สวัสดีค่ะ เราเพิ่งเคยเขียนกระทู้ครั้งแรก และก็เป็นเรื่องผู้ชายเลย 555555555
อ่ะๆ กลับมาเข้าโหมดซีเรียสนิดนึง ... คือว่า ตอนนี้เรากำลังเรียนมหาลัยอยู่ ใกล้จะจบแล้ว โดยส่วนตัวคือรากฐานที่บ้านเป็นคนจีน และค่อนข้างหัวโบราณ ไม่ให้มีแฟนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม (แต่เราก็มีแอบคบบ้าง คุยบ้างตามประสา แฮ่ๆๆ) จนกระทั่งมาตอนนี้ ทางบ้านก็ยังไม่ให้มีแฟนค่ะ กำลังจะจบอยู่แล้วด้วย อีกสองปีจบ (เราเรียนในตระกูลที่เค้าเรียนกัน 6 ปีน่ะ)
แต่ระหว่างนี้ เราก็มีคุยกับคนๆนึงอยู่ ขอย่อนามด้วย ก. อายุเท่ากับเราเลย 22 ปี ซึ่งก.เป็นคนที่ตรงสเปคเราทุกอย่าง หน้าตาดี คุยเก่ง อัธยาสัยดี เข้ากับคนง่าย ทางบ้านฐานะปานกลาง กินเหล้าบ้างกับเพื่อนฝูงตามประสาหนุ่มวิศวะ แต่เค้าเป็นคนรักใครรักจริง ไม่สนใจผู้หญิงอื่นเลยนะ มีบ้างแหละแบบเหล่ๆตามประสากลุ่มชายหนุ่มเหล่สาว แต่ก็ไม่เคยต้องทำให้เราสงสัยหรือต้องคอยจับผิดเลย โทรศัพท์อยากดูก็ให้ดู แล้วบ้านเค้าก็เป็นคนจีนเหมือนกันด้วย บอกเลยว่าชอตแรกที่รู้จักกันคือเราเป็นคนแอดเฟสบุ้คเค้าไปก่อนแหละค่าา 55555 ตั้งแต่คุยกันมาทะเลาะกันน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไร้สาระ (ช่วงที่เราเป็นประจำเดือนแหละ-0- อารมณ์ผู้หญิงๆรู้กันเนอะ เหวี่ยง หาเรื่องมาทะเลาะจนได้อ่ะ 555) ซึ่งเอาจริงๆเค้าก็รู้นะ ว่าที่บ้านเราไม่ชอบเค้า คือ 1.บ้านเค้าเป็นคนจีน แม่ไม่ชอบที่เป็นอารมณ์กงสี มีอะไรต้องแชร์กัน นู่นนี่ 2.เรียนวิศวะ ยังไงก็กินเงินเดือน มาดูแลลูกสาวสุดที่รักของเค้าไม่ได้หรอก บลาๆ 3.ทางบ้านก็กีดกันอยู่แล้วไง ไม่อยากให้มีแฟน 4. เค้ากะเพื่อนจะพูดในเฟสบุ้คไม่เพราะ อารมณ์ผู้ชายๆคุยกันอ่ะ ไอ่เ_ี้ย , ค_ย, เอิ้มม ประมาณนั้นค่ะ (ซึ่งทางบ้านเราถือว่าพูดเพราะระดับนึงเลยแหละ แต่เราก็มีบ้างพูดไม่เพราะอ่ะ แต่แม่ไม่รู้ แม่เนี้ยบมาก) นั่นแหละ จากตั้งแต่เริ่มคุยกันมา... หลายคนคงสงสัย คือด้วยเหตุที่ไม่เรียกว่าแฟน เพราะ ทางบ้านไม่อยากให้มีแฟน โอเคคคค ด้ายยย ไม่ได้มีแฟนนะ มีแค่คนคุยยย!!!! *.* 555 แต่ไงบรรดาเพื่อนๆเรา เพื่อนๆก.ก็มองว่าเราเป็นแฟนกันอยู่ดี ไปเที่ยวด้วยกัน ลงรูปด้วยกัน แต่ยังไม่เคยอย่างว่ากันนะ.. ก็เราหัวโบราณเหมือนกันนี่ >/////< โดยรวมตอนนี้ก็คุยกันมากว่า 2 ปีแล้ว เคยมีต้องเลิกคุยกันเพราะแม่สั่งตัดแม่ตัดลูกไม่ให้คุยกะคนนี้ ก็ดราม่าไป ร้องไห้หนักมาก TT.TT เลิกคุยไปได้สักพัก เราก็กลับไปคุยกันอีก เพราะเราไม่ได้เลิกรักกันสักหน่อย ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่สองสามรอบได้ แต่ก.ก็เข้าใจเราทุกอย่าง บอกว่าจะพิสูจน์ให้แม่เราเห็น ทำให้แม่เรายอมรับให้ได้.
