Bu Bu Jing Xin และ Moon Lovers ...ได้แต่รักอย่างลึกซึ้ง แต่ไร้ซึ่งวาสนา...

หลังจากดู Moon Lovers จบ ก็นำมาสู่การตั้งกระทู้นี้ค่ะ จขกท. เคยเสียน้ำตาไปมากเมื่อตอนที่ดู Bu Bu Jing Xin และทั้ง ๆ ที่ก็คาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วง 2 ตอนสุดท้ายของ Moon Lovers แน่นอนว่าดู Moon Lovers ก็น้ำตาไหลพรากไม่แพ้กัน จขกท. ดู ep 19-20 รวดเดียวเลยค่ะ พีคมาก ฟีลลิ่งหลังจากดูจบตามหัวข้อกระทู้นั่นแหละค่ะ ...ได้แต่รักอย่างลึกซึ้ง แต่ไร้ซึ่งวาสนา...





ด้วยการที่ชอบทั้ง Bu Bu Jing Xin และ Moon Lovers เลยอยากอุทิศกระทู้นี้เพื่อซีรีส์ทั้งสองเรื่อง ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้มีเจตนาจะตั้งกระทู้เพื่อชวนทะเลาะแต่ประการใด ไม่ได้ต้องการมุ่งหาคำตอบว่า Bu Bu Jing Xin ของเวอร์ชันจีน หรือ Moon Lovers ของเวอร์ชันเกาหลี ดีกว่ากัน แต่อยากแลกเปลี่ยนความเห็นในฐานะที่ดูทั้ง Bu Bu Jing Xin และ Moon Lovers ซึ่งโดยส่วนตัวก็ชอบทั้งสองเรื่อง และอยากพูดถึง Bu Bu Jing Xin และ Moon Lovers ในคราวเดียวกัน หากมีข้อผิดพลาดประการใด รบกวนผู้รู้ชี้แจงแถลงไขด้วยค่ะ

แม้ว่า Moon Lovers จะเป็นละครรีเมคจาก Bu Bu Jing Xin แต่ก็มีความแตกต่างออกไปตามบริบททางประวัติศาสตร์และวิถีการสร้างละครของเกาหลีเอง แต่แน่นอนว่า Moon Lovers ก็ยังคงรักษาแกนหลักของเรื่องตาม Bu Bu Jing Xin กล่าวคือ นางเอกไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่ดูเหมือนว่าการย้อนกลับไปในอดีตของนางเอกนั้น กลับเป็นตัวกระตุ้นในบางเหตุการณ์หรือต่อตัวละครบางตัวที่ส่งผลต่อความเป็นไปของประวัติศาสตร์ รวมทั้งนางเอกเองต้องดำเนินชีวิตด้วยความระแวดระวังทุกย่างก้าว คล้ายกับการเดินบนธารน้ำแข็ง

ประเด็นที่อยากกล่าวถึง Bu Bu Jing Xin และ Moon Lovers มีดังนี้

1. พล็อต
เส้นเรื่องของการแย่งชิงบัลลังก์
Bu Bu Jing Xin:
- บัลลังก์ของฮ่องเต้ค้ำจุนด้วยอาญาสิทธิ์เด็ดขาดของราชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ องค์ชายต่าง ๆ ห้ำหั่นกันด้วยเกมส์การเมืองและการชิงไหวชิงพริบเป็นหลัก มีการชิงดีชิงเด่นและแอบแทงข้างหลังกันอยู่เนือง ๆ ไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล แผนซ้อนแผน รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

Moon Lovers:
- บัลลังก์ของเพฮาค้ำจุนด้วยคณาธิปไตย การสนับสนุนจากตระกูลต่าง ๆ ที่มั่งคั่งและมีอำนาจบารมีเป็นเครื่องมือในการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ กับเพฮาและชนชั้นสูง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรในสนามการเมือง แม้กระทั่งพี่น้องท้องเดียวกัน ในบางครั้งก็ต้องตีสองหน้าหรือนกสองหัว องค์ชายต่าง ๆ ห้ำหั่นกันด้วยกำลังสนับสนุนจากตระกูลทางมารดาและ/หรือพวกพ้องเป็นหลัก ประกอบกับการวางแผนเล่ห์กลเพื่อกำจัดคู่แข่ง (ในขณะนั้น) นอกจากนี้ ผู้หญิงยังร่วมคลุกเล่นการเมืองของการแย่งชิงราชสมบัติได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งผู้หญิงก็คือตัวแปรที่สำคัญ

