เราไปรักษาสิวที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง พนักงานให้เลือกว่าจะจ่ายเงินแบบรายครั้ง หรือจ่ายแบบเหมาคอร์ส ถ้าจ่ายแบบเหมาคอร์สราคาเฉลี่ยต่อครั้งก็จะถูกกว่าจ่ายแบบรายครั้ง แต่เราคิดว่าเราคงไม่รักษาหลายครั้งจนหมดคอร์สหรอก ก็เลยเลือกจ่ายแบบรายครั้ง
จากนั้นพนักงานก็บังคับให้สมัครสมาชิก ซึ่งต้องเสียเงิน สมาชิกก็มีหลายแบบ หลายราคา สมัครแล้วจะได้ส่วนลด ยิ่งสมัครสมาชิกราคาแพง ก็ยิ่งได้ส่วนลดเยอะ เราก็เลยเลือกสมัครสมาชิกแบบที่ราคาถูกที่สุด(500 บาท) ก็จะได้ส่วนลดค่าผลิตภัณฑ์นิดหน่อย และถ้าเรารักษาสิวครบ...ครั้ง ก็จะได้รักษาฟรีอีก...ครั้ง
เราเข้ารักษาสิวสัปดาห์ละครั้ง แต่บางสัปดาห์เราติดธุระก็เลยไม่ได้ไป เราเคยเว้นช่วงไป 2-3 สัปดาห์ พนักงานก็ไม่ว่าอะไร สิวเราก็ค่อยๆหาย แต่ได้รอยแผลมาแทน เพราะโดนกดสิว และยาทาสิวทำให้หน้าแห้ง คัน เราไปเกานิดหน่อยก็เป็นแผล(เหมือนผิวเรามันบอบบางลง) พนักงานก็แนะนำผลิตภัณฑ์เสริม ที่ช่วยลดรอยแผลให้เรา บอกว่าใช้แล้วคุ้ม เขาก็ใช้อยู่ แต่ราคาแพงมาก เราก็เลยไม่เอา เพราะถ้าต้องใช้จริงๆหมอคงเขียนในรายการสั่งยาให้แล้ว(ที่นี่มีทั้งหมอและพนักงาน หมอคือคนที่ตรวจหน้าเราและสั่งยาให้ ส่วนพนักงานคือคนที่ทำการรักษาให้เรา)
เราไปรักษาจนใกล้จะครบจำนวนครั้งที่จะได้รักษาฟรีแล้ว แต่พนักงานและหมอกลับบอกว่า เราไม่ได้สิทธิ์รักษาฟรีแล้ว เพราะเราเว้นช่วงไป 2-3 สัปดาห์ ลูกค้าจะต้องมารักษาทุกสัปดาห์จึงจะได้สิทธิ์รักษาฟรี เราก็งงเลย เพราะเราไม่รู้เงื่อนไขนี้ พนักงานไม่ได้บอกตั้งแต่แรก(หรืออาจบอกแต่ไม่ได้เน้น แต่คิดว่าไม่ได้บอกมากกว่า) และตอนที่เขาโทรมานัดเรา แล้วเราไม่ไป เขาก็ไม่ได้เตือนเราเรื่องเงื่อนไขนี้ด้วย เราก็บอกไปว่าเราไม่รู้เงื่อนไขนี้ แต่หมอกับพนักงานก็ไม่อะไร แถมหาทางออกให้เราแบบที่เราคิดว่า "นี่เหรอคือทางออก"
หมอหาทางออกให้เรา โดยการให้เราหยุดโปรแกรมรักษาสิวไว้เพียงเท่านี้(เพราะเห็นว่าหน้าเราไม่ค่อยมีสิวแล้ว เหลือแต่รอยแผล) แล้วให้เปลี่ยนไปเป็นโปรแกรมรักษารอยแผลแทน ถามอีกว่าจะจ่ายแบบเหมาคอร์สหรือแบบรายครั้ง เราก็เลือกแบบจ่ายเป็นรายครั้งอีก(งก) ก็มีเงื่อนไขอีกว่าถ้าเข้ารักษาครบ...ครั้ง จะได้รักษาฟรี...ครั้ง คราวนี้เราก็รู้แล้วว่าต้องไปรักษาทุกสัปดาห์ ห้ามเว้นช่วง แต่เราก็ไม่ค่อยสนใจแล้ว เพราะตอนนี้หน้าเราก็ไม่ได้มีรอยเยอะมาก สิวก็หายแล้ว หน้าก็ไม่คันแล้ว(เพราะใช้ครีมบัวหิมะราคาถูกๆ) คิดว่าจะไปรักษาแค่ 2-3 ครั้ง ถ้ายังไม่หายก็ไปซื้อยาทาเองดีกว่า
