คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ก่อนจะตอบยาวๆขอบ่นแปบ เมื่อคืนเราเห็นกระทู้แล้วละนะ ก็นั่งพิมพ์ยาวมาก พอจะกดส่ง เนทเน่าซะงั้น ใช้ไม่ได้หลายชั่วโมงจนเราถอดใจอะ ฟ้าฝนคงไม่ดีมั้ง เนทเลยกาก จนตื่นเช้ามาแปดโมงถึงเห็นว่าใช้ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีเวลา นั่งทำงานจนเที่ยงถึงเสร็จและมีเวลามาตอบอีกรอบเนี่ยแหละ
ถ้าให้แนะนำร้านตามพิกัดที่ว่ามา เราแนะนำ Black Pig Tattoo นะ ซอยเจริญกรุง 28 เพราะเราก็เพิ่งไปทำที่นี่มา เข้าซอยไปร้านอยู่ซ้ายมือ เป็นบ้านเก่าๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกแถวที่มีโรงงานเย็บผ้า หน้าซอยมี hostel เก๋ไก๋อยู่ ร้านนี้มีแต่ช่างต่างชาตินะ บริการดี คุยสนุก staff เป็นมิตรมาก รุ่นน้องเราแนะนำมาอีกต่อนึง เราเพิ่งไปลองมาเมื่อวันศุกร์ก็ประทับใจดีมาก เดินทางสะดวกพอสมควรสำหรับเราที่อยู่ค่อนข้างไกล ด้วยความที่เป็นร้านของช่างต่างชาติ ราคาก็อาจจะสูงนิดนึง รุ่นน้องเราไปสักประโยคภาษาอังกฤษมา 1 ประโยคตรงสีข้างก็ 1500 บาท ถ้าให้ตีราคาของจขกท.เราว่าไม่น่าเกิน 2000 นะ แต่ยังไงถามช่างอีกที
ว่าต่อที่เรื่องเจ็บไม่เจ็บ มันขึ้นกับว่าสักตรงไหนอะ เลือกที่เนื้อเยอะหน่อยก็จะเจ็บน้อยลง อย่างต้นแขนด้านนอกหรือหลังแถวสะบัก ถ้ากระดูกไม่โผล่มากก็สักได้สบาย จากประสบการณ์ส่วนตัวเราว่าตรงไหล่ด้านหน้า ใกล้ๆไหปลาร้ากับรักแร้นั่นก็ไม่เจ็บนะ ยิ่งได้ช่างมือเบาด้วยยิ่งสบาย นอนเล่นมือถือได้เลยแหละ อย่าไปสักตรงที่เนื้อน้อยอย่างสีข้างหรือหลังเท้า หรือพวกที่เนื้ออ่อนๆแบบต้นขาด้านใน หรือตามที่เส้นประสาทเยอะๆอย่างแนวกระทู้สันหลัง เพราะจะเจ็บมาก แต่เทคนิคที่ใช้สักก็มีผลนะ เพราะเข็มที่ใช้สำหรับแต่ละเทคนิคก็จะต่างกัน รวมทั้งการเคลื่อนฝีเข็มด้วย อย่างเช่นการเดินเส้นก็จะใช้เข็มเดียวบางๆไปเลย (ถ้าจะเอาเส้นบางนะ) หรือถ้าเป็นเส้นที่หนาหน่อยก็เป็นเข็มแบบที่มันรวมกันหลายๆอัน มัดให้ปลายกลม ส่วนการลงสีพื้นแบบทึบหรือแรเงา ก็จะใช้แข็มที่มัดมาเป็นแพแบนๆ การลงเส้นก็จะเคลื่อนฝีเข็มไปตรงๆ ความเจ็บจะออกแนวเจ็บจี๊ด แต่การลงสีทึบหรือแรเงาจะเดินเข็มแบบย้ำๆ ก็จะเจ็บแบบแสบๆ
