[สปอย] หลับตาฝันเห็นชื่อเธอ ละเมอพบเจอ.... 'เพียงฝัน'

หลับตา ฝันเห็น ชื่อเธอ
ละเมอ พบเจอ....’เพียงฝัน’




Your name อาจไม่ใช่อนิเมะชั่นที่ดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา
แต่ Your name เป็นอนิเมะชั่นที่ดีที่สุดสำหรับคนอย่างผม


ก่อนอื่นขอเล่าสั้นๆก่อนว่ากระทู้นี้อาจจะไม่ได้มีคุณค่าในแง่ของการวิพากษ์วิจารณ์หรือรีวิวมากนัก

ผมขออนุญาตใข้คำว่า ผมไปเห็น ไปพบ ไปเจออะไรมา ผมก็เอามาเล่า มาเรียบเรียงบอกต่อ ตามแบบฉบับของผมเท่านั้นเอง

มีการเปิดเผยเนื้อหาเกือบทั้งเรื่องเพราะต้องการประกอบและบอกเล่าความรู้สึกที่ได้ไปเจอมา


ในแง่ของความรู้สึกหลังจากได้ดูตัวอย่างครั้งแรก สิ่งแรกที่สะดุดตาผมคือความสวยงานของภาพการ์ตูน ปกติผมจะไม่ชอบดูภาพยนตร์จำพวกการ์ตูนเพราะเนื้อเรื่องมันจะสวนทางกับโลกของความเป็นจริงในหลายๆครั้ง แต่หลังๆมานี้เราเองก็ต้องยอมรับว่าอนิเมะชั่นหรือการ์ตูนเองก็ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาเนื้อหาจนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ผู้ใหญ่หลายๆท่านสามารถรับชมได้อย่างไม่ตะขิดตะขวางใจ

ภาพสวย..แต่บทจะดีตามไหมนะ ?

ช่วงแรกๆคะแนนรีวิวจากหลายๆเพจอยู่ในเกณฑ์ที่สูงถึงสูงมาก เป็นปรากฏการณ์ที่เป็นนิมิตรหมายที่ดีมากๆสำหรับภาพยนตร์เข้าโรงใหม่ๆ แต่ก็นั้นแหละครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเราไปเห็นด้วยตัวเอง วันนี้เลยจองตั๋วรอบที่เร็วที่สุดเพื่อเข้าไปรับชม และก็เรียนบอกตามตรงเลยว่า...

ความรู้สึกแรกหลังออกมาจากโรงภาพยนตร์ ผมรู้สึก ‘อิ่ม’ ครับ

มีฉากตลกแบบที่ควรจะเป็นและมีฉากเรียกน้ำตาแบบที่สามารถทำให้เราร้องไห้ตามตัวละครไปได้โดยไม่จำเป็นต้องบีบน้ำตาเลยด้วยซ้ำ มันเป็นความเศร้าที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมา ความเศร้าจาก ‘ระยะห่างระหว่างเรา’ ที่ทำให้คนสองคนรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง และถามตัวเองว่า ‘เรากำลังรอคอยอะไรอยู่’ ‘เรากำลังตามหาอะไรอยู่’ เหนือสิ่งอื่นใดคือสิ่งที่เรากำลังตามหานะ.....

“มันมีอยู่จริงๆรึเปล่าบนโลกใบนี้?”

เรื่องราวของหนุ่มสาวสองคน ทาคิกับมิตซึฮะที่อยู่ดีๆก็ได้สลับร่างกันระหว่างตอน ‘หลับฝัน’ กลายเป็นความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงของคนสองคนที่ไม่รู้จักกัน มิตซึฮะเกิดในครอบครัวชนบทของญี่ปุ่นที่สืบทอดพิธีการโบราญของศาลเจ้าแห่งหนึ่ง(เราจำชื่อศาลเจ้าไม่ได้ เราผิดไปแล้ว) หนังเล่าถึงความเบื่อหน่ายของเด็กสาวที่รู้สึกว่าเมืองตัวเองเนี้ย บ้านน้อกบ้านนอก ไม่มีคาเฟ่ ไม่มีร้านจัดฟัน มีเพียงร้านเหล้าที่พ่อตัวเองซึ่งเป็นสส.เอาไว้คอรัปชั่น เอ๊ย สร้างสัมพันธภาพกับหน่วยหาเสียงในตำบลค้างเคียงก็เท่านั้นเอง

