เรื่องมีอยู่ว่า แฟนผมได้ตั้งครรภ์และได้ไปฝากท้องกับคลินิคเดิมที่เคยฝากกับลูกคนแรกตอนนี้ลูกคนแรก1ขวบ3เดือนแล้วโตมาแข็งแรงดีครับ คลินิคนี้เป็นคุณหมอจากโรงพยาบาลที่จะคลอดน้องเราสองคนก็เลยเลือกที่นี่ วันแรกที่ไปฝากท้องคือวันที่ 2 ต.ค 2559 คุณหมอก็ตรวจไปปกติไม่มีอะไร จนมาถึงนัดครั้งที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 30 ต.ค. 2559 เราก็เดินทางไปพบคุณหมอตามนัด แต่เกิดเรื่องผิดปกติขึ้นคือคุณหมอขออัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอดเพิ่มเนื่องจากอัลตร้าซาวด์วิธีปกติแล้วไม่เห็นเด็ก อัลตร้าซาวด์ทางช่องคลอดแล้วก็ยังไม่เห็น ก็เลยถามคุณหมอว่าแบบนี้คือผิดปกติใช่ไหม คุณหมอก็ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ 50/50 อาจจะเป็นเพราะว่ากลัวเราสองคนทำใจไม่ทันที่จะเสียน้องไป และด้วยที่คลินิคมีคนมาใช้บริการเยอะมากทำให้เวลาที่จะได้คุยกับคุณหมอมันน้อยเกินไป วันนั้นเราสองคนออกมาจากคลินิคพร้อมกับใบนัดให้อีกสองอาทิตย์ให้มาดูใหม่จะตัดสินกันที่ครั้งต่อไปว่าจะมีเด็กรึเปล่า ในใจเราสองคนมีคำถามมากมาย จะแท้งหรอ หรือว่าลูกเราแอบ หรือว่าหมอตรวจผิด หรือไข่ตกช้าแบบที่เคยได้ยินมา โน่นนี่นั่นเยอะแยะมากมายไปหมด แต่ทั้งสองคนรับรู้ได้ว่ามันผิดปกติแน่นอนทั้งผลอัลตร้าซาวด์ ทั้งหลายๆอย่างมันสื่อไปทางนั้น

         จนคืนวันจันทร์ผมกับแฟนตัดสินใจได้ว่า เราอยากฟังความเห็นที่สองของหมออีกท่านเผื่อจะได้ช่วยเพิ่มโอกาส ไม่อยากรอสองอาทิตย์ เผื่อช่วงเวลาที่รอนี้จะสามารถทำอะไรได้บ้างเราสองคนไม่อยากเสียเค้าไป จึงหาข้อมูลว่าคลินิคไกล้ๆถนนถนนพระยาสุเรนทร์(ซอยรามอินทรา 109) มันมีที่ไหนบ้างจะไปขอคำปรึกษาเค้า แต่แฟนก็คิดว่าไปโรงพยาบาลเลยดีกว่าอะไปก็ไป ระหว่างทางมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลสินแพทย์ดันผ่านคลินิคแห่งนี้พอดีเราก็มองไป เห้ยมันดูดีนะ ไม่ใช่คลินิคเล็กๆดูโอเคน่าเชื่อถือเลยหละ คุยกันดูสรุปก็เปลี่ยนใจแวะที่นี่เลยละกัน

ต่อไปนี้คือบทสนทนาระหว่างแฟนผมกับเจ้าหน้าที่คลินิค

จนท   สวัสดีค่ะมาทำอะไรคะ
แฟน   จะมาขอพบคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษาค่ะ
จนท   ปรึกษาเรื่องอะไรคะ
แฟน   ปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ค่ะ
จนทถามย้ำ   ปรึกษาเรื่องอะไรหรอคะ
แฟน   ก็คือแบบนี้ ตอนนี้ไปตรวจมาแล้วว่าท้องแต่ว่า พร้อมกับหยิบสมุดสีชมพูประจำตัวเพื่อที่จะให้ดูฟิลม์อัลตร้าซาวด์ จะให้เรามาอธิบายภาษาการแพทย์เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ยังไม่ทันจะเปิดสมุดเจ้าหน้าที่ก็พูดสวนกลับมาว่า ที่นี่ไม่รับทำแท้งนะคะ

นาทีนั้นผมรู้สึก เห้ยอะไรงง งงมาก ทำไมถามแบบนี้ โกรธ เราสองคนตั้งใจจะมาเพิ่มโอกาสรอดของชีวิต แต่กลับมองว่าเราจะมาเอาเด็กออก บ้า บ้าไปแล้ว

ผม    นี่คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง อย่าไปพูดแบบนี้กับใครอีกนะ ระวังเค้าจะตบเอาให้ ผมนึกไม่ออกถ้าแฟนผมเป็นคนโมโหร้ายจะเกิดอะไรขึ้น หรือถ้าเจ้าหน้าที่เป็นผู้ชายมันคงไม่จบที่ผมยืนด่าเฉยๆแน่นอน มันเหมือนการดูถูกกันซึ่งๆหน้า

สักพักที่เจ้าหน้าที่อีกคนออกมา  พี่เป็นผู้จัดการที่นี่พี่ขอโทษแทนน้องเค้านะคะ ไม่ได้ยินแม่แต่คำขอโทษจากเจ้าหน้าที่คนนั้น

แฟนผมเดินออก และเรียกให้ผมออกมาด้วย มีคำถามในใจว่าเราไปทำอะไรให้เค้าคิดแบบนั้น เราแต่งตัวไม่ดีหรอ หรืออะไรยังไง

แต่แล้วความกังวลของเราสองคนมันก็เปลี่ยนเป็นความเสียใจ เราออกจากคลีนิคนั้นแล้วไปที่โรงพยาบาลต่อ คุณหมอที่โรงพยาบาลสินแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่าเซลไม่เจริญเติบโต พูดง่ายๆก็คือไม่มีตัวเด็ก  ท้องลมคือคำที่ผู้ใหญ่เค้าพูดกัน

     ความรู้สึกตอนนี้ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอะไรดีกับคลีนิคแห่งนี้ เสียใจ เสียความรู้สึก โกรธ หรือแปลกใจ หรืออะไรยังไงมันบอกไม่ถูกจริงๆ คุณหมอที่คลินิคเค้าจะรู้ไหมว่ามีพนักงานแบบนี้คอยตอนรับคนไข้ หรือเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่คลินิคต่างๆจะบอกลูกค้าที่มาใช้บริการว่า ที่นี่ไม่รับทำแท้งให้คุณนะ

     แต่ยังไงเราสองคนก็ยังไม่หมดหวัง ยังรออีกสองอาทิตย์เพิ่มไปพบคุณหมอที่คลินิคที่ฝากท้อง ระหว่างนี้จะทำทุกทางเพื่อที่จะเพิ่มเปอร์เซนต์ในการรักษาน้องไว้ แม้มันจะมีโอกาสน้อยก็ตาม