ในปัจจุบัน ตลาดอนิเมะของญี่ปุ่น เติบโตอย่างรวดเร็ว และ ในประเทศญี่ปุ่นมีค่ายอนิเมะ อย่างมากมาย คงไม่ผิดใช่ใหม่ถ้า อนิเมะ ซักเรื่องสองเรื่อง จะติดอยู่ ในใจของคุณ อนิเมะที่ทำให้คุณรู้สึกไปกับเรื่องราวแห่งจิตนาการ และตามหัวข้อที่เขียน อนิเมะครองโลก ผมได้มีโอกาศ แชตคุยกับชาวต่างชาติ ในทวีปยุโรป
( ชาวสเปน ) เขาบอกว่า ถ้าเป็นแอนิเมชั้น ไม่มีประเทศไหนล้มญี่ปุ่นได้ และ เขายังบอกอีกว่า ถ้ามีโอกาศเขาจะไปเทียวญี่ปุ่นให้ได้ ตามที่กล่าวมา อนิเมะ เป็นสื่อที่ทรงอิธิพล ต่อยุคสมัย และผมก็พอทราบมาว่า ชาวรัสเซีย ไม่น้อยชอบชมอนิเมะ ญี่ปุ่น มากเลย ผมคิดเล่นๆ ว่า ประชากรรัสเซีย ในช่วง วัยรุ่น จน ถึงวัยเด็ก ชอบดูอนิเมะ ถ้าหากที่ผมกล่าวมา อนิเมะญี่ปุ่น จะทรงอิธิพลมากขนาดไหน ยังไม่รวมถึง ฝั่ง ยุโรป และ อเมริกา อีก และผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า พวกเราสามารถ หาชมอนิเมะได้อย่างง่ายดาย แต่ส่วนใหญ่ เป็นซับไทย พูดง่ายๆ ก็ดูฟรี แต่ ผู้ผลิตได้อะไร แต่นั้นเป็นจุดประสงค์จริงๆ ของผู้ผลิตเหรอ เปล่า เลย ถ้าคุณดู อนิเมะซับ ไปนานๆ คุณจะได้รับอิธิพลด้านภาษา ไม่ว่าคุณจะอยากรู้หรือเปล่า (เป็นเรื่องจากผู้เขียนกระทู้) ผมเริ่มดู อนิเมะตั้งแต่ อายุ 14 ปี ตอนแรกดูแต่พากษ์ไทย แต่ว่า บางเรื่องไม่มี lc ในประเทศ ตอนอายุ 15 ปี ก็เริ่มดูซับไทย หลังจากเริ่มดู ซับไทยมาหลายปี สามารถดูอนิเมะที่
ไม่มีซับไทย ได้ พอเข้าเรียนมหาลัย ก็ได้รับอิธิพล จากอนิเมะ จนทำให้ต้องเข้าเรียน ภาษาญี่ปุ่น ถึงภาษาญี่ปุ่นมันจะยากไปบ้างแต่ด้วยความอยากรู้ อยากจะเข้าใจ และ ผมคิดว่า อนิเมะ คือความพยายามของญี่ปุ่น ที่พยายาม จะเผ่ยแพร่ วัฒธรรม ของญี่ปุ่น ยกตัวอย่างเช่น ชาวญี่ปุ่น จะทานซุปมิโสะ ตอนเช้า และผมก็เริ่มรู้สึกว่า ผมรู้จัก อาหารญี่ปุ่น มากกว่าอาหารไทย อีก เช่น ราเม่ง อูด้ง โซบะเย็น ทรงคัสสึ ซูชิ โอโคโนมิยากิ ยากิโซบะ ทาโกะยากิ เทมปุระ และ ยังอักหลายๆ พูดตามตรง อาหารไทย ผมยังไม่เคยจำชื่อเลย อย่าหาว่าผมไม่รักวัฒธรรมของตัวเองเลย แต่ อาหารไทยเหมื่อนกันหมด ยกตัวอย่าง เช่น แค่ไม่ใส่ กระทิ จะกลายเป็น อีกอย่าง ใส่แล้วจะเป็นอีกอย่าง หรือใส่ฝักจะกลายเป็นอีกอย่าง ไม่ใส่ก็อีกชื่อ ทั้งที่ วัตถุดิบ การปรุง หรือ การทำ
เหมือนกันหมด และสุดท้ายนี้ หลายคนคงอยากไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพราะวัฒธรรมที่เป็นจุดเด่น อาหารการกิน แฟชั้น หรือ เทศกาลต่างๆ เช่น
งานชมดอกซากุระ ทานาบาตะ โอบ่ง
ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) ฤดูแห่งดอกไม้บาน
ฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบาน เริ่มตั้นแต่ภาคใต้ของประเทศไล่จนถึงภาคเหนือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกซากุระบานเต็มที่ในบริเวณกรุงโตเกียว คือช่วงราวปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม การบานของดอกซากุระนั้นต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อากาศต้องเปลี่ยนจากหนาวเป็นอบอุ่นจึงจะกระตุ้นให้ดอกซากุระนั้นบานได้ และระหว่างวันที่ 29 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นช่วง Golden Week ของชาวญี่ปุ่นที่จะได้หยุดพักผ่อนติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน
ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) ฤดูแห่งดอกไม้ไฟ
ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลแห่งดอกไม้ไฟ อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์พร้อมความเขียวขจีทั่วประเทศ ใบของต้นซากุระ ใบเมเปิ้ล ต้นโอ๊ค หุบเขาในป่าใหญ่ล้วนเป็นสีเขียวอ่อน ตัดกับสีเขียวเข้มของต้นสนและต้นไผ่ที่โอนอ่อนตามสายลมในตอนกลางวันและยามค่ำคืน เทศกาลฤดูร้อนถือเป็นการรวมตัวของคนในชุมชนและผู้มาเยือน เพื่อร่วมชมเทศกาลดอกไม้ไฟ และชมระบำพื้นเมือง “Bon Odori” ที่มีสีสันและชีวิตชีวา
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี
ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวและใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นสบาย นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลืองและส้ม ขุนเขาต่างๆ ถูกแต่งแต้มให้มีสีสันราวกับพรม นอกจากนี้ ยังเป็นเวลาแห่งการผสมผสานระหว่างเทศกาล การกีฬา และกิจกรรมทางวัฒนธรรม หนึ่งในสัญลักษณ์ของฤดูนี้คือ งานเทศกาลดอกเบญจมาศ
ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) ฤดูแห่งการเพลิดเพลินกับหิมะ
ฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นไม่รุนแรงอย่างที่คิด ยกเว้นทางตอนเหนือของประเทศที่มีหิมะทับถมสูง ภายนอกอากาศแม้จะมีอุณหภูมิต่ำ แต่หากเตรียมตัวสวมชุดกันหนาวก็จะไม่มีปัญหา และภายในอาคารส่วนใหญ่มีเครื่องทำความร้อน จึงไม่น่าเป็นห่วงเทศกาลต่างๆในฤดูนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับหิมะและน้ำแข็ง นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับหิมะและรูปแกะสลัก พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในประเพณีท้องถิ่นนั้นๆ ในช่วงเวลานี้จะมีงานเทศกาลต่างๆ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญอีกวันสำหรับชาวญี่ปุ่น
1. Tokushima Awa Odori : เทศกาลเต้นรำประจำเมืองโทคุชิมะ เกาะชิโกกุ จัดขึ้นช่วงวันที่ 12-15 สิงหาคมทุกปี ผู้เข้าร่วมเทศกาลนี้จะใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสมาร่วมกันเต้นรำ เล่นเครื่องดนตรีชามิเซ็ง กลองไทโกะ และขลุ่ย ธีมหลักของงานคือการบ้าไปด้วยกัน จากการที่มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าการเต้นของคนบ้านั่นเอง
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / John-Leung
2. Asakusa Samba Matsuri : ที่ญี่ปุ่นก็มีการจัดเต้นแซมบ้าด้วยเหมือนกัน โดยจัดขึ้นที่หน้าวัดเซนโซจิ กรุงโตเกียว ปลายเดือนสิงหาคมทุกปี และในเทศกาลนี้คุณจะได้เห็นผู้คนใส่ชุดเต้นมาเต็มยศตระการตามากเลยทีเดียว
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Gaijin Pot
3. Gion Matsuri : ทั้งเดือนกรกฎาคม ณ เมืองเกียวโต คือเวลาสำหรับเทศกาลที่คนจะรวมทีมทำขบวนแห่สุดอลังการออกมาประชันกัน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / Chiharu
