http://ppantip.com/topic/35715435 บทที่ 1-2
http://ppantip.com/topic/35754147 บทที่ 3
บทที่ 4
Murder : ฆาตกรรม?
Philip : สมัยนี้น่ะแค่คำพูดน่ะง่ายใครก็พูดได้ แต่คนที่ลงมือทำตามคำพูดจริงๆ ไม่เห็นมีสักคน
"แพทริก...เป็นอะไรไปรึเปล่า เห็นเงียบไป" นาตาลีถามด้วยความเป็นห่วง
"ปวดหัวนิดหน่อยคงไม่เป็นไรมากหรอก กินยาไปแล้วล่ะ"
"นายไปนอนพักที่ห้องพยาบาลซักหน่อยก็ดีนะ เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ไม่เป็นไร เธอไปหาพวกจูดี้เถอะ ฉันเดินไปเองได้…"
นาตาลียืนมองจนแพทริกเดินลับมุมอาคารไปด้วยความเป็นห่วง เธอไม่ค่อยวางใจนักที่ปล่อยให้คนป่วยอย่างเขาเดินไปตามลำพัง เนื่องจากแพทริกเป็นคนที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงโดยกำเนิด อีกทั้งเขายังมีอาการของโรคหัวใจอยู่ด้วย
"ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าห้องผู้อำนวยการไปทางไหนครับ"
น้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนฟังปลุกนาตาลีให้ตื่นจากภวังค์ความคิดของเธอ
"สุดทางเดินด้านทิศเหนือ ชั้นสามค่ะ…อ๊ะ!" เธออุทานขึ้นหลังจากมองเห็นหน้าของเขา
"มีอะไรรึเปล่าครับ?" ชายหนุ่มถาม
นาตาลีเหม่อมองใบหน้าของเขา เป็นใบหน้าที่คล้ายกันมากจริงๆ คล้ายกับคนๆ นั้น เพียงแค่ไม่มีรอยแผลเป็นอยู่บนหน้าของเขาเท่านั้นเอง
"คุณครับเป็นอะไรรึเปล่า" ชายหนุ่มถามย้ำเมื่อเห็นเธอเหม่อมองดูเขา
"เปล่าค่ะ พอดีหน้าของคุณคล้ายกับคนที่ฉันรู้จักน่ะค่ะ"
"อย่างนั้นเหรอครับ"
ชายหนุ่มเลื่อนมือไปขยับแว่นกันแดดก่อนจะพูดต่อ
"เอ่อ เกือบลืมแนะนำตัวไปน่ะครับ ผมชื่อฟิลิป โซอาครับ"
"โซอา?" คล้ายสายฟ้าฟาดเข้ามากลางใจของนาตาลีเมื่อได้ยิน มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ทั้งหน้าตา ทั้งชื่อสกุล นาตาลีคิดว่า คนๆ นี้ต้องมีส่วนเกี่ยวพันกับริชาร์ดอย่างแน่นอน
"มีอะไรรึเปล่าครับ"
"เปล่าค่ะ ถ้ายังไงให้ฉันนำทางไปห้องผู้อำนวยการได้นะคะ"
…………………………………………………………
ฟิลิปเคาะประตูห้องผู้อำนวยการก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ผมร้อยตรีโซอาขออนุญาตสอบปากคำครับ"
"คุณเป็นตำรวจ?" นาตาลียิงคำถามใส่ผู้หมวดหนุ่ม
"ครับ ผมเป็นตำรวจ...ผมยังไม่ได้บอกกับคุณเหรอครับ" นาตาลียิ้มแห้งๆ แทนคำตอบ
ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อบทสนทนาของทั้งสองจบลง ฟิลิปยืนเกาหัวแกรกๆ อาจเป็นเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าทำไมผู้อำนวยการถึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนรอนานขนาดนี้
"เอ่อ คุณร้อยตรีฟิลิปผู้อำนวยการอาจจะไม่อยู่ในห้องก็ได้นะคะ" นาตาลีเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อย
"ฟิลิปเฉยๆ ดีกว่าครับ" เขาตอบกลับอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
"ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ สารวัตรบอกกับผมเองว่าผู้อำนวยการพร้อมที่จะให้ปากคำแล้ว และกำลังรออยู่ในห้องนี้"
เพื่อยืนยันคำพูด ฟิลิปเอื้อมมือไปยังลูกบิดประตู "ขออนุญาตนะครับ"
ประตูไม่ได้ล็อค เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในห้องก็ได้พบกับผู้อำนวยการในสภาพกำลังนอนอยู่บนพื้นในสภาพไร้ศีรษะ แขนและขาทั้งสองข้างขาดออกจากกัน
"สภาพห้องคล้ายเกิดการต่อสู้กันระหว่างผู้อำนวยการกับคนร้าย" ฟิลิปเริ่มวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิต
"เขา…ตาย…แล้ว" นาตาลีนึกไม่ถึงว่าจะเจอภาพอันน่าสยดสยองเช่นนี้
นาตาลีถึงกับเข่าอ่อนจนทรุดนั่งลงไปกับพื้น ดวงตาเธอมองไปยังร่างไร้ชีวิตตรงหน้าอยู่อย่างตื่นตะลึง
"ดูจากสภาพเลือดที่ไหลออกมา…ยังไม่แข็งตัว และ ยังไม่ขยายบริเวณออกจากตัวศพและชิ้นส่วนอื่นๆ มากนัก" เขาเอื้อมมือไปแตะร่างที่ไร้ชีวิตของผู้อำนวยการ
"ศพยังอุ่น แสดงว่าฆาตกรยังอยู่ในโรงเรียนนี้แน่นอน" ฟิลิปพยายามข่มกลั้นความตึงเครียด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อสูทโทรแจ้งสารวัตร
นาตาลีมองไปรอบห้อง ทั้งผนังและเพดานห้องถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือดที่สาดกระเซ็นออกมาจากตัวศพ เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองร่างอันไร้ชีวิตของผู้อำนวยการ
โต๊ะรับแขกที่เคยเป็นกระจกใสสวยงาม ตอนนี้แตกกระจายจนเป็นเศษเล็กเศษน้อย สภาพของศพคล้ายถูกฉีกกระชากให้ขาดออกจากกันด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล มันจะฉีกเป็นรูปดาวห้าแฉกได้พอดีหากส่วนหัวของเขายังคงอยู่ แม้แต่ฟิลิปที่อยู่แผนกคดีฆาตกรรมพิศวงยังอดเบือนหน้าหนีไม่ได้เมื่อมองดูสภาพศพ
"ผมว่าไม่ดีแน่ถ้ายังนั่งอยู่อย่างนั้น"
ตำรวจหนุ่มสนทนาทำลายความเงียบ นาตาลีเหลียวหน้ามองดูเขา แววตาของเธอแสดงออกถึงอาการหวาดกลัวอย่างเด่นชัด
"ไปกันเถอะ" พูดจบฟิลิปก็พาเธอออกจากห้องไป
…………………………………………………………
"ระยะเวลาระหว่างที่สารวัตรใช้คนมาตามให้ไปพบ จวบจนพวกเราเดินมาถึงห้อง ผอ. ไม่น่าจะเกินสิบนาที สภาพศพก็ยังอุ่นอยู่ ดูจากสภาพการณ์คนร้ายน่าจะยังอยู่ในอาคารเรียนแห่งนี้แน่"
ฟิลิปคิดขณะที่กำลังเดินออกจากประตูห้องของผู้อำนวยการ คนร้ายใช้เวลาลงมือเพียงแค่สิบนาที มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแต่มันกลับเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
‘จากสภาพศพ บาดแผลทั้งห้านั้นไม่ได้ถูกทำให้ขาดโดยวัตถุมีคม…ถ้าอย่างนั้นคนร้ายทำยังไงให้ศพ
ขาดออกจากกัน’ คิ้วทั้งสองของฟิลิปขมวดเข้าหากัน
‘ด้วยแรงของมนุษย์ไม่มีทางที่จะฉีกกระชากร่างกายให้ขาดออกอย่างนั้นได้!’
แล้วริชชาร์ด เกี่ยวข้องยังไงกับเรื่องนี้กันแน่
แนต!!! จูดี้ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเพื่อนของเธอเดินจูงมือกับชายหน้าคุ้นหน้าที่เธอคล้ายจะไม่รู้จัก
"นี่เธอยังไม่รีบเข้าไปในห้องเรียนอีกเหรอ" จูดี้พูดพลางไล่สายตาสำรวจตำรวจหนุ่มจนเขารู้สึกประหม่า
"ห้องเรียน!? เข้าห้องเรียนทำไมกัน?" นาตาลีเหวอ
"ตำรวจน่ะสิสั่งให้นักเรียนทุกคนเข้าไปในห้องเรียน เพื่อที่จะทำอะไรบางอย่างแหละ ฉันก็ยังไม่รู้เลย อาเธอร์กำลังไปสืบให้อยู่น่ะ"
จนถึงตอนนี้นาตาลีค่อยสังเกตเห็นเหล่านักเรียนปีสามที่กำลังเดินเข้าห้องประจำของตน จูดี้เองก็คงกำลังจะกลับเข้าไปเช่นกัน
"ผมคิดว่าคุณก็ควรที่จะรีบเข้าไปในห้องเช่นกันนะครับ" ฟิลิปเอ่ยกับจูดี้ซึ่งกำลังมองมาทางเขาอย่างสงสัยใคร่รู้
"แนต คุณคนนี้…"
"…เค้าคือคุณฟิลิป" นาตาลีตอบด้วยน้ำเสียงสั่นใบหน้าซีดเผือด
"เป็นอะไรรึเปล่าแนต ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ" จูดี้ถาม เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติในสีหน้าและน้ำเสียงของเธอ
"เรื่องนี้ให้ผมตอบแทนดีกว่า"
ฟิลิปอาสาตอบคำถามแทนนาตาลีซึ่งยังไม่พร้อมที่จะตอบสักเท่าไร
"คือว่า…"
"ผอ.ตายแล้ว" อาเธอร์พูดแทรกขึ้น เขาเดินขึ้นบันไดมาและหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตำรวจหนุ่ม
"ถามพวกอาจารย์มาแล้ว ที่ตำรวจสั่งให้นักเรียนทุกคนเข้าไปในห้องน่าจะเพราะเรื่องนี้ ใช่ไหมครับ คุณตำรวจ" อาเธอร์ส่งสายตายิงคำถามให้แก่ตำรวจหนุ่มชุดสูทขาว ซึ่งกำลังใช้นิ้วชี้ดันแว่นกันแดดหลบสายตาเขา
"…ไม่จริงใช่มั้ย งั้นคนร้ายก็ยังอยู่ในโรงเรียนน่ะสิ ตอนออกจากห้องเรียนไปเป็นมนุษย์พุ่มไม้ฉันยังเห็นผู้อำนวยการเดินเข้าห้องทำงานของเขาไปอยู่เลย" จูดี้พูดเสียงสั่น
"เอ๊ะ! แพทริกล่ะ แนตเขาอยู่กับเธอด้วยไม่ใช่เหรอ" อาเธอร์ถามถึงแพทริกด้วยความเป็นห่วง และเหลือบมองตำรวจหนุ่มชุดสูทขาวอย่างไม่เป็นมิตรนัก
ไม่ทันไรเสียงเพลงสายเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อสูทของฟิลิป
"ครับ…ทราบแล้วครับ…" นายตำรวจหนุ่มเก็บโทรศัพท์แล้วหันมาบอกกับทุกคน
"ยังมีนักเรียนอยู่ในห้องพยาบาลอีกสองคน พวกเธอพอจะนำทางไปได้ไหม"
…………………………………………………………
...น่าแปลกที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนนี้อยู่บนชั้นสาม…
ห้องพยาบาลตั้งอยู่ที่ทิศใต้สุดของอาคารเรียน พวกเขาเดินเข้าใกล้ห้องพยาบาลเข้าไปทุกขณะ นาตาลีรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาเลยหยิบเครื่องDCขึ้นมาใส่ ทันทีที่สวมมันความรู้สึกแปลกที่เธอยังไม่สามารถอธิบายได้แน่ชัดก็เกิดขึ้น ความรู้สึกพะอืดพะอมเหมือนตอนที่อยู่ในโรงพยาบาลร้าง!
เดินมาได้ไม่ทันไรพวกเขาก็เห็นประตูห้องพยาบาลที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงสุดทางเดิน
ประตูห้องพยาบาลเป็นแบบเลื่อนเปิด ซึ่งสร้างความลำบากให้แก่อาเธอร์เมื่อเขาพยายามที่จะเปิดด้วยวิธีการผลักมันเข้าไป
"โธ่เว้ย! ทำไมมันเปิดไม่ออกเนี่ย"
"รู้สึกว่ามันจะล็อคจากด้านในนะครับ"
ตำรวจหนุ่มพิจารณาจากอาการติดขัดของประตู แต่ก็ไม่ได้เอะใจเรื่องที่ประตูเป็นแบบเลื่อนเปิด
"ทำไมประตูถึงล็อค?"
ฟิลิปพูดพึมพำเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน ทำให้อาเธอร์รีบพุ่งชนทำลายประตูเหล็ก ก่อนจะกระเด้งกลับมาร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
"ใจเย็นๆ อาร์ท"
สาวน้อยน่ารักรูปร่างเจ้าเนื้ออย่างจูดี้ก็พยายามคิดในแง่ดีโดยที่ไม่รู้ว่าประตูห้องพยาบาลเป็นแบบเลื่อนเปิด
"ลองมองเข้าไปในกระจกประตูซิ อาจพอเห็นอะไรบ้างก็ได้…ฉันว่าอาจารย์อาจล็อคห้องพยาบาลไว้ก่อนออกไปก็ได้"
"ชิ! มืดจริงๆ สงสัยมีใครปิดม่านหน้าต่างด้วยแน่เลย…เอ๊ะ! ฉันเห็นอะไรแวบๆ ด้วยแน่ะ "
อึก! -- อีกครั้งที่นาตาลีเกิดความรู้สึกสะอิดสะเอียน…คราวนี้ความรู้สึกนั้นมันรุนแรงเสียจนสีหน้าเธอเปลี่ยนไป
ไม่ทันไรเสียงกระจกแตกดังก็มาจากด้านในห้องพยาบาล นาตาลีก็จับความรู้สึกของบางสิ่งได้ มันกำลังใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
"ระวัง!" นาตาลีตะโกนบอกทุกคน
ทันใดนั้นร่างของอาเธอร์กับประตูก็ปลิวกระเด็นติดกันออกมา เขาและประตูเหล็กไถลไปตามพื้น ชนถังขยะพลาสติกขนาดใหญ่และหยุดลง ณ ตรงนั้น
"ไม่…ไม่จริง" จูดี้ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!" ฟิลิปอุทานขึ้นพร้อมกับมองไปยังทางเข้าห้องพยาบาลที่ไร้ประตู...มีบางสิ่งยืนอยู่
‘สิ่งนั้น’ ที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของทุกคน คือ เด็กชายในชุดนักเรียนที่กำลังยืนอยู่ในสภาพคอพับลงไป แขนทั้งสองข้างถูกปล่อยห้อยลงราวกับไร้กระดูกหัวไหล่ ดวงตาสีเขียวเรืองรองส่องสว่างตัดกับผมสีดำยาวที่ปิดบังใบหน้าจนมองไม่ออกว่าเป็นใคร
‘นา..ตา..ลี’
มันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองมาที่เธอ ดวงตาสีเขียวเรืองรองของมันทำให้นาตาลีนึกถึงภาพเหตุการณ์ ในคืนนั้นอีกครั้ง
"ไม่นะ!" นาตาลีพูดเสียงสั่นพร้อมกับค่อยๆ เดินถอยออกห่างมาจากมัน ความรู้สึกอันน่าสะอิดสะเอียนแทรกเข้ามาทุกเส้นประสาทรูขุมขน เธอก้าวถอยจนหลังชิดติดกับผนังกำแพง
‘นา...ตา...ลี’
มันค่อยๆ เดินโซเซเข้ามาหาหล่อน น้ำเมือกเหนียวไหลย้อยลงมาจากส่วนที่พวกเขาคิดว่าเป็นปากของมัน
“หยุดนะ! ฟิลิปยกปืนขึ้นเล็งไปทางมัน "อย่าขยับ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ"
ไม่ได้ผล!
มันยังคงเดินเข้ามาหาเธออยู่…ใกล้เข้ามาทีละก้าว…ทีละก้าว
ปัง! เสียงปืนดังขึ้น พร้อมๆ กับเลือดสีแดงสดที่พุ่งกระฉูดออกมาจากข้อพับบริเวณขาของมัน
มันล้มลงตรงหน้านาตาลีพอดี เธอกลัวจนแทบจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของผนังแล้ว…ความเงียบเกิดขึ้น ทุกคนต่างจ้องมองไปยังร่างที่นอนกองอยู่บนพื้นตรงหน้า จูดี้เอนตัวลงไปนอนหมดสติกับพื้น นาตาลีตัวสั่นเทามองดูสิ่งมีชีวิตตรงหน้าด้วยความสยดสยอง ก่อนที่หมอกควันสีดำจะลอยออกมาจากร่างของมัน
เฮี๊ยกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
พร้อมกับเสียงหัวเราะ มันลุกขึ้นมายืนอีกครั้งและหันหน้าไปทางฟิลิป…ดูเหมือนมันจะมุ่งความสนใจไปยังเขาแล้ว
ปัง! ไม่ต้องรอให้เดินเข้ามา ร้อยตำรวจหนุ่มยิงกระสุนนัดที่สองไปยังข้อพับขาอีกข้างของมันทันทีแต่ไม่ได้ผล ถึงแม้เลือดที่พุ่งออกมาจากขาจะเป็นหลักฐานว่ามันโดนยิงแล้วก็ตาม แต่คราวนี้มันกลับไม่ล้มลงและยังเดินเข้ามาหาเขา
ปัง ปัง ปัง!
"ไม่น่าเชื่อ" ชายหนุ่มระดมยิงใส่มันจนกระสุนหมด แต่กลับไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของมันได้…และ ตอนนี้มันมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดวงตาของมันคล้ายกับมีอำนาจสะกดให้เขาไม่สามรถขยับตัวได้
ดวงตาสีเขียวเรืองรองคู่นั้น
นาตาลีไม่ทันได้มองเห็นชัดเจนร่างของนายตำรวจหนุ่มก็ปลิวไปปะทะกับขอบหน้าต่างอย่างแรงจนกระจกแตกกระจายและร่วงลงไปนอนสงบแน่นิ่งบนพื้น
นาตาลีไม่กล้าแม้แต่ที่จะขยับตัว เธอมองไปยังอาเธอร์ซึ่งยังนอนหมดสติใต้บานประตูเหล็ก ฟิลิปที่นอนนิ่งอยู่บนเศษกระจกหน้าต่าง และจูดี้เพื่อนสาวของเธอซึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น
To be continued…
Demon สัตว์อสูรจอมราชันย์ บทที่ 4 Murder : ฆาตกรรม?
http://ppantip.com/topic/35754147 บทที่ 3
บทที่ 4
Murder : ฆาตกรรม?
