วันนี้ได้รับ โทรศัพท์การปฏิเสธการขอกู้บ้านจากเจ้าหน้าที่ ธอส. สาขาเซ็นทรัลพระราม3 เหตุผลคือติดเครดิตบูโร (แต่ปิดมาแล้ว 1 ปีพอดี) ตามเงื่อนไขของ ธอส. คนที่เคยติดเครดิตบูโร ต้องปิดมาอย่างน้อย 1ปี จึงสามารถทำเรื่องกู้ได้ ทางเราก็ทำตามเงื่อนไข และไม่ได้ก่อหนี้สินเพิ่ม มีแต่ลดลงจากการผ่อนรถ 1 คัน อย่างอื่นไม่มี และยังได้ไปเปิดบัญชีฝากกับ ธอส. ในโครงการ โรงเรียนการเงิน ต้องฝากครบ 9 เดือน แต่เราเพิ่งฝากได้ 3 เดือน (อันนี้แบ้งไม่เอามาพิจาราณา เราก็เข้าใจว่ายังไม่ครบ) วัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวสนับสนุนการพิจาราณา ในการกู้ซื้อบ้าน และแสดงให้เห็นว่าทางเราปัจจุบันไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน สามารถผ่อนบ้านได้ แต่สิ่งที่เราได้คำตอบจากพนักงานไม่น่าเชื่อว่าเขาจะคิดมากขนาดนี้ และเป็นการตัดสินโดยตัวยบุคคล
สาเหตุที่ไม่ผ่าน
ก่อนที่เจ้าหน้าที่แบ้งจะติดต่อบอกเรา ไม่ได้โทรบอกเราโดยตรง โทรไปแจ้งพนักงานขายบ้าน พนักฃายก็โทรมาบอกเราว่าไม่ผ่านเพราะเหตุผล "ผู้กู้มีเจตนา ปิดบัญชีเครดิตบูโร เพื่อมากู้บ้าน" (ก็ถูกแล้วไง ปลดหนี้แล้วก็สามารถยื่นกู้ได้ ถ้าครบ 1 ปี ไม่ใช่เหรือ) ทางเราก็อยากจะคุยกับพนักงานแบ้ง ติดต่ออยู่ 2 วัน จึงโทรมาอธิบาย แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยโทรสอบถามข้อมูลกับทางเราเลย ทางเราได้ถาม คำว่า "เจตนาปิดบัญชีเครดิตบูโร" คืออะไร ทำไมถึงมองว่าการที่เราปิดบัญชี เป็นการตั้งใจเกิน เหมือนหลอก อะไรประมาณนั้น เราก็งงงง เจ้าหน้าที่แบ้งบอกว่าทำไม เราไม่ผ่อนชำระ กับเจ้าหนี้ เราก็บอกว่าทำไมเราต้องผ่อน ในเมื่อเราต้องการปิดบัญชี เพื่อนับหนึ่งใหม่ แต่เจ้าหน้าที่แบ้งกลับบอกว่า มีเจตนาเกินไป งงงงง การที่เราปลดหนี้ ไม่มีหนี้เสีย กลับมองว่าเราจะหลอกทางแบ้ง ซะงั้น ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่แบ้งไม่ได้พูดตรงๆ เราก็เข้าใจได้ เราก็ถามว่าอันนี้ใครเป็นคนพิจาราณา เขาตอบแบบทันทีเลยว่าดิฉันคิดเอง และไม่ยื่นเราเข้ากระบวนการพิจารณา เราก็ถามว่าแล้วคุณดูว่าเราเริ่มฝากเงินกับทาง ธอส. ด้วยเห็นไหม คำตอบแบบไม่ได้ดูรายละเอียดลูกค้าเลย คือไม่รู้ ลูกค้ามีด้วยหรือ ยิ่งทำให้เรารู้เลยว่า เขาไม่ตรวจสอบเลย สรุปเขาดูแค่ว่า คุณเคยติดบูโร (แม้ว่าปิดมาแล้วครบ 1ปีตามเงื่อนไข) โดยไม่สนว่าลูกค้าจะปิดมาแล้ว 1ปีก็ตาม ไม่ต้องขอคำอธิบายจากลูกค้า และนี่เขาเรียกว่าให้โอกาศลูกค้าหรือ และอีกอย่างเขาหลุดมาว่า