ส่วนทาคิเองก็เป็นเด็กหนุ่มม.ปลายในเมือง เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางที่มีเพียงพ่อเป็นคนในครอบครัว จริงๆจะว่าบ้านไม่ค่อยอบอุ่นก็ได้ เพราะตัวพ่อเองก็ไม่ค่อยสนใจทาคิเท่าไหร่ ลักษณะนิสัยของทาคิเองเป็นคนใจร้อน ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง จนทำให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทขึ้นในบ้างครั้ง จริงๆทาคิเองแอบชอบรุ่นพี่ในที่ทำงานพิเศษ แต่ก็นั้นแหละ ป๊อดไปดิ ก็รุ่นพี่เอ็งสวยเช้งซะขนาดนั้น

หลังจากทั้งคู่รู้ว่าตัวเองสลับร่างกัน  ก็ได้มีการบันทึกไดอารี่ผ่านโทรศัพท์ถึงชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นเพื่อคอยอัพเดทถึงกันและกัน ถึงตรงนี้เองมันคงเป็นความสัมพันธ์แปลกๆที่ไม่มีชื่อเรียก จู่ๆเธอก็มาอยู่ในร่างฉัน จู่ๆฉันก็มีหน๊มนม (พระเอกครับ หื่นกามมากค่ะที่รัก) เรื่องราวดำเนินไปในรูปแบบนี้โดยทั้งคู่จะสลับร่างกันอาทิตย์ล่ะสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์

จุดเปลี่ยนของเรื่องมาจนถึงวันหนึ่งที่นางเอกในร่างพระเอกของเราได้ทำการนัดเดทกับพี่สาวแสนสวยคนนั้น ตอนแรกหล่อนตั้งใจว่าจะไปเดทด้วยตัวเอง แต่ดันกลับร่างเดิมซะก่อน พระเอกเลยกลายเป็นคนที่ต้องไปเดทจริงๆแทน จบเดทวันนั้นเองที่พระเอกถึงได้เริ่มรู้สึกตัว ว่าจริงๆแล้ว “ไม่ได้ชอบรุ่นพี่คนนั้นอีกต่อไป” และจุดเปลี่ยนที่สำคัญใหญ่ๆอีกเรื่องคือ

.....ทั้งคู่ไม่ได้สลับร่างกันอีกแล้ว

ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ในความทรงจำที่หลงเหลือเหลือเพียงแต่วิวทิวทัศน์ที่ไปเจอมากับคุณยายและน้องสาวของนางเอก ทำได้แค่เพียงวาด วาด วาด และก็วาด วาดให้เหมือนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อตามหาอะไรสักอย่าง อะไรสักอย่างที่ตกตะกอนข้างในใจ อะไรสักอย่างที่ยังบอกตัวเราว่าอย่ายอมแพ้นะ อะไรสักอย่างที่กำลังถามกับเราว่า

“เธอลืมชื่อฉันไปแล้วเหรอ....”

ออกตามหาจากโตเกียวสู่บ้านนอก ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่าอยู่มุมไหนของจักวาล ทาคิออกตามหาหญิงสาวแปลกหน้าที่พบเจอกันในความฝันด้วยการนั่งรถไฟไปเรื่อยๆกับรุ่นพี่สาวคนนั้นและน้องแว่นตัวประกอบหมายเลข ๑ ทั้งสามคนออกตะเวนตามหาวิวทิศทัศน์จากชาวบ้านแถวๆนั้น แต่จนแล้วจนล่อก็ไม่เจอ ทาคิถอดใจและเตรียมถอนสมอกลับไปยังโตเกียว ระหว่างทางที่ทั้งสามนั่งทานราเมง จู่ๆคุณป้าภรรยาเจ้าของร้านก็ได้ร้องทักว่าทาคิวาดภาพได้เหมือนกับบ้านเกิดของสามีเธอมากๆ

