สวัสดีครับ หลายๆคน คงทราบการเปิดตัวของ Surface Studio, All-in-One PC จากทาง Microsoft กันแล้ว
สามารถดูวีดีโอเปิดตัวได้อีกครั้งที่นี่ครับ
ซึ่งหลายๆ คนเห็นตรงกันว่า Creatives จำนวนมากทั่วโลกทั้งหลายนั้น มักจะทำงานบน Mac มาเป็นเวลานานโดยมี iMac เป็น powerhouse ในการทำงาน
นาย Ronald Lindeboom, CEO ของ CREATIVECOW.NET กลุ่มของ Creatives ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งและก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี และมีคนเข้าไปเยี่ยมชมเว็บสูงถึง 2 ล้าน Absolute Unique Visitor ต่อเดือน (ข้อมูลจากเว็บ creativecow.net) ซึ่ง CEO ผู้นี้หลังๆ ก็จะเขียนบทความน้อยลงแล้วเนื่องด้วยปัญหาสุขภาพ แต่คราวนี้ CEO ท่านนี้ได้ลุกขึ้นมาเขียนบทความที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเขียนได้ดีมากๆ เลยอยากนำมาฝากกันครับ ผมคงไม่แปลมาทั้งหมด เพราะความสามารถในการแปลมีจำกัด และมุกบางอย่างคนไทยคงไม่อิน และเอาจริงๆ อ่านภาษาของเค้าเองจะ "อิน" กว่าครับ
ใครที่สนใจก็เข้าไปอ่านได้ครับ ตามนี้
CREDIT:
https://library.creativecow.net/lindeboom_ronald/surface_studio/1
บทความของคุณ Ronald มีอยู่ว่า:
Microsoft Surface Studio: Does It Out-Mac the Mac?
หนึ่งวันก่อนที่ Apple จะมีงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ใน Cupertino นั้น ทาง Microsoft ได้มีงานแถลงข่าวของตน ซึ่งมันเป็นข่าวที่เหมือนจะทำให้อากาศในห้องแถลงข่าวของ Apple ถูกดูดออกไปจนหมดสิ้น
ข่าวใหญ่ ของ Microsoft นั้น ในหลายๆ ด้าน ได้ให้ความรู้สึกเหมือนได้เห็น Mac เป็นครั้งแรก เมื่อหลายปีก่อนนู้น อุปกรณ์ที่ขายความรู้สึก และจินตนาการ ซึ่งเป็นจุดขายของ Mac ที่เราๆ รู้สึกกันมาอย่างยาวนาน ดันมาอยู่ในมือของ Microsoft ได้อย่างประหลาด ไม่อยากจะพูดเลยว่า $#@! Microsoft ได้ปลุกความฝันขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเดิมสิ่งนี้เป็นประสบการณ์ของ Mac ในสมัยก่อนที่ได้ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา การที่ Microsoft เลือกที่จะเปิดตัว Surface Studio ด้วยเพลงจาก "Willy Wonka and the Chocolate Factory" ที่มีเนื้อเพลงที่งดงามอย่าง "Come with me, and we'll be, in a world of pure imagination - ก้าวมากับฉัน และเราจะอยู่ในโลกที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการ" นั้น ยิ่งเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้ (จากมุมมองของผู้ที่ใช้ Mac มานาน) คิดว่า Microsoft เข้าใจว่า Creatives ทั้งหลาย "รู้สึก" อย่างไรกับการที่ได้มี "อุปกรณ์" ที่สามารถอธิบายความเป็นตัวตนของเขาออกมาได้
แต่ Microsoft ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะ Microsoft ได้ทำสิ่งที่ Apple สามารถทำได้มาตลอด นั่นคือเก็บสิ่งที่จะประกาศไว้เป็นความลับที่สุดจนกว่าจะถึงการเปิดตัว และทำการเปิดตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับสถิติหรือตัวเลข แต่เน้นไปที่สิ่งที่พวกเราสามารถ "ทำ" ได้กับอุปกรณ์ใหม่ชิ้นนี้ และพวกเราจะ "รู้สึก" อย่างไรเมื่อสามารถสร้างสรรค์ไอเดียของพวกเราได้ด้วยเจ้าสิ่งนี้
