การเดินทางตลอดระยะเวลา 13 ปี กับ 6 ประเทศ และ 16 สโมสร คงจะใช้คำนิยาม “นักเตะพเนจร” ได้อีกรายสำหรับ ฆวน เกวโร กองกลางร่างเล็กชาวสเปน ที่ปัจจุบันค้าแข้งในไอ-ลีก ประเทศอินเดีย
นับตั้งแต่ปี 2013 “เกวโร” เริ่มค้าแข้งกับทีมนอกประเทศบ้านเกิดเป็นครั้งแรกที่ยูเออี กับทีมดูไบ คลับ แต่แล้วก็เป็นอันต้องย้ายทีมอีกครั้งมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนจะถูกปล่อยไปร่วมทัพ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ในปีเดียวกัน
ทว่าผลงานของมิดฟิลด์ส่วนสูง 160 เซนติเมตร ไม่เป็นที่หมายปองของสโมสรในเมืองไทย ซึ่งรูปร่างที่เล็กอาจเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้เขาต้องย้ายถิ่นฐานไปผจญภัยในดินแดนที่ยังไม่คุ้นชินอีกครั้งในโบลิเวีย ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตอนกลางของทวีปอเมริกาใต้ ที่มีอาณาเขตทุกด้านติดกับประเทศอื่นๆอย่าง บราซิล, ปารากวัย, อาร์เจนตินา, ชิลี และเปรู
จากนั้นฤดูกาล 2014 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี หยิบยื่นโอกาสการกลับมาค้าแข้งในแดนสยามอีกครั้งให้กับเกวโร และเขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะมาพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นดั่งใจหวังเมื่อไม่ได้รับการต่อสัญญาจนต้องย้ายทีมไปเรื่อยๆ จนล่าสุดเขาตัดสินใจเดินทางเริ่มต้นใหม่กับดีเอสเค ชิวาเดรียน ทีมเล็กๆในอินเดียด้วยตัวคนเดียว ในประเทศที่มีประชากรกว่าหนึ่งพันล้านคนมากเป็นอันดับที่สองของโลก…
“การใช้ชีวิตที่นี่มันยากลำบากมาก ผมมีครอบครัวและคิดจะนำพวกเขามาอยู่ที่นี่ แต่มันซับซ้อนมากสำหรับผม ถ้าพวกเขามีอายุมากกว่าผมมันคงง่าย แต่ยังดีที่ผมอยู่ในย่านที่ดี รอบๆบ้านผมทุกอย่างคล้ายกันมาก พอผมมองไปนอกหน้าต่าง ทุกคนต่างอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ เท่านั้น”
“การขับรถก็น่ากลัว หากไม่ขับมันน่าจะดีกว่า เวลาคุณไปไหนคุณต้องเรียกใช้รถสโมสร คุณสามารถทำได้ แต่สิ่งที่หายากที่สุดก็คืออาหาร มันเผ็ดมาก หากคุณจะกินเนื้อหรือปลาก็ต้องไปที่ร้านอาหาร แต่หากคุณจะหาแซนวิชแฮมในตอนเช้า มันหายากมากจริงๆ”
“ส่วนเรื่องของฟุตบอล สนามของทีมผมจุคนได้ 2000 คน ขณะที่สนามอื่นๆสามารถจุคนได้ 12000-20000 คน และบางทีในลีกสูงสุดก็สามารถจุคนได้ 50000 คน เลยทีเดียว จำนวนแฟนบอลที่ต่างทำให้แรงจูงใจในการเล่นมันต่างกัน เพราะแฟนบอลสามารถช่วยได้บ้าง การมีแฟนบอล 2000 คนแล้วจะให้เราเล่นเหมือนแฟนบอล 20000 คนมันคงยาก เพราะหากมีแฟนบอลเข้ามาเยอะมันก็จะเป็นกระตุ้นตัวคุณเอง”
ปัจจุบันเพลย์เมกเกอร์วัย 32 ปี ยิงให้ต้นสังกัดไป 3 ประตูจาก 10 นัด พร้อมก้าวขึ้นเป็นกัปตันทีมเป็นที่เรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งมีโอกาสที่เกวโรจะได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปในปีหน้า
เห็นได้ชัดว่าชีวิตของ ฆวน เกวโร ในอินเดียไม่ได้สุขสบาย คนเรานั้นมีตัวเลือก มาก-น้อย แตกต่างกันไป แต่หนึ่งสิ่งสำคัญในชีวิตที่ทำให้เขาลุกขึ้นสู้ได้ตลอดไม่ว่าจะต้องล้มลงกี่ครั้ง นั่นก็คือ “ครอบครัว”
“ผมตัดสินใจมาแสวงโชคในทวีปเอเชีย ผมต้องลงทุนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัดความสบายส่วนตัวออกไป ฟุตบอลบางประเทศอาจจะไม่ได้ดัง อาจไม่มีชื่อเสียง แต่ผมต้องทำเพื่ออนาคตและครอบครัวของผม ดังนั้นหากไม่ถึงกับพิการผมก็จะอยู่ที่นี่ต่อไป”
“ผมคิดถึงสเปนมาก ผมห่างจากที่นั่นมานานกว่าสี่ปี และชีวิตที่สเปนมันไม่เหมือนที่ไหนเลยจริงๆ” เกวโร กล่าวทิ้งท้ายถึงบ้านเกิดด้วยความคิดถึง
ชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีขวากหนามคอยทิ่มแทงอยู่ตลอดไม่เว้นแต่ละปี กลับทำให้หัวใจของเขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ครอบครัวคือแรงบันดาลใจชั้นดีที่ทำให้ไม่ยอมแพ้และยังคงเดินหน้าในเส้นทางชีวิตลูกหนังต่อไป
โดยที่ไม่รู้อนาคตเลยว่าการย้ายไปประเทศที่ 7 กับสโมสรที่ 17 จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม…
------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ สำหรับบทความดีๆ
http://footballchannelasia.com/th/juan-quero/
ไม่ว่าประกอบอาชีพอะไรขอให้ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ ถ้ายังเรียนอยู่ขอให้ตั้งใจเรียนมีคนอีกมากอยากเรียนแต่ไม่มีโอกาส
เปิดชีวิตแข้งพเนจร "ฆวน เกวโร" นักเตะสู้ชีวิต หากไม่ถึงกับพิการผมก็จะอยู่ที่นี่ต่อไป
การเดินทางตลอดระยะเวลา 13 ปี กับ 6 ประเทศ และ 16 สโมสร คงจะใช้คำนิยาม “นักเตะพเนจร” ได้อีกรายสำหรับ ฆวน เกวโร กองกลางร่างเล็กชาวสเปน ที่ปัจจุบันค้าแข้งในไอ-ลีก ประเทศอินเดีย
นับตั้งแต่ปี 2013 “เกวโร” เริ่มค้าแข้งกับทีมนอกประเทศบ้านเกิดเป็นครั้งแรกที่ยูเออี กับทีมดูไบ คลับ แต่แล้วก็เป็นอันต้องย้ายทีมอีกครั้งมาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนจะถูกปล่อยไปร่วมทัพ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ในปีเดียวกัน
ทว่าผลงานของมิดฟิลด์ส่วนสูง 160 เซนติเมตร ไม่เป็นที่หมายปองของสโมสรในเมืองไทย ซึ่งรูปร่างที่เล็กอาจเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้เขาต้องย้ายถิ่นฐานไปผจญภัยในดินแดนที่ยังไม่คุ้นชินอีกครั้งในโบลิเวีย ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ตอนกลางของทวีปอเมริกาใต้ ที่มีอาณาเขตทุกด้านติดกับประเทศอื่นๆอย่าง บราซิล, ปารากวัย, อาร์เจนตินา, ชิลี และเปรู
จากนั้นฤดูกาล 2014 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี หยิบยื่นโอกาสการกลับมาค้าแข้งในแดนสยามอีกครั้งให้กับเกวโร และเขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะมาพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นดั่งใจหวังเมื่อไม่ได้รับการต่อสัญญาจนต้องย้ายทีมไปเรื่อยๆ จนล่าสุดเขาตัดสินใจเดินทางเริ่มต้นใหม่กับดีเอสเค ชิวาเดรียน ทีมเล็กๆในอินเดียด้วยตัวคนเดียว ในประเทศที่มีประชากรกว่าหนึ่งพันล้านคนมากเป็นอันดับที่สองของโลก…