เส้นเรื่องของความรักของพระเอก-นางเอก
Bu Bu Jing Xin:
- เมื่อองค์ชายสี่เป็นฮ่องเต้แล้ว ไม่ได้แต่งตั้งยศใด ๆ ให้กับรั่วซี (แต่คิดจะแต่งตั้งเมื่อรั่วซีตั้งครรภ์) ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้ารั่วซีเป็นสนม ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎเกณฑ์ของวังหลวง ซึ่งพระเอกรู้ดีว่ารั่วซีเป็นคนรักเสรี และที่สำคัญการที่รั่วซีไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ใด ๆ เป็นแค่ “ผู้หญิงของฝ่าบาท” นั้น ทำให้รั่วซีได้ดูแลปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด และอยากเจอเมื่อไรก็ได้เจอ ไม่ต้องไปหาที่ตำหนักส่วนตัว
- ความรักของรั่วซีกับองค์ชายแปด เป็นความรักที่เกิดจากความผูกพันและความใกล้ชิด ในขณะที่ความรักของรั่วซีกับองค์ชายสี่ เป็นความรักแบบร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมกันฟันฝ่ากว่าจะได้ครองรักกัน ถ้าในช่วงต้นของความรัก มันคือการที่ความรักขององค์ชายสี่ค่อย ๆ ซึมซาบจับใจรั่วซีฉันใด ในช่วงท้าย มันก็คือการที่ความร้ายกาจขององค์ชายสี่ค่อย ๆ สร้างความหวาดกลัวและกรีดแทงหัวใจของรั่วซีทีละน้อย ๆ ฉันนั้น จนรั่วซีต้องขอออกจากวังเพื่อหลบเลี่ยงความทุกข์ระทม รั่วซีไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวว่าในวันหนึ่งความรักที่มีอาจจะตายจากไปก็ได้

Moon Lovers:
- เมื่อองค์ชายสี่เป็นเพฮาแล้ว ระหว่างที่รอการอภิเษกอย่างเป็นทางการ (นางเอกร้องขอให้พระเอกขอแต่งงานอย่างเป็นเรื่องเป็นราว) แต่เพื่อไม่ให้เพฮาต้องเผชิญกับแรงกดดันจากตระกูลต่าง ๆ และยังคงรักษาราชบัลลังก์ไว้ได้ แฮซูจึงเปิดทางให้เพฮาได้อภิเษกกับองค์หญิงยอนฮวาแทน และนางยอมเป็นแค่ “ผู้หญิงของเพฮา” ที่ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ใด ๆ (ตามข้อตกลงขององค์หญิงยอนฮวา)
- ความรักของแฮซูกับองค์ชายแปด เป็นความรักที่อ่อนโยน ละมุนละไม ชุ่มฉ่ำหัวใจ และเฝ้ารอวันครองคู่ แต่ทว่าก็จบลงด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจและความเฉยเมยที่แฮซูเผชิญ ในขณะที่ความรักของแฮซูกับองค์ชายสี่ เป็นความรักแบบการมั่นคงต่อความรัก การปกป้องคนที่ตนรัก ถ้าในช่วงต้นของความรัก มันคือการที่ยิ่งอยากไกลกลับยิ่งใกล้ฉันใด ในช่วงท้าย มันก็คือการที่ยิ่งอยากใกล้กลับยิ่งไกลฉันนั้น หมายความว่า ในช่วงต้นแฮซูพยายามจะรั้งใจไว้ไม่ให้รักองค์ชายสี่ (เพราะรักองค์ชายแปดแน่แท้ทีเดียวในตอนนั้น) แต่ก็แพ้ทางความรักขององค์ชายสี่ ขณะเดียวกันในช่วงท้าย แม้ได้อยู่ในวังหลวงด้วยกันแล้ว แต่กว่าจะได้เจอกัน แฮซูต้องตั้งตาคอยทั้งวัน กำลังจะได้อภิเษกกันแล้ว ก็ต้องเจอปัญหาเรื่องแรงกดดันจากตระกูลต่าง ๆ ในท้ายที่สุด ทั้งที่รักกันมาก แต่ต้องพรากจากกัน แฮซูอยากพบเพฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก็ไม่ได้พบ



2. คาแร็คเตอร์พระเอก
Bu Bu Jing Xin: องค์ชายสี่/จักรพรรดิหย่งเจิ้น
- องค์ชายสี่ฉลาดล้ำ มีไหวพริบ มองขาด สุขุม เยือกเย็น มีใบหน้าเรียบเฉย (รั่วซีเรียกว่า “หน้าน้ำแข็ง”) และมีความสามารถเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปในราชสำนัก
- มีความมุ่งมาดปรารถนาว่าต้องการขึ้นครองบัลลังก์ แต่เก็บงำอำพรางเล่นการเมืองอย่างเงียบ ๆ ต่อมาจึงมีแรงกระตุ้นในภายหลังเพิ่มเติมคือ การแบกรับชะตากรรมขององค์ชายสิบสาม และสัญญารักที่จะได้ครองคู่กับรั่วซีไปชั่วชีวิต องค์ชายสี่ตระหนักดีว่า พี่น้องไม่ใช่อุปสรรคในการแย่งชิงบัลลังก์ แต่อุปสรรคที่แท้จริงคือจักรพรรดิคังซีหรือบิดาของเขาเอง
- ให้ความรู้สึกว่า องค์ชายสี่เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงอยากเข้าไปซบอกอยู่ในอ้อมกอด เพื่อให้รู้สึกว่ามั่นคงและปลอดภัย

