สวัสดีค่ะ! วันนี้ฤกษ์งามยามดีอยากรีวิวกระทู้แรกในชีวิต ><
เลยจะขอหยิบเอาผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ใช้แล้วรู้สึกว่าได้ผลจริงจนอยากบอกต่อมารีวิวก็แล้วกัน!!!

สภาพผิว: เป็นคนผิวแพ้ง่าย สีผิวค่อนไปทางขาว-เหลือง แต่ก่อนนี้แต่งหน้าแล้วหมองคล้ำง่ายมาก และแอบมีริ้วรอยเล็กน้อยตามประสาสาววัย 28 เคยมีสิวผดเล็กๆตรงบริเวณหน้าผากและแก้ม แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วล่ะค่ะ

เอาล่ะค่ะมาเริ่ม Beauty Routine กันที่ขั้นตอนแรกดีกว่า

ในขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวหน้าแน่นอนค่ะ ว่าเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสเบาบางที่สุดก่อน เราไม่ชอบทาสกินแคร์ซ้ำซ้อนหรือเยอะเกินไป จึงเลือกสกินแคร์ที่ไม่เหมือนกันในตอนเช้าและตอนก่อนนอน

ตอนเช้า: เลือกใช้น้ำตบตัวดัง Hada Labo สูตร Hydrating Lotion ที่ขึ้นชื่อเรื่องของการทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น เราชอบใช้ตัวนี้ลงก่อนแต่งหน้าค่ะเพราะรู้สึกว่าเมื่อผิวชุ่มชื้นดีก็จะแต่งหน้าติด ไม่หมองคล้ำง่ายอย่างที่เคย และเมื่อทาไปแล้วผิวเงา ฉ่ำน้ำ แลดูสุขภาพดีด้วย

ตัวนี้ค่อนข้างติดใจ ให้คะแนน: 4.5/5 (หักตรงที่หนึบไปนิด)
ราคา 690 บาท
ซื้อต่อไหม: ซื้อค่ะ

ตอนกลางคืน: เลือกใช้ BIOTHERM LIFE PLANKTON ESSENCE ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดหลังจากใช้ตัวนี้คือ รูขุมขนกระชับขึ้นนิดหน่อยค่ะ ผดเล็กๆที่เคยมีหายไปและสิวก็ขึ้นน้อยลงด้วย แต่เรื่องริ้วรอยยังไม่เห็นชัดมากเท่าไหร่ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าได้ดีมากๆเช่นกัน

ตัวนี้เรียกได้ว่าเริ่ดดด ให้คะแนน: 4/5 (หักตรงที่แอบซึมยากและราคาแรง)
ราคา 2300 บาท
ซื้อต่อไหม: ซื้อค่ะ

หลังจากลงสกินแคร์เนื้อบางเบาอย่างพวกน้ำตบแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อครีมค่ะ อย่างที่บอกไปว่าเราผิวคล้ำง่ายจึงอยากได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Whitening และลดลิ้วรอยแห่งวัยได้ด้วยแต่เรามักจะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนาโดยเด็ดขาดเพราะผิวเป็นผดง่าย

ในตอนแรก: เลือกใช้ Garnier Ageless White Anti-aging + Whitening จากคลิปโฆษณาค่ะ ที่ซื้อมาเพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางเบานี่แหละ เรากลัวเรื่องการอุดตันมากๆ แต่ใช้ไปไม่นานก็เลิกซะก่อน หนึ่งเลยเพราะเราทนกลิ่นไม่ไหวถ้าใครซื้อการ์นิเย่มาต้องรับกลิ่นนี้ได้เท่านั้นเพราะเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ส่วนผลลัพธ์ยังไม่เห็นอะไรมากค่ะใช้แล้วผิวชุ่มชื่นประมาณนึง

