สวัสดีครับ
เมื่อช่วงเดือนกันยายน ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพักผ่อนประเทศโซน EUROPE ได้แก่ Sweden, Greece, Italy พร้อมของแถมอีกประเทศหนึ่งซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการ Transit นั่นก็คือ Ethiopia
ผมได้ทำการจองตั๋วกับสายการบิน Ethiopian Airlines ซึ่งสายการบินนี้ทำการบินระหว่าง Bangkok – Addis Ababa ทุกวันมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว โดยยังใช้ Bangkok เป็นจุดแวะพักบินต่อไปเส้นทางอื่นอีกด้วย ปัจจุบันมีบินจาก Bangkok – Kuala Lumpur และ Bangkok – Manila
ถึงแม้ว่า Bangkok จะมีความผูกพันกับ Ethiopian Airlines มานาน แต่ทางสายการบินเพิ่งได้ทำการเปลี่ยนเครื่องบินที่ใช้บินในเส้นทางนี้จาก Boeing 767-300ER มาเป็น Boeing 787-8 ได้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง แอบน้อยใจเล็กๆเพราะว่าเส้นทางบินไกลอื่นๆเค้าเปลี่ยนไปใช้ Boeing 787-8, 777-300ER กันไปตั้งนานแล้ว
แต่ทุกอย่างมันไม่ราบรื่นดังที่วาดฝันไว้ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างไปดูกันครับ
กำหนดการเดินทาง
27 SEP // ET629 // BKK-ADD // 1:30-6:30
28 SEP // ET724 // ADD-VIE // 0:45-5:55 (แวะจอดส่งคนลง Vienna)
28 SEP // ET724 // VIE-ARN // 6:50-9:05
4 OCT // ET715 // FCO-ADD // 23:40-6:15 (ต้นทางมาจาก Stockholm รับคนเพิ่มที่ Rome)
6 OCT // ET618 // ADD-BKK // 0:35-13:15 (ไฟลท์นี้เดินทางต่อไปปลายทาง Manila)
Bangkok - Addis Ababa - Vienna - Stockholm Arlanda
ผมไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิราวๆ 4 ทุ่มครึ่ง ก็มีเวลาถมเถเลยแวะทานข้าวชั้นล่างไปพลางๆ โดยสายการบิน Ethiopian Airlines เช็คอินที่ ROW W ริมสุดของสนามบิน สายการบินนี้เปิดเคาท์เตอร์ก่อนบินราว 3 ชม. เนื่องจากผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินนี้ใช้เวลาเช็คอินค่อนข้างนาน แต่ละคนสัมภาระเยอะมากถึงมากที่สุด
แถวหน้าสุดจะเป็นเคาท์เตอร์สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในชั้น Cloud 9 (Business Class), ผู้ที่ถือบัตรทองของสารการบิน และผู้ที่ถือบัตร Star Alliance Gold ส่วนอีก 3-4 ช่องที่เหลือจะสำหรับผู้โดยสารทั่วไป
เคาท์เตอร์พิเศษจะมีพรมแดงปูทางทุกที่ (คุณค่าที่เราคู่ควร)
ทุกอย่างดูปกติดี ตอนนั้นก็ประมาณ 5 ทุ่มครึ่งได้แล้ว สัญชาติญาณการเอาตัวรอดเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เริ่มจาก
- ผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นที่อยู่ก่อนหน้าผมใช้เวลาเช็คอิน นาน ผิดปกติ ซึ่งปกติเคาท์เตอร์พิเศษจะบริการว่องไวกว่าปกติ ผมเห็นพนักงานกับผู้โดยสารเหมือนกำลังต่อรอง ตกลงอะไรกันอยู่ซักอย่าง ผมหน้าเริ่มเหวี่ยง เริ่มจ้องไปที่ Airlines Staff ที่ควบคุมการเช็คอิน ว่าเกิดอะไรขึ้น
- ฝั่งผู้โดยสารทั่วไปเริ่มมีการยุบแถว รวมกลุ่มกัน โดยมี Airlines Staff เข้ามาประสานงาน ต่อมาผมเห็น Station Manager ชาว Ethiopia เดินมาดูสถานการณ์
- พนักงานที่เช็คอินเคาท์เตอร์ข้างๆสัมผัสพลังอำหิตของผมได้ จึงเชิญมาที่เคาท์เตอร์ข้างๆ พร้อมกับแจ้งว่า “Flight ยกเลิกนะคะ เดี๋ยวเราจะรีบประสานงานให้ผู้โดยสารเดินทางไปถึงปลายทาง ” พร้อมกับเช็คข้อมูลการเดินทางของผม
หลังจากนั้นไม่นานก็มี SMS จากสวรรค์ส่งมา ....