เราเริ่มโปรแกรมรักษารอยแผลในวันนั้นเลย ขณะที่เรากำลังรักษาอยู่นั้น พนักงานก็แนะนำผลิตภัณฑ์ให้เราอีกแล้ว เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกับที่เขาเคยแนะนำเราไปแล้ว(แต่ตอนนั้นเราไม่เอา) เขาบอกว่าตอนนี้มีโปรโมชั่นลดราคาอยู่ ใช้เถอะ ใช้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ คุ้มมาก เขาก็ใช้ พูดวนไปประมาณนี้ (แต่หน้าพนักงานมีรอยแผลมากกว่าเราอีก) เราก็อดรำคาญไม่ได้ เราไม่ชอบพวกช่างตื๊อ แต่เราก็บอกไปเหมือนเดิมว่ายังไม่เอา ถ้าอยากได้เดี๋ยวค่อยซื้อ
พอรักษาเสร็จ จะไปจ่ายเงิน ทีนี้พนักงานเกิดตื๊อให้เราเลือกจ่ายแบบเหมาคอร์สอีก เพราะช่วงนี้คอร์สลดราคา(ถ้าจ่ายแบบรายครั้งก็ไม่มีส่วนลด) พนักงานตื๊อเก่งมาก บอกว่าถ้าจ่ายแบบเหมาคอร์สจะราคาถูกกว่าจ่ายแบบรายครั้ง พอเราบอกไปว่าตอนนี้เรามีเงินไม่พอ ไม่สะดวกจ่ายแบบเหมาคอร์ส พนักงานก็บอกว่างั้นวันนี้จ่ายเท่าที่มีก่อน แล้วครั้งหน้าค่อยจ่ายส่วนที่เหลือ เรานี่รู้สึกกระอักกระอ่วน เกิดอาการลังเลเพราะส่วนลดนี่แหละ แต่สุดท้ายเราก็เลือกจะจ่ายแบบรายครั้ง เพราะคิดว่าแบบคอร์สมันคงไม่คุ้มสำหรับเรา เราคงไปรักษาไม่ครบตามจำนวนในคอร์สหรอก
เรื่องราวก็ประมาณนี้ เรื่องฝีมือในการรักษาเราก็โอเคอยู่ เพราะก่อนจะไปรักษา หน้าเรามีสิวเห่อ คัน เหมือนแพ้อะไรสักอย่าง ซื้อยาทาเองแล้วไม่หาย พอไปรักษาที่คลินิกแล้วสิวก็หาย (จ่ายไปหลายพัน ถ้าไม่หายล่ะน่าดู) แต่ข้อเสียก็คือบังคับให้เสียเงินสมัครสมาชิก เวลามีส่วนลดของแถมอะไร ก็บอกเงื่อนไขกับลูกค้าไม่หมด ลูกค้าก็ไม่รู้ พอลูกค้าไม่ทำตามเงื่อนไขก็เสียสิทธิ์ไป และก็ชอบตื๊อให้ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์แพงๆ คือมันเห็นได้ชัดเจนว่ามีความเป็นธุรกิจ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเข้าคลินิกเสริมความงาม เราไม่คุ้นชินกับระบบแบบนี้ ใครเคยเข้าคลินิกเสริมความงามบ้าง คิดเหมือนเราหรือเปล่า หรือว่าคิดยังไง
คลินิกเสริมความงามทุกที่ ทำแบบนี้กับลูกค้าหรือเปล่า?
