ตื่นเช้ามาอ่านข่าวเช้านี้เรื่องนักเตะไทยไปเจลีก แล้วก้อทำให้ผมคิดถึงบทสนทนาระหว่างผมกับ ทีซัง เพื่อนชาวญี่ปุ่นของผมเมื่อหกปีก่อน ผมกับทีซังสนิทกันมากครับ เราเรียนด้วยกันเป็นรูมเมท กินเบียร์ด้วยกัน ทำให้ทีซังนั้น ค่อนข้างพูดตรงๆกับผม ต่างกับการพูดกับคนอื่นๆที่อุปนิสัยคนญี่ปุ่นจะค่อนข้างพูดอ้อมหรืออ้อมมาก ทีซังนั้นสมัยเด็กๆ เล่นฟุตบอลเก่งใช้ได้ เคยติดทีมโรงเรียน เคยคัดตัวกับสโมสรในเจลีก แต่ไปได้ไม่ถึงฝั่งฝันครับส่งผลให้มันต้องมานั่งเรียนปริญญาโทกับผม บริษัทที่มันทำงานก็เป็นสปอนเซร์หลักทีมในเจลีกทีมหนึ่ง ตัวมันเป็นแฟนบอลระดับฮาร์ดคอร์ วันนั้นเรานั่งกินเบียร์กัน บทสนทนาระหว่างผมกับทีซังเป็นดังนี้
ผม: ผมฝันไว้ว่าวันนึงนักเตะไทยจะได้ไปเจลีก
ทีซัง: ทำไมล่ะ?
ผมอธิบายทีซังอยู่นานเกือบสิบห้านาที ประเทศเรามีลีกที่แข็งแกร่ง นักเตะเราเป็นหัวแถวอาเซียน นักเตะไทยอาจช่วยเปิดตลาดที่ญี่ปุ่นได้ ผมเชื่อว่านักเตะระดับหัวแถวของเมืองไทยฝีเท้าพอๆกับนักเตะญี่ปุ่น ผมยังเล่าถึงอดุลย์ ที่ตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากการเล่นใน J3
ทีซังถามผมกลับมาว่า เคยดูเจลีกหรือเปล่า ผมได้แต่เงียบ ใช่ครับผมแทบไม่เคยดูเลย
ทีซัง: แล้วถ้านักเตะไทยไปเล่นใน J2 หรือ J3 ล่ะเป็นไปได้มั๊ย
ผม: เป็นไปได้แต่คงไม่ค่อยมีใครอยากไป ทั้งแฟนบอลและนักเตะคงมองว่าเป็นการก้าวถอยหลัง
ทีซังเงียบไปซักพัก
ทีซัง: เกรียงไกร ที่ไทยลีกนี่นักเตะต่างชาติเก่งกว่านักเตะไทยหรือเปล่า
ผม: โดยเฉลี่ยเก่งกว่านะ
ทีซัง: ที่เจลีกก็เช่นกัน นักเตะต่างชาติเก่งกว่านักเตะญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นฝันว่าวันหนึ่งเราจะได้แชมป์ฟุตบอลโลก ดังนั้นนักเตะต่างชาติที่มาเล่นเจลีกต้องเก่งกว่านักเตะญี่ปุ่นเพื่อยกระดับฟุตบอลในประเทศโดยรวม เหมือนไทยลีกก้อต้องการนักเตะต่างชาติที่เก่งกว่าคนไทย
ผมอึ้งไปสักพัก
ทีซัง: ทีมในเจลีกไม่หวังเปิดตลาดต่างชาติ เพราะฐานแฟนบอลคือคนญี่ปุ่น รายได้เกือบ 100% มาจากญี่ปุ่น เกรียงไกร ถ้าพูดจริงๆ อยากให้นักเตะไทยเริ่มจากการไปเล่นใน J2 หรือ J3 ก่อน ถ้าสามารถพิสูจน์ตัวเองได้เช่นเป็นดาวซัลโว หรือ เป็นตัวหลักของทีมใน J2 ตอนนั้นทีมใน J1 จะสนใจเอง ญี่ปุ่นไม่ได้สร้างทีมในวันเดียวเราค่อยๆสร้าง หวังว่าเกรียงไกร จะเข้าใจและอย่ามองว่าการเล่นใน J2 เป็นการก้าวถอยหลัง
บทสนทนากับทีซังวันนั้นเรียกว่าเบิกเนตรผมเลยทีเดียว หลังจากวันนั้นมาหกปี ที่ผมเห็นพาดหัวข่าวต่างๆว่านักเตะระดับท๊อปของเราโดนสนใจจากทีมในเจลีก บทสนทนากับทีซังก็ย้อนกลับมาก้องในหัวของผม ผมหวังว่าวันหนึ่งนักเตะเราจะได้ไปเจลีก ผมหวังเช่นนั้นครับ แต่ทุกอย่างคงไม่มีทางลัด
มีความเป็นไปได้มากแค่ไหนครับ ที่นักเตะไทยจะได้ไปเล่นใน J League
ผม: ผมฝันไว้ว่าวันนึงนักเตะไทยจะได้ไปเจลีก
ทีซัง: ทำไมล่ะ?
