หวัดดีครับ ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า ฟังเพลงนี้แล้วสงสัยความหมายมานาน
สันนี้เผบอฟังด้วยความไม่ตั้วใจ แต่รู้สึกเข้าถึงและตีโจทย์แตกได้หมด ก็เลยจะเล่าสู่กันฟัง
* แม้ชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน
วันที่ผ่านมาไร้จุดหมาย
=> เป็นวัยกลางคนที่ผ่านชีวิตและมองย้อยถึงอดีตว่าตัวเราผ่านวัยแห่งความฝันมาแล้วและชีวิตที่ผ่านยังไม่ได้มีจุดหมายในชีวิตเลย
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน
=> แม้ว่าจะเคยพลาดจากวัยแห่งความฝันของเราและปัจจุบันไม่ได้ทำชีวิตที่มีจุดหมายของตัวเองแต่ปัจจุบันตัวเราเองได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริงที่ต้องทำความต้องการด้านวัตถุ ความต้องการสังคม ความคาดหวังครอบครัว ที่ทำงาน(ตรงนี้ในเพลงหมายถึงตัว) เทียบกับความต้องการด้านจิตใจที่แท้จริง
เหมือนชีวิตผันผ่านคืนวันอันเปลี่ยวเหงา
ตัวเป็นของเราใจของใคร
=> เหมือนชีวิตที่เรากล่าวมาเคยเอยถึง สิ่งที่เราทำเราทำตามจุดมุ่งหมายของสังคม วัตถุนิยม พ่อแม่ ครอบครัว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความต้องการจุดมุ่งหมายในใจที่แท้จริงเลย และเหนื่อยมากๆ(ตามในเนื้อเพลง ตัวเป็นของเราใจของใคร)
มีชีวิตเพื่อสู้คืนวันอันโหดร้าย
คืนที่ตัวกับใจไม่ตรงกัน
=> เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เทียบสังคมปัจจุบันบางทีเรทาทำงาน เพื่ออนาคต ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน พี่น้องสังคม บางทีนำมาซึ่งความผิดหวัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ตรงกับความต้องการของจิตใจเราจริงๆ แต่ฝืนต้องทำเพราะแคร์ภายนอกมากกว่าใจเรา
** คืนนั้นคืนไหน ใจแพ้ตัว
คืนและวันอันน่ากลัวตัวแพ้ใจ
=> บางคืนเราอาจจะคิดทบทวนตัวเองสิ่งที่ผ่านมา และความต้องการในจิตใจจริงๆเราอาจจะปลดปล่อยออกมา ซึ่งขัดกับความต้องดารทางกาย(ที่กล่าวข้างบนตะกี้)
ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์
อาจหลงทางไปไม่ยากเย็น
=> ท่ามกลางกิเลสภายนอก สิ่งเย้ายวนเราอาจจะหลงไหลไปติดกับมันซึ่งเป็นความต้องการทางกายทำใฟ้เกิดทุกข์มากยิ่งขึ้น
คืนนั้นคืนไหน ใจเพ้อฝัน
คืนและวันฝันไปไกลลิบโลก
ดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก
พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ
=> เมื่อหลงไปตามกิเลสแล้ว เราจะเพ้อถฝันถึงความต้องการภายนอกไกลมาไม่สิ้นสุด
แต่ไม่มีทางที่ตัวเราจะสำเร็จทุกอย่างต่อให้เก่งขนาดไหน มีทรัพย์ขนาดไหน สักวันเราต้อวพลาด เราเหมือนนกน้อยที่บินไปตามท้องฟ้า ความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเราอับโชคหรือหมดแรง เราก็ตกลงมากลาง ทะเลใจ ซึ่งคือใจภายนอกความท้องการลึกล้ำและไม่มีที่สิ้นสุดนั้นเอง
ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย
ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข
=> เป็นคำสรุปให้ว่าเราหาแต่จุดหมายภายนอก วิ่งตามคนอื่นกิเลสไม่สิ้นสุด แต่ความต้องการภายในใจจริงๆของเรากลับไม่เจอ พอพลาดมาเราก็เกิดทุกข์และพร่ำเพ้อถึงความต้องการภายนอกของเรา สุดท้ายบอกว่า ถามหัวใจตัวเองสอ่งที่ต้องการแล้วจะเข้าใจ้ป็นสุขเอง
( ซ้ำ ** , * )
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดีตลอดกาล
=> หลังจากที่วัยกลางคนมองย้อยอดีตเสร็จและเรียนรู้ความต้องการภายในของเขากับภายนอกเข้าใจแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ขัดกันและมิตรแท้ที่ดีตลอดกาล
ลองเข้าใจถึง ชีวิตบางคนที่ทำตามคนอื่น ตามโฆษณา ความทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุด ในสังคมที่แก่งแย่งกัน ในเมืองหลวงที่ทุกคนทำงานไม่รู้แน่ใจตังเองว่าสิ่งที่ทำมีความสุขไหม บางคนต้องการหาทรัพย์สินไม่มีที่สุด ต้องการตำ่แหน่งและอำนาจ ใครไปรอดก็ดีไปแต่ใครไปไม่รอดก็เป็นเหมือนนกที่ตกลงกลางทะเลใจ เป็นความต้องการของเราที่ไม่มีที่สิ้นสุด มองภาพแล้วมันสวยงามมากครับ
