" เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม "

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งเสด็จขึ้นครองราชย์ในปีพุทธศักราช 2489 ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการไว้ว่าดังนี้ และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลากว่า70ปีแล้ว ท่านทรงตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรมอย่างมิเคยเสื่อมคลาย

    ตลอดระยะเวลากว่า70ปีที่ผ่านมา ภาพที่คนไทยทุกคนเห็นอยู่ประจำคือ พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประเทศไทย เพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอดเวลา ไม่ว่าจะลำบากเท่าใด จะเป็นสถานที่ทุรกันดารเพียงใด มีความอันตรายแค่ไหน แต่หากเป็นสถานที่ที่ซึ่งมีประชาชนที่ประสบความทุกข์ ความลำบาก พระองค์ก็ไม่รีรอที่จะเสด็จไปหาประชาชนของท่าน ท่านยอมเหนื่อย ยอมลำบาก เพียงเพราะต้องการให้ประชาชนของท่านได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องลำบาก

    เราเคยทำอะไรให้พระองค์มีความสุขบ้าง ตอนที่ผมเขียนบทความนี้ พ่อหลวงของเราพึ่งเสด็จสวรรคตได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น คุณลองนึกถึงคนธรรมดาที่มีอายุ84ปีดูนะครับ ตอนนี้พวกเค้าคงอยู่กับบ้าน มีลูกมีหลานคอยเลี้ยงดู ไม่ต้องออกมาทำงาน แต่ไม่ใช่กับพ่อหลวงของเราครับ ท่านยังคงทรงเหนื่อยเพื่อประชาชนของท่าน เมื่อไหร่พวกเราคนไทยถึงจะมีจิตสำนึกและคิดกันได้เสียที

    พ่อหลวงของเราทรงทำทุกอย่างเพื่อพวกเรา พระองค์ทรงใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ถ้าพวกคุณเคยได้อ่านเกี่ยวกับท่านมาบ้างคงจะรู้ว่าพระองค์นั้นทรงประหยัดมาก คุณเคยเห็นรูปยาสีพระทนต์ของพระองค์หรือเปล่า? เคยเห็นรูปรถส่วนพระองค์หรือไม่? แล้วถ้าย้อนกลับมาดูที่ประชาชนของท่านล่ะ

    ครับ คนไทยปัจจุบันเห็นแก่ตัว น้ำที่เรียกว่าน้ำใจเริ่มแล้งขึ้นทุกวัน ทุกๆองค์กรมีแต่การโกงกินกันเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงส่วนรวม ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย ไม่ประหยัดทรัพยากร เข่นฆ่ากันทุกวัน รู้ไหมว่าทำให้พ่อหลวงของเราเสียใจมากแค่ไหน ปากของทุกคนพูดแต่เพียงว่ารักในหลวง รักในหลวง แต่คนที่พูดแล้วแสดงออกจริงๆ ถ้าสุ่มคนมาซักล้านคน จะมีถึง100คนหรือเปล่าผมยังไม่แน่ใจเลย คุณรักและบูชาในหลวงกันก็เป็นสิ่งดี แต่พระองค์ไม่ได้ต้องการให้พวกเรารักพระองค์นะครับ แต่พระองค์ต้องการให้พวกเรารักกัน

    คุณลองหลับตา ด้านขวาดูนะครับ แล้วมองไปรอบๆ หลายคนคงรู้แล้วว่าพระองค์ต้องเสียพระเนตรข้างขวาไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อมีพระชนมายุเพียง20พรรษา แล้วลองนึกดูว่ามีกษัตริย์พระองค์หนึ่งต้องทรงงานหนักในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของปวงชนชาวไทยโดยมองเห็นเพียงพระเนตรข้างซ้ายข้างเดียวมาตลอดเวลากว่า70ปี

    แล้วคุณ รู้หรือเปล่าครับว่า แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก5ชั่วโมง ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน

    นี่แหละครับ พ่อหลวงของพวกเราคนไทย พระองค์ทรงเป็นห่วงเป็นใยและคอยคิดถึงประชาชนของพระองค์ตลอดเวลา จนกระทั่งวันนี้  วันที่ไม่มีพระองค์อีกแล้ว พ่อที่ทำเพื่อเรา พ่อที่รักเรายิ่งกว่ารักตัวเอง

    สำหรับตัวผมแล้ว ผมคิดและฝันไว้ว่า สักวันหนึ่งผมจะต้องเห็นผู้ชายคนนี้ตัวจริงๆ สักครั้งในชีวิต แต่มาถึงวันนี้ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นพระองค์ แต่ผมก็ไม่เสียใจเลย เพราะถึงแม้ว่าพระองค์จะจากไป แต่ความดีที่พระองค์ทำนั้นยังคงยืนหยัดอยู่ สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าพระองค์ไม่ใช่คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่พระองค์เกิดมาพร้อมบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ พระองค์เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้า ซึ่งผมคิดเองอยู่ตลอดเวลา สำหรับผมแล้วกระดาษที่เป็นรูปพระองค์ หรือปฏิทิน ผมไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้นอกจากเก็บไว้

    อีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะกล่าวในบทความนี้ คือการใช้ชีวิตแต่พอเพียงอย่างที่พระองค์ให้ข้อคิดไว้ ทุกวันนี้พระองค์สอนเกษตรกร หากมีพื้นที่ทำกินอยู่แปลงหนึ่ง ต้องแบ่งทำมาหากินอย่างไรบ้าง ส่วนหนึ่งปลูกบ้าน ส่วนหนึ่งเลี้ยงปลา อีกส่วนหนึ่งปลูกผัก จะได้สบายไม่มีหนี้สินกัน

    สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าเพื่อเป็นการตอบแทนพระองค์ ผมไม่ต้องคิดทโครงการใหญ่โตอลังการหรอกครับ แค่ผมเป็นคนดีในสังคม และไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก็เพียงพอแล้วครับ ดังบทกลอนนี้

องค์ในหลวง ห่วงใย ไทยทุกหน
ประชาชน สนใจ ไม่ต้องเสี่ยง
ยึดหลักคิด เศรษฐกิจ พอเพียง
หากทำเยี่ยง พระองค์ คงอุดม

ทฤษฎีใหม่ ไร่นา พาเพิ่มสิน
พลิกผืนถิ่น ดินร่วน สวนผสม
แหล่งน้ำดี มีใช้ ไม่ตรอมตรม
พาชื่นชม ร่มรื่น ชื่นกมล

เจ็ดสิบปี ที่ตรัส ดำรัสไว้
ถ้าคนไทย ได้นำ ทำทุกหน
จะได้ดี มีสุข ไม่ทุกข์ทน
รู้พึ่งตน ค้นทาง สร้างฝืนไทย

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปรัชญา บทความ ข่าวในพระราชสำนัก
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่