เช็คกับเว็บ Flightradar24 จริงๆแล้วเที่ยวบินถูกยกเลิกตั้งแต่ ET628 Bangkok - Manila ที่เสียดายไปกว่านั้นเครื่องที่จะต้องนั่งคืนนี้เป็น 787 ลำใหม่ที่สุดของสายการบิน ยังบินได้ไม่ถึงเดือนก็งอแงซะแล้ว ซ่อมไม่ได้ต้องรออะไหล่จากทางสิงคโปร์และไม่รู้ว่าจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่
พนักงานแจ้งมาว่าผมมี 2 ทางเลือกในการเดินทางต่อ
- เดินทางไปกับ Emirates ไฟลท์ EK371 ซึ่งจะเดินทางออกเวลา 2:25 ต่อไปยัง Stockholm ซึ่งจะทำให้ผมไปถึง Stockholm เร็วกว่ากำหนด 1 วัน จะไม่กระทบกับแผนเที่ยวของผม แต่ผมต้องจองโรงแรมเองเพิ่มอีกวัน
- เข้าพักที่ Novotel Suvarnabhumi คืนนี้ แล้วเดินทางในวันพรุ่งนี้แทน ซึ่งจะทำให้ผมไปถึง Stockholm ช้ากว่ากำหนด 1 วัน จะทำให้แผนเที่ยวรวนไปหมด
ตอนนั้นเวลาก็ย่างเข้าสู่เที่ยงคืนครึ่งแล้ว เลยแจ้งไปว่าขอไปกับ Emirates EK371 ขั้นตอนแรกที่ผมต้องดำเนินการ คือ “ทำการเปลี่ยนตั๋ว” ตรงนี้จะดำเนินการโดย Airlines Staff ไม่ใช่พนักงานที่เช็คอิน ตรงนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เป็นชาว Ethiopia ไม่มีไฟลท์ต่อก็เข้าพักที่โรงแรมได้เลย ส่วนคนที่มีไฟลท์ต่อต้องรอเข้าแถวรอเปลี่ยนตั๋วทีละคน ประเด็นต่อมาที่ผมกังวล คือ แล้วไมล์ที่จะต้องได้จากการเดินทางจาก Bangkok – Stockholm จะได้ไหม? Airlines Staff แจ้งว่าได้แน่นอน แต่อาจจะนานหน่อย (ปัจจุบันไมล์เข้าแล้ว ใช้เวลาราว 1 เดือน)
ไหนๆแล้วผมลองขอ Lounge Invitation เพิ่มเนื่องจากเดิมผมสามารถใช้สิทธิ์ Star Alliance Gold เข้า Lounge ของสายการบินในเครือ Star Alliance ได้ แต่พอมาบินกับ Emirates แล้วผมจะใช้สิทธิ์นี้ไม่ได้
หลังจากเปลี่ยนตั๋วเสร็จก็นำเอกสารที่ทาง Ethiopian Airlines ออกให้ไปยื่นเช็คอินกับทาง Emirates ก็ได้ Boarding Pass มา 2 ใบยิงยาวถึง Stockholm เลย กว่าจะเช็คอินเสร็จก็ปาไป ตี1 กว่าแล้ว คิดว่าคงไป Lounge ไม่ทันแน่ๆเพราะต้องไปรับของที่ซื้อไว้ที่ Duty Free
Flight Status เปลี่ยนเป็นล่าช้า เวลาใหม่คือ 8 โมง ซึ่งผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้
EK371 Bangkok - Dubai
EK371 ทำการบินด้วย Boeing 777-300ER วันนี้ได้เครื่องใหม่สุดๆ A6-EPR เพิ่งเข้าประจำการได้เดือนเดียวเอง ปกติเครื่องบินรุ่นนี้ของ Emirates จัดวางเบาะแบบ 3-4-3 ยกเว้นโซนท้ายเครื่องจะบีบเหลือ 2-4-2 ตอนนี้แนวโน้มการจัดวาง 3-4-3 กำลังระบาดไปทั่วโลก ไม่รู้การบินไทยอนาคตจะไปตามเค้าด้วยหรือเปล่า
ปกติผมชอบนั่งติดหน้าต่าง แต่เนื่องจากไฟลท์นี้ผู้โดยสารแน่นมาก เลยยอมโดนเด้งออกมานั่งริมทางเดิน โดยเว้นที่ตรงกลางไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกันกับผู้โดยสารอืกท่านที่นั่งติดหน้าต่าง
Seat Pitch พอไปวัดไปวาได้
ทีนี้มาถึง Highlightของ Emirates คือระบบ IFE ของเค้าที่มีชื่อว่า ice นั้นโดดเด่นจอใหญ่อลังการสุดๆ
