อาซากุสะ (Asakusa) เป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของโตเกียว ในอดีตเคยเป็นแหล่งสถานเริงรมย์และโรงละคร แต่เสียหายไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมามีการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงความเป็นโตเกียวแบบดั้งเดิมอยู่ ปัจจุบันเป็นย่านที่มีเสน่ห์แบบย้อนยุคและเติมแต่งด้วยสีสันของความทันสมัย โดยหัวใจของย่านนี้อยู่ที่วัดอาซากุสะ
วัดอาซากุสะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ (Sensoji) แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ โดยมีพระโพธิสัตว์คันนน (Kannon Bosatsu) ประดิษฐานอยู่และเป็นพระประธานของวัด
ที่ประตูทางเข้าวัดมีโคมสีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ประตูแห่งนี้มีชื่อว่า ประตูคามินาริ (Kaminari-Mon) แปลได้ว่า ประตูสายฟ้า ชื่อของประตูเขียนอยู่บนโคมสีแดงลูกใหญ่นั่นเอง เมื่อผ่านเข้ามาจะพบกับถนนนากามิเสะ (Nakamise) สองข้างทางมีร้านค้าให้เดินชมและชิมได้เพลินๆ โดยมีของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกซื้อหา และขนมส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้ลิ้มลอง สุดถนนเป็นซุ้มประตูที่มีโคมสีแดงแขวนอยู่อีกซุ้มหนึ่ง คือประตูโฮโซ (Hozo-Mon) หรือประตูแห่งขุมทรัพย์
ผ่านเข้ามาในบริเวณวัดจะเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง มีผู้คนยืนโบกควันธูปเข้าหาตัวเอง เชื่อกันว่าจะทำให้โชคดี และมีกระถางกำยานตั้งอยู่ด้วย การโบกควันกำยานเข้าหาตัวเชื่อว่าจะช่วยให้หายเจ็บป่วย เจ็บป่วยส่วนไหนก็จะโบกควันกำยานไปที่อวัยวะส่วนนั้น บริเวณนี้ยังมีบ่อน้ำพุให้ชำระล้างก่อนเข้าไปสักการะพระโพธิสัตว์ในอาคาร
พระโพธิสัตว์คันนน พระประจำวัดแห่งนี้ที่ผู้คนศรัทธานั้น คือพระโพธิสัตว์กวนอิมที่คนไทยรู้จักนั่นเอง มีประวัติเล่าว่า วันหนึ่ง สองพี่น้องชาวประมงออกไปหาปลาในแม่น้ำสุมิดะ (Sumida) แล้วเหวี่ยงแหได้รูปสลักพระโพธิสัตว์คันนนสีทองติดมาด้วย จึงมีการสร้างวัดประดิษฐานพระโพธิสัตว์
หลังจากสักการะพระโพธิสัตว์แล้ว ที่นี่มีเซียมซีให้ลองเสี่ยงทาย ในภาษาญี่ปุ่นเรียกโอมิกุจิ (Omiguji) เมื่อได้ใบเซียมซีและอ่านคำทำนายแล้ว ถ้าได้คำทำนายที่ไม่ดีชาวญี่ปุ่นนิยมพับแล้วไปผูกกับต้นไม้หรือบริเวณที่ทางวัดจัดไว้ เชื่อว่าจะช่วยให้ได้รับความคุ้มครอง
ที่วัดอาซากุสะยังมีสถานที่อื่นๆ ให้เที่ยวชมด้วย เช่น เจดีย์ 5 ชั้น ศาลเจ้าอาซากุสะ สวนญี่ปุ่นที่สวยงาม เป็นต้น
วัดอาซากุสะเป็นวัดเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การมาสักการะพระโพธิสัตว์และ เที่ยวชม กล่าวกันว่าถ้ามาโตเกียวแล้วไม่ได้มาไหว้พระที่วัดอาซากุสะ ถือว่ามายังไม่ถึงโตเกียวเลยทีเดียว นอกจากนี้จากวัดอาซากุสะเดินต่อไปอีกราว 20 นาทีก็จะถึงโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในย่านนี้
การเดินทางมาที่วัดอาซากุสะทำได้โดย นั่งรถไฟใต้ดินสายกินซ่า (Ginza Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (G19) ออกทางออกหมายเลข 1 หรือใช้รถไฟสายอาซากุสะ (Asakusa Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (A18) ออกประตู 4 หรือ 5 เดิน 3-5 นาทีก็ถึงประตูสายฟ้า (สถานีรถไฟอาซากุสะของทั้งสองสายแม้จะชื่อเดียวกันแต่เป็นคนละสถานี)