ในตอนนี้เราก็ยังเรียนกันทั้งคู่ค่ะ ยังไม่มีอนาคตที่แน่นอน ก.ก็บอกอยากอยู่บริษัท ญี่ปุ่นมั่งแหละ รัฐวิสาหกิจบ้างแหละ บอกว่ามันดีในระยะยาว ซึ่งเราก็ว่าเอาที่เธอสบายใจ เรายังไงก็ได้ เราเป็นกำลังใจให้เต็มที่ ^^
แต่เอาเข้าจริงๆนะทุกคน เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ใช่..ตอนนี้เรื่องเงินอาจจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะเรายังสามารถขอพ่อแม่ได้ แต่อนาคตล่ะ...เงินเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราแน่นอน เราก็อยากได้คู่ชีวิตที่พร้อมรองรับและ support เราได้ตลอด แต่ถ้าตัดเรื่องเงินออกไป เราเลือกคนนี้อย่างไม่ต้องลังเลเลย
และเมื่อไม่นานมานี้ แม่เราได้เจอผู้ชายคนนึง พอศึกษาดูนิสัย บุคลิก คำพูดคำจา ดูครอบครัวเขา และฐานะแล้ว แม่เราโอเคกะคนนี้มาก บอกว่า นี่เลย "ลูกเขยแม่" o0O ห้ะ!...แม่!!! คือ ปกติแม่เราไม่เคยให้คุยกับใคร ไม่ให้เรายุ่งกับใคร คบแบบเพื่อนได้ แม่ไม่ว่า แต่อย่าเกินนั้น แต่พอมาคนนี้ แม่ไฟเขียวให้เลย...งงสิคะ เกิดอะไรขึ้นคะขุ่นแม่ = =" ... มาดูกันค่ะว่าคนๆนี้เป็นยังไง
ผู้ชายคนนี้ขอนามย่อเป็น จ. อายุ 33-34 ปี (คือห่างกับเรารอบหนึ่งเลย OMG!!!!) เค้าไม่ได้หล่อเหมือนก. แต่ก็ไม่ถึงกับแย่นะ ความสูงพอๆกับก. โดยรวมคือพอดูได้ (จขกท.ชอบคนที่หน้าตาด้วยน่ะ แหะๆ) ผิวพี่เค้าค่อนข้างคล้ำ ซึ่งเราชอบผช.ผิวสองสี ค่อนไปทางขาวนิดๆ >< ทำงานอารมณ์ขายชิ้นส่วนรถนำเข้า พวกมินิ บลาๆ ฐานะค่อนข้างดีถึงดีมากเลยล่ะ ในส่วนของตอนแรกที่แม่แนะนำให้เรารู้จักนี่... เราปฏิเสธหนักมากกก ไม่อยากรู้จัก แม่ หนูงานเยอะะ ยุ่งตลอดหัวฟูเลยเนี่ยเห็นมั๊ยยยย! อ้างสารพัดค่ะ ช่วงแรกที่แม่บอกว่า ให้คุยเป็นพี่เป็นน้องไป เผื่อมีอะไรได้ช่วยเหลือกันได้ เราก็โอเค...ไม่อยากขัดใจแม่ คือเราเป็นคนทำอะไรก็ได้ให้แม่สบายใจอ่ะค่ะ ถึงแม้ว่าตอนแม่ไม่เห็นจะทำตามใจตัวเองบ้างก็เถอะ แฮ่ๆๆ แรกๆคุยแค่แชทเฟสบุ้คกันค่ะ เราก็ตอบมั่งไม่ตอบมั่ง งานเราเยอะจริง แต่ก็พอมีเวลาตอบแต่เราไม่ตอบ (ก็คนมันไม่อยากคุยนี่ -0-) พอมาวันนึง พี่เค้าจะเอาของมาฝาก ซึ่งเคยเอาของมาฝากแม่เรารอบนึงแล้ว แล้วรอบที่จะมาวันนั้นดันตรงกับวันที่เรากลับบ้านพอดี ... เลี่ยงก็ไม่ได้ ... เอาวะ! เจอก็เจอ ไม่เห็นเป็นไรเลย หึหึ
