เดาว่าหลายคนคงเคยเห็น / ได้ยินชื่อโฮมสเตย์ 2 ที่นี้มาแล้ว
ก็เล่นบรรยากาศดี สโลไลฟ์ขนาดนั้น คนจะอดใจไม่แชร์ยังไงไหว
ที่สำคัญคือมีแบงค์ห้าร้อยใบเดียวก็ไปพักที่ ‘บ้านระเบียงดาว’ หรือ ‘บ้านป่าบงเปียง’ ได้
(อยากไป 2 ที่ ต้องมีแบงค์พัน ฮ่าๆ) ไม่ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวก็ไปได้
ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้แอบไปชาร์จพลังชีวิต แล้วค่อยกลับมาลุยงานเนอะ
ค่าใช้จ่าย + ข้อมูลการเดินทาง รวมอยู่ในรีวิวนี้แล้ว ไปดูกันเล้ยยย !
ขอเริ่มจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นก่อนค่ะ ทริปนี้โดนไปทั้งหมด 5,245 บ. ซึ่งมาจาก..
1. ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 3,200 บ.
2. ค่ารถ (รวมหมด แท๊กซี่ รถแดง รถเหลือง รถประจำทาง) 820 บ.
3. ค่าที่พัก บ้านระเบียงดาว 500 บ. + บ้านพี่ศรชัย ที่บ้านป่าบงเปียง 500 บ. (ทั้ง 2 ที่รวมอาหารเช้า-เย็น)
4. ค่าอาหารมื้อที่ต้องหากินเอง 225 บ. (ไม่รวมขนมนมเนยที่ซื้อจากเซเว่น)
ไปนอนโฮมสเตย์ อย่าลืมเอาของพวกนี้ไปด้วย..
พาวเวอร์แบงค์ / แบตสำรอง, ไฟฉาย, ยากันยุง, กางเกงนอนขายาว
ผ้าขนหนูอาบน้ำ (ทั้ง 2 ที่ไม่มีให้นะ), สบู่ + ยาสระผม
ความจริงทริปนี้เราบินดึกเพราะต้องการประหยัดงบ แพลนตอนแรกคือคืนนี้นอนสนามบิน เช้าค่อยนั่งรถไปขนส่ง ไปบ้านระเบียงดาว แต่พอเอาเข้าจริง นอนไม่ลง เก้าอี้สนามบินแข็งเว่อร์ ! เลยนั่งหาโฮสเทลกันตอน 5 ทุ่ม แล้วเรียกแท๊กซี่ไปเลย 160 บ. (2 คน) พวกเราไปถึง
‘Chiangmai Backpack House’ และจ่ายเงินคนละ 180 บ. ด้วยความงงและขำตัวเอง55555 เอาวะ นอนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า
ถึงเมื่อคืนจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะต้องฟังเสียงรถทั้งคืน (ตอนหาที่นอนดันไม่ดูว่าติดถนนใหญ่) แต่เช้านี้พวกเราก็พร้อลุยค่ะ ! จากที่พักพวกเรานั่งรถแดงไปลง
‘ขนส่งช้างเผือก’ ด้วยราคา 20 บ. / คน ถ้าใครชอบเดินก็เดินได้นะประมาณ 2.4 กิโล
ถึงปุ๊ปมองหาร้านข้าวก่อนเลย มีหลายร้านอยู่นะรอบๆขนส่ง แล้วเราก็มาสะดุดที่ร้านนี้..
ร้านดูสะอาดน่านั่งและคนเยอะพอสมควร น่าจะไว้ใจได้
เช้าๆแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าน้ำซุปร้อนๆอีกแล้ววววว จัดน้ำตกหมูมาหนึ่งค่ะแม่ !
