กาลครั้งนึง เมื่อฉันไปนอนบ้านผู้ชายครั้งแรก 18+

สวัสดี.
นี้เป็นกระทู้แรกของเรา   อมยิ้ม01 มันเป็นเรื่องที่เราจำฝังใจไม่เคยลืม    เรื่องมีอยู่ว่าเรากับเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เตรียมอนุบาล  เรียนโรงเรียนเดียวกันมาด้วยกันจนถึงมัธยม   ตอนเด็กๆเพื่อนจะชอบล้อว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน   เขาก็ชอบแกล้ง  ชอบมาแหย่  มาเปิดกระโปรง ดึงเปียผม     เวลาทำงานครูก็มักจะให้จับคู่ด้วยกันบ่อยๆ  ทำกิจกรรมอะไรหลายๆอย่าง  ตอนเด็กๆก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกไม่คิดว่าจะชอบด้วยซ้ำ  เพราะเขาชอบแกล้งเราจนร้องไห้   พอขึ้นมัธยมมาเพื่อนๆก็ยังล้อเหมือนเดิม  เขาก็ได้แต่ยิ้มเขินอายเวลาที่เพื่อนแซว แล้วเขาก็จะสบตาเราแล้วเอ่ยออกมา " เป็นแฟนกันจริงๆไหม? เขาจะได้หยุดแซวเราสองคน  " ประโยคนี้จะหลุดออกจากปากเขาทุกครั้งเวลาที่เพื่อนล้อ  เราคิดว่าเขาคงแกล้งเราและคงไม่รู้สึกอะไร ต่างจากเราที่เริ่มรู้สึกว่าเราชอบเขามาก และเราก็ไม่อยากเสียเพื่อน   แต่ก็มีเหตุให้เราไม่ได้สานสัมพันธ์ต่อกับเขา   เราต้องย้ายไปเรียนต่างจังหวัดแบบกระทันหัน  ไม่ได้เอ่ยคำร่ำลา   ไม่ได้มองหน้ากันเลยเพราะเขาไม่สบาย   ลาป่วยวันที่เราไปลาออก    ห่างกันไป 3 ปีเราไม่มีแฟนเลย   เหมือนเราฝังใจกับเขาแค่คนเดียวแต่เขากลับคบกับแฟนจนจะแต่งงาน   แล้วย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเขา  เราทราบข่าวเราเสียใจนะ    ทำใจไม่ได้แต่เรากับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน   เราไม่ควรไปหึงไปหวงเขาได้.   ช่วงนั้นเราโหมทำแต่งานไม่ได้สนใจใคร  และไม่เปิดใจให้ใครเลยทั้งๆทีมีคนเข้าหา จนมาเจอเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกัน  เขามาทักทายถามสารทุกข์สุกดิบพอหอมปากหอมคน   จุดพีคที่สุดคือเพื่อนสนิทมันมาเล่าให้ฟังว่าเขาโดนแฟนทิ้งไปคบทอม   เราอึ้งมากไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กลับเขา   ก่อนเพื่อนสนิทเราจะกลับ   เราได้มีการแลกไลน์กัน   เพื่อนเรามีกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนประถมด้วยกัน  มันก็ชวนเราเข้ากลุ่ม  เราก็เข้าไปเซอร์ไพรส์ที่สุดคือมีเขาเป็นสมาขชิกในกลุ่มด้วย    ใจนี่เต้นรัวๆ   หายใจไม่ทั่วท้อง   บรรยากาศในกลุ่มไลน์ประมาณกับไปเรียนตอนประถมใหม่ๆ   เพื่อนคนอื่นๆก็ล้อเรากับเขาเหมือนเดิม  หลายๆคนต่างลุ้นและเชียร์ให้เรากับเขามาคบกัน   เราได้แต่เงียบ   เขาตอบกลับการสนทนาทางไลน์ขึ้นมาว่า   "  ลองคบกันไหม? " จากที่ว่าไม่ปกติก็ยิ่งไม่ปกติกว่าเดิม   เราได้แต่เงียบเพราะความอาย    จนเขาทักไลน์ส่วนตัวมาถามอีกครั้ง  "ตกลงจะคบกันไหม?  