สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป นี่เป็นกระทู้รีวิวท่องเที่ยวกระทู้ที่ 3 ของเราแล้ว
โดยเป็นกระทู้ที่เน้นไปที่เรื่องกินซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนเรื่องกินต้องมาก่อนเสมอ
ครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 29-31 ตุลาคม ที่ผ่านมา
จริงๆควรจะเป็น 3 วัน 2 คืน แต่วันแรกที่ไปถึงก็เย็นมากแล้ว
เลยขอเรียกทริปนี้เป็น 2 วัน 2 คืนก็แล้วกัน
มาดูกันว่าในระยะเวลาแค่นี้ เราจะเที่ยว จะกินได้แค่ไหน
ไปลุยกันเลยดีกว่า



DAY 1 : Hello Krabi

เราจองตั๋วโปรจากแอร์เอเชีย ได้ในราคาไปกลับ 570 บาท
โดยเราจองตั๋วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนา ก็ล่วงหน้าประมาณ 7-8 เดือนเองงงงงงง นานมั้ยล่ะ
จริงๆแล้วเป็นค่าตั๋วแค่ 390 บาท แต่ที่เหลือคือค่าธรรมเนียมจ่ายผ่านบัตรเครดิตนั่นเอง
ไฟลท์ก็ไม่ได้สวยอะไรมากมาย ตามสไตล์ราคาโปร
ไฟลท์ออกจากดอนเมือง 14.25น. กำหนดการถึงสนามบินกระบี่ 15.50น.
กว่าจะถึงโรงแรมก็ห้าโมงเย็นหน่อยๆ เสียเวลาเที่ยวไปเลยวันนึงเต็มๆ
ได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆ แกเห็นแก่ของถูกอะไรเบอร์น้านนนนนน
แต่ก็ช่างมันเถอะ ยอมรับว่าตอนกดจองไม่มีสติจริงๆ ฮ่าๆ

เรามาถึงสนามบินกระบี่เวลาช้ากว่ากำหนดการประมาณ 10 นาที
ฝนตกปรอยๆ ต้อนรับการมาเยือน
ออกมาจะเจอเคาท์เตอร์ขายตั๋ว Shuttle bus ไปยังสถานที่ต่างๆ
เราไปอ่าวนาง ราคาคนละ 150 บาท แอบแพงนะ แต่มันก็ราคานี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเนอะ
โดยก่อนขึ้นเค้าจะถามเราว่าพักที่โรงแรมไหน เพราะเค้าจะแวะจอดให้ทุกๆโรงแรมนั่นเอง




ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง Shuttle bus ก็จอดให้เราลง ( ถ้าขับรถเองจะเร็วกว่าประมาณ 20 นาที)
หน้าปากซอยมีป้ายหลายๆโรงแรม ยกเว้นโรงแรมที่เราพัก แป่ว


เราเลือกพักที่โรงแรม Apple A Day ทั้งสองคืน
เห็นคะแนนใน Agoda โอเค ก็เลยลองๆดู รีวิวในพันทิปมีค่อนข้างน้อย
โรงแรมอยู่ในซอย เดินประมาณ 150 เมตรได้มั้ง ไม่ไกลเลย

นี่ไง ป้ายโรงแรมบริเวณทางเข้า


ตัวโรงแรม มีแอปเปิ้ลสีแดงลูกใหญ่เป็นจุดเด่น


ทำการเช็คอิน


เราจองผ่าน Agoda ได้มาในราคา 2,944.48 บาท (จองตั้งแต่เมษา)
หรือตกคืนละ 1,472 บาท เป็นห้อง Deluxe  With Breakfast (Free Mini Bar)
ซึ่งแต่ละวันที่เราเข้าไปดูราคาใน Agoda ราคาก็ไม่ได้เท่ากันนะ
บางวันเข้าไปก็ราคา 1,800 ต่อคืนเลยทีเดียว แล้วแต่โปรช่วงนั้นๆ

ทางโรงแรมมีโปสการ์ดให้ สามารถฝากส่งได้ แต่ต้องซื้อแสตมป์มาติดเอง
ด้านหลังเป็น Welcome Drink น้ำแอปเปิ้ลโซดา อร่อยดี


โดยรวมแล้วเราประทับใจโรงแรมนี้มากกกกกกกกก ก่อนเข้าพักเราได้ส่งข้อความไปถามนู่นนี่ในเพจ Facebook
พนักงานใส่ใจ สุภาพ เต็มใจช่วยเหลือ และให้คำตอบรวดเร็ว เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าพักเลยล่ะ
พอมาถึงจริงๆก็ยิ่งประทับใจใน Service Mind ของพนักงานที่นี่มาก ยิ้มแย้มแจ่มใสเต็มใจให้บริการจริงๆ
คะแนนโดยรวมเราให้ 9/10 หักที่ห้องน้ำ เวลาเราอาบน้ำ น้ำระบายช้า จนน้ำเจิ่งนอง และ Wifi ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่
อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะห้องเรารึเปล่า แต่ถ้าเรื่องการบริการนี่เอาไปเลย 10/10

มาดูบรรยากาศโรงแรมและห้องพักกันดีกว่า
พนักงานจะเป็นคนพาเราไปส่งถึงห้องพัก อธิบายโซนต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวก

บริเวณหน้าลิฟท์จะเป็นห้องอาหาร ไว้สำหรับรับประทานอาหารเช้า


ป้ายบอกทาง

หน้าห้องเราเอง ตรงต้นไม้นั้นจะมีที่แขวนป้าย ทำความสะอาด / ห้ามรบกวน
โดยป้ายจะเป็นรูปลูกแอปเปิ้ล เข้าตีม แอบลืมถ่ายรูปมาให้ชม


เข้ามาในห้อง ทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ และทางขวาจะเป็นที่เก็บของ ที่แขวนเสื้อ

ห้องน้ำ


ที่อาบน้ำเป็นแบบฝักบัว


มินิบาร์ ทานได้หมด และจะเติมให้ทุกวัน




เสื้อคลุมอาบน้ำ ด้านหลังมีร่ม 2 คันแขวนอยู่


ตระกร้าอันนี้สามารถนำไปชายหาดได้ ข้างในมีเสื่อด้วย
และสามารถขอผ้าขนหนูได้ตรงล้อบบี้ ( คนละอันกับที่ใช้ในห้อง)
แต่รองเท้าแตะใส่ได้แค่เฉพาะในห้องเท่านั้นนะคะ


ที่นอน


ระเบียงค่อนข้างกว้าง


เปิดออกไปจะเจอโซฟาตัวใหญ่ และมีที่เขี่ยบุหรี่ให้
ห้องเราเป็น Pool view มองลงไปจะเห็นสระว่ายน้ำสีแดง แปลกดี



ล็อบบี้มองจากมุมสูง เคาท์เตอร์ไกลๆที่ติดบันไดนั้น
เป็นเคาท์เตอร์แนะนำโปรแกรมทัวร์ เหมือนทางโรงแรมจะดีลไว้กับ Aonang Photo Travel
ด้วยความที่ไม่อยากออกไปหาซื้อทัวร์เอง
เราเลยตัดสินใจจองทัวร์ 4 เกาะกับทางโรงแรมเลย ได้มาในราคาคนละ 700 บาท นั่ง Speed Boat
อ่อ 700 บาท ยังไม่รวมค่าเข้าอุทยานอีก 40 บาทนะ


สำรวจโรงแรมเสร็จเรียบร้อย ล้างหน้าล้างตาเสร็จสรรพ
เราก็พร้อมสำหรับมื้อเย็นแล้ว โดยมื้อแรกที่กระบี่เราเลือกที่จะไปทานกันที่ร้าน วังทรายซีฟู้ด
ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมเพียง 300 เมตรเท่านั้น เดินไปได้ชิลๆ สบายๆ
โดยเดินออกมาจากซอย แล้วเลี้ยวขวา เดินไปไม่ไกลเลย

ป้ายร้าน


บริเวณทางเข้า


ตัวอย่างเมนู และราคาซีฟู้ดสดๆ



เราสั่งห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ราคา 200 บาท หอมเครื่องเทศ รสชาติค่อนข้างจัด
มีกลิ่นผักชีลาวอ่อนๆ ที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มะพร้าวเนื้อแข็ง ตักทานไม่ได้เลย เสียใจ



หอยชักตีน จานนี้ 200 บาท มากระบี่ไม่ทานได้ยังไง
เราว่ารสชาติเหมือนปลาหมึกเลย น้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่แซ่บดีนะ เราชอบ



ต้มยำกุ้งน้ำข้น หม้อละ 200 บาท ไม่ค่อยข้นเท่าไหร่ กุ้งเป็นกุ้งตัวเล็ก
รสชาติมาตรฐาน แต่เราชอบแบบที่ใส่พริกเผาและนมเยอะๆมากกว่า อันนี้ดูใสไปนิด


ข้าวสวยจานละ 20 บาท


กุ้งแชบ๊วยเผา ครึ่งกิโล ราคา 500 บาท กุ้งตัวไม่ได้ใหญ่มาก ได้ประมาณ 15 ตัว
แต่กุ้งสด เนื้อเด้ง เปลือกบาง แกะง่ายดี


เบ็ดเสร็จมื้อนี้หมดไป 1,180 บาท
ร้านรับบัตรเครดิตนะคะ 1,000 บาทขึ้นไปไม่เสียค่าบริการ


เสร็จจากมื้อเย็น เราเดินต่อไปยังบริเวณที่เรียกว่า Center point
จากหน้าร้านวังทรายซีฟู้ด เดินย้อนกลับไปทางขวา ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
ปกติก็จะเป็นผับ บาร์ เปิดดนตรี เฮฮา แต่ด้วยช่วงนี้เป็นช่วงไว้อาลัยพ่อหลวงของเรานั้น
โซนนี้ก็จะเงียบๆ หน่อย คนไม่ค่อยพลุกพล่าน
ส่วนร้านค้าต่างๆที่ขายของนั้น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า

ระหว่างทางเยื้องๆ กับปากซอยโรงแรม จะมีร้านโรตีขายเรียงกันเป็นแถว
เราก็สุ่มเลือกมาร้านนึง ชื่อร้านโรตีป้ายเหลือง
สั่งโรตีนูเทลล่ากล้วย ราคา 60 บาท อร่อยมาตรฐาน จบวันแรกแต่เพียงเท่านี้