ทีนี้พูดเรื่องหมึกต่อ คือหมึกดำที่ใช้สักมันก็ดำสนิทอยู่แล้วละไม่ต้องห่วง แบรนด์ที่นิยมใช้สักแบบถมดำตอนนี้ก็ Dynamic ร้านที่เราสักมาทุกร้านก็ใช้ตัวนี้เหมือนกัน แต่แบรนด์อื่นๆที่บางร้านนิยมใช้ลงสีดำก็จะมี Eternal Ink หรือ Intenze ถ้าอยากได้แบบดำจัดๆลองบอกช่างได้ เขาอาจจะมีตัวเลือกอื่นเปลี่ยนให้ ยังไงในร้านนึงช่างจะใช้สีหลายแบรนด์มากอยู่แล้ว และมันก็เอามาผสมกันได้ด้วย เขาจะมีน้ำยาที่ใช้ช่วยผสมอยู่ให้มันแรเงาได้สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำสีดำหรือ grey scale น่ะ
และถ้าห่วงเรื่องความสะอาด จริงๆไปตามร้านดังๆที่เป็นที่รู้จักทั่วไปบอกได้เลยว่าสะอาดหมด มาตรฐานไล่เลี่ยกันนั่นแหละ คือร้านอะ ขอแค่ตั้งในที่รั้วรอบขอบชิด มีแอร์ ไม่ตั้งเปิดเผยตามตลาดนัดหรือสะพานพุทธอะไรก็โอเคแล้วละ ส่วนเรื่องความสะอาดในขั้นตอนการสักจริงๆนี่ดีเทลเยอะนิดนึง ก็ดูว่าเขาเปลี่ยนเข็มหรือเปล่า เข็มจะต้องออกจากซองใหม่ๆเลย ไม่ถูกแช่ในน้ำยาอะไรอยู่ก่อน กระบอกสัก (ที่มันจะอวบๆหน่อย ช่างจะจับมันคล้ายปากกา) สมัยนี้หลายร้านนิยมใช้แบบใช้แล้วทิ้งกันแล้ว มันจะเป็นยางผสมพลาสติค ใส่มาในซองสเตอริไลซ์ (ที่ Black Pig ก็ใช้) สักเสร็จถอดออกจากเครื่องก็ทิ้งถังเลย ส่วนร้านไหนใช้แบบเก่าที่เป็นโลหะก็จะต้องทำความสะอาดทุกครั้งด้วยเครื่อง ultrasonic และเอาเข้าไปอบทำความสะอาดอีกรอบใน autoclave หรือเครื่องอบความดันไอน้ำ เอาจริงๆอิเครื่องตัวหลังเนี่ยในบ้านเราร้านสักไทยๆไม่ค่อยใช้กัน อย่างดีก็ใช้เตาอบที่แบรนด์ดีๆนิดนึงแบบ Seimens อะ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราชอบแนะนำร้านที่มีช่างต่างชาติ เพราะมาตรฐานเขาสูงมากเรื่องความสะอาด และลูกค้าต่างชาติก็มาเยอะ คนกลุ่มนี้เขาเคร่งมากเรื่องอนามัย นอกนั้นก็ดูการป้องกันอื่นๆ เช่น พลาสติคหุ้มสายไฟเครื่องสัก wrap ใส่ที่หุ้มเตียงสักและหุ้มโต๊ะวางหมึก หรือแม้แต่จุกหมึกเองก็ใช้เป็นคนๆไป ใช้แล้วทิ้งทุกครั้ง อุปกรณ์ที่โดนห่อไว้ยังไงจะถูกแกะทิ้งและหุ้มใหม่หมดเมื่อเตรียมรับลูกค้าคนต่อไป จะไม่มีการใช้ต่อเนื่องให้เลยแม้แต่เป็นแม่ลูกหรือผัวเมียกัน เปลี่ยนทุกครั้งจริงๆ อ้อ การทิ้งเข็มก็สำคัญนะ เป็นส่วนที่สัมผัสเลือดโดยตรง ดูร้านที่เขามีถังขยะอันตรายแยกสำหรับเข็มจะดีมากเลย บางร้านนี่ชุ่ยๆใช้ขวดโค้ก 1.25 ลิตรมาทิ้งอะ แล้วดูสภาพเหมือนว่ารอทิ้งจนเต็มก่อนค่อยเอาขวดไปทิ้ง ถ้าใช้แล้วทิ้งแบบวันต่อวันนี่ยังพอว่านะ เพราะจริงๆขวดโค้กก็ดีที่ปลายมันเล็กแถมมีฝาปิด มันไม่ได้เปิดกว้างเท่าถุงขยะหรือถังอะ แต่ใช้แบบนานๆแล้วรอเต็มค่อยทิ้งนี่ไม่ไหว
