ฉันจะรอสักวัน
วันที่มีหัวใจดวงไหนเคลื่อนไหว
อาจเป็นใจเธอ ที่แพ้ให้กับรักจริง
แพ้ให้กับหัวใจที่รักเธอเสมอ
เราคงได้รู้สักวัน
ตอนนี้มีใครอยู่ในอารมณ์เพลงวันที่หัวใจเคลื่อนไหวบ้างมั้ยคะ เรารู้สึกเหนื่อยกับความรักจังเลยค่ะ พออายุเรายิ่งมากขึ้นเรารู้สึกว่าเรามีสติกับเรื่องแบบนี้มากขึ้น ก็จริงจังมากขึ้น และก็เหนื่อยท้อมากขึ้น พอผิดหวังมันไม่ได้ฟูมฟายเหมือนตอนวัยรุ่นหรือสมัยเรียน แต่มันจะเป็นความรู้สึกเจ็บลึกที่ต้องกด ต้องเก็บเอาไว้ แล้วชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ที่ผ่านมาความรักเราไม่ค่อยสมหวังหรอกค่ะ บางคนคุยกันมีความปรารถนาดีให้กันมาหลายปี แต่มันก็ไปต่อไม่ได้ บางคนเราชอบเขา แต่ฐานะก็ห่างไกลกันเหลือเกิน บางคนก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน สุดท้ายเอ้ามันกลับไปหาแฟนเก่า บางคนมาชอบเรา เราก็ไม่ได้ชอบเขา คือจะว่าไปแล้วเรื่องแบบนี้มันยากที่จะให้คนสองคนใจตรงกัน แล้วเราก็เป็นประเภทจริงจังกับความรัก ไม่ได้คบใครเล่นๆหรือคบแก้เหงา คนที่เราไม่ได้ชอบเราก็จะไม่ให้ความหวังเขา หลายๆเหตุการณ์ด้านความรักที่ผ่านมาเราพยายามเรียนรู้ ปรับตัว เพื่อให้มันเป็นบทเรียน แต่บางครั้งบทเรียนเก่าๆก็เอามาใช้ในความรักครั้งใหม่ไม่ได้ ทำให้ระยะหลังเราเหมือนจะเย็นชาในเรื่องพวกนี้ เพราะกลัวเจ็บ กลัววนลูปเดิมซ้ำๆ ไม่อยากมานั่งคลายความอินซึ่งมันเป็นความรู้สึกปวดร้าว กว่าจะผ่านช่วงเวลาอกหักมาได้ก็ต้องใช้เวลาสักพัก แต่เราก็เชื่ออย่างหนึ่งนะคะว่าเวลาน่ะมันเยี่ยวยาได้จริงๆ ความรู้สึกที่เคยเข้มข้นมันจะค่อยๆเจือจางลง แต่นั่นแหละก็ทำให้เราหมดความเชื่อมั่นในเรื่องแบบนี้ เราก็อยากเจอคนที่ใช่สำหรับเรา และเราก็ใช่สำหรับเขา รอวันที่หัวใจมันเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ก็เหนื่อยเหลือเกิน แต่ประสบการณ์ด้านความรักที่ผ่านมาทุกครั้ง เราพยายามปลดล็อคความรู้สึกกับแต่ละคนให้จบลง มีเก็บไว้เป็นความทรงจำสำหรับคิดถึงบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้ชีวิตตัวเองดำเนินไปโดยมีใครสักคนที่ยังติดค้างอยู่ในหัวใจไปชั่วชีวิตจนก้าวไปไหนไม่ได้ (ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Snap จะเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนางเอกที่ต้องแต่งงานกับอีกคน โดยที่ลึกๆในใจยังไม่เคลียร์ความรู้สึกกับคนที่เคยรัก มันร้าวรานมากๆเลยนะถ้าแบบนั้น)