สารที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและเปี่ยมไปด้วยจินตนาการนี้ เป็นที่ตรงใจของสมาชิกแกนหลักของ COW เราซึ่งเป็น Professional ที่ใช้ Mac หลายๆ คน เช่น Marco Solorio ซึ่งเป็น Mac Power User ปัจจุบันกำลังพูดถึง Microsoft อย่างจริงจัง (เน้นให้เรากลับไปดู clip เปิดตัวอีกครั้ง)
ความตื่นตาตื่นใจใน clip เปิดตัวนี้เป็นสิ่งที่ Microsoft ไม่เคยย่างกรายเข้ามาในโลกของ Apple เป็นเวลานาน แต่ Microsoft ได้เรียนรู้และเตรียมการมาเป็นอย่างดีจนทำให้แฟนๆ Mac Diehard ทั้งหลายยอมรับว่าเป็น Clip เปิดตัวที่ยอมเยี่ยม อีกทั้งในวันถัดมาที่ Tim Cook เปิดตัวสิ่งที่แฟนๆ Apple ทั้งหลายรู้สึกว่า "งั้นๆ" แม้ว่าพวกเราหลายคนใน COW จะรู้สึกว่า Apple ทำตามที่เราต้องการในเรื่องของการรองรับ Thunderbolt 3 และเป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการรอคอยก็ตามที แต่ Microsoft ได้เปิดตัวอุปกรณ์ที่เหล่าผู้ใช้ Apple มานานจะต้องลุกขึ้นยืนและปรบมือให้แน่นอนถ้ามันเกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ Apple
ทำไม Surface Studio ถึงทำให้เหล่าผู้ใช้ Mac น้ำลายหก?
ในฐานะที่ผมเป็นคนหนึ่งที่วาดรูประบายสีมาตั้งแต่ยุค '50s อุปกรณ์ที่ทำให้ผมสามารถสื่อสารได้เหมือนกับการที่ผมสื่อสารกับกระดาษและผืนผ้าใบนั้น มันน่าสนใจอย่างไม่ต้องคิดเลย ในโลกของผมนั้น Touchscreen เป็นเรื่องที่ make sense มากๆ
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องใช้ Touchscreen แต่การปฏิเสธประโยชน์ของมันนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องในความคิดของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่าอุปกรณ์อย่างพวก iPhone & iPad นั้นช่างเป็นอุปกรณ์ที่สร้างสรรค์ยิ่งนัก และในปี 2016 นี้ มีเพียงบริษัทเดียวที่ไม่มี Touchscreen ให้ลูกค้าของตนใช้ คือ Apple จริงอยู่ผมสามารถใช้ Wacom หรือไม่ก็วาดและลงสีด้วย Touchpad หรือ Mouse ก็ได้ แต่ยังไงมันก็สู้ Touchscreen ไม่ได้ เพราะเราจะทำงานในจุดที่เราอยากทำได้โดยตรง และ Wacom ไม่ตอบโจทย์นี้สำหรับผม เพราะผมต้องแยกประสาทระหว่าง Wacom และ หน้าจอ Mac
ผมยิ่งน้ำลายหกเข้าไปอีก เมื่อเห็น Surface Dial แต่เอาจริงๆ ผมหลง Surface Studio ไปตั้งแต่เห็น Touchscreen ที่สามารถพับลงมาได้ด้วยระบบไร้น้ำหนักแล้วล่ะครับ
การวาดรูปแบบ 3 มิติ
การวาดรูปแบบ 3 มิติด้วยปากกาในพื้นที่ 3 มิตินั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน ลองดูช่วงเวลา 1:12 ของคลิปด้านบน เราจะเห็นว่าปัจจุบันเราสามารถทำมันให้เป็นจริงได้ด้วย Surface Studio แต่ไม่ใช่แค่นั้น ในคลิปนี้ เรายังจะได้เห็นการใช้ Surface Dial สามารถทำให้เกิด "Colour flow" ซึ่งเป็นพลังในการอธิบายความเป็นตัวตนที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนไม่ว่าจะเป็นในโลกของ Computer หรือโลกแห่งความเป็นจริง
There's Giant On the Beach (with a nod and a wink to 1939 and the Fleischer brothers - ใครเข้าใจมาบอกผู้แปลด้วย)