Moon Lovers: องค์ชายสี่/องค์ชายวังโซ/จักรพรรดิควางจง
- องค์ชายวังโซเก่งกาจด้านการต่อสู้ ในบางทีก็คุ้มดีคุ้มร้าย ร้ายมาร้ายตอบ มีปมในใจชัดเจนมากเรื่องแม่ไม่รัก แม่รังเกียจ รวมทั้งการไม่ได้รับการยอมรับจากคนอื่น อันเนื่องมาจากแผลเป็นที่ใบหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจและเป็นปมที่ผลักดันให้องค์ชายสี่กระทำการต่าง ๆ ในกาลต่อมา
- ไม่ได้ต้องการขึ้นครองบัลลังก์แต่แรก แต่มีแรงขับในภายหลังว่า ไม่ต้องการเป็นสุนัขรับใช้ของใคร ไม่ต้องการให้คนที่ตนรักต้องตกเป็นเครื่องมือที่ใช้เล่นงานตน และต้องการยุติการนองเลือดในหมู่พี่น้อง
- ให้ความรู้สึกว่า องค์ชายวังโซเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงอยากให้นอนหนุนตัก แล้วอยากปลอบประโลมเพื่อให้เขาสบายใจและหายหวาดกลัว



3. คาแร็คเตอร์นางเอก
Bu Bu Jing Xin: หม่าเอ่อไท่รั่วซี
- สวยหวาน เย็นตา เย็นใจ มีพัฒนาการตัวละครตั้งแต่เป็นสาวแรกรุ่นที่มีความร่าเริงสดใส มีความทะโมน มีความหาญกล้าจนได้รับฉายาว่า “น้องสาวสิบสามเดนตาย” (สนิทสนมกับองค์ชายสิบสาม และมีความกล้าหาญไม่กลัวตาย) ต่อมาก็เป็นสาวสวยสะพรั่งที่หัวใจฟูฟ่องไปด้วยความรัก เมื่อเป็นนางกำนัลชงชาถวายฮ่องเต้ ก็ดูโตขึ้นมาก คล่องแคล่ว เป็นงาน ระมัดระวังอากัปกิริยา และรู้ใจ สมกับที่จักรพรรดิคังซีให้ความเอ็นดูราวกับเป็นพระธิดา เมื่อถึงคราวตกอับ ก็ดูยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี และในที่สุดเมื่อกลายเป็นผู้หญิงของฝ่าบาท ก็ดูน่าเกรงขาม คนในราชสำนักให้ความเคารพยำเกรง และมีสง่าราศี ออร่าจับยิ่งกว่าฮองเฮา
- ให้ความรู้สึกว่า รั่วซีเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายอยากให้มาเอาอกเอาใจ

Moon Lovers: แฮซู
- สวยสดใส น่ารักน่าใคร่ เมื่อครั้งยังเป็นเด็กสาว ก็แก่นเซี้ยว น่ารักสดใส ยังไม่ประสีประสากับความรัก แต่มีความอาจหาญถึงขั้นกล้ากรีดข้อมือตัวเองเพื่อบ่ายเบี่ยงการเป็นสนมของเพฮา เมื่อเป็นนางในแห่งทามีวอนแล้ว ความทะโมนก็หายไป กลายเป็นสาวอ่อนหวาน นิ่งสงบ สุขุมมากขึ้น อยู่ในโอวาทและเป็นที่เอ็นดูของโอซังกุง เมื่อยามที่ตกอับ ก็เป็นสาวน้อยไร้เดียงสาที่น่าสงสาร ตกเป็นเครื่องมือของผู้อื่น ทั้งยังชอกช้ำรักอีก จึงป่วยทั้งใจและป่วยทั้งกาย และในท้ายที่สุดเมื่อกลายเป็นผู้หญิงของเพฮา ก็เป็นคนโปรดของเพฮาที่ใครก็ตามห้ามแตะต้อง แต่ทว่าแฮซูก็เป็นได้แค่เพียงที่พักพิงใจ ไม่สามารถเป็นพลังค้ำจุนบัลลังก์เพฮาได้
- ให้ความรู้สึกว่า แฮซูเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายอยากให้มาออดอ้อน



4. กิมมิคของเรื่อง
Bu Bu Jing Xin:
- ปิ่นดอกมู่หลาน, สร้อยห้อยจี้ดอกมู่หลาน
- บทพูด: "ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเจ้าไว้ ถ้าข้าไม่อนุญาต เจ้าห้ามตาย"



Moon Lovers:
- ปิ่นผีเสื้อ
- บทพูด: "เจ้าคือคนของข้า ถ้าข้าไม่อนุญาต เจ้าห้ามไปจากข้า"



นอกจากนี้ ทั้ง Bu Bu Jing Xin และ Moon Lovers ได้นำบทกวีของหวังเหวยมาใช้ ซึ่งกลายเป็นกิมมิคที่ดีมากอย่างนึงของเรื่อง จขกท. ชอบมาก เลยไหว้วานให้เพื่อนช่วยแปลบทเต็มและแต่งใหม่ตามแบบภาษาไทย เพื่อนใช้อินทรวิเชียรฉันท์เลยจ้า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่