อย่างล่าสุดเราได้เจอกับคนๆหนึ่งจากการทำงานด้วยกัน แปลกมากที่เขาไม่ใช่สเปกเราเลย แต่พอคุยพอรู้จักกันกลับรู้สึกว่าเรามีความชอบหลายๆอย่างเหมือนกันมาก ทั้งหนัง เพลง ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงทัศนคติ เราเคยนั่งคุยบนสถานีบีทีเอสจนบัตรตื๊ดออกไม่ได้เพราะเกินเวลา แปลกมากพอเจอคนแบบนี้แล้วรู้สึกอยู่ด้วยสบายใจ นาทีนั้นเรารู้สึกว่าจริงๆแล้วเราก็อยากได้คนง่ายๆ ธรรมดา ที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าปลอดภัย สบายใจ ได้หัวเราะ รู้สึกมีความหวังอีกครั้ง ลืมความเจ็บช้ำที่ผ่านมา แต่เราก็มารู้ทีหลังว่าเขามีแฟนแล้ว แต่แฟนทำงานอยู่ต่างประเทศ บางทีเราก็ไลน์บ่นปัญหาเรื่องงานกัน แต่เราก็ต้องรู้ขอบเขตว่าเราอยู่ในฐานะเพื่อนของเขาค่ะ แม้ว่าใจจะรู้สึกแอบชอบไปแล้วก็ตาม ยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งเห็นความอ่อนโยนของเขา แอบอิจฉาแฟนเขาว่าทำไมถึงได้ผู้ชายคนนี้ไป ฮ่าๆ อันนี้คิดในใจนะว่าน่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหาริย์ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป แต่ก็นั่นแหละเราไม่อยากทำตัวเป็นผู้หญิงแบบที่เราไม่ชอบ เราก็วางตัวกับเขาเป็นเพื่อนไม่มีเชิงชู้สาวใดๆ อันที่จริงคุยแบบนี้ก็สบายใจดี ด่าแซวกันได้ แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกที่เคยเล่าไปในตอนแรกก็ย้อนกลับมาอีก ประมาณว่านี่ไงพอเปิดใจที่ไร หัวใจก็จะพังทุกที ฮ่าๆ อีกแล้วเหรอวะ อุตส่าห์เจอคนที่เราชอบๆมากๆ ตั้งแต่เกิดมารู้สึกคนนี้ใช่มากๆ แต่เขาก็ไม่ใช่ของเรา เหนื่อยว่ะ วนลูปเดิมๆ ถึงตอนนี้เราก็พยายามทำใจอยู่เรื่อยๆ ดีนะที่ไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน ถ้าเจอกันทุกวันนี้คงเลิกชอบยาก แต่เราก็ดูไม่ออกว่าตัวเขาเองยังไงกับเราหรือเปล่า เพราะเขาก็รู้ว่าเราเพิ่งเลิกกันแฟนมาสักพัก เราก็รู้ว่าเขามีแฟน เราเลยมีกำแพงมิตรภาพที่สร้างขึ้นมากั้นขอบเขตความสัมพันธ์ เรามีแค่ไลน์ ไม่มีเบอร์ อันที่จริงเราทั้งคู่ชอบหนัง เขาเคยบอกเราว่าว่างๆไปดูหนังแต่สุดท้ายเขาก็บอกว่ามากไปๆ พูดเล่นนะ อันนี้แหละคงเป็นกำแพง ฮ่าๆ มีวันหนึ่งเขาเครียดกับงานก็นัดเราไปกินข้าวกันสองคน คุยโน้นคุยนี่และบังเอิญมีเพลงๆหนึ่งเปิดขึ้นในร้าน มันก็บังเอิญเป็นเพลงโปรดเราทั้งคู่เลย 555 บังเอิญมากที่เพลงเหมือนกันตั้งหลายเพลง บางเรื่องที่คุยกันเราก็อึ้งว่าเขาจำรายละเอียดสิ่งที่เราเคยพูดได้ด้วยเหรอ อันนี้ไม่รู้ว่าใส่ใจหรือเป็นคนความจำดี เวลาเราอยู่กับเขาเรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมากเลย 3-4 ชั่วโมงแต่รู้สึกเหมือนแค่ชั่วโมงเดียวเอง เราเองระหว่างที่อยู่กับเขากก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรนะ พูดคุยแบบเพื่อนปกติ เราชอบตัวเองเวลาอยู่กับเขา เขาจะเทคแคร์เพื่อนผู้หญิงดีมากเลยจริงๆ หลังจากกลับจากร้านเขาก็จะไลน์มาถามว่าถึงบ้านยัง เป็นยังงี้ตลอดสองถึงสามครั้ง บางคืนเราออกไปดื่มกับกลุ่มเพื่อน ถ้าเขารู้ เที่ยงคืนตีหนึ่งก็จะไลน์ถามว่าเรากลับยัง ถึงบ้านยัง ซึ่งมันทำให้เราประทับใจจริงๅ วันนั้นที่หลังจากเรากินข้าวกันเขาก็ส่งขึ้นรถก็ไลน์ถามว่าถึงบ้านยังเหมือนเดิม แต่พออีกวันเขาก็ไลน์มาขอบคุณที่มานั่งฟังเขาบ่น แล้วจู่ๆเขาก็บอกเราว่าเขาเครียดเรื่องแฟนไม่อยากจะเอามาพูด แต่ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดนะ เราเองก็ไม่รู้จะต้องรู้สึกยังไง ถ้าเลวๆหน่อยเราก็คงถือโอกาสนี้ตีสนิทกับเขาให้มากยิ่งขึ้น เพราะไหนๆแล้วแฟนเขาไม่ได้อยู่ไทย แต่เรากลับยอมอยู่เฉยๆ ถือว่าถ้าไม่ใช่ของเราก็คือไม่ใช่ละกัน หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่เคยติดต่อเรากลับมาอีกเลย ก็งงเหมือนกัน เราเองก็ไม่ได้ทักอะไรไปคุย ไม่รู้จะคุยอะไรไปเลย
ก็เลยกลายเป็นเราต้องกลับเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการคลายความอินเรื่องระหว่างเรากับเขาเงียบๆคนเดียว อันที่จริงขอแค่เป็นเพื่อนก็ได้ แบ่งปันทุกข์สุขกัน แต่พอรู้ว่าเขาเครียดเรื่องแฟนที่อยู่ไกลกัน เราก็เออเราเงียบๆดีกว่า วันเกิดเขาเดือนหน้าก็ไม่แน่ใจว่าจะส่งข้อความไปดีมั้ย พอไม่ได้คุยนานๆก็ไม่รู้จะคุยอะไร คือทุกครั้งที่เราเริ่มโอเค พอได้คุยกับเขาหรือได้เจอเขาก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีก สุดท้ายวนลูปๆซ้ำๆ จนบางครั้งรู้สึกไม่อยากจะมีหัวใจเลยค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่ใจเราบอกว่าเราเจอคนที่ใช่ คุยแล้วสบายใจแต่เขาไม่ใช่ของเรา ทั้งที่บางวันเหงาๆไม่มีเพื่อนกินข้าว ก็อยากทักไปชวนกินข้าว ดูหนังเป็นเพื่อน ปีใหม่อยากชวนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นไรงี้ แบบในฐานะเพื่อน แต่ก็รู้ว่าคงดูไม่เหมาะไม่ถูกต้อง นั่นแหละค่ะพอเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ รู้สึกหมดความเชื่อมั่นในความรักไปเลย เหนือย ท้อ ล้า ที่บ่นๆมาเนี่ยอยากได้มุมมองเกี่ยวกับความรักจากเพื่อนๆกลับไปบ้าง ไม่อยากจะเป็นคนที่หัวใจเย็นชา ฮ่าๆ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
