เนื่องจากก่อนหน้านี้ค่ายทางอื่น (AIS, dtac) ได้ทำการเปิดตัว Wi-Fi Calling ที่เป็นการอัปเดทจากตัวระบบ iOS แล้ว ทาง TRUE ก็มีออกมาบ้าง แต่ว่าเป็นแอปพลิเคชั่น Wi-Fi Calling by TrueMoveH ออกมาให้ดาวน์โหลดใช้งานบน App Store ซึ่งพอเป็นแอปพลิเคชั่นมันก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย

ข้อดี คือ
      1. สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ได้แทบทุกรุ่น iOS, Android ที่รองรับ WiFi ได้ (ปกติจะมีข้อจำกัดในการใช้งานของตัวเครื่อง)
      2. สะดวก และเข้าถึงง่ายในส่วนของการใช้งานแอป
      3. ประหยัดค่าใช้จ่าย คือ ไม่ใช่ค่าโทร แต่ในส่วนของตัวอุปกรณ์ ไม่ต้องไปซื้อเครื่องที่รองรับ Wi-Fi Calling แค่ OS รองรับ มี WiFi ก็พอ

ข้อเสีย คือ
      1. ไม่สเถียรภาพในการใช้งาน เช่น เชื่อมต่อ WiFi แล้ว แต่ตัวแอปแจ้งว่ายังไม่ได้เชื่อมต่อ WiFi
      2. โทรออกได้ แต่โทรเข้าไม่ได้ (ตรงนี้น่าจะเป็น Bug ของแอปและระบบ **เนื่องจากส่วนมากผู้ใช้งานที่พบปัญหา น่าจะมีการใช้บริการ VMS & MCA [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Voice Mail Service & Missed Call Alert คือ บริการรับฝากข้อความเสียง และแจ้งเตือนสายไม่ได้รับผ่าน SMS)
      3. ถ้าจะใช้งาน App Wi-Fi Calling by TrueMoveH ก็ต้องยกเลิกบริการ VMS & MCA
      4. เมื่อยกเลิกบริการ VMS & MCA แล้ว แต่เราอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และ WiFi ก็จะไม่ได้รับ SMS แจ้งเตือน
      5. การแจ้งเตือนสายเข้าของแอปบน iPhone จะเป็นแค่แถบ Banners ขึ้นมาแล้วก็หายไป ไม่สะดวกในการรับสาย แต่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตรงนี้ทาง Apple ได้เปิดให้นักพัฒนาเข้าถึงมากขึ้น สามารถทำให้การโทรเข้าจากแอปนอกโชว์หน้าจอแบบเดียวกับสายเข้าปกติแล้ว ส่วนนี้รอการพัฒนาอยู่เหมือนกัน
      6. Wi-Fi Calling บนระบบ iOS (แบบเดียวกับ AIS, dtac ใช้อยู่) จะสามารถรับ SMS ได้ด้วย แต่ถ้าแอป Wi-Fi Calling by TrueMoveH นั้นไม่สามารถ

      ซึ่งตรงนี้ผมอยากให้ทาง TRUE พิจารณา และทำการอัปเดทจากตัว Carrier บน iOS ให้เหมือนค่ายอื่นด้วยจะดีกว่า แต่เข้าใจนะครับที่ทำเป็นแอปออกมา เพราะว่ามันฉีกข้อจำกัดของอุปกรณ์ได้ เช่น iPhone 5 หรือต่ำกว่า ไม่สามารถใช้งาน Wi-Fi Calling ได้ แต่ถ้าติดตั้งแอป Wi-Fi Calling by TrueMoveH ก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนรุ่นอื่น ๆ แต่ถ้าทำออกมาแล้วมันไม่สเถียร ใช้งานไม่ได้จริง ก็จะไม่เกิดประโยชน์ครับ