ลูกเล่นก็มีเยอะมาก นี่เราสามารถดูแผนผังของแต่ละสนามบินที่จอดอยู่ได้ด้วย
Safety Card ,หนังสือต่างๆ และอุปกรณ์ยังชีพบนเครื่องบิน
คนชอบ IFE นี่ต้อง Emirates รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ตามรายละเอียดการเดินทาง เราจะใช้เวลาเดินทางราว 5 ชั่วโมง ครึ่ง
Menu อาหาร ซึ่งไฟลท์นี้ถึงแม้จะเป็นเวลาตี 2 ก็โดนรวบตึงไปเป็นมื้อเช้าเลย ผมเลือกหมี่ผัดฮกเกี้ยน นอกเหนือจากนั้นยังสามารถขอมาม่าคัพได้ตอนที่บริการอาหารจบแล้ว
หน้าตาถาดอาหารเป็นเช่นนี้ ประกอบด้วย ผลไม้ที่ให้มาปริมาณกำลังดี ชีส แยม เนย น้ำส้มหวานแสบคอ แครกเกอร์ไว้กินกับชีส ครัวซองอุณหภูมิห้อง(ไม่ร้อนไม่เย็น) ตัวอาหารจานหลักค่อนข้างผิดหวัง เส้นแหลกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้กระเด็นหลุดจากส้อมตลอดเวลา
ในห้องน้ำจะมีน้ำหอมและโลชั่นบริการ กลิ่นหอมมากๆ
พอปิดไฟ Cabin จะกลายเป็นท้องฟ้าจำลอง
ยังหลับไม่ทันหนำใจก็ถูกปลุกซะแล้ว บนหน้าจอจะมี Information แจ้งว่าเครื่องจะลงจอด Gate ไหนและเที่ยวบินต่อไปของเรานั้นต้องไปที่ Gate ไหนต่อ
[CR] REVIEW Ethiopian Airlines & Emirates :: Bangkok-Stockholm :: เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
สวัสดีครับ
เมื่อช่วงเดือนกันยายน ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพักผ่อนประเทศโซน EUROPE ได้แก่ Sweden, Greece, Italy พร้อมของแถมอีกประเทศหนึ่งซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการ Transit นั่นก็คือ Ethiopia
ผมได้ทำการจองตั๋วกับสายการบิน Ethiopian Airlines ซึ่งสายการบินนี้ทำการบินระหว่าง Bangkok – Addis Ababa ทุกวันมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว โดยยังใช้ Bangkok เป็นจุดแวะพักบินต่อไปเส้นทางอื่นอีกด้วย ปัจจุบันมีบินจาก Bangkok – Kuala Lumpur และ Bangkok – Manila
ถึงแม้ว่า Bangkok จะมีความผูกพันกับ Ethiopian Airlines มานาน แต่ทางสายการบินเพิ่งได้ทำการเปลี่ยนเครื่องบินที่ใช้บินในเส้นทางนี้จาก Boeing 767-300ER มาเป็น Boeing 787-8 ได้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง แอบน้อยใจเล็กๆเพราะว่าเส้นทางบินไกลอื่นๆเค้าเปลี่ยนไปใช้ Boeing 787-8, 777-300ER กันไปตั้งนานแล้ว
แต่ทุกอย่างมันไม่ราบรื่นดังที่วาดฝันไว้ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างไปดูกันครับ
กำหนดการเดินทาง
27 SEP // ET629 // BKK-ADD // 1:30-6:30
28 SEP // ET724 // ADD-VIE // 0:45-5:55 (แวะจอดส่งคนลง Vienna)
28 SEP // ET724 // VIE-ARN // 6:50-9:05
4 OCT // ET715 // FCO-ADD // 23:40-6:15 (ต้นทางมาจาก Stockholm รับคนเพิ่มที่ Rome)
6 OCT // ET618 // ADD-BKK // 0:35-13:15 (ไฟลท์นี้เดินทางต่อไปปลายทาง Manila)
Bangkok - Addis Ababa - Vienna - Stockholm Arlanda
ผมไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิราวๆ 4 ทุ่มครึ่ง ก็มีเวลาถมเถเลยแวะทานข้าวชั้นล่างไปพลางๆ โดยสายการบิน Ethiopian Airlines เช็คอินที่ ROW W ริมสุดของสนามบิน สายการบินนี้เปิดเคาท์เตอร์ก่อนบินราว 3 ชม. เนื่องจากผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินนี้ใช้เวลาเช็คอินค่อนข้างนาน แต่ละคนสัมภาระเยอะมากถึงมากที่สุด
แถวหน้าสุดจะเป็นเคาท์เตอร์สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในชั้น Cloud 9 (Business Class), ผู้ที่ถือบัตรทองของสารการบิน และผู้ที่ถือบัตร Star Alliance Gold ส่วนอีก 3-4 ช่องที่เหลือจะสำหรับผู้โดยสารทั่วไป
เคาท์เตอร์พิเศษจะมีพรมแดงปูทางทุกที่ (คุณค่าที่เราคู่ควร)
ทุกอย่างดูปกติดี ตอนนั้นก็ประมาณ 5 ทุ่มครึ่งได้แล้ว สัญชาติญาณการเอาตัวรอดเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เริ่มจาก
- ผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นที่อยู่ก่อนหน้าผมใช้เวลาเช็คอิน นาน ผิดปกติ ซึ่งปกติเคาท์เตอร์พิเศษจะบริการว่องไวกว่าปกติ ผมเห็นพนักงานกับผู้โดยสารเหมือนกำลังต่อรอง ตกลงอะไรกันอยู่ซักอย่าง ผมหน้าเริ่มเหวี่ยง เริ่มจ้องไปที่ Airlines Staff ที่ควบคุมการเช็คอิน ว่าเกิดอะไรขึ้น
- ฝั่งผู้โดยสารทั่วไปเริ่มมีการยุบแถว รวมกลุ่มกัน โดยมี Airlines Staff เข้ามาประสานงาน ต่อมาผมเห็น Station Manager ชาว Ethiopia เดินมาดูสถานการณ์
- พนักงานที่เช็คอินเคาท์เตอร์ข้างๆสัมผัสพลังอำหิตของผมได้ จึงเชิญมาที่เคาท์เตอร์ข้างๆ พร้อมกับแจ้งว่า “Flight ยกเลิกนะคะ เดี๋ยวเราจะรีบประสานงานให้ผู้โดยสารเดินทางไปถึงปลายทาง ” พร้อมกับเช็คข้อมูลการเดินทางของผม
หลังจากนั้นไม่นานก็มี SMS จากสวรรค์ส่งมา ....
เช็คกับเว็บ Flightradar24 จริงๆแล้วเที่ยวบินถูกยกเลิกตั้งแต่ ET628 Bangkok - Manila ที่เสียดายไปกว่านั้นเครื่องที่จะต้องนั่งคืนนี้เป็น 787 ลำใหม่ที่สุดของสายการบิน ยังบินได้ไม่ถึงเดือนก็งอแงซะแล้ว ซ่อมไม่ได้ต้องรออะไหล่จากทางสิงคโปร์และไม่รู้ว่าจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่
พนักงานแจ้งมาว่าผมมี 2 ทางเลือกในการเดินทางต่อ
- เดินทางไปกับ Emirates ไฟลท์ EK371 ซึ่งจะเดินทางออกเวลา 2:25 ต่อไปยัง Stockholm ซึ่งจะทำให้ผมไปถึง Stockholm เร็วกว่ากำหนด 1 วัน จะไม่กระทบกับแผนเที่ยวของผม แต่ผมต้องจองโรงแรมเองเพิ่มอีกวัน
- เข้าพักที่ Novotel Suvarnabhumi คืนนี้ แล้วเดินทางในวันพรุ่งนี้แทน ซึ่งจะทำให้ผมไปถึง Stockholm ช้ากว่ากำหนด 1 วัน จะทำให้แผนเที่ยวรวนไปหมด