ปมเรื่องคลายออกอย่างรวดเร็ว ผมดูและอมยิ้มคิดในใจว่าคงจบสวยๆแล้วล่ะ

แต่ก็นั้นแหละครับ ถ้าพล็อตเรื่องมันกลวงขนาดนั้นคงไม่ได้คะแนนรีวีวเยอะขนาดนี้หรอก

และแล้วคุณป้าเจ้าของร้านและสามีของเธอก็ได้ช่วยเฉลยว่า หมู่บ้านของนางเธอที่ทาคิตามหาอยู่ ถูกดาวตกถล่มแล้วเด้ออออ ไม่เหลือสิ่งมีชีวิตใดๆอีกต่อไปในแถบนั้น สูญเสียไปเกือบๆห้าร้อยชีวิตกับเหตุการณ์ ‘สะเก็ดดาวตก’ที่แยกนิวเคลียสตกลงมาในหมู่บ้าน

หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านกลายเป็นตำบลร่างที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่

และมิตซึฮะคือใคร ? ผี ??????

คืนนั้นเองที่ทาคิค้นหาถึงเรื่องเล่าและข่าวสารทั้งหมดเกี่ยวกับดาวตกที่เกิดขึ้นมา ปรากฏว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ ๓ ปีที่แล้ว ไม่ใช่เวลาในปัจจุบัน นั้นเท่ากับว่าทั้งคู่พบเจอกันโดยที่เวลา ‘เหลื่อมล้ำกัน’ ถึง ๓ ปีนั้นเอง

ตามหาคนที่ไม่รู้จักกันยังพอเป็นไปได้

แต่ตามหาคนที่ตายไปแล้วเมื่อสามปีก่อน ความเป็นไปได้มันไม่มีอยู่จริง

ทาคิตั้งสิ้นใจบอกให้พี่แว่นกะรุ่นพี่สาวกลับบ้านไปก่อนโลด เดี๋ยวข้อยสิขอตัวไปที่ๆอยากจะไปก่อน หลังจากไล่ทั้งสองให้กลับไปเสร็จทาคิก็ได้ไปยังภูเขาเทพเจ้าที่ๆทาคิสลบแล้วโดนดีดกลับร่างเดิม ทาคิเข้าไปข้างในก่อนจะพบกับสาเกที่นางเอกอมแล้วคลายออกมา (จริงๆช็อตนี้เราเล่าข้ามไปอ่ะพวกเธอว์ คือนางเอกเหมือนเป็นร่างทรงที่สืบทอดตะขาบ เอ๊ย ตำนานของตระกูลอะไรงี้ แล้วนางต้องหมักเหล้าด้วยการเคี้ยวข้าวกร๊วกๆๆแล้วคายออกมาเป็นสาเกเก็บเอาไว้) ทาคิตัดสิ้นใจจูจุ๊บกับสาเกของนางเอก ก่อนนางจะดึ่งงงงงงงงง ดึงดาวตกลงไปในห้วงนิมิตย้อนกลับไปก่อนที่ดาวตกจะระเบิดเมืองของนางเอก ตู้มๆๆ

แน่นอน สิ่งแรกที่พระเอกทำหลังจากการกลับไปได้คือการบีบนมของนางเอกทั้งน้ำตา (ทำไมหื่นแบบเน้ -*-) ฉากที่ยอมรับเลยว่าจากที่ผมกำลังร้องไห้อยู่กลายเป็นผมขำทั้งน้ำตา ขำออกมาแบบคุมไม่ได้ ขำไปร้องไห้ไป

แต่มันเป็นน้ำตาของความสุขครับ

ระยะห่างของเส้นทางมันหนักหนามากพอแล้วกับเรื่องราวของความสัมพันธ์ แต่อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตัวตนของกันและกัน เชื่อมั่นในความตั้งมั่นของอีกฝ่าย เชื่อมั่นในความรู้สึกของเรา เชื่อมั่นว่าสักวันเราจะได้พบกัน เชื่อมั่น...แม้เราจะไม่เคยพบเจอกันเลยก็ตามแต่

“คุณคือใคร ?”