ผมอธิบายทีซังอยู่นานเกือบสิบห้านาที ประเทศเรามีลีกที่แข็งแกร่ง นักเตะเราเป็นหัวแถวอาเซียน นักเตะไทยอาจช่วยเปิดตลาดที่ญี่ปุ่นได้ ผมเชื่อว่านักเตะระดับหัวแถวของเมืองไทยฝีเท้าพอๆกับนักเตะญี่ปุ่น ผมยังเล่าถึงอดุลย์ ที่ตอนนั้นเพิ่งกลับมาจากการเล่นใน J3
ทีซังถามผมกลับมาว่า เคยดูเจลีกหรือเปล่า ผมได้แต่เงียบ ใช่ครับผมแทบไม่เคยดูเลย
ทีซัง: แล้วถ้านักเตะไทยไปเล่นใน J2 หรือ J3 ล่ะเป็นไปได้มั๊ย
ผม: เป็นไปได้แต่คงไม่ค่อยมีใครอยากไป ทั้งแฟนบอลและนักเตะคงมองว่าเป็นการก้าวถอยหลัง
ทีซังเงียบไปซักพัก
ทีซัง: เกรียงไกร ที่ไทยลีกนี่นักเตะต่างชาติเก่งกว่านักเตะไทยหรือเปล่า
ผม: โดยเฉลี่ยเก่งกว่านะ
ทีซัง: ที่เจลีกก็เช่นกัน นักเตะต่างชาติเก่งกว่านักเตะญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นฝันว่าวันหนึ่งเราจะได้แชมป์ฟุตบอลโลก ดังนั้นนักเตะต่างชาติที่มาเล่นเจลีกต้องเก่งกว่านักเตะญี่ปุ่นเพื่อยกระดับฟุตบอลในประเทศโดยรวม เหมือนไทยลีกก้อต้องการนักเตะต่างชาติที่เก่งกว่าคนไทย
ผมอึ้งไปสักพัก
ทีซัง: ทีมในเจลีกไม่หวังเปิดตลาดต่างชาติ เพราะฐานแฟนบอลคือคนญี่ปุ่น รายได้เกือบ 100% มาจากญี่ปุ่น เกรียงไกร ถ้าพูดจริงๆ อยากให้นักเตะไทยเริ่มจากการไปเล่นใน J2 หรือ J3 ก่อน ถ้าสามารถพิสูจน์ตัวเองได้เช่นเป็นดาวซัลโว หรือ เป็นตัวหลักของทีมใน J2 ตอนนั้นทีมใน J1 จะสนใจเอง ญี่ปุ่นไม่ได้สร้างทีมในวันเดียวเราค่อยๆสร้าง หวังว่าเกรียงไกร จะเข้าใจและอย่ามองว่าการเล่นใน J2 เป็นการก้าวถอยหลัง
บทสนทนากับทีซังวันนั้นเรียกว่าเบิกเนตรผมเลยทีเดียว หลังจากวันนั้นมาหกปี ที่ผมเห็นพาดหัวข่าวต่างๆว่านักเตะระดับท๊อปของเราโดนสนใจจากทีมในเจลีก บทสนทนากับทีซังก็ย้อนกลับมาก้องในหัวของผม ผมหวังว่าวันหนึ่งนักเตะเราจะได้ไปเจลีก ผมหวังเช่นนั้นครับ แต่ทุกอย่างคงไม่มีทางลัด