“การใช้ชีวิตที่นี่มันยากลำบากมาก ผมมีครอบครัวและคิดจะนำพวกเขามาอยู่ที่นี่ แต่มันซับซ้อนมากสำหรับผม ถ้าพวกเขามีอายุมากกว่าผมมันคงง่าย แต่ยังดีที่ผมอยู่ในย่านที่ดี รอบๆบ้านผมทุกอย่างคล้ายกันมาก พอผมมองไปนอกหน้าต่าง ทุกคนต่างอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ เท่านั้น”
“การขับรถก็น่ากลัว หากไม่ขับมันน่าจะดีกว่า เวลาคุณไปไหนคุณต้องเรียกใช้รถสโมสร คุณสามารถทำได้ แต่สิ่งที่หายากที่สุดก็คืออาหาร มันเผ็ดมาก หากคุณจะกินเนื้อหรือปลาก็ต้องไปที่ร้านอาหาร แต่หากคุณจะหาแซนวิชแฮมในตอนเช้า มันหายากมากจริงๆ”
“ส่วนเรื่องของฟุตบอล สนามของทีมผมจุคนได้ 2000 คน ขณะที่สนามอื่นๆสามารถจุคนได้ 12000-20000 คน และบางทีในลีกสูงสุดก็สามารถจุคนได้ 50000 คน เลยทีเดียว จำนวนแฟนบอลที่ต่างทำให้แรงจูงใจในการเล่นมันต่างกัน เพราะแฟนบอลสามารถช่วยได้บ้าง การมีแฟนบอล 2000 คนแล้วจะให้เราเล่นเหมือนแฟนบอล 20000 คนมันคงยาก เพราะหากมีแฟนบอลเข้ามาเยอะมันก็จะเป็นกระตุ้นตัวคุณเอง”
ปัจจุบันเพลย์เมกเกอร์วัย 32 ปี ยิงให้ต้นสังกัดไป 3 ประตูจาก 10 นัด พร้อมก้าวขึ้นเป็นกัปตันทีมเป็นที่เรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งมีโอกาสที่เกวโรจะได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปในปีหน้า
เห็นได้ชัดว่าชีวิตของ ฆวน เกวโร ในอินเดียไม่ได้สุขสบาย คนเรานั้นมีตัวเลือก มาก-น้อย แตกต่างกันไป แต่หนึ่งสิ่งสำคัญในชีวิตที่ทำให้เขาลุกขึ้นสู้ได้ตลอดไม่ว่าจะต้องล้มลงกี่ครั้ง นั่นก็คือ “ครอบครัว”
“ผมตัดสินใจมาแสวงโชคในทวีปเอเชีย ผมต้องลงทุนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัดความสบายส่วนตัวออกไป ฟุตบอลบางประเทศอาจจะไม่ได้ดัง อาจไม่มีชื่อเสียง แต่ผมต้องทำเพื่ออนาคตและครอบครัวของผม ดังนั้นหากไม่ถึงกับพิการผมก็จะอยู่ที่นี่ต่อไป”
“ผมคิดถึงสเปนมาก ผมห่างจากที่นั่นมานานกว่าสี่ปี และชีวิตที่สเปนมันไม่เหมือนที่ไหนเลยจริงๆ” เกวโร กล่าวทิ้งท้ายถึงบ้านเกิดด้วยความคิดถึง
ชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีขวากหนามคอยทิ่มแทงอยู่ตลอดไม่เว้นแต่ละปี กลับทำให้หัวใจของเขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ครอบครัวคือแรงบันดาลใจชั้นดีที่ทำให้ไม่ยอมแพ้และยังคงเดินหน้าในเส้นทางชีวิตลูกหนังต่อไป
โดยที่ไม่รู้อนาคตเลยว่าการย้ายไปประเทศที่ 7 กับสโมสรที่ 17 จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม…
------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ สำหรับบทความดีๆ
http://footballchannelasia.com/th/juan-quero/
ไม่ว่าประกอบอาชีพอะไรขอให้ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ ถ้ายังเรียนอยู่ขอให้ตั้งใจเรียนมีคนอีกมากอยากเรียนแต่ไม่มีโอกาส