วัดอาซากุสะ วัดที่ต้องมาเยือนในโตเกียว
อาซากุสะ (Asakusa) เป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของโตเกียว ในอดีตเคยเป็นแหล่งสถานเริงรมย์และโรงละคร แต่เสียหายไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมามีการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงความเป็นโตเกียวแบบดั้งเดิมอยู่ ปัจจุบันเป็นย่านที่มีเสน่ห์แบบย้อนยุคและเติมแต่งด้วยสีสันของความทันสมัย โดยหัวใจของย่านนี้อยู่ที่วัดอาซากุสะ
วัดอาซากุสะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ (Sensoji) แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ โดยมีพระโพธิสัตว์คันนน (Kannon Bosatsu) ประดิษฐานอยู่และเป็นพระประธานของวัด
ที่ประตูทางเข้าวัดมีโคมสีแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ประตูแห่งนี้มีชื่อว่า ประตูคามินาริ (Kaminari-Mon) แปลได้ว่า ประตูสายฟ้า ชื่อของประตูเขียนอยู่บนโคมสีแดงลูกใหญ่นั่นเอง เมื่อผ่านเข้ามาจะพบกับถนนนากามิเสะ (Nakamise) สองข้างทางมีร้านค้าให้เดินชมและชิมได้เพลินๆ โดยมีของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกซื้อหา และขนมส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้ลิ้มลอง สุดถนนเป็นซุ้มประตูที่มีโคมสีแดงแขวนอยู่อีกซุ้มหนึ่ง คือประตูโฮโซ (Hozo-Mon) หรือประตูแห่งขุมทรัพย์
ผ่านเข้ามาในบริเวณวัดจะเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง มีผู้คนยืนโบกควันธูปเข้าหาตัวเอง เชื่อกันว่าจะทำให้โชคดี และมีกระถางกำยานตั้งอยู่ด้วย การโบกควันกำยานเข้าหาตัวเชื่อว่าจะช่วยให้หายเจ็บป่วย เจ็บป่วยส่วนไหนก็จะโบกควันกำยานไปที่อวัยวะส่วนนั้น บริเวณนี้ยังมีบ่อน้ำพุให้ชำระล้างก่อนเข้าไปสักการะพระโพธิสัตว์ในอาคาร
พระโพธิสัตว์คันนน พระประจำวัดแห่งนี้ที่ผู้คนศรัทธานั้น คือพระโพธิสัตว์กวนอิมที่คนไทยรู้จักนั่นเอง มีประวัติเล่าว่า วันหนึ่ง สองพี่น้องชาวประมงออกไปหาปลาในแม่น้ำสุมิดะ (Sumida) แล้วเหวี่ยงแหได้รูปสลักพระโพธิสัตว์คันนนสีทองติดมาด้วย จึงมีการสร้างวัดประดิษฐานพระโพธิสัตว์
หลังจากสักการะพระโพธิสัตว์แล้ว ที่นี่มีเซียมซีให้ลองเสี่ยงทาย ในภาษาญี่ปุ่นเรียกโอมิกุจิ (Omiguji) เมื่อได้ใบเซียมซีและอ่านคำทำนายแล้ว ถ้าได้คำทำนายที่ไม่ดีชาวญี่ปุ่นนิยมพับแล้วไปผูกกับต้นไม้หรือบริเวณที่ทางวัดจัดไว้ เชื่อว่าจะช่วยให้ได้รับความคุ้มครอง
ที่วัดอาซากุสะยังมีสถานที่อื่นๆ ให้เที่ยวชมด้วย เช่น เจดีย์ 5 ชั้น ศาลเจ้าอาซากุสะ สวนญี่ปุ่นที่สวยงาม เป็นต้น
วัดอาซากุสะเป็นวัดเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การมาสักการะพระโพธิสัตว์และ เที่ยวชม กล่าวกันว่าถ้ามาโตเกียวแล้วไม่ได้มาไหว้พระที่วัดอาซากุสะ ถือว่ามายังไม่ถึงโตเกียวเลยทีเดียว นอกจากนี้จากวัดอาซากุสะเดินต่อไปอีกราว 20 นาทีก็จะถึงโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในย่านนี้
การเดินทางมาที่วัดอาซากุสะทำได้โดย นั่งรถไฟใต้ดินสายกินซ่า (Ginza Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (G19) ออกทางออกหมายเลข 1 หรือใช้รถไฟสายอาซากุสะ (Asakusa Line) ลงที่สถานีอาซากุสะ (A18) ออกประตู 4 หรือ 5 เดิน 3-5 นาทีก็ถึงประตูสายฟ้า (สถานีรถไฟอาซากุสะของทั้งสองสายแม้จะชื่อเดียวกันแต่เป็นคนละสถานี)