. ขึ้นชื่อว่ารอยสัก เชื่อว่าวัยรุ่น หลายๆ คนมองเห็นเป็นเรื่องเท่ เป็นแฟชั่น เป็นการแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์และตัวตนกันใช่มั้ยคะ แต่ภาพจากคนภายนอกที่มองเข้ามาก็มักจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสังคมไทยเราส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยให้การยอมรับคนที่มีรอยสักเท่าไรนัก บางครั้งยังถูกมองไปในทางไม่ดีอีกด้วยเนอะ
เราเองก็เป็นคนนึงที่มีรอยสักบนร่างกายค่ะ และเราเข้าใจได้กับสายตาที่คนทั่วไปมอง ว่าคิดอย่างไร ยอมรับนะคะ ว่าหลายครั้งก็เสียเซลฟ์มาก เพราะเราก็ไม่ได้คิดว่ารอยสักของเราจะทำให้เราถูกมองไปในทางไม่ดีขนาดนั้น แต่ก็ยังไม่เคยคิดจะลบ จนวันที่ครอบครัวเราเริ่มพูดถึงบ่อยๆ และขอให้ลบนี่ล่ะค่ะ เลยคิดว่าคงถึงเวลาแล้วแหละ ก็เข้าไปหาข้อมูลใน Internet เพื่อหาที่ลบ แล้วไปเจอ Facebook ของ Dr. Tattof กดไลค์เป็นเฟนเพจเรียบร้อย ก็ติดตามข่าวสารต่างๆ จนมีวันหนึ่ง เห็นว่าที่เพจมีกิจกรรมหาผู้โชคดีไปลบรอยสักฟรีทั้งคอร์สแบบหายสนิทไปเลย ไม่ต้องคิดให้นานค่ะ เล่นทันทีเลย 555 เพราะติดตามเพจมาตลอดเห็นว่าเทคโนโลยีดีมาก มีดารา นักแสดง มาใช้บริการกันหลายคนเลยค่ะ ขอบอกว่าตอนที่แอดมินประกาศผู้โชคดีนี่ดีใจสุดๆ
นี่ค่ะ รอยสักของเราอยู่ตรงต้นขาเป็นรูปสมอเรือ รอยสักนี้อยู่กับเรามา 4 ปี สาเหตุหลักๆ ที่อยากเอาออก ก็ตามที่บอก คือเรื่องครอบครัวค่ะ พ่อแม่พูดบ่อยมากว่าอยากให้ลบ แล้วตอนนี้เราเองก็เป็นแม่คนแล้ว เลยอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเจ้าตัวน้อย ไม่อยากให้ลูกโตมาเห็นรอยสักที่เรามี นอกจากเรื่องนี้ก็เรื่องงาน เพราะก็ต้องยอมรับกันตรงๆ อย่างที่เกริ่นไปตอนก่อนหน้า ว่าสังคมไทยประเมินคนจากภายนอกมากๆ และรอยสักของเราก็ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ส่วนที่มาของรอยสักนี้ก็ไม่ธรรมดาค่ะ ด้วยความที่ตอนนั้นมีปัญหากับแฟน ทะเลาะแล้วเลิกกัน แต่ด้วยความที่รักแฟนมาก ก็เลยเลือกที่จะสักรูปสมอเรือไว้ที่ต้นขา เหมือนเป็นการตรึงความรักครั้งนี้เอาไว้ไม่ให้มันไปไหนค่ะ (นี่ก็งงอยู่ว่าตอนนั้นคิดได้ไง -*- )
นี่แหละค่ะ สมอเรือของเรา อยู่ตรงต้นขาเลย
หลังจากที่เรายืนยันสิทธิ์ไปกับเพจ Dr. Tattof ทางคลีนิกก็ติดต่อมานัดเรื่องวันและเวลาที่จะไปรับบริการครั้งแรก คือวันที่ 5 กรกฎาคม เราก็คอนเฟิร์มกันไปเรียบร้อย จากที่สอบถามกับทางคุณหมอ รอยสักของเราจะใช้บริการประมาณ 7-8 ครั้ง ก็จะหายสนิทค่ะ พอถึงวันนัดเราก็เข้าไปที่คลินิก Dr.Tattof ชั้น 5 สีลมคอมเพล็กซ์ ใครที่มา BTS ก็ลงสถานีศาลาแดง แล้วก็เดินเข้ามาสีลมคอมเพล็กซ์ ตรงทางเชื่อมของ BTS ได้เลยค่ะ
เดินขึ้นมาชั้น 5 ด้านหน้าคลีนิกค่ะ