Microsoft มารอบนี้ตั้งใจโฟกัสไปที่กลุ่มตลาดที่ Apple เคยให้ความสำคัญอย่างมากในอดีตแต่ได้ละเลยมาหลายปีแล้ว โดยได้หันไปให้ความสำคัญกับตลาดผู้บริโภคหลัก (mass market) ซึ่งจริงๆ แล้วก็ make sense สำหรับบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แต่การที่ Apple ทำแบบนั้นก็เป็นการเปิดโอกาสให้อุปกรณ์อย่าง Microsoft Surface Studio ได้เข้ามาสร้างความประทัปใจ โดยเฉพาะเมื่อ Surface Studio สามารถทำงานร่วมกับ Adober Creative Cloud (Adobe CC) และเครื่องมือทางด้าน Graphic, design, video ที่ทรงพลัง ร่วมกับขีดจำกัดความสามารถใหม่ๆ ที่มี user แค่ไม่กี่คนที่สามารถเข้าถึงได้ในอดีตไม่ว่าจะยอมจ่ายเท่าไหร่ก็ตาม
พวกเราที่ Creative COW ใช้อุปกรณ์ทำงานที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เราพบว่า ในปัจจุบันการที่อุปกรณ์ต่างๆ มี OS ที่ต่างกันนั้นมีความสำคัญน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก โดยเรามีทั้ง Macs, iOS, Windows, Androids, Chromebooks, Linux และเรามีทีวีที่ใช้ได้กับ Roku, Apple, Amazon Fire, Chromecast, Android พวกเราเป็น user ที่ซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมกับงานที่เราทำ -- และเมื่อมองถึงงานที่เกี่ยวกับ Graphic arts, Imaging, Video, computer animation, 3D และ Creative arts อื่นๆ แล้ว ดูเหมือนว่า Surface Studio จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของงานเหล่านี้ไปซะแล้ว ซึ่งเราจะคอยตามดูกันต่อไป
ท้ายที่สุดนี้ แม้ Microsoft จะคงยังไม่สามารถเปลี่ยนใจของหลายๆ คนที่พึ่งพา Final Cut Pro แต่สำหรับคนอื่นๆ ที่ ประสบการณ์ในการใช้ Mac ขึ้นอยู่กับเครื่องมืออื่น รวมถึงคนที่ใช้หลายๆ ระบบอยู่แล้ว พวกเขาคงจะมีแต่ความคิดดีๆ และพร้อมอ้าแขนรับสมาชิกใหม่ของ Microsoft
###
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ มีความเห็นกันอย่างไรบ้าง เชิญครับ
ปล. แก้ไข proof read ครับ ยาวเกินไปจริงๆ บทความนี้
Microsoft Surface Studio: เป็น Mac มากกว่า Mac? - ความเห็นจากกลุ่ม Creative ใหญ่ในต่างประเทศ
สามารถดูวีดีโอเปิดตัวได้อีกครั้งที่นี่ครับ
ซึ่งหลายๆ คนเห็นตรงกันว่า Creatives จำนวนมากทั่วโลกทั้งหลายนั้น มักจะทำงานบน Mac มาเป็นเวลานานโดยมี iMac เป็น powerhouse ในการทำงาน
นาย Ronald Lindeboom, CEO ของ CREATIVECOW.NET กลุ่มของ Creatives ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งและก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี และมีคนเข้าไปเยี่ยมชมเว็บสูงถึง 2 ล้าน Absolute Unique Visitor ต่อเดือน (ข้อมูลจากเว็บ creativecow.net) ซึ่ง CEO ผู้นี้หลังๆ ก็จะเขียนบทความน้อยลงแล้วเนื่องด้วยปัญหาสุขภาพ แต่คราวนี้ CEO ท่านนี้ได้ลุกขึ้นมาเขียนบทความที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเขียนได้ดีมากๆ เลยอยากนำมาฝากกันครับ ผมคงไม่แปลมาทั้งหมด เพราะความสามารถในการแปลมีจำกัด และมุกบางอย่างคนไทยคงไม่อิน และเอาจริงๆ อ่านภาษาของเค้าเองจะ "อิน" กว่าครับ
ใครที่สนใจก็เข้าไปอ่านได้ครับ ตามนี้
CREDIT: https://library.creativecow.net/lindeboom_ronald/surface_studio/1
บทความของคุณ Ronald มีอยู่ว่า:
Microsoft Surface Studio: Does It Out-Mac the Mac?