อีกนิดเรื่องการจองคิว เราไม่แน่ใจว่าคิวของช่าง Luke (เจ้าของร้าน Black Pig) จะรอนานมากมั้ย (ที่ต้องเป็นช่าง Luke เพราะเขาจะถนัดงานเล็กน้อยจิปาถะแบบนี้มากกว่าช่างคนอื่นในร้านที่จะมีแนวตัวเองแบบชัดเจนไปเลย) ร้านประจำเราที่อื่นนี่ช่างคิวล้นไปมีนาแล้วนะ ยังไงก็เข้าไปถามในเพจได้ พวกลายตัวเลขตัวหนังสือแบบนี้ทำไม่นานมาก ขั้นตอนที่สักจริงๆไม่เกิน 20 นาที รวมเตรียมนั่นโน่นนี่อย่างมากไม่เกินชั่วโมงครึ่งก็เสร็จแล้วละ ถ้าไม่รีบมาก เสาร์อาทิตย์นี้จะมีงาน Bangkok Tattoo Convention ที่ The Street รัชดา จะลองมาเดินดูก่อนก็ได้ ร้านที่มาออกบูธนี่ไว้ใจได้ทั้งหมดเลย มันจะมีเพจอยู่ เขาอัพเดทชื่อช่างไว้แล้ว ก็ลองติดต่อได้เผื่อจะได้คิวไวและสักในงานได้เลย มีทั้งช่างไทยและช่างจากต่างประเทศมากัน
รวมๆก็มีประมาณนี้ ถ้าสงสัยอะไรอีกหลังไมค์ถามเราได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ
ถ้าให้แนะนำร้านตามพิกัดที่ว่ามา เราแนะนำ Black Pig Tattoo นะ ซอยเจริญกรุง 28 เพราะเราก็เพิ่งไปทำที่นี่มา เข้าซอยไปร้านอยู่ซ้ายมือ เป็นบ้านเก่าๆ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกแถวที่มีโรงงานเย็บผ้า หน้าซอยมี hostel เก๋ไก๋อยู่ ร้านนี้มีแต่ช่างต่างชาตินะ บริการดี คุยสนุก staff เป็นมิตรมาก รุ่นน้องเราแนะนำมาอีกต่อนึง เราเพิ่งไปลองมาเมื่อวันศุกร์ก็ประทับใจดีมาก เดินทางสะดวกพอสมควรสำหรับเราที่อยู่ค่อนข้างไกล ด้วยความที่เป็นร้านของช่างต่างชาติ ราคาก็อาจจะสูงนิดนึง รุ่นน้องเราไปสักประโยคภาษาอังกฤษมา 1 ประโยคตรงสีข้างก็ 1500 บาท ถ้าให้ตีราคาของจขกท.เราว่าไม่น่าเกิน 2000 นะ แต่ยังไงถามช่างอีกที
ว่าต่อที่เรื่องเจ็บไม่เจ็บ มันขึ้นกับว่าสักตรงไหนอะ เลือกที่เนื้อเยอะหน่อยก็จะเจ็บน้อยลง อย่างต้นแขนด้านนอกหรือหลังแถวสะบัก ถ้ากระดูกไม่โผล่มากก็สักได้สบาย จากประสบการณ์ส่วนตัวเราว่าตรงไหล่ด้านหน้า ใกล้ๆไหปลาร้ากับรักแร้นั่นก็ไม่เจ็บนะ ยิ่งได้ช่างมือเบาด้วยยิ่งสบาย นอนเล่นมือถือได้เลยแหละ อย่าไปสักตรงที่เนื้อน้อยอย่างสีข้างหรือหลังเท้า