ซึ่งครั้งแรกที่เจอ ด้วยความที่เราก็เป็นเด็กมีมารยาทอะนะ ก็พูดจาดี อะไรดี พาไปไหว้พระ (บ้านเราอยู่ใกล้วัด) วันนั้นเราแบบ พูดจาแบบ พี่คะ น้องก็ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่แม่บอกขนาดนั้นหรอกค่ะ น้องก็พูดจาไม่เพราะ น้องดื้อแม่หลายอย่าง (แต่แม่ไม่รู้) บลาๆๆๆ ขุดเอาข้อเสียเราขึ้นมา เหมือนเป็นเกราะกำบังตัวเองไม่ให้เค้ามายุ่มย่ามเรามาก และถอยออกไป... แต่กลับเป็นว่า.... "พี่ก็เข้าใจนะ พูดไม่เพราะเวลาอยู่กับเพื่อนก็ปกติ ใครจะมาเรียบร้อยตลอดเวลา อยู่กับแม่อีกแบบ กับเพื่อนอีกแบบก็ปกติค่ะ ไม่เห็นแปลก พี่ก็เคยไม่ดีมาก่อน กินเหล้า เมากะเพื่อน แต่ตอนนี้พี่เลิกมา4-5ปีแล้วค่ะ" อ้าวว เป็นงั้นไป... พูดว่าเข้าใจเราอี้กก ยกข้อเสียตัวเองมาอี้กก เออ...มีงี้ด้วยเนอะ ++ (พี่จ.ชอบพูด "ค่ะ" กับเรา ซึ่งเราชอบผช.พูดค่ะอยู่แล้ว ดูน่ารักดีอ่าา ><)
ตั้งแต่วันนั้นที่เจอกันครั้งแรก ก็ได้เจอพี่เค้าบ่อยขึ้น พี่เค้าไปรับจากบ้านมาส่งมหาลัย โดยหอบหิ้วของไปฝากแม่ด้วย พวกมะพร้าวเผา สายบัว ฝรั่งมะม่วงในสวนที่บ้านงี้ ของฝากจากออสเตรเลียงี้ คือพี่เค้าบอกว่า ปกติก็ซื้อของเข้าบ้านแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้ลำบากอะไร ซึ่งแม่เราเป็นคนแบบนี้เหมือนกันไง กลับไปบ้านยายทีก็หอบหิ้วไปงี้เลยค่ะ แม่ยิ่งชอบลูกเขยคนนี้ไปอี้กกก หึหึ เราก็ตามประสาเด็กมีมารยาท ก็ค่ะ ดีค่ะ ตามนั้นค่ะ เอาที่สบายใจนะคะ -_-
พอมาถึงวันนี้ รู้จักมาประมาณ 2 เดือนได้ แต่เราก็คุยกันทุกวันในไลน์ (พัฒนาแล้วว) พี่จ.เป็นคนอารมณ์ขันค่ะ เอาใจใส่ ดูแลเทคแคร์ดีมาก เป็นคนที่เข้าใจเราแทบทุกอย่าง รู้ว่าเรากำลังคิดอะไร อาจจะด้วยความที่เค้าโตกว่าเราก็ได้เนอะ ไปรับไปส่งได้ตลอด ขอให้บอกพี่เค้าจะรีบมาเลย แต่ก็ต้องจำเป็นจริงๆถึงบอกพี่เขา และเวลาพี่เขาพาไปกินข้าว ก็ไปแต่ร้านดีๆ แล้วมันก็แพงอ่าค่ะ เป็นพันตลอดกินกันสองคน คือเค้าออกให้เราตลอดเลยนะ เราบอก "เราเกรงใจ เลี้ยงน้องอีกแล้วว แพงด้วยอ่าา..." พี่เค้าบอกว่า "ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ น้องยังเรียนอยู่ พี่เลี้ยงน้องแค่นี้สบายมากค่ะ" อีกทั้งปกติแม่เราชอบทำกับข้าวมาให้เรากินที่มหาลัยค่ะ แต่พักหลังๆงานเยอะไม่ค่อยได้กลับบ้าน พี่เค้าก็ทำกับข้าวมาส่งให้ แม่พี่เค้าก็ทำ ถามเราอยากกินอะไร เดี๋ยวเเม่ทำให้ คือแม่พี่เค้าก็น่ารักมาก พี่เค้าก็เทียวส่งข้าวส่งน้ำให้เราตลอด ตู้เย็นนี่ไม่เคยโล่งเลยค่ะ(สบายท้องงง อิอิ) ซึ่งมาตอนนี้ เราก็เริ่มรู้สึกดีกับพี่จ.