จากนั้นพนักงานก็บังคับให้สมัครสมาชิก ซึ่งต้องเสียเงิน สมาชิกก็มีหลายแบบ หลายราคา สมัครแล้วจะได้ส่วนลด ยิ่งสมัครสมาชิกราคาแพง ก็ยิ่งได้ส่วนลดเยอะ เราก็เลยเลือกสมัครสมาชิกแบบที่ราคาถูกที่สุด(500 บาท) ก็จะได้ส่วนลดค่าผลิตภัณฑ์นิดหน่อย และถ้าเรารักษาสิวครบ...ครั้ง ก็จะได้รักษาฟรีอีก...ครั้ง
เราเข้ารักษาสิวสัปดาห์ละครั้ง แต่บางสัปดาห์เราติดธุระก็เลยไม่ได้ไป เราเคยเว้นช่วงไป 2-3 สัปดาห์ พนักงานก็ไม่ว่าอะไร สิวเราก็ค่อยๆหาย แต่ได้รอยแผลมาแทน เพราะโดนกดสิว และยาทาสิวทำให้หน้าแห้ง คัน เราไปเกานิดหน่อยก็เป็นแผล(เหมือนผิวเรามันบอบบางลง) พนักงานก็แนะนำผลิตภัณฑ์เสริม ที่ช่วยลดรอยแผลให้เรา บอกว่าใช้แล้วคุ้ม เขาก็ใช้อยู่ แต่ราคาแพงมาก เราก็เลยไม่เอา เพราะถ้าต้องใช้จริงๆหมอคงเขียนในรายการสั่งยาให้แล้ว(ที่นี่มีทั้งหมอและพนักงาน หมอคือคนที่ตรวจหน้าเราและสั่งยาให้ ส่วนพนักงานคือคนที่ทำการรักษาให้เรา)
เราไปรักษาจนใกล้จะครบจำนวนครั้งที่จะได้รักษาฟรีแล้ว แต่พนักงานและหมอกลับบอกว่า เราไม่ได้สิทธิ์รักษาฟรีแล้ว เพราะเราเว้นช่วงไป 2-3 สัปดาห์ ลูกค้าจะต้องมารักษาทุกสัปดาห์จึงจะได้สิทธิ์รักษาฟรี เราก็งงเลย เพราะเราไม่รู้เงื่อนไขนี้ พนักงานไม่ได้บอกตั้งแต่แรก(หรืออาจบอกแต่ไม่ได้เน้น แต่คิดว่าไม่ได้บอกมากกว่า) และตอนที่เขาโทรมานัดเรา แล้วเราไม่ไป เขาก็ไม่ได้เตือนเราเรื่องเงื่อนไขนี้ด้วย เราก็บอกไปว่าเราไม่รู้เงื่อนไขนี้ แต่หมอกับพนักงานก็ไม่อะไร แถมหาทางออกให้เราแบบที่เราคิดว่า "นี่เหรอคือทางออก"
หมอหาทางออกให้เรา โดยการให้เราหยุดโปรแกรมรักษาสิวไว้เพียงเท่านี้(เพราะเห็นว่าหน้าเราไม่ค่อยมีสิวแล้ว เหลือแต่รอยแผล) แล้วให้เปลี่ยนไปเป็นโปรแกรมรักษารอยแผลแทน ถามอีกว่าจะจ่ายแบบเหมาคอร์สหรือแบบรายครั้ง เราก็เลือกแบบจ่ายเป็นรายครั้งอีก(งก) ก็มีเงื่อนไขอีกว่าถ้าเข้ารักษาครบ...ครั้ง จะได้รักษาฟรี...ครั้ง คราวนี้เราก็รู้แล้วว่าต้องไปรักษาทุกสัปดาห์ ห้ามเว้นช่วง แต่เราก็ไม่ค่อยสนใจแล้ว เพราะตอนนี้หน้าเราก็ไม่ได้มีรอยเยอะมาก สิวก็หายแล้ว หน้าก็ไม่คันแล้ว(เพราะใช้ครีมบัวหิมะราคาถูกๆ) คิดว่าจะไปรักษาแค่ 2-3 ครั้ง ถ้ายังไม่หายก็ไปซื้อยาทาเองดีกว่า