Philip : สมัยนี้น่ะแค่คำพูดน่ะง่ายใครก็พูดได้ แต่คนที่ลงมือทำตามคำพูดจริงๆ ไม่เห็นมีสักคน
"แพทริก...เป็นอะไรไปรึเปล่า เห็นเงียบไป" นาตาลีถามด้วยความเป็นห่วง
"ปวดหัวนิดหน่อยคงไม่เป็นไรมากหรอก กินยาไปแล้วล่ะ"
"นายไปนอนพักที่ห้องพยาบาลซักหน่อยก็ดีนะ เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ไม่เป็นไร เธอไปหาพวกจูดี้เถอะ ฉันเดินไปเองได้…"
นาตาลียืนมองจนแพทริกเดินลับมุมอาคารไปด้วยความเป็นห่วง เธอไม่ค่อยวางใจนักที่ปล่อยให้คนป่วยอย่างเขาเดินไปตามลำพัง เนื่องจากแพทริกเป็นคนที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงโดยกำเนิด อีกทั้งเขายังมีอาการของโรคหัวใจอยู่ด้วย
"ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าห้องผู้อำนวยการไปทางไหนครับ"
น้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนฟังปลุกนาตาลีให้ตื่นจากภวังค์ความคิดของเธอ
"สุดทางเดินด้านทิศเหนือ ชั้นสามค่ะ…อ๊ะ!" เธออุทานขึ้นหลังจากมองเห็นหน้าของเขา
"มีอะไรรึเปล่าครับ?" ชายหนุ่มถาม
นาตาลีเหม่อมองใบหน้าของเขา เป็นใบหน้าที่คล้ายกันมากจริงๆ คล้ายกับคนๆ นั้น เพียงแค่ไม่มีรอยแผลเป็นอยู่บนหน้าของเขาเท่านั้นเอง
"คุณครับเป็นอะไรรึเปล่า" ชายหนุ่มถามย้ำเมื่อเห็นเธอเหม่อมองดูเขา
"เปล่าค่ะ พอดีหน้าของคุณคล้ายกับคนที่ฉันรู้จักน่ะค่ะ"
"อย่างนั้นเหรอครับ"
ชายหนุ่มเลื่อนมือไปขยับแว่นกันแดดก่อนจะพูดต่อ
"เอ่อ เกือบลืมแนะนำตัวไปน่ะครับ ผมชื่อฟิลิป โซอาครับ"
"โซอา?" คล้ายสายฟ้าฟาดเข้ามากลางใจของนาตาลีเมื่อได้ยิน มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ทั้งหน้าตา ทั้งชื่อสกุล นาตาลีคิดว่า คนๆ นี้ต้องมีส่วนเกี่ยวพันกับริชาร์ดอย่างแน่นอน
"มีอะไรรึเปล่าครับ"
"เปล่าค่ะ ถ้ายังไงให้ฉันนำทางไปห้องผู้อำนวยการได้นะคะ"
…………………………………………………………
ฟิลิปเคาะประตูห้องผู้อำนวยการก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ผมร้อยตรีโซอาขออนุญาตสอบปากคำครับ"
"คุณเป็นตำรวจ?" นาตาลียิงคำถามใส่ผู้หมวดหนุ่ม
"ครับ ผมเป็นตำรวจ...ผมยังไม่ได้บอกกับคุณเหรอครับ" นาตาลียิ้มแห้งๆ แทนคำตอบ
ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อบทสนทนาของทั้งสองจบลง ฟิลิปยืนเกาหัวแกรกๆ อาจเป็นเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าทำไมผู้อำนวยการถึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนรอนานขนาดนี้
"เอ่อ คุณร้อยตรีฟิลิปผู้อำนวยการอาจจะไม่อยู่ในห้องก็ได้นะคะ" นาตาลีเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อย
"ฟิลิปเฉยๆ ดีกว่าครับ" เขาตอบกลับอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
"ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ สารวัตรบอกกับผมเองว่าผู้อำนวยการพร้อมที่จะให้ปากคำแล้ว และกำลังรออยู่ในห้องนี้"