นะ ถึงแม้จะเป็นเวลาที่ไม่นาน แต่ด้วยความที่เจอกันบ่อย และพี่เค้าก็เป็นกันเอง เราก็เริ่ม เอ๊ะและ!!! เห้ยยย ตอนแรกพี่น้องนี่หว่าา ไม่ยอมรับแน่นอน ยังไงก็ไม่ใช่คนนี้ ต้องเป็นก.เท่านั้น!!! แต่ต้องนี้เราชักไม่แน่ใจตัวเองแล้ว!!! และเราเริ่มรู้สึกผิดกับก. เราเริ่มมีน้ำตาบ้างเวลานึกถึงวันที่เรากับก.จะไปกันต่อไม่ได้ เนื่องด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทั้งครอบครัวเราเอง หรือเรื่องการเงิน(ถึงจะเป็นเรื่องในอนาคตก็ตาม)
ลืมบอกไปค่ะ สำหรับพี่จ. คือเค้าบอกว่าเค้าก็แก่แล้ว จริงๆพี่ก็ไม่ได้คิดจะมีแฟนหรือมีคู่ชีวิตอะไรหรอก แต่เห็นน้องและครอบครัวน้องน่ารัก พี่ก็เหมือนเป็นพี่ชายคนนึงแล้วกัน (คือแม่เรารักพี่เค้าเหมือนลูกคนนึงไปแล้ว) ถึงแม้ว่าเค้าจะชอบเรา(เค้าบอกแม่เราน่ะ) แต่ไม่ได้หวังจะครอบครอง พี่แค่เอ็นดูน้อง อยากให้น้องมีความสุข ซึ่งพี่เค้าก็รู้ว่าเราคุยกับก.อยู่ รู้ถึงปัญหาที่แม่ไม่ชอบก. หนำซ้ำยังให้กำลังใจเรา และบอกแนวทางว่าถ้าเป็นพี่พี่จะทำยังไง ให้เเม่ยอมรับก.ให้ได้ ..... เออ งงมั้ยล่ะค่ะคุณ !!! 5555555555555
ณ จุดนี้ ขอสรุป คือ 1. ก. คนที่เรารัก และยังรักเสมอ คอยให้กำลังใจเรา ไม่เคยทำให้เราเสียใจ ติดแค่เรื่องฐานะ กับพูดไม่ค่อยเพราะในโซเชียลที่แม่เราไม่ชอบ (แต่อยู่กับเราพูดเพราะนะ) ทางบ้านเป็นคนจีน พูดจาไม่ค่อยเพราะเท่าไหร่ (ต่างกับทางบ้านเราตรงนี้แหละ)
2. พี่จ. คนที่เป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น มีเวลาให้ เทคแคร์ดูแล คอยส่งข้าวส่งน้ำ ดูแลเราได้เลยในทุกเรื่อง เข้าใจเราทุกอย่าง ฐานะดี และคาดว่าไม่น่าจะเจ้าชู้ได้ ด้วยอายุ และลักษณะนิสัย ทางบ้านดูแล้วแม่กะพ่อเค้าเป็นคนใจดี พูดเพราะ (เหมือนกันทางบ้านเราเลยอ่ะ)
คือถ้าวันใดวันนึงต้องเลือกจริงๆ ในส่วนของคนที่เราคุยมาด้วยนานแล้ว แต่แม่เราไม่ยอมรับ -- กับอีกคนที่เพิ่งคุยกัน แต่แม่เราสกรีนมาแล้ว และเราก็ยอมรับได้... ทีนี้เราควรจะทำยังไงดี? ถ้าเราเลิกคุยกะก. ซึ่งก.ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ก.จะต้องเสียใจมากแน่ๆ T T หรือถ้าเลิกคุยกะพี่จ. ซึ่งยังไงแม่ก็เชียร์คนนี้ และถ้าเราไม่เลือกพี่จ. ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ก.มาคบกับเรา T T เศร้าซ้ำสอง
แล้วเราควรจะทำยังไงดีคะ ???