ถ้าเขายื่นเรื่องของเรา เขาก็ต้องมารับประกันเราด้วย เราก็บอกว่า แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าลูกค้า ที่คุณเคยปล่อยผ่าน ว่าจะเป็นลูกค้าที่ดีและไม่มีปัญหาแน่นอน (เห็นบ้านโดนยึดบานเลย) และในอนาคตเอาอะไรมาการันตี การปล่อยสินเชื่อมันก็มีลูกค้าทั้งดีและไม่ดีปนกัน เป็นเรื่องธรรมดา ทุกแบ้งเหมือนกันหมด ยืนอยู่บนความเสี่ยง แน่นอนแบ้งก็ต้องตอบว่างั้นก็ต้องเลือกเฉพาะลูกค้าที่เครดิตดีเท่านั้น ไม่เอาลูกค้าที่เคยมีประวัติ แม่ว่าปัจจุบัน ลูกค้ารายนั้นได้แก้ไขในสิ่งที่เขาเคยผิดพลาดมาแล้วก็ตาม ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินในปัจจุบัน ก่อนจบการสนทนากับเจ้าหน้าที่แบ้งกล่าวกับเราว่าไงรู้ไหม เอางี้เดียวยื่นให้แล้วกัน ถ้าหัวหน้าเขาไม่ให้ผ่าน อย่ามาว่ากันน่ะ เขาคงคิดว่าเราโง่มั้ง เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่โดนกำหนดนโยบายมา ผมว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ไม่กล้าตัดสินใจเองหลอก สรุปง่ายๆ และเป็นที่เข้าใจ ไม่ให้คนที่เคยมีประวัติ เคยติดบูโรมา แม้ว่าจะปิดมาแล้ว 1 ปีก็ตาม เฮ้อทำไมไม่บอกและแจ้งเป็นหลักการแบ้งไปเลย ว่าไม่รับทุกกรณีที่ติดเครดิตบูโร.....
แต่สิ่งที่เรารู้สึกแย่ ก็คือ เขามองเรามีเจตนา......? คำนี้ที่ทำให้เรามองว่า ไม่แฟร์กับเรา ไม่ผ่านไม่ว่า แต่อย่ามองเราเลวร้ายขนาดนั้น เราก็คนอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงอย่างอื่นใด เราทำมาหากินสุจริต ไม่เคยคิดโกงใคร การที่เราเคยผิดพลาด แต่เราก็ชำระหนี้ตามกฏหมายอย่างถูกต้อง แต่ทำไมเขากลับมองเรา มีเจตนา....?
ขอบคุณครับ
เกี่ยวกับการปฏิเสธให้กู้จาก ธอส (ธอส. สาขาเซ็นทรัลพระราม3)
สาเหตุที่ไม่ผ่าน
ก่อนที่เจ้าหน้าที่แบ้งจะติดต่อบอกเรา ไม่ได้โทรบอกเราโดยตรง โทรไปแจ้งพนักงานขายบ้าน พนักฃายก็โทรมาบอกเราว่าไม่ผ่านเพราะเหตุผล "ผู้กู้มีเจตนา ปิดบัญชีเครดิตบูโร เพื่อมากู้บ้าน" (ก็ถูกแล้วไง ปลดหนี้แล้วก็สามารถยื่นกู้ได้ ถ้าครบ 1 ปี ไม่ใช่เหรือ) ทางเราก็อยากจะคุยกับพนักงานแบ้ง ติดต่ออยู่ 2 วัน จึงโทรมาอธิบาย แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยโทรสอบถามข้อมูลกับทางเราเลย ทางเราได้ถาม คำว่า "เจตนาปิดบัญชีเครดิตบูโร" คืออะไร ทำไมถึงมองว่าการที่เราปิดบัญชี เป็นการตั้งใจเกิน เหมือนหลอก อะไรประมาณนั้น เราก็งงงง เจ้าหน้าที่แบ้งบอกว่าทำไม เราไม่ผ่อนชำระ กับเจ้าหนี้ เราก็บอกว่าทำไมเราต้องผ่อน