หนึ่งวันก่อนที่ Apple จะมีงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ใน Cupertino นั้น ทาง Microsoft ได้มีงานแถลงข่าวของตน ซึ่งมันเป็นข่าวที่เหมือนจะทำให้อากาศในห้องแถลงข่าวของ Apple ถูกดูดออกไปจนหมดสิ้น
ข่าวใหญ่ ของ Microsoft นั้น ในหลายๆ ด้าน ได้ให้ความรู้สึกเหมือนได้เห็น Mac เป็นครั้งแรก เมื่อหลายปีก่อนนู้น อุปกรณ์ที่ขายความรู้สึก และจินตนาการ ซึ่งเป็นจุดขายของ Mac ที่เราๆ รู้สึกกันมาอย่างยาวนาน ดันมาอยู่ในมือของ Microsoft ได้อย่างประหลาด ไม่อยากจะพูดเลยว่า $#@! Microsoft ได้ปลุกความฝันขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเดิมสิ่งนี้เป็นประสบการณ์ของ Mac ในสมัยก่อนที่ได้ค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา การที่ Microsoft เลือกที่จะเปิดตัว Surface Studio ด้วยเพลงจาก "Willy Wonka and the Chocolate Factory" ที่มีเนื้อเพลงที่งดงามอย่าง "Come with me, and we'll be, in a world of pure imagination - ก้าวมากับฉัน และเราจะอยู่ในโลกที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการ" นั้น ยิ่งเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้ (จากมุมมองของผู้ที่ใช้ Mac มานาน) คิดว่า Microsoft เข้าใจว่า Creatives ทั้งหลาย "รู้สึก" อย่างไรกับการที่ได้มี "อุปกรณ์" ที่สามารถอธิบายความเป็นตัวตนของเขาออกมาได้
แต่ Microsoft ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะ Microsoft ได้ทำสิ่งที่ Apple สามารถทำได้มาตลอด นั่นคือเก็บสิ่งที่จะประกาศไว้เป็นความลับที่สุดจนกว่าจะถึงการเปิดตัว และทำการเปิดตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับสถิติหรือตัวเลข แต่เน้นไปที่สิ่งที่พวกเราสามารถ "ทำ" ได้กับอุปกรณ์ใหม่ชิ้นนี้ และพวกเราจะ "รู้สึก" อย่างไรเมื่อสามารถสร้างสรรค์ไอเดียของพวกเราได้ด้วยเจ้าสิ่งนี้
สารที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและเปี่ยมไปด้วยจินตนาการนี้ เป็นที่ตรงใจของสมาชิกแกนหลักของ COW เราซึ่งเป็น Professional ที่ใช้ Mac หลายๆ คน เช่น Marco Solorio ซึ่งเป็น Mac Power User ปัจจุบันกำลังพูดถึง Microsoft อย่างจริงจัง (เน้นให้เรากลับไปดู clip เปิดตัวอีกครั้ง)
ความตื่นตาตื่นใจใน clip เปิดตัวนี้เป็นสิ่งที่ Microsoft ไม่เคยย่างกรายเข้ามาในโลกของ Apple เป็นเวลานาน แต่ Microsoft ได้เรียนรู้และเตรียมการมาเป็นอย่างดีจนทำให้แฟนๆ Mac Diehard ทั้งหลายยอมรับว่าเป็น Clip เปิดตัวที่ยอมเยี่ยม อีกทั้งในวันถัดมาที่ Tim Cook เปิดตัวสิ่งที่แฟนๆ Apple ทั้งหลายรู้สึกว่า "งั้นๆ" แม้ว่าพวกเราหลายคนใน COW จะรู้สึกว่า Apple ทำตามที่เราต้องการในเรื่องของการรองรับ Thunderbolt 3 และเป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการรอคอยก็ตามที แต่ Microsoft ได้เปิดตัวอุปกรณ์ที่เหล่าผู้ใช้ Apple มานานจะต้องลุกขึ้นยืนและปรบมือให้แน่นอนถ้ามันเกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ Apple
ทำไม Surface Studio ถึงทำให้เหล่าผู้ใช้ Mac น้ำลายหก?