คนหนึ่งเป็นผู้ชายที่เรารักแต่ทางบ้านไม่ยอมรับ แต่กับอีกคนเป็นคนที่ทางบ้านยอมรับและเรารู้สึกดี ควรจะทำยังไง ?
อ่ะๆ กลับมาเข้าโหมดซีเรียสนิดนึง ... คือว่า ตอนนี้เรากำลังเรียนมหาลัยอยู่ ใกล้จะจบแล้ว โดยส่วนตัวคือรากฐานที่บ้านเป็นคนจีน และค่อนข้างหัวโบราณ ไม่ให้มีแฟนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม (แต่เราก็มีแอบคบบ้าง คุยบ้างตามประสา แฮ่ๆๆ) จนกระทั่งมาตอนนี้ ทางบ้านก็ยังไม่ให้มีแฟนค่ะ กำลังจะจบอยู่แล้วด้วย อีกสองปีจบ (เราเรียนในตระกูลที่เค้าเรียนกัน 6 ปีน่ะ)
แต่ระหว่างนี้ เราก็มีคุยกับคนๆนึงอยู่ ขอย่อนามด้วย ก. อายุเท่ากับเราเลย 22 ปี ซึ่งก.เป็นคนที่ตรงสเปคเราทุกอย่าง หน้าตาดี คุยเก่ง อัธยาสัยดี เข้ากับคนง่าย ทางบ้านฐานะปานกลาง กินเหล้าบ้างกับเพื่อนฝูงตามประสาหนุ่มวิศวะ แต่เค้าเป็นคนรักใครรักจริง ไม่สนใจผู้หญิงอื่นเลยนะ มีบ้างแหละแบบเหล่ๆตามประสากลุ่มชายหนุ่มเหล่สาว แต่ก็ไม่เคยต้องทำให้เราสงสัยหรือต้องคอยจับผิดเลย โทรศัพท์อยากดูก็ให้ดู แล้วบ้านเค้าก็เป็นคนจีนเหมือนกันด้วย บอกเลยว่าชอตแรกที่รู้จักกันคือเราเป็นคนแอดเฟสบุ้คเค้าไปก่อนแหละค่าา 55555 ตั้งแต่คุยกันมาทะเลาะกันน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไร้สาระ (ช่วงที่เราเป็นประจำเดือนแหละ-0- อารมณ์ผู้หญิงๆรู้กันเนอะ เหวี่ยง หาเรื่องมาทะเลาะจนได้อ่ะ 555) ซึ่งเอาจริงๆเค้าก็รู้นะ ว่าที่บ้านเราไม่ชอบเค้า คือ 1.บ้านเค้าเป็นคนจีน แม่ไม่ชอบที่เป็นอารมณ์กงสี มีอะไรต้องแชร์กัน นู่นนี่ 2.เรียนวิศวะ ยังไงก็กินเงินเดือน มาดูแลลูกสาวสุดที่รักของเค้าไม่ได้หรอก บลาๆ 3.ทางบ้านก็กีดกันอยู่แล้วไง ไม่อยากให้มีแฟน 4. เค้ากะเพื่อนจะพูดในเฟสบุ้คไม่เพราะ อารมณ์ผู้ชายๆคุยกันอ่ะ ไอ่เ_ี้ย , ค_ย, เอิ้มม ประมาณนั้นค่ะ (ซึ่งทางบ้านเราถือว่าพูดเพราะระดับนึงเลยแหละ แต่เราก็มีบ้างพูดไม่เพราะอ่ะ แต่แม่ไม่รู้ แม่เนี้ยบมาก) นั่นแหละ จากตั้งแต่เริ่มคุยกันมา... หลายคนคงสงสัย คือด้วยเหตุที่ไม่เรียกว่าแฟน เพราะ ทางบ้านไม่อยากให้มีแฟน โอเคคคค ด้ายยย ไม่ได้มีแฟนนะ มีแค่คนคุยยย!!!! *.* 555 แต่ไงบรรดาเพื่อนๆเรา เพื่อนๆก.ก็มองว่าเราเป็นแฟนกันอยู่ดี ไปเที่ยวด้วยกัน ลงรูปด้วยกัน แต่ยังไม่เคยอย่างว่ากันนะ.. ก็เราหัวโบราณเหมือนกันนี่ >/////< โดยรวมตอนนี้ก็คุยกันมากว่า 2 ปีแล้ว เคยมีต้องเลิกคุยกันเพราะแม่สั่งตัดแม่ตัดลูกไม่ให้คุยกะคนนี้ ก็ดราม่าไป ร้องไห้หนักมาก TT.TT เลิกคุยไปได้สักพัก เราก็กลับไปคุยกันอีก เพราะเราไม่ได้เลิกรักกันสักหน่อย ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่สองสามรอบได้ แต่ก.ก็เข้าใจเราทุกอย่าง บอกว่าจะพิสูจน์ให้แม่เราเห็น ทำให้แม่เรายอมรับให้ได้.