มาถึงคลีนิกก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเราเป็นผู้โชคดีจากกิจกรรมในเพจมาลบรอยสักค่า พี่เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็ยิ้มรับเราเลย ^_^ แล้วก็ให้เราลงประวัติพร้อมอธิบายขั้นตอนการรักษาให้เราเข้าใจ
ขั้นแรกเราก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคลุมของคลินิกก่อนค่ะ เพื่อให้คุณหมอสามารถทำเลเซอร์ได้อย่างเต็มที่ เปลี่ยนชุดเสร็จก็มาทายาชาค่ะ ตอนแรกที่พี่เค้าบอกว่าจะมีการให้ยาชาก่อนนี่หัวเราคิดไปไกลเลยค่ะ ต้องฉีดแน่ๆ จะทำยังไงดี เพราะเรากลัวเข็ม ตอนที่สติกำลังเตลิด ยาชาก็มาถึงตัวแล้วค่ะ โบ๊ะ! อ้าว เป็นแบบครีม ทาลงบนผิวเราได้เลย ค่อยยังชั่ว 555
พอทายาชาเสร็จ ก็เอาพลาสติกมาซีนไว้ และให้เรารอประมาน 45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ค่ะ ระหว่างนี้ก็นั่งเล่นโทรศัพท์กันไป คุยกันไปเพลินๆ พอครบ 45 นาที เวลาแห่งความตื่นเต้นก็มาถึง คุณหมอมาแล้ววว หมอหล่อด้วยอ่าาา ตื่นเต้นกว่าเดิมไปอีกกก
แล้วคุณหมอก็พาเราไปห้องทำเลเซอร์ที่มีเครื่อง Picoway อยู่ด้วย เจ้าเครื่องนี้นี่แหละค่ะ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ สามารถช่วยลบรอยสักได้อย่างหายสนิท เหมือนไม่เคยสักมาก่อนเลย เราเองก็เพิ่งเคยเห็น ยืนมองได้แปปนึง คุณหมอก็ให้เราขึ้นเตียง จัดท่าจัดทางกันเรียบร้อย ก็ใส่แว่นปิดตากันแสงเลเซอร์ จากนั้นคุณหมอก็เริ่มใช้เจ้าเครื่อง Picoway ยิงเลเซอร์ลบรอยสักให้เราค่ะ
โดยคุณหมอบอกว่าเจ้าเลเซอร์ Picoway เนี่ย เป็นเลเซอร์ระดับ Picosecond ที่มีความจำเพาะต่อเม็ดสีรอยสัก และรอยดำเท่านั้น มีความสามารถพิเศษที่ทำให้เม็ดสี และรอยสักแตกละเอียดเป็นอนุภาคเล็กๆ ซึ่งเครื่องเลเซอร์รุ่นเดิมๆ ไม่สามารถทำได้ โดยใช้พลังงานเลเซอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และร่างกายจะมีกลไกในเก็บกินอนุภาคเล็กๆ ที่ถูกทำลายไปได้เอง จึงทำให้เห็นผลเร็วกว่าเมื่อเทียบกับเลเซอร์รุ่นเดิมๆ ปลอดภัยและเจ็บน้อยกว่า แถมยังไม่ทำอันตรายต่อผิวส่วนอื่นอีกด้วย ซึ่ง Picoway สามารถจัดการได้กับปัญหาหลายอย่าง ทั้งกระ, ปานต่างๆ จนถึงรอยสักที่เรามาทำอยู่นี่เลยค่ะ
และนี่ก็คือหน้าตาเจ้าเครื่อง Picoway ที่คุณหมอใช้ในการลบรอยสักค่า
ตอนยิงก็มีเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เท่าตอนสักแน่นอนค่ะ ระหว่างเลเซอร์ก็มีการเป่าลมเย็นช่วยด้วย ทำให้เราไม่เจ็บมากค่ะ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ แป๊บเดียวเอง แต่รอยสักจางลงไปเยอะอยู่นะคะ เห็นเองยังตกใจเลย ไม่คิดว่าจะจางลงไปเยอะขนาดนี้ เหมือนมันหายไปเลยอ่ะ คุณหมอเห็นหน้าเรากำลังตะลึงกับผลที่ได้ เลยต้องอธิบายให้ฟังว่าที่เห็นตอนนี้ว่ามันหายไปเลย เป็นเอฟเฟ็กที่เกิดหลังจากเลเซอร์นะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จริงๆ คือหลังจากนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ครับ อ่ออออ แบบนี้นี่เอง (คอยดูผล 1 สัปดาห์ด้านล่างนะคะ)