คุณ แอ๊ด คาราบาง เก่งจริงๆ
ความหมายเพลงทะเลใจ
สันนี้เผบอฟังด้วยความไม่ตั้วใจ แต่รู้สึกเข้าถึงและตีโจทย์แตกได้หมด ก็เลยจะเล่าสู่กันฟัง
* แม้ชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน
วันที่ผ่านมาไร้จุดหมาย
=> เป็นวัยกลางคนที่ผ่านชีวิตและมองย้อยถึงอดีตว่าตัวเราผ่านวัยแห่งความฝันมาแล้วและชีวิตที่ผ่านยังไม่ได้มีจุดหมายในชีวิตเลย
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน
=> แม้ว่าจะเคยพลาดจากวัยแห่งความฝันของเราและปัจจุบันไม่ได้ทำชีวิตที่มีจุดหมายของตัวเองแต่ปัจจุบันตัวเราเองได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริงที่ต้องทำความต้องการด้านวัตถุ ความต้องการสังคม ความคาดหวังครอบครัว ที่ทำงาน(ตรงนี้ในเพลงหมายถึงตัว) เทียบกับความต้องการด้านจิตใจที่แท้จริง
เหมือนชีวิตผันผ่านคืนวันอันเปลี่ยวเหงา
ตัวเป็นของเราใจของใคร
=> เหมือนชีวิตที่เรากล่าวมาเคยเอยถึง สิ่งที่เราทำเราทำตามจุดมุ่งหมายของสังคม วัตถุนิยม พ่อแม่ ครอบครัว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความต้องการจุดมุ่งหมายในใจที่แท้จริงเลย และเหนื่อยมากๆ(ตามในเนื้อเพลง ตัวเป็นของเราใจของใคร)
มีชีวิตเพื่อสู้คืนวันอันโหดร้าย
คืนที่ตัวกับใจไม่ตรงกัน
=> เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เทียบสังคมปัจจุบันบางทีเรทาทำงาน เพื่ออนาคต ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน พี่น้องสังคม บางทีนำมาซึ่งความผิดหวัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ตรงกับความต้องการของจิตใจเราจริงๆ แต่ฝืนต้องทำเพราะแคร์ภายนอกมากกว่าใจเรา
** คืนนั้นคืนไหน ใจแพ้ตัว
คืนและวันอันน่ากลัวตัวแพ้ใจ
=> บางคืนเราอาจจะคิดทบทวนตัวเองสิ่งที่ผ่านมา และความต้องการในจิตใจจริงๆเราอาจจะปลดปล่อยออกมา ซึ่งขัดกับความต้องดารทางกาย(ที่กล่าวข้างบนตะกี้)
ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์
อาจหลงทางไปไม่ยากเย็น
=> ท่ามกลางกิเลสภายนอก สิ่งเย้ายวนเราอาจจะหลงไหลไปติดกับมันซึ่งเป็นความต้องการทางกายทำใฟ้เกิดทุกข์มากยิ่งขึ้น
คืนนั้นคืนไหน ใจเพ้อฝัน
คืนและวันฝันไปไกลลิบโลก
ดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก
พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ
=> เมื่อหลงไปตามกิเลสแล้ว เราจะเพ้อถฝันถึงความต้องการภายนอกไกลมาไม่สิ้นสุด
แต่ไม่มีทางที่ตัวเราจะสำเร็จทุกอย่างต่อให้เก่งขนาดไหน มีทรัพย์ขนาดไหน สักวันเราต้อวพลาด เราเหมือนนกน้อยที่บินไปตามท้องฟ้า ความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเราอับโชคหรือหมดแรง เราก็ตกลงมากลาง ทะเลใจ ซึ่งคือใจภายนอกความท้องการลึกล้ำและไม่มีที่สิ้นสุดนั้นเอง
ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย
ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข
=> เป็นคำสรุปให้ว่าเราหาแต่จุดหมายภายนอก วิ่งตามคนอื่นกิเลสไม่สิ้นสุด แต่ความต้องการภายในใจจริงๆของเรากลับไม่เจอ พอพลาดมาเราก็เกิดทุกข์และพร่ำเพ้อถึงความต้องการภายนอกของเรา สุดท้ายบอกว่า ถามหัวใจตัวเองสอ่งที่ต้องการแล้วจะเข้าใจ้ป็นสุขเอง
( ซ้ำ ** , * )
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดีตลอดกาล
=> หลังจากที่วัยกลางคนมองย้อยอดีตเสร็จและเรียนรู้ความต้องการภายในของเขากับภายนอกเข้าใจแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ขัดกันและมิตรแท้ที่ดีตลอดกาล
ลองเข้าใจถึง ชีวิตบางคนที่ทำตามคนอื่น ตามโฆษณา ความทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุด ในสังคมที่แก่งแย่งกัน ในเมืองหลวงที่ทุกคนทำงานไม่รู้แน่ใจตังเองว่าสิ่งที่ทำมีความสุขไหม บางคนต้องการหาทรัพย์สินไม่มีที่สุด ต้องการตำ่แหน่งและอำนาจ ใครไปรอดก็ดีไปแต่ใครไปไม่รอดก็เป็นเหมือนนกที่ตกลงกลางทะเลใจ เป็นความต้องการของเราที่ไม่มีที่สิ้นสุด มองภาพแล้วมันสวยงามมากครับ
คุณ แอ๊ด คาราบาง เก่งจริงๆ