ตัวนี้ขอบาย ให้คะแนน: 2/5
ราคา 349 บาท
ซื้อต่อไหม: ไม่ซื้อค่ะ

ต่อมา: ทั้งเช้าและก่อนนอนเลือกใช้ Elle Reve (แอล เลเว่ ชื่ออ่านยากนิดนึงนะคะ) White Activating Serum ตามคำแนะนำของเพื่อน ที่ลองใช้เพราะคุณสมบัติ All-in-1 ครบตามที่เราต้องการเลย คือ เป็น Whitening, กระชับรูขุมขน, ลดริ้วรอย, ลดอาการระคายเคือง และให้ความชุ่มชื้น อย่างแรกที่ติดใจเลยคือไม่ได้กลิ่นน้ำหอมที่รุนแรง และเราใช้แล้วเห็นผลเร็วมากคือผิวเนียนและขาวขึ้นจนคนรอบข้างทัก ขนาดน้องสาวยังขโมยไปใช้ด้วยเลยค่ะ

เราลองเปรียบเทียบเนื้อผลิตภัณฑ์กับการ์นิเย่ที่เคยใช้ดู

จะเห็นเลยว่าของ Elle Leve เนื้อหนากว่าแต่ยังคงมีความบางเบาไม่หนาหนึบเท่าครีม ใช้แล้วก็ไม่มีอาการอุดตัน ซึมเร็วพอๆกันแต่จะช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นได้มากกว่า เมือทาแล้วหน้าเงาๆดูฉ่ำน้ำขึ้นมาทันที

ตัวนี้ขาดไม่ได้ ให้คะแนน: 5/5
ราคา 990 บาท
ซื้อต่อไหม: ซื้อค่ะ

ขั้นตอนสุดท้ายนั้น แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์สำหรับตอนเช้าและกลางคืนนั้นต่างกัน

ตอนเช้า: ผลิตภัณฑ์สำหรับกันแดดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด เลือกใช้ Kiehl’s Ultra Light Daily UV Definer SPF 50 PA+++ ตัวนี้ใช้เป็นหลอดที่ 2 แล้วค่ะ ไม่อยากเปลี่ยนเพราะใช้แล้วไม่หมองคล้ำระหว่างวัน ไม่อุดตัน และไม่มีสิวผด เลยยังไม่อยากรีบเปลี่ยนใจไปลองยีห้ออื่น แต่กะว่าถ้าหมดหลอดที่ 2 นี้แล้วจะลองยี่ห้ออื่นดู เพราะราคาของ Kiehl’s นี่แพงเอาเรื่องเหมือนกัน

ตัวนี้ดี ให้คะแนน: 4/5
ราคา 1400 บาท
ซื้อต่อไหม: จะลองเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นดูค่ะ

ตอนกลางคืน: จะเห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เน้นเรื่องให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นหลัก เพราะการทำให้ผิวอิ่มน้ำทำให้เราเห็นผลชัดๆเลยว่าผิวสุขภาพดี แต่งหน้าติด และไม่มีค่อยมีสิวขึ้น ก่อนนอนจึงเลือกมาส์กผิวหน้าด้วย Laneige Water Sleeping Mask สูตรใหม่ที่สามารถใช้มาส์กหน้านอนได้ทุกคืน แบรนด์นี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องศาสตร์ของน้ำและความชุ่มชื้นอยู่แล้ว ตอนตื่นมาผิวจะเด้งๆหน้าฉ่ำๆดีค่ะ

ตัวนี้ชอบ ให้คะแนน: 4.5/5 (หักที่มาส์กทุกคืน หมดกระปุกไวมาก)
ราคา 1100 บาท
ซื้อต่อไหม: ซื้อค่ะ

จบขั้นตอนการบำรุงผิวของเราแล้วค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อสาวๆที่มีปัญหาหรือมีสภาพผิวหน้าคล้ายๆเรานะคะ ไว้โอกาสหน้าเราจะมารีวิว Beauty Routine อื่นๆอีก กระทู้มือใหม่เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า