาเข้าให้เจอ
เรารู้จักคนๆ นี้ดีทุกอย่าง ยกเว้นชื่อของเค้า...!
รวมความเชื่อเกี่ยวกับด้ายแดงที่ผูกคนสองคนไว้ด้วยกัน (Soul Mate) ด้วยความที่เป็นหนังการ์ตูน ก็จะต้องมีความเป็นการ์ตูนเช่นการสลับร่างกันของพระเอก นางเอก ซึ่งหากจะนำมาเชื่อมโยงให้อธิบายได้ขึ้นมาระดับหนึ่ง ก็อุปมาเหมือนเวลาที่เราฝันถึงใครสักคน
ฝันดีมาก แต่พอตื่นมาเรากลับจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่เราอยากจดจำและอยากให้ฝันนั้นดำเนินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
คิดไปเองนะ ว่ามันก็เหมือนการที่จิตสำนึกเรารู้ดีว่าเราต้องการอะไร ต้องการใครในชีวิต
คนๆ นั้นมีรูปร่างลักษณะ หรือจิตใจแบบไหน เรารู้จักคนๆ นี้ดีมาก ในทุกๆ ด้าน แต่เราไม่รู้เลยว่าเค้าชื่ออะไร อยู่ที่ไหน
และโลกนี้มันก็ประหลาดมากที่ให้เราต้องตามหาคนที่รู้จักดีด้วยตัวของเราเอง
ความรู้สึกที่มันอบอุ่น เมื่อคิดถึงคนที่เรากำลังตามหา และก็เหงาไปด้วยเวลาเดียวกัน ว่าเมื่อไรเราจะพบคนๆ นั้นสักที
เค้ามีจริงมั้ย...?
เค้าตายไปแล้ว...?
หรือเค้ากำลังตามหาเราอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้เหมือนกัน...?
“ผูกความคิดถึงไว้กับการรอคอย”
คิดถึงช่วงเวลาที่เรามีความสุข คนที่ทำให้เรามีความสุข และรอคอยว่าสักวันหนึ่งเราจะได้พบกันอีก
เพราะว่าฉันนั้นขอแค่อีกนิดเดียวเท่านั้น
แค่อีกนิดเดียว...หลังจากนี้อีกเพียงแค่นิดเดียว
เพราะว่าฉันนั้นขอแค่อีกนิดเดียวที่จะได้อยู่กับคุณ”
เรารู้ดีว่าเค้าเป็นใคร สามารถสัมผัสถึงความสุข และความอบอุ่นใจทุกครั้งที่คิดถึงช่วงเวลาที่เคยใช้ร่วมกัน
แต่การเวลาก็ทำให้คนที่เราคุ้นเคย ไม่คุ้นเคยกันอีกต่อไป อาจจะเหมือนกันการที่มัตสึฮะเข้าไปถามทาคิคุงในรถไฟฟ้า
แต่เค้ากลับจำอะไรไม่ได้เลย แล้วคิดว่า “ผู้หญิงอะไรแปลกชะมัด”
ยังคงใช้ชื่อเดิม แต่เค้าจำเราไม่ได้แล้ว ชื่อของเขาที่เราเรียกในวันนั้น (วันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่น่าจดจำ)
ไม่เหมือนกับชื่อของเขาที่เราเรียกในวันนี้
คนที่เราตามหาคนที่สองคือคนที่เราคิดว่า
“ฉันจะตามหาเธอ...แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน”
เธอจะต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้
“พวกเราคือผู้บินผ่านกาลเวลา...ฉันนั้นเคยรู้จักคุณมาก่อน
เนิ่นนานก่อนที่ฉันนั้นจะจำชื่อตัวเองได้ซะอีก
เมื่อไม่มีคุณ โลกนี้ก็ยังคงมีความหมายอะไรซักอย่างแน่นอน
แต่โลกที่ไม่มีคุณก็เหมือนกับเดือนสิงหาคมที่ไม่มีวันปิดเทอมฤดูร้อน
โลกที่ไม่มีคุณก็เหมือนซานต้าที่ไม่มีรอยยิ้ม
โลกที่ไม่มีคุณ…
แต่ไม่เป็นไรหรอก แน่นอนไม่เป็นไรหรอก
ฉันกำลังจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ..
แต่ว่า คุณก็ปฏิเสธ และเมื่อฉันเห็นน้ำตาที่เหลือร่วงหล่น ฉันก็รู้ว่าทำไม
ร้องไห้ด้วยความดีใจ ยิ้มด้วยความเศร้าใจ
หัวใจของฉันนั้นได้เดินเลยหน้าตัวของฉันแล้ว...”
หัวใจของเราแทบจะไม่ได้ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับเราเลย เราไม่รู้เลยว่าเนื้อหาของเพลงที่เราหามาจากอากู๋
จะให้ความหมายที่ตรงกับเนื้อหาภาษาญี่ปุ่นจริงๆ อย่างไร แต่เรามีความรู้สึกตอนที่ได้ฟัง (และอ่านคำแปลไปด้วย)
รู้สึกได้ถึงความหมายลึกซึ้งและปรัชญาที่แฝงอยู่
เพราะยังไงชีวิตจะยังคงดำเนินไป แต่จะดำเนินไปด้วยความเหงาเศร้าหรือความสุขจนล้นใจเพียงเท่านั้นเอง
จะต่างกันตรงกันก็ที่เราไม่รู้จักคนที่เราแอบชอบเลย ไม่มีแม้วิวทิศทัศน์ของสถานที่ๆเค้าอยู่ ไม่มีความทรงจำของความเป็นอยู่ของครอบครัวเขา มีแต่ความรู้สึกที่ว่ามันคงจะดีมากถ้าเราจะได้พบกันสักครั้ง
แต่การพบเจอของเรานั้นจะควรค่าแก่การรอคอยและความพยายามทั้งหมด
*เพิ่มเติม
คำใน "..." คือเนื้อเพลง http://devbuntestproduct.sogoodweb.com/Article/Detail/54963
http://devbuntestproduct.sogoodweb.com/Article/Detail/54921