หรือพวกที่เนื้ออ่อนๆแบบต้นขาด้านใน หรือตามที่เส้นประสาทเยอะๆอย่างแนวกระทู้สันหลัง เพราะจะเจ็บมาก แต่เทคนิคที่ใช้สักก็มีผลนะ เพราะเข็มที่ใช้สำหรับแต่ละเทคนิคก็จะต่างกัน รวมทั้งการเคลื่อนฝีเข็มด้วย อย่างเช่นการเดินเส้นก็จะใช้เข็มเดียวบางๆไปเลย (ถ้าจะเอาเส้นบางนะ) หรือถ้าเป็นเส้นที่หนาหน่อยก็เป็นเข็มแบบที่มันรวมกันหลายๆอัน มัดให้ปลายกลม ส่วนการลงสีพื้นแบบทึบหรือแรเงา ก็จะใช้แข็มที่มัดมาเป็นแพแบนๆ การลงเส้นก็จะเคลื่อนฝีเข็มไปตรงๆ ความเจ็บจะออกแนวเจ็บจี๊ด แต่การลงสีทึบหรือแรเงาจะเดินเข็มแบบย้ำๆ ก็จะเจ็บแบบแสบๆ
ทีนี้พูดเรื่องหมึกต่อ คือหมึกดำที่ใช้สักมันก็ดำสนิทอยู่แล้วละไม่ต้องห่วง แบรนด์ที่นิยมใช้สักแบบถมดำตอนนี้ก็ Dynamic ร้านที่เราสักมาทุกร้านก็ใช้ตัวนี้เหมือนกัน แต่แบรนด์อื่นๆที่บางร้านนิยมใช้ลงสีดำก็จะมี Eternal Ink หรือ Intenze ถ้าอยากได้แบบดำจัดๆลองบอกช่างได้ เขาอาจจะมีตัวเลือกอื่นเปลี่ยนให้ ยังไงในร้านนึงช่างจะใช้สีหลายแบรนด์มากอยู่แล้ว และมันก็เอามาผสมกันได้ด้วย เขาจะมีน้ำยาที่ใช้ช่วยผสมอยู่ให้มันแรเงาได้สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำสีดำหรือ grey scale น่ะ
และถ้าห่วงเรื่องความสะอาด จริงๆไปตามร้านดังๆที่เป็นที่รู้จักทั่วไปบอกได้เลยว่าสะอาดหมด มาตรฐานไล่เลี่ยกันนั่นแหละ คือร้านอะ ขอแค่ตั้งในที่รั้วรอบขอบชิด มีแอร์ ไม่ตั้งเปิดเผยตามตลาดนัดหรือสะพานพุทธอะไรก็โอเคแล้วละ ส่วนเรื่องความสะอาดในขั้นตอนการสักจริงๆนี่ดีเทลเยอะนิดนึง ก็ดูว่าเขาเปลี่ยนเข็มหรือเปล่า เข็มจะต้องออกจากซองใหม่ๆเลย ไม่ถูกแช่ในน้ำยาอะไรอยู่ก่อน กระบอกสัก (ที่มันจะอวบๆหน่อย ช่างจะจับมันคล้ายปากกา) สมัยนี้หลายร้านนิยมใช้แบบใช้แล้วทิ้งกันแล้ว มันจะเป็นยางผสมพลาสติค ใส่มาในซองสเตอริไลซ์ (ที่ Black Pig ก็ใช้) สักเสร็จถอดออกจากเครื่องก็ทิ้งถังเลย ส่วนร้านไหนใช้แบบเก่าที่เป็นโลหะก็จะต้องทำความสะอาดทุกครั้งด้วยเครื่อง ultrasonic และเอาเข้าไปอบทำความสะอาดอีกรอบใน autoclave หรือเครื่องอบความดันไอน้ำ เอาจริงๆอิเครื่องตัวหลังเนี่ยในบ้านเราร้านสักไทยๆไม่ค่อยใช้กัน อย่างดีก็ใช้เตาอบที่แบรนด์ดีๆนิดนึงแบบ Seimens อะ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราชอบแนะนำร้านที่มีช่างต่างชาติ เพราะมาตรฐานเขาสูงมากเรื่องความสะอาด และลูกค้าต่างชาติก็มาเยอะ คนกลุ่มนี้เขาเคร่งมากเรื่องอนามัย นอกนั้นก็ดูการป้องกันอื่นๆ เช่น พลาสติคหุ้มสายไฟเครื่องสัก wrap ใส่ที่หุ้มเตียงสักและหุ้มโต๊ะวางหมึก หรือแม้แต่จุกหมึกเองก็ใช้เป็นคนๆไป ใช้แล้วทิ้งทุกครั้ง อุปกรณ์ที่โดนห่อไว้ยังไงจะถูกแกะทิ้งและหุ้มใหม่หมดเมื่อเตรียมรับลูกค้าคนต่อไป จะไม่มีการใช้ต่อเนื่องให้เลยแม้แต่เป็นแม่ลูกหรือผัวเมียกัน เปลี่ยนทุกครั้งจริงๆ อ้อ การทิ้งเข็มก็สำคัญนะ เป็นส่วนที่สัมผัสเลือดโดยตรง ดูร้านที่เขามีถังขยะอันตรายแยกสำหรับเข็มจะดีมากเลย บางร้านนี่ชุ่ยๆใช้ขวดโค้ก 1.25 ลิตรมาทิ้งอะ แล้วดูสภาพเหมือนว่ารอทิ้งจนเต็มก่อนค่อยเอาขวดไปทิ้ง ถ้าใช้แล้วทิ้งแบบวันต่อวันนี่ยังพอว่านะ เพราะจริงๆขวดโค้กก็ดีที่ปลายมันเล็กแถมมีฝาปิด มันไม่ได้เปิดกว้างเท่าถุงขยะหรือถังอะ แต่ใช้แบบนานๆแล้วรอเต็มค่อยทิ้งนี่ไม่ไหว
อีกนิดเรื่องการจองคิว เราไม่แน่ใจว่าคิวของช่าง Luke (เจ้าของร้าน Black Pig) จะรอนานมากมั้ย (ที่ต้องเป็นช่าง Luke เพราะเขาจะถนัดงานเล็กน้อยจิปาถะแบบนี้มากกว่าช่างคนอื่นในร้านที่จะมีแนวตัวเองแบบชัดเจนไปเลย) ร้านประจำเราที่อื่นนี่ช่างคิวล้นไปมีนาแล้วนะ ยังไงก็เข้าไปถามในเพจได้ พวกลายตัวเลขตัวหนังสือแบบนี้ทำไม่นานมาก ขั้นตอนที่สักจริงๆไม่เกิน 20 นาที รวมเตรียมนั่นโน่นนี่อย่างมากไม่เกินชั่วโมงครึ่งก็เสร็จแล้วละ ถ้าไม่รีบมาก เสาร์อาทิตย์นี้จะมีงาน Bangkok Tattoo Convention ที่ The Street รัชดา จะลองมาเดินดูก่อนก็ได้ ร้านที่มาออกบูธนี่ไว้ใจได้ทั้งหมดเลย มันจะมีเพจอยู่ เขาอัพเดทชื่อช่างไว้แล้ว ก็ลองติดต่อได้เผื่อจะได้คิวไวและสักในงานได้เลย มีทั้งช่างไทยและช่างจากต่างประเทศมากัน
รวมๆก็มีประมาณนี้ ถ้าสงสัยอะไรอีกหลังไมค์ถามเราได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ
แสดงความคิดเห็น
อยากสักแต่กลัวเจ็บ แนะนำด้วยค่ะ
ชื่อสภากาชาดไทย และเบอร์ติดต่อ
เผื่อกรณีเกิดเหตุไม่มีญาติไปด้วย
หรือนานไปญาติอาจจะลืม ทำให้ไม่ได้
ส่งต่อให้กับผู้ที่ต้องการใช้อวัยวะนั้นๆ
แต่ด้วยเคยสักคิ้วนานมาแล้ว
และเจ็บมากทำให้สักได้ข้างเดียวแบบจางๆ
แนะนำด้วยค่ะ อยากสักแบบไม่เจ็บ
หมึกเข้มไม่ต้องซ้ำ ปลอดเชื้อ
พิกัดเจริญกรุง - บางรัก กทม.