เพื่อยืนยันคำพูด ฟิลิปเอื้อมมือไปยังลูกบิดประตู "ขออนุญาตนะครับ"
ประตูไม่ได้ล็อค เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในห้องก็ได้พบกับผู้อำนวยการในสภาพกำลังนอนอยู่บนพื้นในสภาพไร้ศีรษะ แขนและขาทั้งสองข้างขาดออกจากกัน
"สภาพห้องคล้ายเกิดการต่อสู้กันระหว่างผู้อำนวยการกับคนร้าย" ฟิลิปเริ่มวิเคราะห์สาเหตุการเสียชีวิต
"เขา…ตาย…แล้ว" นาตาลีนึกไม่ถึงว่าจะเจอภาพอันน่าสยดสยองเช่นนี้
นาตาลีถึงกับเข่าอ่อนจนทรุดนั่งลงไปกับพื้น ดวงตาเธอมองไปยังร่างไร้ชีวิตตรงหน้าอยู่อย่างตื่นตะลึง
"ดูจากสภาพเลือดที่ไหลออกมา…ยังไม่แข็งตัว และ ยังไม่ขยายบริเวณออกจากตัวศพและชิ้นส่วนอื่นๆ มากนัก" เขาเอื้อมมือไปแตะร่างที่ไร้ชีวิตของผู้อำนวยการ
"ศพยังอุ่น แสดงว่าฆาตกรยังอยู่ในโรงเรียนนี้แน่นอน" ฟิลิปพยายามข่มกลั้นความตึงเครียด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อสูทโทรแจ้งสารวัตร
นาตาลีมองไปรอบห้อง ทั้งผนังและเพดานห้องถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือดที่สาดกระเซ็นออกมาจากตัวศพ เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองร่างอันไร้ชีวิตของผู้อำนวยการ
โต๊ะรับแขกที่เคยเป็นกระจกใสสวยงาม ตอนนี้แตกกระจายจนเป็นเศษเล็กเศษน้อย สภาพของศพคล้ายถูกฉีกกระชากให้ขาดออกจากกันด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล มันจะฉีกเป็นรูปดาวห้าแฉกได้พอดีหากส่วนหัวของเขายังคงอยู่ แม้แต่ฟิลิปที่อยู่แผนกคดีฆาตกรรมพิศวงยังอดเบือนหน้าหนีไม่ได้เมื่อมองดูสภาพศพ
"ผมว่าไม่ดีแน่ถ้ายังนั่งอยู่อย่างนั้น"
ตำรวจหนุ่มสนทนาทำลายความเงียบ นาตาลีเหลียวหน้ามองดูเขา แววตาของเธอแสดงออกถึงอาการหวาดกลัวอย่างเด่นชัด
"ไปกันเถอะ" พูดจบฟิลิปก็พาเธอออกจากห้องไป
…………………………………………………………
"ระยะเวลาระหว่างที่สารวัตรใช้คนมาตามให้ไปพบ จวบจนพวกเราเดินมาถึงห้อง ผอ. ไม่น่าจะเกินสิบนาที สภาพศพก็ยังอุ่นอยู่ ดูจากสภาพการณ์คนร้ายน่าจะยังอยู่ในอาคารเรียนแห่งนี้แน่"
ฟิลิปคิดขณะที่กำลังเดินออกจากประตูห้องของผู้อำนวยการ คนร้ายใช้เวลาลงมือเพียงแค่สิบนาที มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแต่มันกลับเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
‘จากสภาพศพ บาดแผลทั้งห้านั้นไม่ได้ถูกทำให้ขาดโดยวัตถุมีคม…ถ้าอย่างนั้นคนร้ายทำยังไงให้ศพ
ขาดออกจากกัน’ คิ้วทั้งสองของฟิลิปขมวดเข้าหากัน
‘ด้วยแรงของมนุษย์ไม่มีทางที่จะฉีกกระชากร่างกายให้ขาดออกอย่างนั้นได้!’
แล้วริชชาร์ด เกี่ยวข้องยังไงกับเรื่องนี้กันแน่
แนต!!! จูดี้ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเพื่อนของเธอเดินจูงมือกับชายหน้าคุ้นหน้าที่เธอคล้ายจะไม่รู้จัก
"นี่เธอยังไม่รีบเข้าไปในห้องเรียนอีกเหรอ" จูดี้พูดพลางไล่สายตาสำรวจตำรวจหนุ่มจนเขารู้สึกประหม่า