ในตอนนี้เราก็ยังเรียนกันทั้งคู่ค่ะ ยังไม่มีอนาคตที่แน่นอน ก.ก็บอกอยากอยู่บริษัท ญี่ปุ่นมั่งแหละ รัฐวิสาหกิจบ้างแหละ บอกว่ามันดีในระยะยาว ซึ่งเราก็ว่าเอาที่เธอสบายใจ เรายังไงก็ได้ เราเป็นกำลังใจให้เต็มที่ ^^
แต่เอาเข้าจริงๆนะทุกคน เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ใช่..ตอนนี้เรื่องเงินอาจจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก เพราะเรายังสามารถขอพ่อแม่ได้ แต่อนาคตล่ะ...เงินเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราแน่นอน เราก็อยากได้คู่ชีวิตที่พร้อมรองรับและ support เราได้ตลอด แต่ถ้าตัดเรื่องเงินออกไป เราเลือกคนนี้อย่างไม่ต้องลังเลเลย
และเมื่อไม่นานมานี้ แม่เราได้เจอผู้ชายคนนึง พอศึกษาดูนิสัย บุคลิก คำพูดคำจา ดูครอบครัวเขา และฐานะแล้ว แม่เราโอเคกะคนนี้มาก บอกว่า นี่เลย "ลูกเขยแม่" o0O ห้ะ!...แม่!!! คือ ปกติแม่เราไม่เคยให้คุยกับใคร ไม่ให้เรายุ่งกับใคร คบแบบเพื่อนได้ แม่ไม่ว่า แต่อย่าเกินนั้น แต่พอมาคนนี้ แม่ไฟเขียวให้เลย...งงสิคะ เกิดอะไรขึ้นคะขุ่นแม่ = =" ... มาดูกันค่ะว่าคนๆนี้เป็นยังไง
ผู้ชายคนนี้ขอนามย่อเป็น จ. อายุ 33-34 ปี (คือห่างกับเรารอบหนึ่งเลย OMG!!!!) เค้าไม่ได้หล่อเหมือนก. แต่ก็ไม่ถึงกับแย่นะ ความสูงพอๆกับก. โดยรวมคือพอดูได้ (จขกท.ชอบคนที่หน้าตาด้วยน่ะ แหะๆ) ผิวพี่เค้าค่อนข้างคล้ำ ซึ่งเราชอบผช.ผิวสองสี ค่อนไปทางขาวนิดๆ >< ทำงานอารมณ์ขายชิ้นส่วนรถนำเข้า พวกมินิ บลาๆ ฐานะค่อนข้างดีถึงดีมากเลยล่ะ ในส่วนของตอนแรกที่แม่แนะนำให้เรารู้จักนี่... เราปฏิเสธหนักมากกก ไม่อยากรู้จัก แม่ หนูงานเยอะะ ยุ่งตลอดหัวฟูเลยเนี่ยเห็นมั๊ยยยย! อ้างสารพัดค่ะ ช่วงแรกที่แม่บอกว่า ให้คุยเป็นพี่เป็นน้องไป เผื่อมีอะไรได้ช่วยเหลือกันได้ เราก็โอเค...ไม่อยากขัดใจแม่ คือเราเป็นคนทำอะไรก็ได้ให้แม่สบายใจอ่ะค่ะ ถึงแม้ว่าตอนแม่ไม่เห็นจะทำตามใจตัวเองบ้างก็เถอะ แฮ่ๆๆ แรกๆคุยแค่แชทเฟสบุ้คกันค่ะ เราก็ตอบมั่งไม่ตอบมั่ง งานเราเยอะจริง แต่ก็พอมีเวลาตอบแต่เราไม่ตอบ (ก็คนมันไม่อยากคุยนี่ -0-) พอมาวันนึง พี่เค้าจะเอาของมาฝาก ซึ่งเคยเอาของมาฝากแม่เรารอบนึงแล้ว แล้วรอบที่จะมาวันนั้นดันตรงกับวันที่เรากลับบ้านพอดี ... เลี่ยงก็ไม่ได้ ... เอาวะ! เจอก็เจอ ไม่เห็นเป็นไรเลย หึหึ