4. Sapporo Yosakoi Soran Festival : เทศกาลเต้นโยซาโค่ย การเต้นรำรับหน้าร้อนของที่นี่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีผู้เข้าแข่งขันถึง 350 ทีม รวมเป็นนักเต้นราว 50,000 คน และต้องวาดลวดลายต่อหน้าคนดูกว่า 2 ล้านคน ในช่วงเดือนมิถุนายน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Sapporo Tour Guide
5. Kanto Matsuri : ที่เมืองอาคิตะ ช่วงวันที่ 3-6 สิงหาคม จะมีการจัดแสดงให้คนพยายามประคับประคอง เสาสูง 12 เมตร ที่มาพร้อมโคมไฟจุดแล้ว รวมเป็นน้ำหนักกว่า 60 กิโลกรัม ด้วยการใช้ฝ่ามือ หน้าผาก หรือส่วนอื่น ๆ เป็นการแสดงน่าหวาดเสียวที่ชวนติดตาม
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Somewhere in the world today
6. Nebuta Matsuri : หากจะเรียกว่ามันเป็นเทศกาลที่งดงามตระการตามากที่สุดก็คงไม่ผิดนัก โดยเราจะเห็นโคมกระดาษทำเป็นรูปภูตผีปีศาจส่องแสงเป็นสีสันสวยงามตัดกับความมืด ซึ่งคุณจะได้ชมภาพแสงสีสวยงามนี้ในวันที่ 2-7 สิงหาคม ที่เมืองอาโอโมริ
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / PKOM
7. Sapporo Yuki Matsuri : เทศกาลนี้กินเวลา 7 วัน และจัดขึ้นที่เขตซัปโปโร เมืองฮอกไกโดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยเปิดโอกาสให้ทุก ๆ คนรวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้แข่งกันแกะสลักน้ำแข็งออกมาให้โดดเด่นที่สุด
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Sapporo Yuki Matsuri
8. Kanamara Matsuri : สุดยอดเทศกาลแห่งความแปลกที่จัดขึ้นช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการแห่ขบวนองคชาตยักษ์ และมีกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศชายมากมาย แม้แต่ขนมอาหารยังถูกทำเป็นรูปองคชาตไปด้วย
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Somewhere in the world today
9. Tenjin Matsuri : เทศกาลใหญ่ที่แบ่งออกเป็น 2 วัน เริ่มจากวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้คนจะแต่งกายชุดโบราณ นำหอกของพระเจ้าไปลอยน้ำ และหากหอกหยุดที่ใดก็จะไปร้องรำทำเพลงที่นั่นในวันรุ่งขึ้น รวมทั้งมีการจุดพลุฉลองเป็นลำดับต่อมา
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
10. Aoi Matsuri : หนึ่งในเทศกาลเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยจัดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเทพคาโม เทพเจ้าแห่งลมฟ้าอากาศ ซึ่งผู้คนจะแต่งตัวย้อนกลับไปในยุคเฮอันจัดขบวนแห่พร้อมกับร้องรำทำเพลงในวันที่ 12 พฤษภาคม จากนั้นในวันหลักได้แก่วันที่ 15 พฤษภาคม ก็จะมีการเดินขบวนจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์ของเกียวโตไปยังศาลเจ้าชิโมงาโมะ
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / Chiharu
11. Koenji Awa Odori : เทศกาลเต้นรำประจำย่านโคเอนจิ กรุงโตเกียว แม้จะได้อันดับน้อยกว่าของเมืองโทคุชิมะอยู่สักหน่อย แต่ก็คึกคักไม่ใช่เล่นนะ เพราะเทศกาลที่จัดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมนี้ มีนักเต้นมาโชว์ลีลาราว 12,000 คนเลยทีเดียว
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Tokyo Bling