(เท่าที่สังเกต คุณป้าคนเหนือเขาจะแทนตัวเองว่าแม่)
หอม อร่อย ให้เยอะ กินแล้วตื่นเลย ! จ่ายตังค์ 45 บ. เรียบร้อย พวกเราก็เดินไปซื้อเสบียงที่เซเว่น
รถสายเชียงใหม่-ท่าตอนกำลังจะออกแล้วววววววว โดดขึ้นเล้ยยยยย
นั่งไปสักพักก็จะมีพนักงานมาเก็บค่าโดยสารค่ะ จะถูกจะแพงขึ้นกับระยะทาง
บอกว่าลง
‘โลตัสเชียงดาว’ เขาก็จะเก็บเรา 40 บ. จากนี่ใช่เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ทีแรกว่าจะหลับ แต่ดันเจอตัวป่วนเข้าให้..
คุยเล่นกันตั้งนาน ตอนน้องลงรถดันหลับซะงั้น เลยไม่ได้บ๊ายบายน้องเลยยยยย ถ้าคุณพ่อคุณแม่น้องอ่านอยู่ ฝากสวัสดีน้องศุภวิชกับน้องจุติมาด้วยนะค้า (สะกดถูกมั้ยไม่รู้ น้องๆยืนยันว่าน้องๆไม่มีชื่อเล่น ฮ่าๆ) นั่งลมเย็นๆ แป๊ปเดียว รถก็จอดหน้าโลตัสค่ะ
จากข้อมูลที่หามาเขาบอกว่าให้ขึ้นรถสองแถวเชียงดาว-เมืองคอง / รถสองแถวที่ไปถ้ำเชียงดาว ค่าเสียหายคนละ 50 บ. ซึ่งจะมีคิวจอดอยู่แถวนั้น แต่นี่ก็ดันไม่ได้ทำถามแผนที่วางไว้เพราะว่า.. ทันทีที่ลงจากรถประจำทาง ก็เห็นคุณพี่คนนึงยืนกวักมืออยู่ในซอกเล็กๆข้างโลตัส ตอนนั้นคิดในใจ ‘เรียกเราหรอ ? มีใครเห็นพี่เขาอีกมั้ยวะ’ พอเข้าไปใกล้ๆก็โล่งใจ พี่เขาเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติเชียงดาว ทำเหล้าขาวขายแถวนี้ เลยรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปพักโฮมสเตย์บนนั้นด้วย คิดราคา 50 บ. เท่าสองแถวเลย วันนึงพี่เขาจะวิ่งรถประมาณ 3 รอบ มาถึงหน้าโลตัสตอน 8 โมงครึ่ง 11 โมง บ่ายโมงค่ะ ใครสนใจก็จดเบอร์ไว้น้า ชื่อพี่บุญ 098-783-7217, 083-318-3062
นั่งประมาณ 20 นาที พวกเราก็มาถึงทางเข้าอุทยานค่ะ
ทำการลงชื่อ ระบุโฮมสเตย์ที่จะไปพัก วันเข้า-ออก เรียบร้อย พวกเราก็ไปกันต่อ
25 นาทีต่อมา ถึง
‘บ้านระเบียงดาว’ แล้วว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ! ระหว่างทางไปเช็คอิน ขอเม้าท์หน่อย (ใครขี้เกียจอ่านข้ามได้นะย่อหน้านี้) 4 เดือนที่แล้วเราโทรมาจองห้องพักที่นี่วันที่ 28 ตุลา 59 โอนมัดจำเรียบร้อย โทรคอนเฟิร์มเรียบร้อย อยู่ๆวันที่ 23 กันยา มีพนักงานโทรมาถามว่าพรุ่งนี้จะเข้ามาประมาณกี่โมง นี่ก็งง บอกจองไว้เดือนหน้าค่ะ ไม่ใช่วันที่นี้ด้วย ไอคนโทรมาก็งงเพราะไม่ใช่คนรับจอง ไปๆมาๆให้เราคุยกับคนรับจอง สิ่งที่เขาพูดกับเราคือ ‘อะไรคะ ก็คุณจองไว้วันพรุ่งนี้ค่ะ เนี่ยจดไว้ค่ะ คุณโทรมาคอนเฟิร์มด้วยว่าวันนี้’ (เสียงแบบโวยวาย) เราก็บอก ‘ไม่ได้จองวันพรุ่งนี้ค่ะ จองวันที่ 29 เดือนหน้า’ เราไม่มีเหตุผลที่ต้องจอง 24 กันยาเว่ย ตั๋วเครื่องบินก็จองไว้เดือนตุลา บ้านป่าบงเปียงก็จองไว้ 29 ตุลา.. คุยกันสักพัก หาข้อสรุปไม่ได้ พนักงานเลยบอกว่างั้นวันที่ 28 ก็ walk in มาเลยค่ะ ถ้ามีห้องว่างก็ได้นอน ถ้าไม่มีเดี๋ยวให้ไปนอนโฮมสเตย์รอบๆ เราก็ถามว่าแล้วถ้าวันนั้นโฮมสเตย์รอบๆก็เต็มเราจะทำไง เขาบอกไม่เต็มค่ะ มีหลายเจ้า แล้ววางไป หลังจากนั้นเราโทรไปแทบจะวันเว้นวัน ไม่เคยติดเลย พอใกล้วันก็ทำใจและ เอาวะ ถึงไม่ได้นอนก็ต้องไปทวงความถูกต้อง ฮ่าๆ โชคดีวันที่เราไปมีกลุ่มนึงบอกจะมา 8 คน แต่วันจริงมา 5 คน ไม่มีอะไรจะรีแอคค่ะนอกจากตะโกนว่ะ เยส !!! (ประมาณ 8 รอบ)
จ่ายเงินส่วนที่เหลือเรียบร้อย แอดมินตัวน้อยก็ทำการสำรวจบ้านระเบียงดาว.. เริ่มจากจุดชมวิว / ส่วนกลางก่อนเลย ตรงนี้แหละที่คนเขาอัพรูปลงโซเชียลกันเยอะๆ มองไปเป็นหมอกที่แทรกตัวอยู่ทั่วภูเขา ไม่ต้องพักที่นี่ก็มาถ่ายรูปตรงนี้ได้ แค่สั่งอาหาร เครื่องดื่มของที่นี่ รู้สึกจะมีแค่เมนูง่ายๆอย่างข้าวกะเพรา ข้าวผัด ผัดผัก ไข่ดาว ไข่เจียว แต่จุดนี้กินอะไรก็อร่อยหมดแหละ <3
มีที่นั่งไม่มาก เพื่อรักษาความสงบให้คนที่มาพักค่ะ
เริ่มหิวแล้วขอสั่งชาเขียวมารองท้องซะหน่อย ราคา 50 บ. แก้วใหญ่กว่าที่คิด
ใครอยากจิบแก้หิวน้ำ แนะนำ 2 คน กินแก้วเดียวก็ได้จ้า
ไอพวกนี้นี่ใช้ไม่ได้เลยนะ นิสัยไม่ดี ชอบยุให้คนเขาทะเลาะกัน..
ห้องน้ำส่วนกลางก็สะอาดใช้ได้ค่ะ มีสายฉีดด้วย เย้
ไหนมาดูห้องเรามั่งซิ
วิมานหลังน้อยๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ ไม่มีของตั้งโชว์ชิคๆ
มีแค่เสื่อปูเล่นตรงระเบียง ผ้าห่ม หมอนมุ้ง แต่ทำไมมันรู้สึกพอดีอย่างนี้ โอ๊ย เลิฟ (:
จากที่กะนอนพักแป๊ปเดียวก็เลยเถิดไปครึ่งชั่วโมง ทำไงได้ อากาศมันดี
ไม่วุ่นวายเหมือนอยู่กรุงเทพฯด้วย ไป ! หาข้าวกินกันนนนน
เดินลงเขาไปนิดหน่อยก็จะเจอบ้านของชาวบ้านแถวนั้น กับ ร้านตามสั่งป้าตุ๊ดตู่
ทีแรกเห็นป้ายแปะหน้าร้านว่า ‘ร้านอาหารตามสั่งป้าตุ๊ดตู่ ตรงไป 40 เมตร’ เลยถามป้าว่าร้านป้ามี 2 สาขาหรอคะ