ขอมุมมองดีๆให้คนที่ "หมดความเชื่อมั่นในความรัก" ได้มีกำลังใจอีกครั้งหน่อยค่ะ
วันที่มีหัวใจดวงไหนเคลื่อนไหว
อาจเป็นใจเธอ ที่แพ้ให้กับรักจริง
แพ้ให้กับหัวใจที่รักเธอเสมอ
เราคงได้รู้สักวัน
ตอนนี้มีใครอยู่ในอารมณ์เพลงวันที่หัวใจเคลื่อนไหวบ้างมั้ยคะ เรารู้สึกเหนื่อยกับความรักจังเลยค่ะ พออายุเรายิ่งมากขึ้นเรารู้สึกว่าเรามีสติกับเรื่องแบบนี้มากขึ้น ก็จริงจังมากขึ้น และก็เหนื่อยท้อมากขึ้น พอผิดหวังมันไม่ได้ฟูมฟายเหมือนตอนวัยรุ่นหรือสมัยเรียน แต่มันจะเป็นความรู้สึกเจ็บลึกที่ต้องกด ต้องเก็บเอาไว้ แล้วชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ที่ผ่านมาความรักเราไม่ค่อยสมหวังหรอกค่ะ บางคนคุยกันมีความปรารถนาดีให้กันมาหลายปี แต่มันก็ไปต่อไม่ได้ บางคนเราชอบเขา แต่ฐานะก็ห่างไกลกันเหลือเกิน บางคนก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน สุดท้ายเอ้ามันกลับไปหาแฟนเก่า บางคนมาชอบเรา เราก็ไม่ได้ชอบเขา คือจะว่าไปแล้วเรื่องแบบนี้มันยากที่จะให้คนสองคนใจตรงกัน แล้วเราก็เป็นประเภทจริงจังกับความรัก ไม่ได้คบใครเล่นๆหรือคบแก้เหงา คนที่เราไม่ได้ชอบเราก็จะไม่ให้ความหวังเขา หลายๆเหตุการณ์ด้านความรักที่ผ่านมาเราพยายามเรียนรู้ ปรับตัว เพื่อให้มันเป็นบทเรียน แต่บางครั้งบทเรียนเก่าๆก็เอามาใช้ในความรักครั้งใหม่ไม่ได้ ทำให้ระยะหลังเราเหมือนจะเย็นชาในเรื่องพวกนี้ เพราะกลัวเจ็บ กลัววนลูปเดิมซ้ำๆ ไม่อยากมานั่งคลายความอินซึ่งมันเป็นความรู้สึกปวดร้าว กว่าจะผ่านช่วงเวลาอกหักมาได้ก็ต้องใช้เวลาสักพัก แต่เราก็เชื่ออย่างหนึ่งนะคะว่าเวลาน่ะมันเยี่ยวยาได้จริงๆ ความรู้สึกที่เคยเข้มข้นมันจะค่อยๆเจือจางลง แต่นั่นแหละก็ทำให้เราหมดความเชื่อมั่นในเรื่องแบบนี้ เราก็อยากเจอคนที่ใช่สำหรับเรา และเราก็ใช่สำหรับเขา รอวันที่หัวใจมันเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่ก็เหนื่อยเหลือเกิน แต่ประสบการณ์ด้านความรักที่ผ่านมาทุกครั้ง เราพยายามปลดล็อคความรู้สึกกับแต่ละคนให้จบลง มีเก็บไว้เป็นความทรงจำสำหรับคิดถึงบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้ชีวิตตัวเองดำเนินไปโดยมีใครสักคนที่ยังติดค้างอยู่ในหัวใจไปชั่วชีวิตจนก้าวไปไหนไม่ได้ (ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Snap จะเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนางเอกที่ต้องแต่งงานกับอีกคน โดยที่ลึกๆในใจยังไม่เคลียร์ความรู้สึกกับคนที่เคยรัก มันร้าวรานมากๆเลยนะถ้าแบบนั้น)