12. Domannaka Matsuri : สิ้นเดือนสิงหาคมที่เมืองนาโงยะก็มีการจัดประกวดเต้นด้วยเหมือนกัน โดยแต่ละปีมีผู้เข้าแข่งขันราว 200 ทีม รวมเป็นนักเต้นกว่า 15,000 คน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Jamaipanese
13. Harajuku Omotesando Genki Matsuri Super Yosakoi : ย่านฮาราจุกุ กรุงโตเกียว คือสถานที่จัดงานเต้นโยซาโค่ย ช่วงปลายเดือนสิงหาคม และมักเป็นตอนที่อากาศร้อนมาก ๆ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 30 องศาเซลเซียส แต่ผู้คนก็เต้นกันเต็มที่จนลืมร้อนไปเลย
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Gaijin Pot
14. Chichibu Yomatsuri : วันที่ 2-3 ธันวาคม เมืองชิชิบุจะคึกคักด้วยเสียงตะโกนเชียร์ลั่นไปหมด เพราะมีการแข่งขันลากโคมหนัก 10-20 ตัน เกิดขึ้นที่นี่
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
15. Kanda Matsuri : ความสนุกแบบดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น รวมอยู่ในเทศกาลที่จัดขึ้นในกรุงโตเกียวช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีทั้งการแห่เกี้ยวและการร้องรำทำเพลง
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก House of Japan
16. Wakakusa Yamayaki : กิจกรรมของเทศกาลนี้มีความหมายตรงตัวกับคำของมันที่ว่า Yamayaki ซึ่งหมายความถึงการเผาภูเขานั่นเอง โดยเดิมทีมันถูกจัดขึ้นเพื่อข่มขวัญสัตว์ป่า ด้วยการจุดไฟเผาส่วนหนึ่งของภูเขาวาคากุสะเมืองนารา ทุก ๆ วันเสาร์ที่ 4 ของเดือนมกราคม และยังคงทำต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยหลังจากการเผามีการจุดพลุแสงสีตามด้วย
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
17. Jidai Matsuri : ถ้าคุณอยากชมการแต่งตัวอันประณีตแบบสมัยก่อน ยุคที่ยังมีซามูไรและโชกุน ก็ต้องมาที่เมืองเกียวโตในวันที่ 22 ตุลาคม เพราะทุกคนจะใส่ชุดย้อนยุคมาเดินขบวนพาเหรดประชันกันเต็มที่
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
18. Morioka Sansa Odori : เทศกาลกลองไทโกะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้นักดนตรีและนักเต้นกว่าหมื่นคนมารวมตัวคลายเครียดกันที่เมืองโมริโอกะวันที่ 1-4 สิงหาคม
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan-Iwate
19. Daimonji : ในวันที่ 16 สิงหาคมของทุกปี ตัวอักษรคันจิขนาดยักษ์จะปรากฏเป็นรอยเผาไหม้อยู่บนภูเขากรุงเกียวโต เกิดเป็นวิวที่งดงาม
Daimonji
ภาพจาก House of Japan
20. Otaru Snow Light Path Festival : นอกจาก Sapporo Yuki Matsuri เทศกาลนี้ก็เป็นเทศกาลเกี่ยวกับหิมะที่จัดขึ้นในฮอกไกโดเช่นกัน แต่อยู่บริเวณเมืองโอตารุ และเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์เหมือนกันด้วย โดยทั้งเมืองจะถูกประดับประดาด้วยศิลปะจากหิมะและโคมไฟส่องสว่างระยิบระยับตัดกับผืนน้ำ
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
21. Takayama Matsuri : สำหรับคนที่ไม่ชอบตุ๊กตาร่างยักษ์ที่ดูเหมือนคนจนแอบหลอน ขอแนะนำว่าอย่าไปเมืองทาคายามะช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วงเลยดีกว่า เพราะมันเป็นเวลาที่ชาวญี่ปุ่นเอาหุ่นตุ๊กตาขนาดยักษ์ออกมาแห่ประชันกัน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