คำตอบที่ได้คือไม่มี๊ มีร้านนี้ร้านเดียว.. อ้าว แล้วป้ายนี้คือไรอ่ะป้า.. ความเงียบเข้าครอบงำ สั่งอาหารดีกว่าเนอะ ! หนูเอาข้าวกะเพราหมู 1 ลาบหมู 1 ข้าวเหนียว 1 ค่ะ
มาแล้วววววววว หอมจัง.. หมดนี่ 145 บ. ค่ะ
พวกเรากินไปคุยไป ไม่รีบๆๆ เพราะอยากเก็บบรรยากาศตอนนี้ให้มากที่สุด
ลืมบอกไปที่นี่ไม่มีสัญญาณ wifi และไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์ (เราใช้ทรูคือไม่มีเลย)
ถือว่าได้มาพักผ่อนจริงๆ ใครแบกคอมมาทำงานก็ซวยไปค่ะ5555
จากร้านป้าตุ๊ดตู่มองขึ้นไปเห็นโฮมสเตย์หลายหลังเลยยย
หนึ่งในนั้นคือบ้านระเบียงดาวของเรา
เอ้อเกือบลืมให้เบอร์ติดต่อ งั้นให้ไว้หลายๆที่เลยแล้วกันเนอะ
+ บ้านระเบียงดาว : 089-998-0712, 089-903-0083
+ บ้านวิวดอยหลวง : 089-559-8272
+ บ้านสายหมอก : 090-760-8819
+ บ้านหมอกตะวัน : 096-959-9683
+ บ้านลีซู : 091-724-7536, 092-814-4996
** คำเตือน ! ถ้าจะไปช่วงต.ค. – ม.ค. หรือวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำจองล่วงหน้านานๆ เกิน 2 เดือนได้ยิ่งดีค่ะ โฮมสเตย์เหล่านี้ไม่ใช่เล่นๆนะ ฮอตฮิตมาก ตอนไปก็เห็นพนักงานรับสายท้างงงงงงงงงวัน **
[CR] ทริปดีต่อใจ ‘บ้านระเบียงดาว-บ้านป่าบงเปียง’ 500 บ. / คน / คืน (ไม่มีรถก็ไปได้)
เดาว่าหลายคนคงเคยเห็น / ได้ยินชื่อโฮมสเตย์ 2 ที่นี้มาแล้ว
ก็เล่นบรรยากาศดี สโลไลฟ์ขนาดนั้น คนจะอดใจไม่แชร์ยังไงไหว
ที่สำคัญคือมีแบงค์ห้าร้อยใบเดียวก็ไปพักที่ ‘บ้านระเบียงดาว’ หรือ ‘บ้านป่าบงเปียง’ ได้
(อยากไป 2 ที่ ต้องมีแบงค์พัน ฮ่าๆ) ไม่ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวก็ไปได้
ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้แอบไปชาร์จพลังชีวิต แล้วค่อยกลับมาลุยงานเนอะ
ค่าใช้จ่าย + ข้อมูลการเดินทาง รวมอยู่ในรีวิวนี้แล้ว ไปดูกันเล้ยยย !
ขอเริ่มจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นก่อนค่ะ ทริปนี้โดนไปทั้งหมด 5,245 บ. ซึ่งมาจาก..
1. ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 3,200 บ.
2. ค่ารถ (รวมหมด แท๊กซี่ รถแดง รถเหลือง รถประจำทาง) 820 บ.
3. ค่าที่พัก บ้านระเบียงดาว 500 บ. + บ้านพี่ศรชัย ที่บ้านป่าบงเปียง 500 บ. (ทั้ง 2 ที่รวมอาหารเช้า-เย็น)
4. ค่าอาหารมื้อที่ต้องหากินเอง 225 บ. (ไม่รวมขนมนมเนยที่ซื้อจากเซเว่น)
ไปนอนโฮมสเตย์ อย่าลืมเอาของพวกนี้ไปด้วย..