ซึ่งครั้งแรกที่เจอ ด้วยความที่เราก็เป็นเด็กมีมารยาทอะนะ ก็พูดจาดี อะไรดี พาไปไหว้พระ (บ้านเราอยู่ใกล้วัด) วันนั้นเราแบบ พูดจาแบบ พี่คะ น้องก็ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่แม่บอกขนาดนั้นหรอกค่ะ น้องก็พูดจาไม่เพราะ น้องดื้อแม่หลายอย่าง (แต่แม่ไม่รู้) บลาๆๆๆ ขุดเอาข้อเสียเราขึ้นมา เหมือนเป็นเกราะกำบังตัวเองไม่ให้เค้ามายุ่มย่ามเรามาก และถอยออกไป... แต่กลับเป็นว่า.... "พี่ก็เข้าใจนะ พูดไม่เพราะเวลาอยู่กับเพื่อนก็ปกติ ใครจะมาเรียบร้อยตลอดเวลา อยู่กับแม่อีกแบบ กับเพื่อนอีกแบบก็ปกติค่ะ ไม่เห็นแปลก พี่ก็เคยไม่ดีมาก่อน กินเหล้า เมากะเพื่อน แต่ตอนนี้พี่เลิกมา4-5ปีแล้วค่ะ" อ้าวว เป็นงั้นไป... พูดว่าเข้าใจเราอี้กก ยกข้อเสียตัวเองมาอี้กก เออ...มีงี้ด้วยเนอะ ++ (พี่จ.ชอบพูด "ค่ะ" กับเรา ซึ่งเราชอบผช.พูดค่ะอยู่แล้ว ดูน่ารักดีอ่าา ><)
ตั้งแต่วันนั้นที่เจอกันครั้งแรก ก็ได้เจอพี่เค้าบ่อยขึ้น พี่เค้าไปรับจากบ้านมาส่งมหาลัย โดยหอบหิ้วของไปฝากแม่ด้วย พวกมะพร้าวเผา สายบัว ฝรั่งมะม่วงในสวนที่บ้านงี้ ของฝากจากออสเตรเลียงี้ คือพี่เค้าบอกว่า ปกติก็ซื้อของเข้าบ้านแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้ลำบากอะไร ซึ่งแม่เราเป็นคนแบบนี้เหมือนกันไง กลับไปบ้านยายทีก็หอบหิ้วไปงี้เลยค่ะ แม่ยิ่งชอบลูกเขยคนนี้ไปอี้กกก หึหึ เราก็ตามประสาเด็กมีมารยาท ก็ค่ะ ดีค่ะ ตามนั้นค่ะ เอาที่สบายใจนะคะ -_-
พอมาถึงวันนี้ รู้จักมาประมาณ 2 เดือนได้ แต่เราก็คุยกันทุกวันในไลน์ (พัฒนาแล้วว) พี่จ.เป็นคนอารมณ์ขันค่ะ เอาใจใส่ ดูแลเทคแคร์ดีมาก เป็นคนที่เข้าใจเราแทบทุกอย่าง รู้ว่าเรากำลังคิดอะไร อาจจะด้วยความที่เค้าโตกว่าเราก็ได้เนอะ ไปรับไปส่งได้ตลอด ขอให้บอกพี่เค้าจะรีบมาเลย แต่ก็ต้องจำเป็นจริงๆถึงบอกพี่เขา และเวลาพี่เขาพาไปกินข้าว ก็ไปแต่ร้านดีๆ แล้วมันก็แพงอ่าค่ะ เป็นพันตลอดกินกันสองคน คือเค้าออกให้เราตลอดเลยนะ เราบอก "เราเกรงใจ เลี้ยงน้องอีกแล้วว แพงด้วยอ่าา..." พี่เค้าบอกว่า "ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ น้องยังเรียนอยู่ พี่เลี้ยงน้องแค่นี้สบายมากค่ะ" อีกทั้งปกติแม่เราชอบทำกับข้าวมาให้เรากินที่มหาลัยค่ะ แต่พักหลังๆงานเยอะไม่ค่อยได้กลับบ้าน พี่เค้าก็ทำกับข้าวมาส่งให้ แม่พี่เค้าก็ทำ ถามเราอยากกินอะไร เดี๋ยวเเม่ทำให้ คือแม่พี่เค้าก็น่ารักมาก พี่เค้าก็เทียวส่งข้าวส่งน้ำให้เราตลอด ตู้เย็นนี่ไม่เคยโล่งเลยค่ะ(สบายท้องงง อิอิ) ซึ่งมาตอนนี้ เราก็เริ่มรู้สึกดีกับพี่จ.