คำนี้เหมาะสมมากที่สุด อนิเมะคลองโลก
อนิเมะครองโลก
( ชาวสเปน ) เขาบอกว่า ถ้าเป็นแอนิเมชั้น ไม่มีประเทศไหนล้มญี่ปุ่นได้ และ เขายังบอกอีกว่า ถ้ามีโอกาศเขาจะไปเทียวญี่ปุ่นให้ได้ ตามที่กล่าวมา อนิเมะ เป็นสื่อที่ทรงอิธิพล ต่อยุคสมัย และผมก็พอทราบมาว่า ชาวรัสเซีย ไม่น้อยชอบชมอนิเมะ ญี่ปุ่น มากเลย ผมคิดเล่นๆ ว่า ประชากรรัสเซีย ในช่วง วัยรุ่น จน ถึงวัยเด็ก ชอบดูอนิเมะ ถ้าหากที่ผมกล่าวมา อนิเมะญี่ปุ่น จะทรงอิธิพลมากขนาดไหน ยังไม่รวมถึง ฝั่ง ยุโรป และ อเมริกา อีก และผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า พวกเราสามารถ หาชมอนิเมะได้อย่างง่ายดาย แต่ส่วนใหญ่ เป็นซับไทย พูดง่ายๆ ก็ดูฟรี แต่ ผู้ผลิตได้อะไร แต่นั้นเป็นจุดประสงค์จริงๆ ของผู้ผลิตเหรอ เปล่า เลย ถ้าคุณดู อนิเมะซับ ไปนานๆ คุณจะได้รับอิธิพลด้านภาษา ไม่ว่าคุณจะอยากรู้หรือเปล่า (เป็นเรื่องจากผู้เขียนกระทู้) ผมเริ่มดู อนิเมะตั้งแต่ อายุ 14 ปี ตอนแรกดูแต่พากษ์ไทย แต่ว่า บางเรื่องไม่มี lc ในประเทศ ตอนอายุ 15 ปี ก็เริ่มดูซับไทย หลังจากเริ่มดู ซับไทยมาหลายปี สามารถดูอนิเมะที่
ไม่มีซับไทย ได้ พอเข้าเรียนมหาลัย ก็ได้รับอิธิพล จากอนิเมะ จนทำให้ต้องเข้าเรียน ภาษาญี่ปุ่น ถึงภาษาญี่ปุ่นมันจะยากไปบ้างแต่ด้วยความอยากรู้ อยากจะเข้าใจ และ ผมคิดว่า อนิเมะ คือความพยายามของญี่ปุ่น ที่พยายาม จะเผ่ยแพร่ วัฒธรรม ของญี่ปุ่น ยกตัวอย่างเช่น ชาวญี่ปุ่น จะทานซุปมิโสะ ตอนเช้า และผมก็เริ่มรู้สึกว่า ผมรู้จัก อาหารญี่ปุ่น มากกว่าอาหารไทย อีก เช่น ราเม่ง อูด้ง โซบะเย็น ทรงคัสสึ ซูชิ โอโคโนมิยากิ ยากิโซบะ ทาโกะยากิ เทมปุระ และ ยังอักหลายๆ พูดตามตรง อาหารไทย ผมยังไม่เคยจำชื่อเลย อย่าหาว่าผมไม่รักวัฒธรรมของตัวเองเลย แต่ อาหารไทยเหมื่อนกันหมด ยกตัวอย่าง เช่น แค่ไม่ใส่ กระทิ จะกลายเป็น อีกอย่าง ใส่แล้วจะเป็นอีกอย่าง หรือใส่ฝักจะกลายเป็นอีกอย่าง ไม่ใส่ก็อีกชื่อ ทั้งที่ วัตถุดิบ การปรุง หรือ การทำ
เหมือนกันหมด และสุดท้ายนี้ หลายคนคงอยากไปเยือนประเทศญี่ปุ่น เพราะวัฒธรรมที่เป็นจุดเด่น อาหารการกิน แฟชั้น หรือ เทศกาลต่างๆ เช่น
งานชมดอกซากุระ ทานาบาตะ โอบ่ง
ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.) ฤดูแห่งดอกไม้บาน
ฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบาน เริ่มตั้นแต่ภาคใต้ของประเทศไล่จนถึงภาคเหนือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกซากุระบานเต็มที่ในบริเวณกรุงโตเกียว คือช่วงราวปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม การบานของดอกซากุระนั้นต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อากาศต้องเปลี่ยนจากหนาวเป็นอบอุ่นจึงจะกระตุ้นให้ดอกซากุระนั้นบานได้ และระหว่างวันที่ 29 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นช่วง Golden Week ของชาวญี่ปุ่นที่จะได้หยุดพักผ่อนติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน
ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) ฤดูแห่งดอกไม้ไฟ
ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลแห่งดอกไม้ไฟ อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์พร้อมความเขียวขจีทั่วประเทศ ใบของต้นซากุระ ใบเมเปิ้ล ต้นโอ๊ค หุบเขาในป่าใหญ่ล้วนเป็นสีเขียวอ่อน ตัดกับสีเขียวเข้มของต้นสนและต้นไผ่ที่โอนอ่อนตามสายลมในตอนกลางวันและยามค่ำคืน เทศกาลฤดูร้อนถือเป็นการรวมตัวของคนในชุมชนและผู้มาเยือน เพื่อร่วมชมเทศกาลดอกไม้ไฟ และชมระบำพื้นเมือง “Bon Odori” ที่มีสีสันและชีวิตชีวา
ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี
ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวและใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นสบาย นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลืองและส้ม ขุนเขาต่างๆ ถูกแต่งแต้มให้มีสีสันราวกับพรม นอกจากนี้ ยังเป็นเวลาแห่งการผสมผสานระหว่างเทศกาล การกีฬา และกิจกรรมทางวัฒนธรรม หนึ่งในสัญลักษณ์ของฤดูนี้คือ งานเทศกาลดอกเบญจมาศ
ฤดูหนาว (ธ.ค.-ก.พ.) ฤดูแห่งการเพลิดเพลินกับหิมะ
ฤดูหนาวที่ญี่ปุ่นไม่รุนแรงอย่างที่คิด ยกเว้นทางตอนเหนือของประเทศที่มีหิมะทับถมสูง ภายนอกอากาศแม้จะมีอุณหภูมิต่ำ แต่หากเตรียมตัวสวมชุดกันหนาวก็จะไม่มีปัญหา และภายในอาคารส่วนใหญ่มีเครื่องทำความร้อน จึงไม่น่าเป็นห่วงเทศกาลต่างๆในฤดูนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับหิมะและน้ำแข็ง นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับหิมะและรูปแกะสลัก พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในประเพณีท้องถิ่นนั้นๆ ในช่วงเวลานี้จะมีงานเทศกาลต่างๆ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญอีกวันสำหรับชาวญี่ปุ่น
1. Tokushima Awa Odori : เทศกาลเต้นรำประจำเมืองโทคุชิมะ เกาะชิโกกุ จัดขึ้นช่วงวันที่ 12-15 สิงหาคมทุกปี ผู้เข้าร่วมเทศกาลนี้จะใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสมาร่วมกันเต้นรำ เล่นเครื่องดนตรีชามิเซ็ง กลองไทโกะ และขลุ่ย ธีมหลักของงานคือการบ้าไปด้วยกัน จากการที่มันมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าการเต้นของคนบ้านั่นเอง
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / John-Leung
2. Asakusa Samba Matsuri : ที่ญี่ปุ่นก็มีการจัดเต้นแซมบ้าด้วยเหมือนกัน โดยจัดขึ้นที่หน้าวัดเซนโซจิ กรุงโตเกียว ปลายเดือนสิงหาคมทุกปี และในเทศกาลนี้คุณจะได้เห็นผู้คนใส่ชุดเต้นมาเต็มยศตระการตามากเลยทีเดียว
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Gaijin Pot
3. Gion Matsuri : ทั้งเดือนกรกฎาคม ณ เมืองเกียวโต คือเวลาสำหรับเทศกาลที่คนจะรวมทีมทำขบวนแห่สุดอลังการออกมาประชันกัน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / Chiharu
4. Sapporo Yosakoi Soran Festival : เทศกาลเต้นโยซาโค่ย การเต้นรำรับหน้าร้อนของที่นี่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีผู้เข้าแข่งขันถึง 350 ทีม รวมเป็นนักเต้นราว 50,000 คน และต้องวาดลวดลายต่อหน้าคนดูกว่า 2 ล้านคน ในช่วงเดือนมิถุนายน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Sapporo Tour Guide