พาวเวอร์แบงค์ / แบตสำรอง, ไฟฉาย, ยากันยุง, กางเกงนอนขายาว
ผ้าขนหนูอาบน้ำ (ทั้ง 2 ที่ไม่มีให้นะ), สบู่ + ยาสระผม
ความจริงทริปนี้เราบินดึกเพราะต้องการประหยัดงบ แพลนตอนแรกคือคืนนี้นอนสนามบิน เช้าค่อยนั่งรถไปขนส่ง ไปบ้านระเบียงดาว แต่พอเอาเข้าจริง นอนไม่ลง เก้าอี้สนามบินแข็งเว่อร์ ! เลยนั่งหาโฮสเทลกันตอน 5 ทุ่ม แล้วเรียกแท๊กซี่ไปเลย 160 บ. (2 คน) พวกเราไปถึง ‘Chiangmai Backpack House’ และจ่ายเงินคนละ 180 บ. ด้วยความงงและขำตัวเอง55555 เอาวะ นอนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า
ถึงเมื่อคืนจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะต้องฟังเสียงรถทั้งคืน (ตอนหาที่นอนดันไม่ดูว่าติดถนนใหญ่) แต่เช้านี้พวกเราก็พร้อลุยค่ะ ! จากที่พักพวกเรานั่งรถแดงไปลง ‘ขนส่งช้างเผือก’ ด้วยราคา 20 บ. / คน ถ้าใครชอบเดินก็เดินได้นะประมาณ 2.4 กิโล
ถึงปุ๊ปมองหาร้านข้าวก่อนเลย มีหลายร้านอยู่นะรอบๆขนส่ง แล้วเราก็มาสะดุดที่ร้านนี้..
ร้านดูสะอาดน่านั่งและคนเยอะพอสมควร น่าจะไว้ใจได้
เช้าๆแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าน้ำซุปร้อนๆอีกแล้ววววว จัดน้ำตกหมูมาหนึ่งค่ะแม่ !
(เท่าที่สังเกต คุณป้าคนเหนือเขาจะแทนตัวเองว่าแม่)
หอม อร่อย ให้เยอะ กินแล้วตื่นเลย ! จ่ายตังค์ 45 บ. เรียบร้อย พวกเราก็เดินไปซื้อเสบียงที่เซเว่น
รถสายเชียงใหม่-ท่าตอนกำลังจะออกแล้วววววววว โดดขึ้นเล้ยยยยย
นั่งไปสักพักก็จะมีพนักงานมาเก็บค่าโดยสารค่ะ จะถูกจะแพงขึ้นกับระยะทาง
บอกว่าลง ‘โลตัสเชียงดาว’ เขาก็จะเก็บเรา 40 บ. จากนี่ใช่เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ทีแรกว่าจะหลับ แต่ดันเจอตัวป่วนเข้าให้..
คุยเล่นกันตั้งนาน ตอนน้องลงรถดันหลับซะงั้น เลยไม่ได้บ๊ายบายน้องเลยยยยย ถ้าคุณพ่อคุณแม่น้องอ่านอยู่ ฝากสวัสดีน้องศุภวิชกับน้องจุติมาด้วยนะค้า (สะกดถูกมั้ยไม่รู้ น้องๆยืนยันว่าน้องๆไม่มีชื่อเล่น ฮ่าๆ) นั่งลมเย็นๆ แป๊ปเดียว รถก็จอดหน้าโลตัสค่ะ
จากข้อมูลที่หามาเขาบอกว่าให้ขึ้นรถสองแถวเชียงดาว-เมืองคอง / รถสองแถวที่ไปถ้ำเชียงดาว ค่าเสียหายคนละ 50 บ. ซึ่งจะมีคิวจอดอยู่แถวนั้น แต่นี่ก็ดันไม่ได้ทำถามแผนที่วางไว้เพราะว่า.. ทันทีที่ลงจากรถประจำทาง ก็เห็นคุณพี่คนนึงยืนกวักมืออยู่ในซอกเล็กๆข้างโลตัส ตอนนั้นคิดในใจ ‘เรียกเราหรอ ? มีใครเห็นพี่เขาอีกมั้ยวะ’ พอเข้าไปใกล้ๆก็โล่งใจ พี่เขาเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติเชียงดาว ทำเหล้าขาวขายแถวนี้ เลยรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปพักโฮมสเตย์บนนั้นด้วย คิดราคา 50 บ. เท่าสองแถวเลย วันนึงพี่เขาจะวิ่งรถประมาณ 3 รอบ มาถึงหน้าโลตัสตอน 8 โมงครึ่ง 11 โมง บ่ายโมงค่ะ ใครสนใจก็จดเบอร์ไว้น้า ชื่อพี่บุญ 098-783-7217, 083-318-3062