คำถามง่ายๆที่ไม่มีใครสามารถตอบแทนเราได้ ไม่มีใครรู้แม้กระทั้งตัวเราเอง ว่า ‘ครึ่งชีวิต’ ที่เรากำลังตามหาอยู่เขาคือใคร ครึ่งชีวิตที่จะมาช่วยเติมเต็มและช่วยประคับประครองอีกครึ่งหนึ่งของความสัมพันธ์ อีกครึ่งหนึ่งของหัวใจเราเขาเป็นใครกันนะ? เขาจะหน้าตาแบบไหน รูปร่างยังไง และเขาคนนั้น ‘กำลังรอคอยเรา’ แบบที่ ‘เรากำลังรอคอยเขา’ เช่นเดียวกันรึเปล่า?

เคยรู้สึกไหมครับว่าชีวิตมันว่างเปล่า

เราเกิดมาเพื่ออะไรวะ

เกิดมาเพื่อเรียนรู้ กินอยู่ เล่าเรียน เขียนอ่าน ทำงาน สร้างครอบครัว แล้วก็ตายลงไปแบบเงียบๆงั้นเหรอ?

ว่างเปล่าจังแหะ

ชีวิตที่ไม่มีใครอีกคนให้ตามหาที่มันว่างเปล่าเกินไปแล้ว....

การตามหาคนๆหนึ่งที่เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมันไม่ใช่เรื่องง่าย มันยาก หนักหนา และลำบาก บางคราวเราก็ท้อแท้ บางคราวเราก็คิดว่าเห้ยยยย คุณมีตัวตนอยู่จริงๆใช่ไหมวะ ? คุณเองก็กำลังพยายามตามหาเราเหมือนกันใช่ไหม คุณเองก็กำลังรอให้โลกกลมๆใบนี้เหวี่ยงเรามาเจอกันใช่ไหม ....คุณเองก็ต้องการเราเหมือนที่เราต้องการคุณ

.....ใช่ไหม?

ช่วงเวลาสนธยาที่ไม่ใช่ทั้งกลาววันและกลางคืน เป็นช่วงเวลาที่คั่นกลางระหว่างภพภูมิทั้งสอง เราจะสามารถสัมผัสถึงกันและกันได้ (จริงๆในไทยก็มีตำนานนี้นะ)

"พี่เห็นหนูเหรอ?"

...เอ๊ยไม่ใช่ผิดเรื่องล่ะ

"ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน"

เจอคนที่ห่างกันทั้งเวลา เจอคนที่พบกันแค่ในความฝัน ไม่สิ จริงๆเราไม่ได้พบกันด้วยซ้ำ เราแค่เป็น 'กันและกัน' เราเพิ่งได้สัมผัสกันโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี้คือความฝันหรือความเป็นจริง ทั้งคู่ใช้เวลาพูดคุยกันอยู่ไม่นาน ทาคิสั่งให้นางเอกเปลี่ยนแปลงอดีตให้ได้ด้วยการแจ้งเตือนชาวเมืองและคนในหมู่บ้าน ก่อนเวลาสนธยาจะหมดลงไปทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนด้วยการจะเขียนชื่อกันและกัน ทาคิได้ 'เขียนลงไป' แต่นางเอกยังไม่ทันได้เขียนร่างกายก็มลายหายไป

และจากนั้นพระเอกก็ตื่นขึ้นมา ก่อนจะลืมไปทั้งหมดว่าตัวเองมาที่นี้ทำไม...