นะ ถึงแม้จะเป็นเวลาที่ไม่นาน แต่ด้วยความที่เจอกันบ่อย และพี่เค้าก็เป็นกันเอง เราก็เริ่ม เอ๊ะและ!!! เห้ยยย ตอนแรกพี่น้องนี่หว่าา ไม่ยอมรับแน่นอน ยังไงก็ไม่ใช่คนนี้ ต้องเป็นก.เท่านั้น!!! แต่ต้องนี้เราชักไม่แน่ใจตัวเองแล้ว!!! และเราเริ่มรู้สึกผิดกับก. เราเริ่มมีน้ำตาบ้างเวลานึกถึงวันที่เรากับก.จะไปกันต่อไม่ได้ เนื่องด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทั้งครอบครัวเราเอง หรือเรื่องการเงิน(ถึงจะเป็นเรื่องในอนาคตก็ตาม)
ลืมบอกไปค่ะ สำหรับพี่จ. คือเค้าบอกว่าเค้าก็แก่แล้ว จริงๆพี่ก็ไม่ได้คิดจะมีแฟนหรือมีคู่ชีวิตอะไรหรอก แต่เห็นน้องและครอบครัวน้องน่ารัก พี่ก็เหมือนเป็นพี่ชายคนนึงแล้วกัน (คือแม่เรารักพี่เค้าเหมือนลูกคนนึงไปแล้ว) ถึงแม้ว่าเค้าจะชอบเรา(เค้าบอกแม่เราน่ะ) แต่ไม่ได้หวังจะครอบครอง พี่แค่เอ็นดูน้อง อยากให้น้องมีความสุข ซึ่งพี่เค้าก็รู้ว่าเราคุยกับก.อยู่ รู้ถึงปัญหาที่แม่ไม่ชอบก. หนำซ้ำยังให้กำลังใจเรา และบอกแนวทางว่าถ้าเป็นพี่พี่จะทำยังไง ให้เเม่ยอมรับก.ให้ได้ ..... เออ งงมั้ยล่ะค่ะคุณ !!! 5555555555555
ณ จุดนี้ ขอสรุป คือ 1. ก. คนที่เรารัก และยังรักเสมอ คอยให้กำลังใจเรา ไม่เคยทำให้เราเสียใจ ติดแค่เรื่องฐานะ กับพูดไม่ค่อยเพราะในโซเชียลที่แม่เราไม่ชอบ (แต่อยู่กับเราพูดเพราะนะ) ทางบ้านเป็นคนจีน พูดจาไม่ค่อยเพราะเท่าไหร่ (ต่างกับทางบ้านเราตรงนี้แหละ)
2. พี่จ. คนที่เป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น มีเวลาให้ เทคแคร์ดูแล คอยส่งข้าวส่งน้ำ ดูแลเราได้เลยในทุกเรื่อง เข้าใจเราทุกอย่าง ฐานะดี และคาดว่าไม่น่าจะเจ้าชู้ได้ ด้วยอายุ และลักษณะนิสัย ทางบ้านดูแล้วแม่กะพ่อเค้าเป็นคนใจดี พูดเพราะ (เหมือนกันทางบ้านเราเลยอ่ะ)
คือถ้าวันใดวันนึงต้องเลือกจริงๆ ในส่วนของคนที่เราคุยมาด้วยนานแล้ว แต่แม่เราไม่ยอมรับ -- กับอีกคนที่เพิ่งคุยกัน แต่แม่เราสกรีนมาแล้ว และเราก็ยอมรับได้... ทีนี้เราควรจะทำยังไงดี? ถ้าเราเลิกคุยกะก. ซึ่งก.ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ก.จะต้องเสียใจมากแน่ๆ T T หรือถ้าเลิกคุยกะพี่จ. ซึ่งยังไงแม่ก็เชียร์คนนี้ และถ้าเราไม่เลือกพี่จ. ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ก.มาคบกับเรา T T เศร้าซ้ำสอง
แล้วเราควรจะทำยังไงดีคะ ???