นั่งประมาณ 20 นาที พวกเราก็มาถึงทางเข้าอุทยานค่ะ
ทำการลงชื่อ ระบุโฮมสเตย์ที่จะไปพัก วันเข้า-ออก เรียบร้อย พวกเราก็ไปกันต่อ
25 นาทีต่อมา ถึง ‘บ้านระเบียงดาว’ แล้วว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ! ระหว่างทางไปเช็คอิน ขอเม้าท์หน่อย (ใครขี้เกียจอ่านข้ามได้นะย่อหน้านี้) 4 เดือนที่แล้วเราโทรมาจองห้องพักที่นี่วันที่ 28 ตุลา 59 โอนมัดจำเรียบร้อย โทรคอนเฟิร์มเรียบร้อย อยู่ๆวันที่ 23 กันยา มีพนักงานโทรมาถามว่าพรุ่งนี้จะเข้ามาประมาณกี่โมง นี่ก็งง บอกจองไว้เดือนหน้าค่ะ ไม่ใช่วันที่นี้ด้วย ไอคนโทรมาก็งงเพราะไม่ใช่คนรับจอง ไปๆมาๆให้เราคุยกับคนรับจอง สิ่งที่เขาพูดกับเราคือ ‘อะไรคะ ก็คุณจองไว้วันพรุ่งนี้ค่ะ เนี่ยจดไว้ค่ะ คุณโทรมาคอนเฟิร์มด้วยว่าวันนี้’ (เสียงแบบโวยวาย) เราก็บอก ‘ไม่ได้จองวันพรุ่งนี้ค่ะ จองวันที่ 29 เดือนหน้า’ เราไม่มีเหตุผลที่ต้องจอง 24 กันยาเว่ย ตั๋วเครื่องบินก็จองไว้เดือนตุลา บ้านป่าบงเปียงก็จองไว้ 29 ตุลา.. คุยกันสักพัก หาข้อสรุปไม่ได้ พนักงานเลยบอกว่างั้นวันที่ 28 ก็ walk in มาเลยค่ะ ถ้ามีห้องว่างก็ได้นอน ถ้าไม่มีเดี๋ยวให้ไปนอนโฮมสเตย์รอบๆ เราก็ถามว่าแล้วถ้าวันนั้นโฮมสเตย์รอบๆก็เต็มเราจะทำไง เขาบอกไม่เต็มค่ะ มีหลายเจ้า แล้ววางไป หลังจากนั้นเราโทรไปแทบจะวันเว้นวัน ไม่เคยติดเลย พอใกล้วันก็ทำใจและ เอาวะ ถึงไม่ได้นอนก็ต้องไปทวงความถูกต้อง ฮ่าๆ โชคดีวันที่เราไปมีกลุ่มนึงบอกจะมา 8 คน แต่วันจริงมา 5 คน ไม่มีอะไรจะรีแอคค่ะนอกจากตะโกนว่ะ เยส !!! (ประมาณ 8 รอบ)
จ่ายเงินส่วนที่เหลือเรียบร้อย แอดมินตัวน้อยก็ทำการสำรวจบ้านระเบียงดาว.. เริ่มจากจุดชมวิว / ส่วนกลางก่อนเลย ตรงนี้แหละที่คนเขาอัพรูปลงโซเชียลกันเยอะๆ มองไปเป็นหมอกที่แทรกตัวอยู่ทั่วภูเขา ไม่ต้องพักที่นี่ก็มาถ่ายรูปตรงนี้ได้ แค่สั่งอาหาร เครื่องดื่มของที่นี่ รู้สึกจะมีแค่เมนูง่ายๆอย่างข้าวกะเพรา ข้าวผัด ผัดผัก ไข่ดาว ไข่เจียว แต่จุดนี้กินอะไรก็อร่อยหมดแหละ <3
มีที่นั่งไม่มาก เพื่อรักษาความสงบให้คนที่มาพักค่ะ
เริ่มหิวแล้วขอสั่งชาเขียวมารองท้องซะหน่อย ราคา 50 บ. แก้วใหญ่กว่าที่คิด
ใครอยากจิบแก้หิวน้ำ แนะนำ 2 คน กินแก้วเดียวก็ได้จ้า
ไอพวกนี้นี่ใช้ไม่ได้เลยนะ นิสัยไม่ดี ชอบยุให้คนเขาทะเลาะกัน..
