นี่คือบรรดาแข้งดังที่พร้อมหาความท้าทายใหม่ประเดิมศักราชใหม่ของตัวเอง ที่มีค่าเหนื่อยหลังหักภาษีแล้วอยู่ที่ไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าอยู่เรตเดียวกับ มิคาเอล เอสเซียง ที่มีข่าวกับเมืองทอง ยูไนเต็ด... ไม่แน่ว่าหนึ่งในนี้เราอาจได้เห็นเขาเซ็นสัญญากับทีมในไทยลีกก็เป็นได้


ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์ (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 3.5 ล้านบาท/ปี)
อดีตปีกของแมนฯซิตี้และเชลซีที่ค้าแข้งกับนิวยอร์ค เร้ด บูลล์ส (แต่ไม่ได้อยู่ในฐานะนักเตะมาร์คีที่อนุญาตให้ได้รับเงินเดือนเกินเพดานที่กำหนดไว้ จึงได้เรตเท่าๆกับนักเตะทั่วไป) กำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัดสิ้นปีนี้ ซึ่งดูแล้วต้นสังกัดคงไม่มีทีท่าจะต่อสัญญาออกไป หลังจากได้ลงเล่นเพียง 9 นัดรวมทุกรายการ

ด้วยวัย 35 ปีเขาอาจอยากจะย้ายมาเล่นในเอเชียดูบ้าง หลังจากค้าแข้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกามาแล้ว และในไทยลีกก็พอมีพื้นที่ให้เขาวาดลวดลายได้อยู่


เควิน โนแลน (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 4.25 ล้านบาท/ปี)
หลังจากลองชิมลางการเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมมาแล้วกับเลย์ตัน โอเรี้ยนท์ เมื่อช่วงต้นปี เขาก็อยากกลับมาเป็นนักเตะเต็มตัวต่อไปเหมือนเดิม
อดีตกองกลางจอมถล่มประตูรายนี้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วทั้งกับโบลตัน, นิวคาสเซิล และเวสต์แฮม ด้วยวัย 34 ปี เจ้าตัวยังคงมีพิษสงอยู่


ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 5.5 ล้านบาท/ปี)
อดีตหัวหอกเชลซีและบาร์เซโลน่ารายนี้เกือบได้เล่นอินเดียน ซูเปอร์ ลีก กับปูเน่ ซิตี้ แต่พอดีเจ็บเสียก่อน ทำให้ตอนนี้ยังไม่มีสังกัดใหม่ แม้จะอายุปาเข้าไป 38 แล้ว แต่ก็ยังเล่นเกมระดับสูงได้อยู่ เห็นได้จากยูโรครั้งที่ผ่านมาก็ยังติดทีมชาติไอซ์แลนด์ไป

ด้วยประสบการณ์อันข้นคลั่กที่สามารถจบสกอร์และเชื่อมเกมได้ อีกทั้งค่าเหนื่อยก็ไม่แพงมาก ก็น่าจะทำให้ทีมในไทยลีกจ่ายไหวอยู่


แอชลี่ย์ โคล (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 10.5 ล้านบาท/ปี)
ครั้งหนึ่งเขาเคยขึ้นชื่อว่าเป็นแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดของโลก แต่พอย้ายไปโรม่า ดูเหมือนว่าชีวิตของเขาจะร่วงยาว และนั่นทำให้ต้องหาอะไรมายึดเหนี่ยวเพื่อให้ได้ไปต่อในอาชีพอีกครั้ง จึงเป็นเหตุผลที่เขายอมหั่นค่าเหนื่อยมโหฬารเพื่อซบแอลเอ แกแล็คซี่ ที่ใช้โควต้านักเตะมาร์คีไปกับ ร็อบบี้ คีน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ โจวานนี่ ดอส ซานโตส ไปแล้ว

ซึ่ง แอชลี่ย์ โคล ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวหลักของทีม และดูเหมือนว่าจะมีความสุขกับชีวิตในสหรัฐ แต่ใครจะรู้ ถ้าเกิดมีทีมไทยลีกที่กล้าทุ่มให้เงินสูงกว่าเดิม เขาอาจจะยอมย้ายมาก็เป็นได้


มารูยาน ชามัคห์ (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 11.4 ล้านบาท/ปี)
อดีตหัวหอกอาร์เซนอลหมดสัญญากับคริสตัล พาเลซ แล้วย้ายซบคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ด้วยสัญญาชั่วคราวแค่สิ้นปีนี้ และเชื่อว่าไม่น่าจะต่อสัญญาออกไป หลังจากเป็นได้แค่อะไหล่สำรองของทีมในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

อย่างไรก็ตามด้วยวัย 32 ปีก็ถือว่าน่าเสี่ยงที่จะจับมาขัดสีฉวีวรรณเหมือนกับเคสของ ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ และด้วยความสูง 185 เซนติเมตร ก็น่าจะเพิ่มความหลากหลายในแนวรุกในส่วนของลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว


โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 12 ล้านบาท/ปี)
แม้จะเพิ่งเซ็นกับปูเน่ ซิตี้ ไปหมาดๆ พร้อมกับทำสถิติเป็นนักเตะมาร์คี (นักเตะที่ได้รับการยกเว้นเพดานค่าเหนื่อย) ที่อายุน้อยที่สุดของลีก (31 ปี) แต่ด้วยสัญญาระยะสั้น ทำให้เขาจะกลายเป็นฟรีเอเย่นต์อีกครั้งในช่วงสิ้นปีนี้