รอมานานล่ะนะ  "   จะไม่ตอบมันก็ยังไงเราเลยตัดสินใจตอบตกลงเขาไปเป็นตัวสติ๊กเกอร์     เราคุยกันตั้งแต่ตอนนั้นทุกวันก่อนนอน  ตื่นนอน  กินข้าว  อาบน้ำ  ทุกๆครั้งที่ว่าง ( ตอนนั้นเรายังทำงานต่างจังหวัดอยู่ )   วิดีโอคอลบ้าง   อยู่ไหน  ทำอะไรจะถ่ายรูปส่งให้กันดูตลอด   ด้วยความที่อยู่ไกลกันเขาก็จะมีงอแงบ้าง  อยากให้เราอยู่ใกล้ๆกัน  เราก็บอกเขาว่าเราทำเรื่องลาออกงานเพื่อจะย้ายกลับบ้านเหลืออีกแค่สองอาทิตย์   คือแรกๆมันดี แฮปปี้หมดทุกอย่างคุยกันมาได้ครึ่งปี   จนวันนึงพ่อของเขาเข้ารพ.   ที่บ้านเขามีธุรกิจส่วนตัวทางบ้านขอให้เขากลับมาช่วยกิจการ  แต่เชาเลือกที่จะไม่สานต่อเพราะงานที่เขาทำมันก็สร้างรายได้ให้เขาเยอะกว่างานที่บ้าน    เขาก็มาปรึกษากับเราว่าจะเอาไงดี (เขาเป็นลูกคนเดียวค่ะ)  เราก็เลยพูดเชิงหยอกๆว่าก็กลับไปสานต่อสิ   เดี๋ยวยังไงเราจะช่วยเขาเอง พ่อแม่แก่ลงทุกวันนะ  ถ้าเขาไม่ทำแล้วใครจะทำ?    เขาหายไปสามชั่วโมงแล้วโทรมาหาเรา    บอกว่าแม่อยากเจอตัว   จะว่างมาหาเขาเมื่อไหร่พ่อกับแม่เขาอยากจะคุยด้วย    วินาทีนั้นอึ้งยิ่งกว่ารู้ว่าเขามีแฟนแล้วจะแต่งงานอีก   เขาบอกให้เรากลับมาหลังจากที่เราบอกเขาว่าจะออกงาน   โดยที่เขาจะขับรถมารับเรากลับบ้านเขาไปไหว้พ่อกับแม่   สองอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก   เขาขับรถมารับเราตามทางที่เราแชร์โลเคชั่นไว้ให้   มาถึงก่อนล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมง    ไม่ได้เจอกัน 3 ปีกว่าๆเขากอดเรา    หอมแก้มเรา  จูงมือเราขึ้นรถพร้อมกับเปิดประตูให้    ระหว่างทางเราได้แต่เขินอาย   ไม่กล้าสบตาเขา    เขาบอกเราว่าให้ไปรอแม่ที่บ้านเขาเพราะแม่ไปช่วยงานศพญาติที่ต่างอำเภอ     เขาจับมือเราเอาไปหอมแล้วถามว่าตื่นเต้นไหม คุยกันเพลินจนไม่รู้ว่าไปถึงบ้านเขาตอนไหน    เขายกกระเป๋าเราเข้าบ้านเอาไปไว้ที่ห้องเขา  เขาบอกให้เราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวจะพาไปกินข้าวกับเพื่อนเก่า     ในใจก็กลัวนะ  กลัวว่าเขาจะหลอกให้เราแก้เสื้อผ้าแล้วจะปล้ำหรือเปล่า    แต่ไม่เลยเขาไปนั่งรอที่โซฟาหน้าบ้านรอ      เราอาบน้ำเสร็จเขาพาเราไปกินข้าวกับเพื่อนเก่า   นานๆทีจะเจอกัน   ทั้งเหล้าทั้งเบียร์ยัดมันเข้าไปจนเมา    ทั้งที่เราหลีกเลี่ยงจะกินให้น้อยที่สุด    แต่เราก็เมาหนีไปล้างหน้า   ไปล้วงคอจนสร่างเมา   เขามาตามเรากลับพอดี  สภาพเราตอนนั้นคือดูไม่ได้เลย   หัวยุ่งๆคิ้วหาย    ตัวเปียก   เขาเลยชวนเรากลับบ้าน    พอถึงบ้านปุ๊บแม่เขาโทรมาพอดี    บอกว่าคืนนี้คงไม่กลับ  ฝากดูแลบ้านให้ด้วยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่