ในเมื่อเราต้องการปิดบัญชี เพื่อนับหนึ่งใหม่ แต่เจ้าหน้าที่แบ้งกลับบอกว่า มีเจตนาเกินไป งงงงง การที่เราปลดหนี้ ไม่มีหนี้เสีย กลับมองว่าเราจะหลอกทางแบ้ง ซะงั้น ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่แบ้งไม่ได้พูดตรงๆ เราก็เข้าใจได้ เราก็ถามว่าอันนี้ใครเป็นคนพิจาราณา เขาตอบแบบทันทีเลยว่าดิฉันคิดเอง และไม่ยื่นเราเข้ากระบวนการพิจารณา เราก็ถามว่าแล้วคุณดูว่าเราเริ่มฝากเงินกับทาง ธอส. ด้วยเห็นไหม คำตอบแบบไม่ได้ดูรายละเอียดลูกค้าเลย คือไม่รู้ ลูกค้ามีด้วยหรือ ยิ่งทำให้เรารู้เลยว่า เขาไม่ตรวจสอบเลย สรุปเขาดูแค่ว่า คุณเคยติดบูโร (แม้ว่าปิดมาแล้วครบ 1ปีตามเงื่อนไข) โดยไม่สนว่าลูกค้าจะปิดมาแล้ว 1ปีก็ตาม ไม่ต้องขอคำอธิบายจากลูกค้า และนี่เขาเรียกว่าให้โอกาศลูกค้าหรือ และอีกอย่างเขาหลุดมาว่า ถ้าเขายื่นเรื่องของเรา เขาก็ต้องมารับประกันเราด้วย เราก็บอกว่า แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าลูกค้า ที่คุณเคยปล่อยผ่าน ว่าจะเป็นลูกค้าที่ดีและไม่มีปัญหาแน่นอน (เห็นบ้านโดนยึดบานเลย) และในอนาคตเอาอะไรมาการันตี การปล่อยสินเชื่อมันก็มีลูกค้าทั้งดีและไม่ดีปนกัน เป็นเรื่องธรรมดา ทุกแบ้งเหมือนกันหมด ยืนอยู่บนความเสี่ยง แน่นอนแบ้งก็ต้องตอบว่างั้นก็ต้องเลือกเฉพาะลูกค้าที่เครดิตดีเท่านั้น ไม่เอาลูกค้าที่เคยมีประวัติ แม่ว่าปัจจุบัน ลูกค้ารายนั้นได้แก้ไขในสิ่งที่เขาเคยผิดพลาดมาแล้วก็ตาม ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินในปัจจุบัน ก่อนจบการสนทนากับเจ้าหน้าที่แบ้งกล่าวกับเราว่าไงรู้ไหม เอางี้เดียวยื่นให้แล้วกัน ถ้าหัวหน้าเขาไม่ให้ผ่าน อย่ามาว่ากันน่ะ เขาคงคิดว่าเราโง่มั้ง เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่โดนกำหนดนโยบายมา ผมว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ไม่กล้าตัดสินใจเองหลอก สรุปง่ายๆ และเป็นที่เข้าใจ ไม่ให้คนที่เคยมีประวัติ เคยติดบูโรมา แม้ว่าจะปิดมาแล้ว 1 ปีก็ตาม เฮ้อทำไมไม่บอกและแจ้งเป็นหลักการแบ้งไปเลย ว่าไม่รับทุกกรณีที่ติดเครดิตบูโร.....
แต่สิ่งที่เรารู้สึกแย่ ก็คือ เขามองเรามีเจตนา......? คำนี้ที่ทำให้เรามองว่า ไม่แฟร์กับเรา ไม่ผ่านไม่ว่า แต่อย่ามองเราเลวร้ายขนาดนั้น เราก็คนอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงอย่างอื่นใด เราทำมาหากินสุจริต ไม่เคยคิดโกงใคร การที่เราเคยผิดพลาด แต่เราก็ชำระหนี้ตามกฏหมายอย่างถูกต้อง แต่ทำไมเขากลับมองเรา มีเจตนา....?
ขอบคุณครับ