5. Kanto Matsuri : ที่เมืองอาคิตะ ช่วงวันที่ 3-6 สิงหาคม จะมีการจัดแสดงให้คนพยายามประคับประคอง เสาสูง 12 เมตร ที่มาพร้อมโคมไฟจุดแล้ว รวมเป็นน้ำหนักกว่า 60 กิโลกรัม ด้วยการใช้ฝ่ามือ หน้าผาก หรือส่วนอื่น ๆ เป็นการแสดงน่าหวาดเสียวที่ชวนติดตาม
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Somewhere in the world today
6. Nebuta Matsuri : หากจะเรียกว่ามันเป็นเทศกาลที่งดงามตระการตามากที่สุดก็คงไม่ผิดนัก โดยเราจะเห็นโคมกระดาษทำเป็นรูปภูตผีปีศาจส่องแสงเป็นสีสันสวยงามตัดกับความมืด ซึ่งคุณจะได้ชมภาพแสงสีสวยงามนี้ในวันที่ 2-7 สิงหาคม ที่เมืองอาโอโมริ
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / PKOM
7. Sapporo Yuki Matsuri : เทศกาลนี้กินเวลา 7 วัน และจัดขึ้นที่เขตซัปโปโร เมืองฮอกไกโดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยเปิดโอกาสให้ทุก ๆ คนรวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้แข่งกันแกะสลักน้ำแข็งออกมาให้โดดเด่นที่สุด
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Sapporo Yuki Matsuri
8. Kanamara Matsuri : สุดยอดเทศกาลแห่งความแปลกที่จัดขึ้นช่วงฤดูใบไม้ผลิ เมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการแห่ขบวนองคชาตยักษ์ และมีกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศชายมากมาย แม้แต่ขนมอาหารยังถูกทำเป็นรูปองคชาตไปด้วย
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Somewhere in the world today
9. Tenjin Matsuri : เทศกาลใหญ่ที่แบ่งออกเป็น 2 วัน เริ่มจากวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้คนจะแต่งกายชุดโบราณ นำหอกของพระเจ้าไปลอยน้ำ และหากหอกหยุดที่ใดก็จะไปร้องรำทำเพลงที่นั่นในวันรุ่งขึ้น รวมทั้งมีการจุดพลุฉลองเป็นลำดับต่อมา
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
10. Aoi Matsuri : หนึ่งในเทศกาลเก่าแก่ที่สุดในโลก โดยจัดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเทพคาโม เทพเจ้าแห่งลมฟ้าอากาศ ซึ่งผู้คนจะแต่งตัวย้อนกลับไปในยุคเฮอันจัดขบวนแห่พร้อมกับร้องรำทำเพลงในวันที่ 12 พฤษภาคม จากนั้นในวันหลักได้แก่วันที่ 15 พฤษภาคม ก็จะมีการเดินขบวนจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์ของเกียวโตไปยังศาลเจ้าชิโมงาโมะ
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
shutterstock / Chiharu
11. Koenji Awa Odori : เทศกาลเต้นรำประจำย่านโคเอนจิ กรุงโตเกียว แม้จะได้อันดับน้อยกว่าของเมืองโทคุชิมะอยู่สักหน่อย แต่ก็คึกคักไม่ใช่เล่นนะ เพราะเทศกาลที่จัดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมนี้ มีนักเต้นมาโชว์ลีลาราว 12,000 คนเลยทีเดียว
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Tokyo Bling
12. Domannaka Matsuri : สิ้นเดือนสิงหาคมที่เมืองนาโงยะก็มีการจัดประกวดเต้นด้วยเหมือนกัน โดยแต่ละปีมีผู้เข้าแข่งขันราว 200 ทีม รวมเป็นนักเต้นกว่า 15,000 คน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Jamaipanese
