รีวิวหนักมาก Death Note: Light Up The New World มหากาพย์แห่งการหักมุม

สมุดมรณะ เป็นภาคต่อของเดธโน้ตสองภาคแรก หลังเปิดตัวในญี่ปุ่นด้วยอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยคำวิจารณ์กลางๆ ค่อนไปทางลบ แต่ก็มีบางคนให้คะแนนสูงมาก จนชวนให้คิดว่าเป็นหนังเสียงแตกสไตล์หนังเอาใจแฟนบอย
  
ความรู้สึกหลังดูจบ ผมรู้สึกว่าหนังสนุกในระดับกลางๆ นี่ไม่ใช่หนังที่แย่ ผมไม่ได้เดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้สนุกจนอยากดูรอบสอง ผมมองว่าคนเขียนบทพยายามเต็มที่ให้หนังมีความสมดุลย์ของฉากไล่ล่ากับฉากห้ำหั่นกันทางจิตวิทยา มีฉากดำเนินเรื่องพูดคุยกันของตัวละครสลับกับไล่ล่ากันเป็นระยะ มีฉากหักมุมให้อึ้ง อึ้งมากอึ้งน้อยขึ้นอยู่กับคนดูแต่ละคน บทบีบคั้นตัวละครสุดๆ บีบให้ห้ำหั่นกันจนหยดสุดท้าย หักมุมจนไม่มีอะไรให้หัก แต่ก็พยายามจะไปหักมันอีก จนมันเลยจุดที่ควรพอได้แล้ว  ข้อเสียหลักของหนังคือการทำให้คนดูเกิดข้อสงสัยที่ไร้คำตอบตลอดเวลา คำถามเหล่านั้นจะหมดไปหากคุณได้ดูสองภาคแรก หรือติดตามฉบับมังงะมาบ้าง แต่ถ้าคุณไม่ใช่ นี่อาจเป็นหนังห่วยสำหรับคุณได้ ที่สำคัญคือมุขต่างๆ ในหนังยังสู้สองภาคแรกไม่ได้ โดยเฉพาะความฉลาดหลักแหลมของตัวละครหลักที่ยังเทียบชั้นคิระกับแอลไม่ได้

ด้านตัวละคร ตัวละครหลักสามคนรับบทโดยนักแสดงเจ้าบทบาทที่เน้นขายฝีมือการแสดง จึงหมดห่วงเรื่องแอ็คติ้ง หลังดูจบผมคิดได้อยู่สองอย่าง ตัวละครในเรื่องจะโอเวอร์แอคติ้งจนน่ารำคาญ หรือแสดงเทพจนขนลุก อยู่ที่การพิจารณาของคนดูแต่ละคนล้วนๆ

ก่อนไปดูผมสนใจตัวละครชิเอ็งมาก ยิ่งรับบทโดยนักแสดงรุ่นใหม่ขั้นเทพอย่างสุดะผมยิ่งอยากดู เพราะสกิลการแสดงเขาสูงมาก ในเรื่องชิเอ็งปรากฏตัวไม่เยอะ โผล่มาแบบตัวร้าย ทำตัวลับๆ ล่อๆ ให้อารมณ์บอสของเรื่อง แต่บทขาดพลังในช่วงท้ายพอสมควร เรียกได้ว่าแรงต้น แผ่วปลาย แต่ก็ยังคือว่าเป็นตัวละครที่มีความเท่ มีจุดเด่น  ทำให้เนื้อเรื่องตื่นเต้น ที่น่าประทับใจที่สุดคือฉากการแสดงผ่านทางสีหน้าที่ทำออกมาได้ 10/10  เรียกได้ว่าทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว จะมีการเก็บรายละเอียดการแสดงได้ดีมาก ตั้งแต่สีหน้าและท่าทาง มีออร่าความกวนส่งออกมาตลอด  เท่ทุกอิริยาบถ จนถึงช่วงท้ายเรื่อง ที่เหมือนคนเขียนบทหาทางลงให้ตัวละครเทพๆ ตัวนี้ไม่เจอ ก็เลยทำอะไรมึนๆ ลงไป จนผมรู้สึกผิดหวังกับบทมาก