อย่างล่าสุดเราได้เจอกับคนๆหนึ่งจากการทำงานด้วยกัน แปลกมากที่เขาไม่ใช่สเปกเราเลย แต่พอคุยพอรู้จักกันกลับรู้สึกว่าเรามีความชอบหลายๆอย่างเหมือนกันมาก ทั้งหนัง เพลง ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงทัศนคติ เราเคยนั่งคุยบนสถานีบีทีเอสจนบัตรตื๊ดออกไม่ได้เพราะเกินเวลา แปลกมากพอเจอคนแบบนี้แล้วรู้สึกอยู่ด้วยสบายใจ นาทีนั้นเรารู้สึกว่าจริงๆแล้วเราก็อยากได้คนง่ายๆ ธรรมดา ที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าปลอดภัย สบายใจ ได้หัวเราะ รู้สึกมีความหวังอีกครั้ง ลืมความเจ็บช้ำที่ผ่านมา แต่เราก็มารู้ทีหลังว่าเขามีแฟนแล้ว แต่แฟนทำงานอยู่ต่างประเทศ บางทีเราก็ไลน์บ่นปัญหาเรื่องงานกัน แต่เราก็ต้องรู้ขอบเขตว่าเราอยู่ในฐานะเพื่อนของเขาค่ะ แม้ว่าใจจะรู้สึกแอบชอบไปแล้วก็ตาม ยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งเห็นความอ่อนโยนของเขา แอบอิจฉาแฟนเขาว่าทำไมถึงได้ผู้ชายคนนี้ไป ฮ่าๆ อันนี้คิดในใจนะว่าน่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหาริย์ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป แต่ก็นั่นแหละเราไม่อยากทำตัวเป็นผู้หญิงแบบที่เราไม่ชอบ เราก็วางตัวกับเขาเป็นเพื่อนไม่มีเชิงชู้สาวใดๆ อันที่จริงคุยแบบนี้ก็สบายใจดี ด่าแซวกันได้ แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกที่เคยเล่าไปในตอนแรกก็ย้อนกลับมาอีก ประมาณว่านี่ไงพอเปิดใจที่ไร หัวใจก็จะพังทุกที ฮ่าๆ อีกแล้วเหรอวะ อุตส่าห์เจอคนที่เราชอบๆมากๆ ตั้งแต่เกิดมารู้สึกคนนี้ใช่มากๆ แต่เขาก็ไม่ใช่ของเรา เหนื่อยว่ะ วนลูปเดิมๆ ถึงตอนนี้เราก็พยายามทำใจอยู่เรื่อยๆ ดีนะที่ไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน ถ้าเจอกันทุกวันนี้คงเลิกชอบยาก แต่เราก็ดูไม่ออกว่าตัวเขาเองยังไงกับเราหรือเปล่า เพราะเขาก็รู้ว่าเราเพิ่งเลิกกันแฟนมาสักพัก เราก็รู้ว่าเขามีแฟน เราเลยมีกำแพงมิตรภาพที่สร้างขึ้นมากั้นขอบเขตความสัมพันธ์ เรามีแค่ไลน์ ไม่มีเบอร์ อันที่จริงเราทั้งคู่ชอบหนัง เขาเคยบอกเราว่าว่างๆไปดูหนังแต่สุดท้ายเขาก็บอกว่ามากไปๆ พูดเล่นนะ อันนี้แหละคงเป็นกำแพง ฮ่าๆ มีวันหนึ่งเขาเครียดกับงานก็นัดเราไปกินข้าวกันสองคน คุยโน้นคุยนี่และบังเอิญมีเพลงๆหนึ่งเปิดขึ้นในร้าน มันก็บังเอิญเป็นเพลงโปรดเราทั้งคู่เลย 555 บังเอิญมากที่เพลงเหมือนกันตั้งหลายเพลง บางเรื่องที่คุยกันเราก็อึ้งว่าเขาจำรายละเอียดสิ่งที่เราเคยพูดได้ด้วยเหรอ อันนี้ไม่รู้ว่าใส่ใจหรือเป็นคนความจำดี