13. Harajuku Omotesando Genki Matsuri Super Yosakoi : ย่านฮาราจุกุ กรุงโตเกียว คือสถานที่จัดงานเต้นโยซาโค่ย ช่วงปลายเดือนสิงหาคม และมักเป็นตอนที่อากาศร้อนมาก ๆ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 30 องศาเซลเซียส แต่ผู้คนก็เต้นกันเต็มที่จนลืมร้อนไปเลย
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Gaijin Pot
14. Chichibu Yomatsuri : วันที่ 2-3 ธันวาคม เมืองชิชิบุจะคึกคักด้วยเสียงตะโกนเชียร์ลั่นไปหมด เพราะมีการแข่งขันลากโคมหนัก 10-20 ตัน เกิดขึ้นที่นี่
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
15. Kanda Matsuri : ความสนุกแบบดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น รวมอยู่ในเทศกาลที่จัดขึ้นในกรุงโตเกียวช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีทั้งการแห่เกี้ยวและการร้องรำทำเพลง
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก House of Japan
16. Wakakusa Yamayaki : กิจกรรมของเทศกาลนี้มีความหมายตรงตัวกับคำของมันที่ว่า Yamayaki ซึ่งหมายความถึงการเผาภูเขานั่นเอง โดยเดิมทีมันถูกจัดขึ้นเพื่อข่มขวัญสัตว์ป่า ด้วยการจุดไฟเผาส่วนหนึ่งของภูเขาวาคากุสะเมืองนารา ทุก ๆ วันเสาร์ที่ 4 ของเดือนมกราคม และยังคงทำต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยหลังจากการเผามีการจุดพลุแสงสีตามด้วย
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
17. Jidai Matsuri : ถ้าคุณอยากชมการแต่งตัวอันประณีตแบบสมัยก่อน ยุคที่ยังมีซามูไรและโชกุน ก็ต้องมาที่เมืองเกียวโตในวันที่ 22 ตุลาคม เพราะทุกคนจะใส่ชุดย้อนยุคมาเดินขบวนพาเหรดประชันกันเต็มที่
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan Guide
18. Morioka Sansa Odori : เทศกาลกลองไทโกะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้นักดนตรีและนักเต้นกว่าหมื่นคนมารวมตัวคลายเครียดกันที่เมืองโมริโอกะวันที่ 1-4 สิงหาคม
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก Japan-Iwate
19. Daimonji : ในวันที่ 16 สิงหาคมของทุกปี ตัวอักษรคันจิขนาดยักษ์จะปรากฏเป็นรอยเผาไหม้อยู่บนภูเขากรุงเกียวโต เกิดเป็นวิวที่งดงาม
Daimonji
ภาพจาก House of Japan
20. Otaru Snow Light Path Festival : นอกจาก Sapporo Yuki Matsuri เทศกาลนี้ก็เป็นเทศกาลเกี่ยวกับหิมะที่จัดขึ้นในฮอกไกโดเช่นกัน แต่อยู่บริเวณเมืองโอตารุ และเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์เหมือนกันด้วย โดยทั้งเมืองจะถูกประดับประดาด้วยศิลปะจากหิมะและโคมไฟส่องสว่างระยิบระยับตัดกับผืนน้ำ
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
21. Takayama Matsuri : สำหรับคนที่ไม่ชอบตุ๊กตาร่างยักษ์ที่ดูเหมือนคนจนแอบหลอน ขอแนะนำว่าอย่าไปเมืองทาคายามะช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วงเลยดีกว่า เพราะมันเป็นเวลาที่ชาวญี่ปุ่นเอาหุ่นตุ๊กตาขนาดยักษ์ออกมาแห่ประชันกัน
เทศกาลน่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
คำนี้เหมาะสมมากที่สุด อนิเมะคลองโลก