"ห้องเรียน!? เข้าห้องเรียนทำไมกัน?" นาตาลีเหวอ
"ตำรวจน่ะสิสั่งให้นักเรียนทุกคนเข้าไปในห้องเรียน เพื่อที่จะทำอะไรบางอย่างแหละ ฉันก็ยังไม่รู้เลย อาเธอร์กำลังไปสืบให้อยู่น่ะ"
จนถึงตอนนี้นาตาลีค่อยสังเกตเห็นเหล่านักเรียนปีสามที่กำลังเดินเข้าห้องประจำของตน จูดี้เองก็คงกำลังจะกลับเข้าไปเช่นกัน
"ผมคิดว่าคุณก็ควรที่จะรีบเข้าไปในห้องเช่นกันนะครับ" ฟิลิปเอ่ยกับจูดี้ซึ่งกำลังมองมาทางเขาอย่างสงสัยใคร่รู้
"แนต คุณคนนี้…"
"…เค้าคือคุณฟิลิป" นาตาลีตอบด้วยน้ำเสียงสั่นใบหน้าซีดเผือด
"เป็นอะไรรึเปล่าแนต ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ" จูดี้ถาม เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติในสีหน้าและน้ำเสียงของเธอ
"เรื่องนี้ให้ผมตอบแทนดีกว่า"
ฟิลิปอาสาตอบคำถามแทนนาตาลีซึ่งยังไม่พร้อมที่จะตอบสักเท่าไร
"คือว่า…"
"ผอ.ตายแล้ว" อาเธอร์พูดแทรกขึ้น เขาเดินขึ้นบันไดมาและหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตำรวจหนุ่ม
"ถามพวกอาจารย์มาแล้ว ที่ตำรวจสั่งให้นักเรียนทุกคนเข้าไปในห้องน่าจะเพราะเรื่องนี้ ใช่ไหมครับ คุณตำรวจ" อาเธอร์ส่งสายตายิงคำถามให้แก่ตำรวจหนุ่มชุดสูทขาว ซึ่งกำลังใช้นิ้วชี้ดันแว่นกันแดดหลบสายตาเขา
"…ไม่จริงใช่มั้ย งั้นคนร้ายก็ยังอยู่ในโรงเรียนน่ะสิ ตอนออกจากห้องเรียนไปเป็นมนุษย์พุ่มไม้ฉันยังเห็นผู้อำนวยการเดินเข้าห้องทำงานของเขาไปอยู่เลย" จูดี้พูดเสียงสั่น
"เอ๊ะ! แพทริกล่ะ แนตเขาอยู่กับเธอด้วยไม่ใช่เหรอ" อาเธอร์ถามถึงแพทริกด้วยความเป็นห่วง และเหลือบมองตำรวจหนุ่มชุดสูทขาวอย่างไม่เป็นมิตรนัก
ไม่ทันไรเสียงเพลงสายเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อสูทของฟิลิป
"ครับ…ทราบแล้วครับ…" นายตำรวจหนุ่มเก็บโทรศัพท์แล้วหันมาบอกกับทุกคน
"ยังมีนักเรียนอยู่ในห้องพยาบาลอีกสองคน พวกเธอพอจะนำทางไปได้ไหม"
…………………………………………………………
...น่าแปลกที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนนี้อยู่บนชั้นสาม…
ห้องพยาบาลตั้งอยู่ที่ทิศใต้สุดของอาคารเรียน พวกเขาเดินเข้าใกล้ห้องพยาบาลเข้าไปทุกขณะ นาตาลีรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาเลยหยิบเครื่องDCขึ้นมาใส่ ทันทีที่สวมมันความรู้สึกแปลกที่เธอยังไม่สามารถอธิบายได้แน่ชัดก็เกิดขึ้น ความรู้สึกพะอืดพะอมเหมือนตอนที่อยู่ในโรงพยาบาลร้าง!
เดินมาได้ไม่ทันไรพวกเขาก็เห็นประตูห้องพยาบาลที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงสุดทางเดิน
ประตูห้องพยาบาลเป็นแบบเลื่อนเปิด ซึ่งสร้างความลำบากให้แก่อาเธอร์เมื่อเขาพยายามที่จะเปิดด้วยวิธีการผลักมันเข้าไป
"โธ่เว้ย! ทำไมมันเปิดไม่ออกเนี่ย"
"รู้สึกว่ามันจะล็อคจากด้านในนะครับ"
ตำรวจหนุ่มพิจารณาจากอาการติดขัดของประตู แต่ก็ไม่ได้เอะใจเรื่องที่ประตูเป็นแบบเลื่อนเปิด
"ทำไมประตูถึงล็อค?"
ฟิลิปพูดพึมพำเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน ทำให้อาเธอร์รีบพุ่งชนทำลายประตูเหล็ก ก่อนจะกระเด้งกลับมาร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
"ใจเย็นๆ อาร์ท"
สาวน้อยน่ารักรูปร่างเจ้าเนื้ออย่างจูดี้ก็พยายามคิดในแง่ดีโดยที่ไม่รู้ว่าประตูห้องพยาบาลเป็นแบบเลื่อนเปิด
"ลองมองเข้าไปในกระจกประตูซิ อาจพอเห็นอะไรบ้างก็ได้…ฉันว่าอาจารย์อาจล็อคห้องพยาบาลไว้ก่อนออกไปก็ได้"
"ชิ! มืดจริงๆ สงสัยมีใครปิดม่านหน้าต่างด้วยแน่เลย…เอ๊ะ! ฉันเห็นอะไรแวบๆ ด้วยแน่ะ "
อึก! -- อีกครั้งที่นาตาลีเกิดความรู้สึกสะอิดสะเอียน…คราวนี้ความรู้สึกนั้นมันรุนแรงเสียจนสีหน้าเธอเปลี่ยนไป
ไม่ทันไรเสียงกระจกแตกดังก็มาจากด้านในห้องพยาบาล นาตาลีก็จับความรู้สึกของบางสิ่งได้ มันกำลังใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
"ระวัง!" นาตาลีตะโกนบอกทุกคน
ทันใดนั้นร่างของอาเธอร์กับประตูก็ปลิวกระเด็นติดกันออกมา เขาและประตูเหล็กไถลไปตามพื้น ชนถังขยะพลาสติกขนาดใหญ่และหยุดลง ณ ตรงนั้น
"ไม่…ไม่จริง" จูดี้ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!" ฟิลิปอุทานขึ้นพร้อมกับมองไปยังทางเข้าห้องพยาบาลที่ไร้ประตู...มีบางสิ่งยืนอยู่
‘สิ่งนั้น’ ที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของทุกคน คือ เด็กชายในชุดนักเรียนที่กำลังยืนอยู่ในสภาพคอพับลงไป แขนทั้งสองข้างถูกปล่อยห้อยลงราวกับไร้กระดูกหัวไหล่ ดวงตาสีเขียวเรืองรองส่องสว่างตัดกับผมสีดำยาวที่ปิดบังใบหน้าจนมองไม่ออกว่าเป็นใคร
‘นา..ตา..ลี’
มันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองมาที่เธอ ดวงตาสีเขียวเรืองรองของมันทำให้นาตาลีนึกถึงภาพเหตุการณ์ ในคืนนั้นอีกครั้ง
"ไม่นะ!" นาตาลีพูดเสียงสั่นพร้อมกับค่อยๆ เดินถอยออกห่างมาจากมัน ความรู้สึกอันน่าสะอิดสะเอียนแทรกเข้ามาทุกเส้นประสาทรูขุมขน เธอก้าวถอยจนหลังชิดติดกับผนังกำแพง
‘นา...ตา...ลี’
มันค่อยๆ เดินโซเซเข้ามาหาหล่อน น้ำเมือกเหนียวไหลย้อยลงมาจากส่วนที่พวกเขาคิดว่าเป็นปากของมัน
“หยุดนะ! ฟิลิปยกปืนขึ้นเล็งไปทางมัน "อย่าขยับ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ"
ไม่ได้ผล!
มันยังคงเดินเข้ามาหาเธออยู่…ใกล้เข้ามาทีละก้าว…ทีละก้าว
ปัง! เสียงปืนดังขึ้น พร้อมๆ กับเลือดสีแดงสดที่พุ่งกระฉูดออกมาจากข้อพับบริเวณขาของมัน
มันล้มลงตรงหน้านาตาลีพอดี เธอกลัวจนแทบจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของผนังแล้ว…ความเงียบเกิดขึ้น ทุกคนต่างจ้องมองไปยังร่างที่นอนกองอยู่บนพื้นตรงหน้า จูดี้เอนตัวลงไปนอนหมดสติกับพื้น นาตาลีตัวสั่นเทามองดูสิ่งมีชีวิตตรงหน้าด้วยความสยดสยอง ก่อนที่หมอกควันสีดำจะลอยออกมาจากร่างของมัน
เฮี๊ยกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
พร้อมกับเสียงหัวเราะ มันลุกขึ้นมายืนอีกครั้งและหันหน้าไปทางฟิลิป…ดูเหมือนมันจะมุ่งความสนใจไปยังเขาแล้ว
ปัง! ไม่ต้องรอให้เดินเข้ามา ร้อยตำรวจหนุ่มยิงกระสุนนัดที่สองไปยังข้อพับขาอีกข้างของมันทันทีแต่ไม่ได้ผล ถึงแม้เลือดที่พุ่งออกมาจากขาจะเป็นหลักฐานว่ามันโดนยิงแล้วก็ตาม แต่คราวนี้มันกลับไม่ล้มลงและยังเดินเข้ามาหาเขา
ปัง ปัง ปัง!
"ไม่น่าเชื่อ" ชายหนุ่มระดมยิงใส่มันจนกระสุนหมด แต่กลับไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของมันได้…และ ตอนนี้มันมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดวงตาของมันคล้ายกับมีอำนาจสะกดให้เขาไม่สามรถขยับตัวได้
ดวงตาสีเขียวเรืองรองคู่นั้น
นาตาลีไม่ทันได้มองเห็นชัดเจนร่างของนายตำรวจหนุ่มก็ปลิวไปปะทะกับขอบหน้าต่างอย่างแรงจนกระจกแตกกระจายและร่วงลงไปนอนสงบแน่นิ่งบนพื้น
นาตาลีไม่กล้าแม้แต่ที่จะขยับตัว เธอมองไปยังอาเธอร์ซึ่งยังนอนหมดสติใต้บานประตูเหล็ก ฟิลิปที่นอนนิ่งอยู่บนเศษกระจกหน้าต่าง และจูดี้เพื่อนสาวของเธอซึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น
To be continued…