ตอนนั้นเวลาก็ย่างเข้าสู่เที่ยงคืนครึ่งแล้ว เลยแจ้งไปว่าขอไปกับ Emirates EK371 ขั้นตอนแรกที่ผมต้องดำเนินการ คือ “ทำการเปลี่ยนตั๋ว” ตรงนี้จะดำเนินการโดย Airlines Staff ไม่ใช่พนักงานที่เช็คอิน ตรงนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เป็นชาว Ethiopia ไม่มีไฟลท์ต่อก็เข้าพักที่โรงแรมได้เลย ส่วนคนที่มีไฟลท์ต่อต้องรอเข้าแถวรอเปลี่ยนตั๋วทีละคน ประเด็นต่อมาที่ผมกังวล คือ แล้วไมล์ที่จะต้องได้จากการเดินทางจาก Bangkok – Stockholm จะได้ไหม? Airlines Staff แจ้งว่าได้แน่นอน แต่อาจจะนานหน่อย (ปัจจุบันไมล์เข้าแล้ว ใช้เวลาราว 1 เดือน)
ไหนๆแล้วผมลองขอ Lounge Invitation เพิ่มเนื่องจากเดิมผมสามารถใช้สิทธิ์ Star Alliance Gold เข้า Lounge ของสายการบินในเครือ Star Alliance ได้ แต่พอมาบินกับ Emirates แล้วผมจะใช้สิทธิ์นี้ไม่ได้
หลังจากเปลี่ยนตั๋วเสร็จก็นำเอกสารที่ทาง Ethiopian Airlines ออกให้ไปยื่นเช็คอินกับทาง Emirates ก็ได้ Boarding Pass มา 2 ใบยิงยาวถึง Stockholm เลย กว่าจะเช็คอินเสร็จก็ปาไป ตี1 กว่าแล้ว คิดว่าคงไป Lounge ไม่ทันแน่ๆเพราะต้องไปรับของที่ซื้อไว้ที่ Duty Free
Flight Status เปลี่ยนเป็นล่าช้า เวลาใหม่คือ 8 โมง ซึ่งผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้
EK371 Bangkok - Dubai
EK371 ทำการบินด้วย Boeing 777-300ER วันนี้ได้เครื่องใหม่สุดๆ A6-EPR เพิ่งเข้าประจำการได้เดือนเดียวเอง ปกติเครื่องบินรุ่นนี้ของ Emirates จัดวางเบาะแบบ 3-4-3 ยกเว้นโซนท้ายเครื่องจะบีบเหลือ 2-4-2 ตอนนี้แนวโน้มการจัดวาง 3-4-3 กำลังระบาดไปทั่วโลก ไม่รู้การบินไทยอนาคตจะไปตามเค้าด้วยหรือเปล่า
ปกติผมชอบนั่งติดหน้าต่าง แต่เนื่องจากไฟลท์นี้ผู้โดยสารแน่นมาก เลยยอมโดนเด้งออกมานั่งริมทางเดิน โดยเว้นที่ตรงกลางไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกันกับผู้โดยสารอืกท่านที่นั่งติดหน้าต่าง
Seat Pitch พอไปวัดไปวาได้
ทีนี้มาถึง Highlightของ Emirates คือระบบ IFE ของเค้าที่มีชื่อว่า ice นั้นโดดเด่นจอใหญ่อลังการสุดๆ
ลูกเล่นก็มีเยอะมาก นี่เราสามารถดูแผนผังของแต่ละสนามบินที่จอดอยู่ได้ด้วย
Safety Card ,หนังสือต่างๆ และอุปกรณ์ยังชีพบนเครื่องบิน
คนชอบ IFE นี่ต้อง Emirates รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ตามรายละเอียดการเดินทาง เราจะใช้เวลาเดินทางราว 5 ชั่วโมง ครึ่ง
Menu อาหาร ซึ่งไฟลท์นี้ถึงแม้จะเป็นเวลาตี 2 ก็โดนรวบตึงไปเป็นมื้อเช้าเลย ผมเลือกหมี่ผัดฮกเกี้ยน นอกเหนือจากนั้นยังสามารถขอมาม่าคัพได้ตอนที่บริการอาหารจบแล้ว
หน้าตาถาดอาหารเป็นเช่นนี้ ประกอบด้วย ผลไม้ที่ให้มาปริมาณกำลังดี ชีส แยม เนย น้ำส้มหวานแสบคอ แครกเกอร์ไว้กินกับชีส ครัวซองอุณหภูมิห้อง(ไม่ร้อนไม่เย็น) ตัวอาหารจานหลักค่อนข้างผิดหวัง เส้นแหลกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้กระเด็นหลุดจากส้อมตลอดเวลา
ในห้องน้ำจะมีน้ำหอมและโลชั่นบริการ กลิ่นหอมมากๆ
พอปิดไฟ Cabin จะกลายเป็นท้องฟ้าจำลอง
ยังหลับไม่ทันหนำใจก็ถูกปลุกซะแล้ว บนหน้าจอจะมี Information แจ้งว่าเครื่องจะลงจอด Gate ไหนและเที่ยวบินต่อไปของเรานั้นต้องไปที่ Gate ไหนต่อ