ใคร พอ จะมีวิธีแนะนำ ว่า ควร จะจัดการ ยังไง ได้บ้าง ค่ะ

เมื่อหลายสิบปีก่อนคุณแม่ได้ร่วมกับ ญาติในการ เช่า ที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาสาเหตุที่ได้เป็น เพราะ เจ้าของเดิมมาบอกขายสิทธิให้ญาติ แต่ญาติไม่มีเงินเลยมาชวนคุณแม้หุ้น โดยที่คุณแม่ออกเงิน  ทั้งหมดก่อน และ ญาติค่อย ๆ ผ่อนคิน ให้ครึ่งหนึ่ง

ในที่ดินนี้มีบ้านอยู่2 หลัง หลีงแรกเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น และหลังที่ 2 บ้านปูน 1 ชั้น  คุณแม่ ได้ ซื้อบ้านไม้ 2 ชั้นนั้นขึ้น ส่วนญาติ ได้ซื้อบ้านปูน 1 ชั้นขึ้นมา  

===มีคำถาม หนึ่ง ข้อ ก่อนนะค่ะ
คุณแม่ มีหนังสือสัญญาขายบ้านเรือนไม้สองชั้น  อยู่ 1 ฉบับ หนังสือ สัญญานี้แปลว่าคุณแม่เป็นเจ้าของบ้านไม้หลังนี้รึยังคะหรือต้อง มีหนังสือ อย่างอื่นอีก ถึง จะ หมายถึง เป็น เจ้าของบ้านแล้ว

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาบ้านเรือนไม้ 2 ชั้นนี้ ญาติคุณแม่เขาได้ทำบ้านเรือนไม้ 2 ชั้น เป็น ห้องเช่าเล็ก ๆ ประมาณ 10 ห้อง ให้คนเช่า
โดยรายได้ญาติเป็นคนเก็บและเป็นคนดูแล โดยแบ่งรายได้ ให้คุณแม่ 6000 บาท มานานหลายสิบปี และ พึ่งขึ้น 7000 บาท มา ปีกว่า ๆ และ 8000 บาท ได้ไม่กี่เดือนและก็ไม่ได้เงินอีกเลย มา 4 เดือน

ส่วนบ้านปูนชั้นเดียวของญาติ คุณญาติเขาต่อเติมเป็น2ชั้น และ แบ่งเป็นบ้านเช่า4หลังติด โดยแบ่งให้คนเช่าแต่ไม่ได้มีรายได้ ส่วนนี้ให้คุณ แม่ ด้วยเหตุผล คือ คุณญาติ ซื้อบ้านหลังนี้มาเองแต่คุณแม่ก็เข้าใจค่ะเพราเห็นว่าเป็นญาติกันและอาศัยพึ่งพาคุณญาติให้ดูแลเก็บค่าเช่า

ตลอดหลายสิบปีคุณแม่ไม่เคยทราบเลยว่าบ้านหลังนี้มีห้องเช่ากี่ห้อง คนเช่ากี่คน รู้แต่ว่า ถ้าซ่อมบ้าน คุณญาติก็จะหักเงิน ไปซ่อมบ้านมากน้อย ก็คุณญาติเป็นคนจัดการ ค่าเช่าที่ และ ภาษี หารครึ่ง

จนถึงปัจจุบันคุณแม่ไม่ได้เงินมาหลายเดือนแล้วและได้เข้าไปคุยกับคุณญาติ ถาม ถึงเหตุผล ว่าทำไมถึงไม่ได้คุณญาติก็บอกว่าเขาให้ลูกสาว เขา ซึ่งเป็นทนายเป็นคนดูแลให้ไปคุยกันเอาเอง
คุณแม่ จึงไปขอคุยกับคุณทนายได้ความมาว่า
คุณทนายบอกว่า
=ถ้าอยากได้เงิน ก็ให้ลองขอ แม่คุณทนายดูว่าจะให้เงินได้กี่บาท
=บุญคุณ ความเป็นญาติ ไม่ต้อง ไปพูดถึง
=ถ้าอยากได้เงินก็ให้ไปฟ้องเอา
=ถ้าไม่งั้นก็รอจนกว่าทรัพย์สินจะขอที่ดินคืนแล้วค่อยไปเอาเงิน ตอนนั้น แทน
=หรือไม่ก็ถอนสิทธิไปซะเขาเป็นทนายและรู้จักคนใน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เดี๋ยวเขาจะสวมสิทธิขึ้นมาเอง


ฟังแค่นี้แม่ก็โบกมือบ๊ายบายน้ำตาตกบวกกับช็อคและเสียใจ แล้วคะ ท่านคงไม่คิดว่าญาติจะทำกับท่านแบบนี้โดยเฉพาะท่านคงจะโกรธบวกกับเสียใจกับคุณทนาย ซึ่งเปรียบเหมือน หลานเพราะตอนคุณทนายป่วยเป็นมะเร็งคุณแม่ก็นั่งTaxiพาคุณทนายไปหาหมอไปเฝ้าที่ รพ. อยู่ บ่อยครั้ง
แต่ก็เข้าใจในระดับนึงนะคะ เรื่องของเงินไม่เข้าใครออกใครและ ทางเราก็เป็น คนค้าขายไม่ได้รู้กฏหมายอะไรมากมายที่จะ ไปคุยกับเขาได้
เลย จะ มาถาม แนวทาง คนในนี้แหละค่า ว่า พอจะ มีคำแนะนำอะไร บ้างไหมคิดว่าจะขอ เข้าไปคุยกับพี่ทนายเขาแต่ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเริ่ม ยังไงดี ค่า 555

ขอบพระคุณ คน ที่แวะ เข้ามาอ่านนะค่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่