ถัดมาคือมิชิมะ เดธโน้ตโอตาคุ รับบทโดยนักแสดงหนุ่มมากฝีมือมาซะฮิโระ ฮิเดะกะชิ หน้าหล่อ ตัวสูง สาวกรี๊ด เห็นเขายืนตรงกลางในโปสเตอร์ก็รู้ว่าเป็นพระเอก คาแร็คเตอร์ภายนอกดูเป็นคนปกติที่สุด เขาเป็นคนธรรมดาที่ถูกประกบด้วยนักสืบอัจฉริยะ กับตัวร้ายของเรื่อง ซึ่งมีโอกาสถูกกลบมิดได้ง่ายๆ  ผมเลยคาดไว้แต่แรกแล้วว่าตัวละครนี้ต้องมีของดีซ่อนอยู่ แล้วก็มีจริงๆ แต่โดยรวมผมไม่ได้รู้สึกเอาใจช่วยตัวละครนี้มากมาย ชอบน้อยที่สุดในสามตัวหลัก หนังไม่ได้ทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครนี้มากมาย จะมีบางช่วงที่ตัวละครนี้ถูกกดดันดูถูกด้วยคำถูก ทำให้ต้องพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งก็เรียกคะแนนเอาใจช่วยจากคนดูได้ สุดท้ายก็รักษาความเป็นแกนหลักของเรื่องเอาไว้ได้อย่างไม่เคอะเขิน

ส่วนริวซากิผู้สืบทอดแอล รับบทโดยนักแสดงมากฝีมืออย่างโซซุเกะ อิเคะมัตสึ ผู้แสดงหนังมาตั้งแต่อายุน้อยๆ โดยรวมถือว่าตัวละครนี้เป็นสีสันของเรื่อง ความกวนเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแบกหนังเอาไว้ ทำให้ผมอยากไปดูอีกรอบเพียงเพราะการแสดงของเขาล้วนๆ  ฝีมือการแสดง 10/10 จุดน่าเสียดายคือถึงแม้ว่าการแสดงจะมีเสน่ห์ แต่ความสามารถตัวละครยังห่างชั้นแอลมาก โดยเฉพาะด้านความฉลาดเหนือชั้น ตัวละครไม่มีจุดพีคของตัวเองให้ได้โชว์กึ๋น ไม่มีฉากที่ทำให้ร้องกรี๊ดจนอยากเป็นแฟนคลับ ท้ายที่สุดตัวละครนี้จึงไม่สามารถสร้างความประทับใจให้คนดูได้ ยิ่งช่วงท้ายของเรื่องถือเป็นหายนะ จุดมุ่งหมายและการกระทำของตัวละครในช่วงท้ายขาดความสมเหตุสมผล ดูแล้วขัดใจ เป็นอีกตัวละครที่แผ่วปลายอีกแล้ว ยิ่งถ้าคุณเอาเขาไปเปรียบเทียบกับแอล ตัวละครนี้ก็ไม่เหลืออะไรเลย

ส่วนตัวละครอื่นๆ อย่างอาโออิ สาวน้อยผู้อยากทำเรื่องสนุกๆ แต่เธอมันตัวประกอบชัดๆ

มิสะ รับบทโดยเอริกะ โทดะ ที่บทไม่เยอะ เรียกว่าโผล่มาให้แฟนๆ ได้ฟินเล่น เมื่อสิบปีที่แล้วโทดะเป็นนักแสดงขายความน่ารัก มาวันนี้เป็นกลายเป็นนักแสดงสายเน้นฝีมือ  บวกกับมิสะที่มีอายุมากขึ้นพอดี ทำให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของทั้งมิสะและโทดะได้พร้อมๆ กัน ผมพอใจกับทิศทางของตัวละครนี้นะ ดูเธอมีความสุขกับทางที่เลือก

มัตสึดะ ตัวละครจากสองภาคแรก มาคราวนี้เขาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่มัตสึดะก็คือมัตสึดะ