หลังจากเลเซอร์เรียบร้อยแล้ว พี่เจ้าหน้าที่คนสวยก็มาทายา เอาผ้ามาปิดรอยสักให้อย่างดี เพื่อป้องกันการเสียดสีกับกางเกง เสร็จแล้วเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับค่ะ ก่อนกลับคุณหมอก็มียาให้ด้วย ทั้งยากินและยาทาเลยค่ะ
เรียบร้อยแล้ว กับการมารับบริการลบรอยสักครั้งแรกของเรา เลยอยากเอาประสบการณ์ดีๆ มาแชร์ให้ทุกๆ คนได้ทราบกันค่ะ จากที่ได้ใช้บริการ ขอยืนยันอีกเสียงหนึ่งเลยว่า ที่นี่บริการดีมากจริงๆ พนักงานก็เป็นกันเอง และเพียงแค่ลบรอยสักครั้งแรก รอยสักก็ดูจางลง แถมไม่มีรอยแผลเป็น หรือรอยนูนอะไรเลย ผิวปกติเหมือนเดิมเป๊ะ
ถ่ายรูปกับคุณหมอซะหน่อย
แท่น แทน แท๊นนน และนี่คือผลหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ค่ะ เปรียบเทียบให้ดูว่าจางลงไปขนาดไหน โดยรวมที่เห็นได้ชัดคือ ความเข้มของหมึกดูลดลงค่ะ และบางส่วนที่รอยสักไม่เข้มมากก็จางลงเลย ตรงที่เราวงสีแดงไว้ จะเห็นได้ว่าสีหมึกมีการแตกตัวออก และสีจางลง ขนาดใช้บริการครั้งแรกเองนะ <3 (สีในรูปอาจแตกต่างกันนะคะ เนื่องจากใช้กล้องคนละตัวถ่ายค่ะ) แล้วเราจะมาอัพเดทการลบครั้งต่อๆไปให้ดูกันนะคะ
ก่อนทำ หลังทำครั้งแรกผ่านไป 1 สัปดาห์
สำหรับเราที่น่าประทับใจมากๆ นอกจากรอยหมึกที่จางลงแล้ว ก็คือผิวของเราค่ะ บริเวณรอบๆ รอยสักที่ผ่านการยิงเลเซอร์มานั้นแทบไม่มีรอยอะไรเลย มีรอยแดงๆ บ้างตอนใช้บริการเสร็จใหม่ๆ แต่พอทายาและทานยาตามที่คุณหมอให้มาก็ดีขึ้น ไม่มีรอยแผลเป็น ไม่มีรอยนูนอะไรเลย เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวว่าผิวจะพัง และถ้าทำจนครบคอร์ส เราคงเหมือนได้ผิวเดิมกลับคืนมาอีกครั้งกันเลยทีเดียว ก็ต้องขอขอบคุณคุณหมอ และคลีนิก Dr. Tattof ที่ให้เราได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
และนอกจากบริการลบรอยสักแล้ว Dr. Tattof ยังมีบริการที่เกี่ยวกับเลเซอร์มากมาย ทั้งรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว รอยแผลเป็น รักษาหลุมสิวได้อีกด้วยนะคะ ด้วยนวัตกรรมของเครื่อง Picoway ที่รักษาได้เหนือกว่า รวดเร็วกว่า และที่สำคัญ คุณหมอและพี่เจ้าหน้าที่น่ารักมากๆ ถ้าใครสนใจ ก็สามารถเข้าไปปรึกษาที่คลินิก หรือโทรไปสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ตามข้อมูลด้านล่างนี้เลยค่ะ
โทรศัพท์ 02-632-0079
facebook
https://www.facebook.com/drtattof
Website
http://drtattof.com/
[Advertorial]
ลบรอยสักให้เหมือนไม่เคยสัก ใครว่าทำไม่ได้!