เราเริ่มโปรแกรมรักษารอยแผลในวันนั้นเลย ขณะที่เรากำลังรักษาอยู่นั้น พนักงานก็แนะนำผลิตภัณฑ์ให้เราอีกแล้ว เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกับที่เขาเคยแนะนำเราไปแล้ว(แต่ตอนนั้นเราไม่เอา) เขาบอกว่าตอนนี้มีโปรโมชั่นลดราคาอยู่ ใช้เถอะ ใช้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ คุ้มมาก เขาก็ใช้ พูดวนไปประมาณนี้ (แต่หน้าพนักงานมีรอยแผลมากกว่าเราอีก) เราก็อดรำคาญไม่ได้ เราไม่ชอบพวกช่างตื๊อ แต่เราก็บอกไปเหมือนเดิมว่ายังไม่เอา ถ้าอยากได้เดี๋ยวค่อยซื้อ
พอรักษาเสร็จ จะไปจ่ายเงิน ทีนี้พนักงานเกิดตื๊อให้เราเลือกจ่ายแบบเหมาคอร์สอีก เพราะช่วงนี้คอร์สลดราคา(ถ้าจ่ายแบบรายครั้งก็ไม่มีส่วนลด) พนักงานตื๊อเก่งมาก บอกว่าถ้าจ่ายแบบเหมาคอร์สจะราคาถูกกว่าจ่ายแบบรายครั้ง พอเราบอกไปว่าตอนนี้เรามีเงินไม่พอ ไม่สะดวกจ่ายแบบเหมาคอร์ส พนักงานก็บอกว่างั้นวันนี้จ่ายเท่าที่มีก่อน แล้วครั้งหน้าค่อยจ่ายส่วนที่เหลือ เรานี่รู้สึกกระอักกระอ่วน เกิดอาการลังเลเพราะส่วนลดนี่แหละ แต่สุดท้ายเราก็เลือกจะจ่ายแบบรายครั้ง เพราะคิดว่าแบบคอร์สมันคงไม่คุ้มสำหรับเรา เราคงไปรักษาไม่ครบตามจำนวนในคอร์สหรอก
เรื่องราวก็ประมาณนี้ เรื่องฝีมือในการรักษาเราก็โอเคอยู่ เพราะก่อนจะไปรักษา หน้าเรามีสิวเห่อ คัน เหมือนแพ้อะไรสักอย่าง ซื้อยาทาเองแล้วไม่หาย พอไปรักษาที่คลินิกแล้วสิวก็หาย (จ่ายไปหลายพัน ถ้าไม่หายล่ะน่าดู) แต่ข้อเสียก็คือบังคับให้เสียเงินสมัครสมาชิก เวลามีส่วนลดของแถมอะไร ก็บอกเงื่อนไขกับลูกค้าไม่หมด ลูกค้าก็ไม่รู้ พอลูกค้าไม่ทำตามเงื่อนไขก็เสียสิทธิ์ไป และก็ชอบตื๊อให้ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์แพงๆ คือมันเห็นได้ชัดเจนว่ามีความเป็นธุรกิจ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเข้าคลินิกเสริมความงาม เราไม่คุ้นชินกับระบบแบบนี้ ใครเคยเข้าคลินิกเสริมความงามบ้าง คิดเหมือนเราหรือเปล่า หรือว่าคิดยังไง