ในฐานะที่ผมเป็นคนหนึ่งที่วาดรูประบายสีมาตั้งแต่ยุค '50s อุปกรณ์ที่ทำให้ผมสามารถสื่อสารได้เหมือนกับการที่ผมสื่อสารกับกระดาษและผืนผ้าใบนั้น มันน่าสนใจอย่างไม่ต้องคิดเลย ในโลกของผมนั้น Touchscreen เป็นเรื่องที่ make sense มากๆ
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องใช้ Touchscreen แต่การปฏิเสธประโยชน์ของมันนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องในความคิดของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่าอุปกรณ์อย่างพวก iPhone & iPad นั้นช่างเป็นอุปกรณ์ที่สร้างสรรค์ยิ่งนัก และในปี 2016 นี้ มีเพียงบริษัทเดียวที่ไม่มี Touchscreen ให้ลูกค้าของตนใช้ คือ Apple จริงอยู่ผมสามารถใช้ Wacom หรือไม่ก็วาดและลงสีด้วย Touchpad หรือ Mouse ก็ได้ แต่ยังไงมันก็สู้ Touchscreen ไม่ได้ เพราะเราจะทำงานในจุดที่เราอยากทำได้โดยตรง และ Wacom ไม่ตอบโจทย์นี้สำหรับผม เพราะผมต้องแยกประสาทระหว่าง Wacom และ หน้าจอ Mac
ผมยิ่งน้ำลายหกเข้าไปอีก เมื่อเห็น Surface Dial แต่เอาจริงๆ ผมหลง Surface Studio ไปตั้งแต่เห็น Touchscreen ที่สามารถพับลงมาได้ด้วยระบบไร้น้ำหนักแล้วล่ะครับ
การวาดรูปแบบ 3 มิติ
การวาดรูปแบบ 3 มิติด้วยปากกาในพื้นที่ 3 มิตินั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน ลองดูช่วงเวลา 1:12 ของคลิปด้านบน เราจะเห็นว่าปัจจุบันเราสามารถทำมันให้เป็นจริงได้ด้วย Surface Studio แต่ไม่ใช่แค่นั้น ในคลิปนี้ เรายังจะได้เห็นการใช้ Surface Dial สามารถทำให้เกิด "Colour flow" ซึ่งเป็นพลังในการอธิบายความเป็นตัวตนที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนไม่ว่าจะเป็นในโลกของ Computer หรือโลกแห่งความเป็นจริง
There's Giant On the Beach (with a nod and a wink to 1939 and the Fleischer brothers - ใครเข้าใจมาบอกผู้แปลด้วย)
Microsoft มารอบนี้ตั้งใจโฟกัสไปที่กลุ่มตลาดที่ Apple เคยให้ความสำคัญอย่างมากในอดีตแต่ได้ละเลยมาหลายปีแล้ว โดยได้หันไปให้ความสำคัญกับตลาดผู้บริโภคหลัก (mass market) ซึ่งจริงๆ แล้วก็ make sense สำหรับบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แต่การที่ Apple ทำแบบนั้นก็เป็นการเปิดโอกาสให้อุปกรณ์อย่าง Microsoft Surface Studio ได้เข้ามาสร้างความประทัปใจ โดยเฉพาะเมื่อ Surface Studio สามารถทำงานร่วมกับ Adober Creative Cloud (Adobe CC) และเครื่องมือทางด้าน Graphic, design, video ที่ทรงพลัง ร่วมกับขีดจำกัดความสามารถใหม่ๆ ที่มี user แค่ไม่กี่คนที่สามารถเข้าถึงได้ในอดีตไม่ว่าจะยอมจ่ายเท่าไหร่ก็ตาม
พวกเราที่ Creative COW ใช้อุปกรณ์ทำงานที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เราพบว่า ในปัจจุบันการที่อุปกรณ์ต่างๆ มี OS ที่ต่างกันนั้นมีความสำคัญน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก โดยเรามีทั้ง Macs, iOS, Windows, Androids, Chromebooks, Linux และเรามีทีวีที่ใช้ได้กับ Roku, Apple, Amazon Fire, Chromecast, Android พวกเราเป็น user ที่ซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมกับงานที่เราทำ -- และเมื่อมองถึงงานที่เกี่ยวกับ Graphic arts, Imaging, Video, computer animation, 3D และ Creative arts อื่นๆ แล้ว ดูเหมือนว่า Surface Studio จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของงานเหล่านี้ไปซะแล้ว ซึ่งเราจะคอยตามดูกันต่อไป
ท้ายที่สุดนี้ แม้ Microsoft จะคงยังไม่สามารถเปลี่ยนใจของหลายๆ คนที่พึ่งพา Final Cut Pro แต่สำหรับคนอื่นๆ ที่ ประสบการณ์ในการใช้ Mac ขึ้นอยู่กับเครื่องมืออื่น รวมถึงคนที่ใช้หลายๆ ระบบอยู่แล้ว พวกเขาคงจะมีแต่ความคิดดีๆ และพร้อมอ้าแขนรับสมาชิกใหม่ของ Microsoft
###
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ มีความเห็นกันอย่างไรบ้าง เชิญครับ
ปล. แก้ไข proof read ครับ ยาวเกินไปจริงๆ บทความนี้