นี่ค่ะ รอยสักของเราอยู่ตรงต้นขาเป็นรูปสมอเรือ รอยสักนี้อยู่กับเรามา 4 ปี สาเหตุหลักๆ ที่อยากเอาออก ก็ตามที่บอก คือเรื่องครอบครัวค่ะ พ่อแม่พูดบ่อยมากว่าอยากให้ลบ แล้วตอนนี้เราเองก็เป็นแม่คนแล้ว เลยอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเจ้าตัวน้อย ไม่อยากให้ลูกโตมาเห็นรอยสักที่เรามี นอกจากเรื่องนี้ก็เรื่องงาน เพราะก็ต้องยอมรับกันตรงๆ อย่างที่เกริ่นไปตอนก่อนหน้า ว่าสังคมไทยประเมินคนจากภายนอกมากๆ และรอยสักของเราก็ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ส่วนที่มาของรอยสักนี้ก็ไม่ธรรมดาค่ะ ด้วยความที่ตอนนั้นมีปัญหากับแฟน ทะเลาะแล้วเลิกกัน แต่ด้วยความที่รักแฟนมาก ก็เลยเลือกที่จะสักรูปสมอเรือไว้ที่ต้นขา เหมือนเป็นการตรึงความรักครั้งนี้เอาไว้ไม่ให้มันไปไหนค่ะ (นี่ก็งงอยู่ว่าตอนนั้นคิดได้ไง -*- )
นี่แหละค่ะ สมอเรือของเรา อยู่ตรงต้นขาเลย
หลังจากที่เรายืนยันสิทธิ์ไปกับเพจ Dr. Tattof ทางคลีนิกก็ติดต่อมานัดเรื่องวันและเวลาที่จะไปรับบริการครั้งแรก คือวันที่ 5 กรกฎาคม เราก็คอนเฟิร์มกันไปเรียบร้อย จากที่สอบถามกับทางคุณหมอ รอยสักของเราจะใช้บริการประมาณ 7-8 ครั้ง ก็จะหายสนิทค่ะ พอถึงวันนัดเราก็เข้าไปที่คลินิก Dr.Tattof ชั้น 5 สีลมคอมเพล็กซ์ ใครที่มา BTS ก็ลงสถานีศาลาแดง แล้วก็เดินเข้ามาสีลมคอมเพล็กซ์ ตรงทางเชื่อมของ BTS ได้เลยค่ะ
เดินขึ้นมาชั้น 5 ด้านหน้าคลีนิกค่ะ
ขั้นแรกเราก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคลุมของคลินิกก่อนค่ะ เพื่อให้คุณหมอสามารถทำเลเซอร์ได้อย่างเต็มที่ เปลี่ยนชุดเสร็จก็มาทายาชาค่ะ ตอนแรกที่พี่เค้าบอกว่าจะมีการให้ยาชาก่อนนี่หัวเราคิดไปไกลเลยค่ะ ต้องฉีดแน่ๆ จะทำยังไงดี เพราะเรากลัวเข็ม ตอนที่สติกำลังเตลิด ยาชาก็มาถึงตัวแล้วค่ะ โบ๊ะ! อ้าว เป็นแบบครีม ทาลงบนผิวเราได้เลย ค่อยยังชั่ว 555
โดยคุณหมอบอกว่าเจ้าเลเซอร์ Picoway เนี่ย เป็นเลเซอร์ระดับ Picosecond ที่มีความจำเพาะต่อเม็ดสีรอยสัก และรอยดำเท่านั้น มีความสามารถพิเศษที่ทำให้เม็ดสี และรอยสักแตกละเอียดเป็นอนุภาคเล็กๆ ซึ่งเครื่องเลเซอร์รุ่นเดิมๆ ไม่สามารถทำได้ โดยใช้พลังงานเลเซอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และร่างกายจะมีกลไกในเก็บกินอนุภาคเล็กๆ ที่ถูกทำลายไปได้เอง จึงทำให้เห็นผลเร็วกว่าเมื่อเทียบกับเลเซอร์รุ่นเดิมๆ ปลอดภัยและเจ็บน้อยกว่า แถมยังไม่ทำอันตรายต่อผิวส่วนอื่นอีกด้วย ซึ่ง Picoway สามารถจัดการได้กับปัญหาหลายอย่าง ทั้งกระ, ปานต่างๆ จนถึงรอยสักที่เรามาทำอยู่นี่เลยค่ะ
และนี่ก็คือหน้าตาเจ้าเครื่อง Picoway ที่คุณหมอใช้ในการลบรอยสักค่า
