สวัสดีค่ะทุกคน ^^  
ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค
ก็ไม่รู้เหมอนกันทำไมต้องชิค แต่มันเท่ดี 555555555
เราขอแนะนำที่นี่  ภูชี้ดาว จังหวัดเชียงราย
เดินทางไปไม่ยาก อยู่ใกล้ๆกับภูขี้ฟ้าเลย
เป็นสถานที่ชมทะเลหมอก สวยไม่แพ้กันกับ ภูชี้ฟ้า
ตามมาเลยแล้วกัน ^^


อันดับแรกเลยคือหาแนวร่วมไปเที่ยวกับเราให้ได้ก่อน
คุณสมบัติ กินง่าย นอนง่าย ไม่งอแง อาบน้ำเย็นได้  จุดไฟเป็น 55555



พวกเราเริ่มเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงราย แวะซื้อสะเบียงทำอาหาร
ประมาณ บ่ายสอง บ่ายสาม ขับรถมาเรื่อยๆ ชมวิวไป ชิวๆ


อากาศเริ่มเย็นแล้ว พระอาทิตย์ตกไวมาก ถ่ายรูปแทบไม่ทัน



ขับรถไปเรื่อยๆทางขึ้นดอยถือว่า ดีพอสมควร แต่สองข้างทางมืดมากกกกก
พวกเราได้ติดต่อที่พักไว้ที่ หน่วยรักษาต้นน้ำ หงาว-งาว ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันกับภูชี้ฟ้าเลย
ขับหลงไป หลงมา กว่าจะหาที่พักเจอ คือเราจะไม่เชื่อ GPS อีกต่อไป บลายยย 5555
แต่ในที่สุดเราก็มาถึงกันแล้ว เย้ !!!!
ที่พักนี้เป็นอุทยาน และลานกางเต้นท์ด้วย ค่าที่พักแล้วแต่เราจะให้ค่าบำรุงสถานที่
มีที่นอน หมอน ผ้าห่มให้ เป็นบ้านเป็นหลังๆ นอนได้สิบกว่าคนสบายยยย



จากนั้นพวกเราก็ไม่รีรอที่จะ ตั้งแคมป์ปิ้งกัน
หมูก็มี เตาย่างก็เอามา ถ่านก็พร้อม ขาดอย่างเดียว ไฟแช็ก !!!!
เอ้าาาาาา ทำไงล่ะทีนี้ หันไปหาพี่เจ้าหน้าที่ ขอยืมไฟแช็กหน่อยค่ะ
พี่เค้าก็ตอบมาเลย "ไม่มีครับ" นาทีนั้นน้ำตาจะไหล คือหิวมากกก
หันไปเจอกองไฟกองเก่าที่กำลังจะมอด ของบ้านหลังข้างๆซึ่งน่าจะหลับไปแล้ว
เอาวะ !! วิชาลูกเสือที่ร่ำเรียนมา ก็ได้ใช้วันนี้แหละ !!!


จุดไฟกันสักพัก ด้วยที่บ้านต้องต้มน้ำอุ่นอาบบ่อยๆ
ไฟก็ติด เย้!!! ไฟติดแล้ววววว !!!! เก่งเกมือนกันนะเรา ได้ย่างหมูสักที!!!!


อยากเปลี่ยนที่กินหมูกระทะก็ไม่บอกกก จัดปายยยยย


หมูย่างมาแล้วววววววว กรอบนอก นุ่มใน บอกเลยฟินนนน


หลังจากอาหารเย็นพวกเราก็นั่งคุยเม้ามอยกันสักพัก
แล้วก็ชวนกันไปดูดาว ต้องบอกเลยว่าฟ้าใสมาก ดาวชัดมากกกกก
แต่ไม่มีกล้องเทพ เลยไม่มีรูปภาพประกอบ
เห็นดาวตกเฟี้ยว ฟ้าวๆ หลายดวงมากๆ อาอากาศเย็นๆ ฟินนนนน

เอาล่ะ ได้เวลานอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปดูทะเลหมอกที่ภูชี้ดาววววววว

เช้าวันถัดไป เราได้ขับรถมาปากทางขึ้นภูชี้ดาว
ซึ่งอยู่ถัดจากทางขึ้นภูชี้ฟ้าไม่ไกลกันมาก
ต้องมาเปลี่ยนเป็นรถ โฟวิล ของชาวบ้าน
ค่าบริการ 500 บาท ต่อคัน เกิน 5 คนคิด คนละ 100 บาท




ทางขึ้นถือว่าโหดและชันพอสมควร แต่เรามากับเจ้าถิ่น ไว้ใจได้
ขับมาเพลินๆ ประมาณ 3 กม. ก็ถึงแล้ว จากนั้นเราต้องเดินขึ้นไปเอง




ทางขึ้นค่อนข้างลื่นและชัน แต่ก็มีราวจับตลอดทาง




เดินขึ้นไปเหนื่อยมากเนื่องจากเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
แต่พอเห็นวิวข้างทางก็หายเหนื่อยยยยย



มัวแต่เดินถ่ายรูป เพื่อนๆเดินไปถึงแล้วววววว


พอเราเดินไปถึงคำแรกที่อุทานออกมาก
คืองงงงงงงงงง สวยยยยว่ะ





มองไปข้างหน้านั้นคือ ภูชี้ฟ้า



พวกเราโชคดีมากที่วันนั้นไปบีงเอิญเจอพี่นักข่าวมาสำรวจพื้นที่พอดี
ซึ่งผู้ใหญ่บ้านจะพาไปดู ภูชี้เดือน สถานที่ท่องเที่ยวที่จะเปิดใหม่เดือนธันวาคมนี้
เค้าบอกว่า จะเป็นวิว 360 องศาเลย มองเห็นทั้ง ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว
พอเค้าชวน พวกเราก็ไม่ปฏิเสธ !!!!!!




พวกเราขึ้นมาช่วงสายแล้ว หมอกเลยละเหยลอยขึ้นฟ้าหมด
แต่วิวก็ยังสวยยยยยยยยยย




ถ่ายภาพเป็นที่ละรึก กับพี่ๆเค้าหน่อย ^^
ทางผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ที่นี่จะให้ใส่ชุดพื้นบ้านเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไว้


สุดท้ายแล้ว ทริปนี้คุ้มค่ามาก มาภูชี้ดาว ได้มาภูชี้เดือนด้วย ^^
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ
แล้วเจอกันใหม่

เราจะงง และหลงไปด้วยกัน