จุดแข็งของหนังคือ
-ตัวละครหลักสามตัวเข้าถึงคาแร็คเตอร์ แสดงได้ดีมาก หากคุณไม่เอาระดับสติปัญญาพวกเขาไปเปรียบเทียบกับ คิระและแอล
-เพลงประกอบสุดยอด
-หนังเอาใจแฟนบอย มีแฟนเซอร์วิสเป็นระยะ รายละเอียดปลีกย่อย ที่ถ้าคุณเป็นแฟนเดธโน้ตก็คงร้องกรี๊ดเบาๆ
-ฉากการไล่ล่าทำได้ดี ดูลงทุน มีความตื่นเต้น ลุ้นระทึก

จุดอ่อน
-ไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่าสองภาคแรก
-ถ้าไม่ได้เป็นแฟนเดธโน้ตจะมีข้อสงสัยตลอดเรื่อง
-พยายามยัดเยียดบทหักมุมเข้ามามากเกินเหตุ
-จุดมุ่งหมายและการตัดสินใจของตัวละครขาดความสมเหตุสมผล
-เหตุการณ์บางอย่างขาดที่มาที่ไป เหมือนพยายามยัดเข้ามาให้หนังสนุก
-หนังไม่ได้ทำให้คุณมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครมากพอ

ซึ่งข้อเสียใหญ่ของหนังคือทำให้คนดูเกิด คำถาม คำถาม แล้วก็คำถาม เช่น ไลท์คือใคร แอลคือใคร ทำไมการวัดกึ๋นกันของแอลกับคิระและผู้สืบทอดถึงเป็นประเด็นใหญ่ ทำไมมิสะถึงภักดีกับคิระขนาดนั้น ทนายมิสะคือใคร ชิเอ็งกับมิสะคล้ายกันตรงไหน ทำไมมัตสึดะต้องยิ้มตอนรู้ว่าคิระอาจยังไม่ตาย  และอีกมากมาย

แต่คำถามพวกนี้คนที่อ่านเดธโน้ตฉบับมังงะดูหนังสองภาคแรกมาก่อน จะร้องอ๋อแน่นอน เช่นเรื่องที่ครอบครัวของชิเอ็งกับมิสะถูกฆาตกรสังหาร ทำให้ทั้งสองจมอยู่ในความกลัว แต่ก็ได้คิระเป็นผู้สังหารฆาตกรนั้น ทำให้ทั้งสองคนมีจุดร่วมเดียวกัน ซึ่งในหนังก็ไม่ได้บอกว่าสองคนนี้คล้ายกันตรงไหน
หรือเรื่องทนายของมิสะ ซึ่งคนที่อ่านมังงะจะรู้ดีว่าเขาคือใคร  เรื่องที่มัตสึดะ ลึกๆ แล้วก็ชอบไลท์  เขาอดดีใจไม่ได้ตอนที่รู้ว่าไลท์อาจยังมีชีวิตอยู่
รายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ที่มีแต่แฟนบอยเท่านั้น ที่ได้แอบฟิน

ไหนจะยังเรื่องกฎของเดธโน้ต ที่แม้หนังจะหาทางอธิบายกฎหนึ่งครั้ง ก่อนมีการใช้จริงในเรื่อง แต่กฎอันมากมายของเดธโน้ต ก็ทำให้คนดูที่ได้ฟังครั้งแรกเกิดคำถามคาใจ ไม่เคลียร์ ที่ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังก็อาจหมดสนุกในได้เลย

สรุป นี่คือหนังกลางๆ ที่ถ้าคุณเป็นแฟนเดธโน้ตอยู่แล้ว และไม่คาดหวังอะไรมาก มันคือหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง แต่หากคุณไม่ใช่ หนังจะสร้างคำถามที่ไร้คำตอบให้คุณไม่หยุดหย่อน  จนเดินออกมาจากโรงก็ยังไม่ได้คำตอบอยู่ดีนั่นแหละ

6/10
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่