ตอนยิงก็มีเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เท่าตอนสักแน่นอนค่ะ ระหว่างเลเซอร์ก็มีการเป่าลมเย็นช่วยด้วย ทำให้เราไม่เจ็บมากค่ะ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ แป๊บเดียวเอง แต่รอยสักจางลงไปเยอะอยู่นะคะ เห็นเองยังตกใจเลย ไม่คิดว่าจะจางลงไปเยอะขนาดนี้ เหมือนมันหายไปเลยอ่ะ คุณหมอเห็นหน้าเรากำลังตะลึงกับผลที่ได้ เลยต้องอธิบายให้ฟังว่าที่เห็นตอนนี้ว่ามันหายไปเลย เป็นเอฟเฟ็กที่เกิดหลังจากเลเซอร์นะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จริงๆ คือหลังจากนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ครับ อ่ออออ แบบนี้นี่เอง (คอยดูผล 1 สัปดาห์ด้านล่างนะคะ)
หลังจากเลเซอร์เรียบร้อยแล้ว พี่เจ้าหน้าที่คนสวยก็มาทายา เอาผ้ามาปิดรอยสักให้อย่างดี เพื่อป้องกันการเสียดสีกับกางเกง เสร็จแล้วเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับค่ะ ก่อนกลับคุณหมอก็มียาให้ด้วย ทั้งยากินและยาทาเลยค่ะ
เรียบร้อยแล้ว กับการมารับบริการลบรอยสักครั้งแรกของเรา เลยอยากเอาประสบการณ์ดีๆ มาแชร์ให้ทุกๆ คนได้ทราบกันค่ะ จากที่ได้ใช้บริการ ขอยืนยันอีกเสียงหนึ่งเลยว่า ที่นี่บริการดีมากจริงๆ พนักงานก็เป็นกันเอง และเพียงแค่ลบรอยสักครั้งแรก รอยสักก็ดูจางลง แถมไม่มีรอยแผลเป็น หรือรอยนูนอะไรเลย ผิวปกติเหมือนเดิมเป๊ะ
ถ่ายรูปกับคุณหมอซะหน่อย
แท่น แทน แท๊นนน และนี่คือผลหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ค่ะ เปรียบเทียบให้ดูว่าจางลงไปขนาดไหน โดยรวมที่เห็นได้ชัดคือ ความเข้มของหมึกดูลดลงค่ะ และบางส่วนที่รอยสักไม่เข้มมากก็จางลงเลย ตรงที่เราวงสีแดงไว้ จะเห็นได้ว่าสีหมึกมีการแตกตัวออก และสีจางลง ขนาดใช้บริการครั้งแรกเองนะ <3 (สีในรูปอาจแตกต่างกันนะคะ เนื่องจากใช้กล้องคนละตัวถ่ายค่ะ) แล้วเราจะมาอัพเดทการลบครั้งต่อๆไปให้ดูกันนะคะ
ก่อนทำ หลังทำครั้งแรกผ่านไป 1 สัปดาห์
สำหรับเราที่น่าประทับใจมากๆ นอกจากรอยหมึกที่จางลงแล้ว ก็คือผิวของเราค่ะ บริเวณรอบๆ รอยสักที่ผ่านการยิงเลเซอร์มานั้นแทบไม่มีรอยอะไรเลย มีรอยแดงๆ บ้างตอนใช้บริการเสร็จใหม่ๆ แต่พอทายาและทานยาตามที่คุณหมอให้มาก็ดีขึ้น ไม่มีรอยแผลเป็น ไม่มีรอยนูนอะไรเลย เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวว่าผิวจะพัง และถ้าทำจนครบคอร์ส เราคงเหมือนได้ผิวเดิมกลับคืนมาอีกครั้งกันเลยทีเดียว ก็ต้องขอขอบคุณคุณหมอ และคลีนิก Dr. Tattof ที่ให้เราได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
โทรศัพท์ 02-632-0079
facebook https://www.facebook.com/drtattof
Website http://drtattof.com/
[Advertorial]