เวลาเราอยู่กับเขาเรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมากเลย 3-4 ชั่วโมงแต่รู้สึกเหมือนแค่ชั่วโมงเดียวเอง เราเองระหว่างที่อยู่กับเขากก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรนะ พูดคุยแบบเพื่อนปกติ เราชอบตัวเองเวลาอยู่กับเขา เขาจะเทคแคร์เพื่อนผู้หญิงดีมากเลยจริงๆ หลังจากกลับจากร้านเขาก็จะไลน์มาถามว่าถึงบ้านยัง เป็นยังงี้ตลอดสองถึงสามครั้ง บางคืนเราออกไปดื่มกับกลุ่มเพื่อน ถ้าเขารู้ เที่ยงคืนตีหนึ่งก็จะไลน์ถามว่าเรากลับยัง ถึงบ้านยัง ซึ่งมันทำให้เราประทับใจจริงๅ วันนั้นที่หลังจากเรากินข้าวกันเขาก็ส่งขึ้นรถก็ไลน์ถามว่าถึงบ้านยังเหมือนเดิม แต่พออีกวันเขาก็ไลน์มาขอบคุณที่มานั่งฟังเขาบ่น แล้วจู่ๆเขาก็บอกเราว่าเขาเครียดเรื่องแฟนไม่อยากจะเอามาพูด แต่ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดนะ เราเองก็ไม่รู้จะต้องรู้สึกยังไง ถ้าเลวๆหน่อยเราก็คงถือโอกาสนี้ตีสนิทกับเขาให้มากยิ่งขึ้น เพราะไหนๆแล้วแฟนเขาไม่ได้อยู่ไทย แต่เรากลับยอมอยู่เฉยๆ ถือว่าถ้าไม่ใช่ของเราก็คือไม่ใช่ละกัน หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่เคยติดต่อเรากลับมาอีกเลย ก็งงเหมือนกัน เราเองก็ไม่ได้ทักอะไรไปคุย ไม่รู้จะคุยอะไรไปเลย
ก็เลยกลายเป็นเราต้องกลับเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการคลายความอินเรื่องระหว่างเรากับเขาเงียบๆคนเดียว อันที่จริงขอแค่เป็นเพื่อนก็ได้ แบ่งปันทุกข์สุขกัน แต่พอรู้ว่าเขาเครียดเรื่องแฟนที่อยู่ไกลกัน เราก็เออเราเงียบๆดีกว่า วันเกิดเขาเดือนหน้าก็ไม่แน่ใจว่าจะส่งข้อความไปดีมั้ย พอไม่ได้คุยนานๆก็ไม่รู้จะคุยอะไร คือทุกครั้งที่เราเริ่มโอเค พอได้คุยกับเขาหรือได้เจอเขาก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีก สุดท้ายวนลูปๆซ้ำๆ จนบางครั้งรู้สึกไม่อยากจะมีหัวใจเลยค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่ใจเราบอกว่าเราเจอคนที่ใช่ คุยแล้วสบายใจแต่เขาไม่ใช่ของเรา ทั้งที่บางวันเหงาๆไม่มีเพื่อนกินข้าว ก็อยากทักไปชวนกินข้าว ดูหนังเป็นเพื่อน ปีใหม่อยากชวนไปดูพระอาทิตย์ขึ้นไรงี้ แบบในฐานะเพื่อน แต่ก็รู้ว่าคงดูไม่เหมาะไม่ถูกต้อง นั่นแหละค่ะพอเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ รู้สึกหมดความเชื่อมั่นในความรักไปเลย เหนือย ท้อ ล้า ที่บ่นๆมาเนี่ยอยากได้มุมมองเกี่ยวกับความรักจากเพื่อนๆกลับไปบ้าง ไม่อยากจะเป็นคนที่หัวใจเย็นชา ฮ่าๆ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