ถ้าพูดถึงการตัดเกม ไม่ได้เป็นรอง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แน่นอน ถ้าเมืองทองฯ คิดอยากหากองกลางตัวรับคนใหม่ล่ะก็ นี่อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และด้วยประสบการณ์ในลีกเอเชียกับทั้งเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว และปูเน่ ทำให้อดีตกองกลางลิเวอร์พูลและยูเวนตุสน่าจะทำความคุ้นเคยกับไทยลีกได้ไม่ยาก


เฟเดริโก้ มาเคด้า (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 27 ล้านบาท/ปี)
อดีตวอนเดอร์คิดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีชีวิตที่ตกต่ำลงเรื่อยๆนับตั้งแต่แจ้งเกิดกับ “ปีศาจแดง” เต็มตัวในฤดูกาล 2008/09 ที่เป็นซูเปอร์ซับยิงประตูชัยให้ต้นสังกัดเฉือนชนะแอสตัน วิลล่า คว้าแชมป์ในบั้นปลาย จากนั้นเขาก็ถูกส่งยืมไปเล่นกับหลายทีมไม่ว่าจะเป็นซามพ์โดเรีย, ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส, สตุ๊ตการ์ท, ดอนคาสเตอร์ และเบอร์มิงแฮม ซิตี้ จนกระทั่งหมดสัญญา

จากนั้นก็มีคาร์ดิฟฟ์รับไปอุปการะ แต่ก็ไม่สามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้ ทำได้เพียง 8 ประตูจาก 33 เกม แม้น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ จะยืมต่อก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น สุดท้ายต้นสังกัดปล่อยตัวก่อนยกเลิกสัญญา 1 ปี แต่เชื่อว่าถ้ามาไทยลีกที่เปิดเกมรุกแลกกันสนั่น ฟอร์มอันเข้าฝักของเขาจะกลับมาแน่


อังเดร อาร์ชาวิน (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 29.8 ล้านบาท/ปี)
อดีตศูนย์หน้าของอาร์เซนอลและเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ตอนนี้เล่นในลีกคาซัคสถานกับเอฟซี ไครัต และกำลังจะหมดสัญญาสิ้นปีนี้ ด้วยผลงานบนวัย 35 กะรัตถือว่าไม่ธรรมดา เพราะทำไป 8 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ จาก 28 นัด เข้าป้ายเป็นรองแชมป์ ห่างจากอันดับ 1 อย่างแอสตาน่าแค่ 2 คะแนนเท่านั้น

ด้วยความครบเครื่องทั้งยิงและจ่ายนี่เอง ทำให้เขาถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจคนหนึ่งเลยทีเดียว


หลุยส์ ฟาเบียโน่ (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 35 ล้านบาท/ปี)
อดีตกองหน้าเซบีญ่าชุดแชมป์ยูฟ่า คัพ 2 สมัยรายนี้กำลังค้าแข้งกับเทียนจีน ก่วนเจี๋ยน ทีมในไชนีส ลีก วัน เป็นปีสุดท้าย และประกาศแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญาออกไป แม้ว่าจะกดไป 21 ประตู ทำอีก 4 แอสซิสต์จาก 27 นัดพาทีมเป็นแชมป์ลีกพร้อมกับคว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นก็ตาม

แม้จะอายุอานามปาเข้าไป 36 แต่จากสถิติดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข และนักเตะบราซิเลียนก็มักจะถูกโฉลกกับไทยลีกเสียด้วย


ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 45 ล้านบาท/ปี)
ศูนย์หน้าจอมเทคนิครายนี้เรียกได้ว่าไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก ขนาดเมื่อฤดูกาลก่อนลงสนามเป็นตัวจริง 7 นัด ยังทำไป 5 ประตู แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเข่าทำให้ชวดลงสนามให้กับพีเอโอเคใน 8 นัดสุดท้ายของซีซั่น และด้วยสาเหตุนั้นเองทำให้ทีมจากกรีซไม่ต่อสัญญากับเขา แต่ดาวเตะวัย 35 ปีก็ฟิตสมบูรณ์อีกครั้งแล้ว

ส่วนตอนนี้ระหว่างหาต้นสังกัดใหม่ก็ทำหน้าที่เป็นคอมเมนเตเตอร์รับเชิญให้กับรายการ Match Of The Day ที่อังกฤษไปพลางๆ ก่อน


ลีออน ออสแมน (ค่าเหนื่อยกับทีมสุดท้าย 49 ล้านบาท/ปี)
ถือได้ว่าเป็นวัน คลับ แมน อีกคนหนึ่งของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีเมื่อเขาเล่นให้กับกับเอฟเวอร์ตันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กปั้น (ไม่นับตอนยืมตัวไปคาร์ไลส์กับดาร์บี้ช่วงสั้นๆ) จนกระทั่งหมดสัญญาและโดนปล่อยตัวออกมาเมื่อช่วงกลางปี

แม้จะอายุ 35 ปี แต่ก็ยังมีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม การดูแลตัวเองเป็นอย่างดีทำให้เขายังสามารถเล่นในระดับสูงสุดได้อยู่ และยังเคยพลิกเกมให้กับ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ได้เสมอ แม้ตอนอยู่ในช่วงปีสุดท้ายของสัญญาก็ตาม และการยังเป็นฟรีเอเย่นต์ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นนักเตะที่ไร้น้ำยาแล้วแต่อย่างใด

ที่มา : fourfourtwo.