ห้องน้ำส่วนกลางก็สะอาดใช้ได้ค่ะ มีสายฉีดด้วย เย้
ไหนมาดูห้องเรามั่งซิ
วิมานหลังน้อยๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ ไม่มีของตั้งโชว์ชิคๆ
มีแค่เสื่อปูเล่นตรงระเบียง ผ้าห่ม หมอนมุ้ง แต่ทำไมมันรู้สึกพอดีอย่างนี้ โอ๊ย เลิฟ (:
จากที่กะนอนพักแป๊ปเดียวก็เลยเถิดไปครึ่งชั่วโมง ทำไงได้ อากาศมันดี
ไม่วุ่นวายเหมือนอยู่กรุงเทพฯด้วย ไป ! หาข้าวกินกันนนนน
เดินลงเขาไปนิดหน่อยก็จะเจอบ้านของชาวบ้านแถวนั้น กับ ร้านตามสั่งป้าตุ๊ดตู่
ทีแรกเห็นป้ายแปะหน้าร้านว่า ‘ร้านอาหารตามสั่งป้าตุ๊ดตู่ ตรงไป 40 เมตร’ เลยถามป้าว่าร้านป้ามี 2 สาขาหรอคะ
คำตอบที่ได้คือไม่มี๊ มีร้านนี้ร้านเดียว.. อ้าว แล้วป้ายนี้คือไรอ่ะป้า.. ความเงียบเข้าครอบงำ สั่งอาหารดีกว่าเนอะ ! หนูเอาข้าวกะเพราหมู 1 ลาบหมู 1 ข้าวเหนียว 1 ค่ะ
มาแล้วววววววว หอมจัง.. หมดนี่ 145 บ. ค่ะ
พวกเรากินไปคุยไป ไม่รีบๆๆ เพราะอยากเก็บบรรยากาศตอนนี้ให้มากที่สุด
ลืมบอกไปที่นี่ไม่มีสัญญาณ wifi และไม่ค่อยมีสัญญาณโทรศัพท์ (เราใช้ทรูคือไม่มีเลย)
ถือว่าได้มาพักผ่อนจริงๆ ใครแบกคอมมาทำงานก็ซวยไปค่ะ5555
จากร้านป้าตุ๊ดตู่มองขึ้นไปเห็นโฮมสเตย์หลายหลังเลยยย
หนึ่งในนั้นคือบ้านระเบียงดาวของเรา
เอ้อเกือบลืมให้เบอร์ติดต่อ งั้นให้ไว้หลายๆที่เลยแล้วกันเนอะ
+ บ้านระเบียงดาว : 089-998-0712, 089-903-0083
+ บ้านวิวดอยหลวง : 089-559-8272
+ บ้านสายหมอก : 090-760-8819
+ บ้านหมอกตะวัน : 096-959-9683
+ บ้านลีซู : 091-724-7536, 092-814-4996
** คำเตือน ! ถ้าจะไปช่วงต.ค. – ม.ค. หรือวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำจองล่วงหน้านานๆ เกิน 2 เดือนได้ยิ่งดีค่ะ โฮมสเตย์เหล่านี้ไม่ใช่เล่นๆนะ ฮอตฮิตมาก ตอนไปก็เห็นพนักงานรับสายท้างงงงงงงงงวัน **
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น