....จำไม่ได้แม้กระทั้งว่า 'เธอชื่ออะไร'

แน่นอน ตามบทแล้วนางเอกก็สู้ตายค่าาาา กูจะไม่ยอมตายที่นี้เด็ดขาดถ้ายังไม่ได้แต่งงาน !!! (อันนี้เอาฮานะ) นางเอกก็วางแผนวิ่งไปเตือนชาวบ้านชาวช่อง ก่อนนางจะล้มหัวคำมะตีลังกา แล้วเผลอลืมชื่อพระเอกไป พอนางแบมือออกก็พบว่าพระเอกเขียนว่า "ผมรักคุณ" แน่นอนว่าน้องนางย่อมไม่อาจจะจำได้หรอกว่าไอ้คนที่เขียนว่าผมรักคุณเนี้ย มันเป็นใครวะ? ก่อนนางจะพยายามเกลี่ยกล่อมพ่อที่เป็นนายกให้ออกประกาศเตือนภัยภิบัติ ....และภาพก็ตัดไป

ตู้มมม เกิดเป็นโกโก้ครั้นท์...อ้าวไม่ขำเหรอ เราขอโทษ

และภาพก็ตัดไปเป็นเหตุการณ์ที่ดาวหางงระเบิดเมืองทั้งเมืองให้หายไป

.......วันเวลาผ่านไปพระเอกกลายเป็นหนุ่มวัยทำงานน่าเจี๊ย เขากลายเป็นคนที่พยายามหางานทำโดยคียเวิร์ดสำคัญคือ 'การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม' การ 'ปกป้องภูมิประเทศ' เพราะกลัวว่าสักวันหนึ่งโตเกียวจะหายไป และเขากลายเป็นคนที่มีจุดหักเหเป็นแรงบัลดานใจคือดาวตก ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไม ทาคิรู้เพียงแต่ว่าเขากำลัง 'ตามหา' บางอย่างที่หายไป

อะไรสักอย่างที่ติดค้างในใจ

'กริ๊งๆ'

เสียงบางอย่างที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัวก่อนพระเอกจะหันขวับไป แล้วรถไฟอีกขบวนก็สวนทางแยกออกไป

.....ตามหา ทั้งๆที่ไม่รู้จัก

......ไขว้คว้า ทั้งๆที่ยังคาดเดาไม่ได้

.......ค้นหา จนพบว่าเธอ 'ยืนอยู่ข้างหน้า'

.........ทั้งคู่ยืนมองหน้ากันผ่านบันไดระยะสั้นๆ ก่อนจะก้าวผ่านกัน

............ต่างฝ่ายต่างหยุดหันมามองหน้ากัน


"ขอโทษนะครับ เราเคยรู้จักมาก่อนหรือเปล่าครับ?"

ผมร้องไห้พร้อมๆกับนางเอก

"ฉันเองก็'รู้สึก'แบบนั้นเหมือนกัน"

"คุณชื่ออะไรครับ/ค่ะ?"

คุณอาจจะคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดมันจบลงไปแล้ว

ใช่ครับ ภาพยนตร์จบลงแล้วในเวลาเกือบๆสองชั่วโมง หากแต่ในความรู้สึกของผม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เพิ่ง 'เริ่มต้น' รู้จักกันอย่างแท้จริง คนในฝัน กลายมาเป็นคนที่มีตัวตนอยู่จริง คนที่เราตามหามานานแสนนาน คนที่ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการตามหา ในที่สุดเราแล้วก็มาอยู่ตรงหน้าเรา ......

ไม่รู้ว่าเรื่องราวหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป

หนุ่มเมืองกรุงเกียวโตอาจจะเบื่อสาวบ้านนอกเข้าสักวัน

สาวบ้านนอกเองก็อาจจะเจอหนุ่มใหม่ๆเข้าสักวัน

แต่วันนี้ เวลานี้ ตอนนี้

เราไม่ได้เจอกันแค่ในความฝัน

คุณ กับ ผม มีตัวตนอยู่ในโลกของความเป็นจริง

ไม่สำคัญหรอกว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป

สำคัญว่าตอนนี้

เรา'ได้เจอกัน'แล้วนะ


หลับตา ฝันเห็น ชื่อเธอ

ละเมอ พบเจอ....’เพียงฝัน’

สองจิต เชื่อมโยง ผูกกัน

จากฝัน บันดาล ....เป็นจริง



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่