คือ แถวบ้านเรามีป้าคนนึงวัยหกสิบกว่าๆ แกเป็นคนมีฐานะแต่ว่าลูกไม่ได้มาอยู่ด้วย เค้าบอกว่าลูกเค้าทำงานระดับสูงในกระทรวงนึง ต้องเดินทางบ่อยเลยไม่ค่อยได้มาเจอ แต่นานๆทีก็พาไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศบ้าง และชอบส่งพวกกระเช้าหรือของฝากประจำจังหวัดมาให้แก แต่ไม่ได้มาอยู่ด้วย
ป้าแกมาขอความช่วยเหลือเราบ่อยๆ แต่ละอย่างที่เขาขอความช่วยเหลือ ถ้าเราไม่ช่วยแกคงทำเองไม่ได้
เช่น ทีวีดิจิตอลสัญญาณหาย ต้องจูนใหม่, ไวไฟไม่ขึ้น, ส่งไลน์แล้วข้อความไม่ไป อะไรงี้
บางทีก็เป็นเรื่องฉุกเฉินอย่าง ท่อประปาแตก น้ำเจิ่งเต็มบ้านตอน 5 ทุ่ม แกโทร.หาเราไม่รู้จะแก้ไง เราก็รีบไปช่วยอุดท่อและเช็ดพื้นให้ กลัวแกล้มอะค่ะ
แม่เราแรกๆก็ไม่อะไร บอกว่าดีที่ช่วยเขาบ้างแต่มาหลังๆไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆเพราะ รู้สึกว่าเขารบกวนเรามากเกิน
เช่น
- 7 โมงเช้าวันอาทิตย์แกมากดออด ที่บ้านยังไม่มีใครตื่น ผู้ใหญ่เค้าก็หงุดหงิดกัน ว่าบ้านยังไม่เปิดประตูเลยมากดออดนี่ไม่คิดเหรอว่ารบกวน
พอไม่มีใครลงไปเปิด ป้าแกเลยโทรหาเรา มือถือวางอยู่กลางบ้าน เสียงดังไปอีก เดินงัวเงียไปกดทิ้ง สักพักโทรมาใหม่อีกอะไรงี้
- ป้าแกบอกทรูฯมีโปรแลกขนมอะไรสักอย่างในทรูคาเฟ่ แต่แกไม่ได้เข้าห้างเท่าไรเลย เลยจะเอามือถือฝากให้แม่เรา(ซึ่งขับรถผ่านห้างบ่อย)
ไปแลกขนมมาให้แกหน่อย แต่สุดท้ายแม่เราก็ไม่ได้รับมานะคะ เพราะถึงจะผ่านห้างบ่อยแต่ไม่ได้เข้าบ่อยขนาดนั้น ไม่รู้จะเข้าอีกเมื่อไร
- พอเย็นๆ 6โมง - 2ทุ่ม แกชอบเรียกเราไปช่วยจุกจิกแกที่บ้านอย่างเคย เราไปกดๆแปบเดียวก็เสร็จ จะกลับบ้านแกก็รั้งไว้ให้กินขนมด้วยกัน แต่แกกินพวกขนมจุกจิกเป็นมื้อเย็น บางวันข้าวต้มมัด กะว่าแบ่งกันกิน เรา3ก้อน เขา 2 ก้อน บางวันฟักทอง+ข้าวโพดฝัก บางวันขนมถุง 10 บาทแบ่งกันคนละ2 ถุง ซึ่งเราไม่อิ่ม และมันเป็นเวลาข้าวเย็นด้วย เราเลยจะขอกินแค่นิดเดียวพอเป็นเพื่อนเค้า ละกลับบ้านมากินข้าวเป็นเรื่องราวต่อกับครอบครัว
แต่พอจะกลับแกก็ว่า "อะไร กินนี่ไม่อิ่มเหรอ กินหมดตรงนี้ละก็ไม่ต้องกินข้าวเย็นแล้วมั้ง" แกก็กินแบบนี้แทนข้าวเย็นได้นะ เราบอกไม่ไหวหรอก เรายังวัยทำงานอะ ยังต้องกินเป็นมื้อๆ ถึงกินตรงนี้หมดก็ยังไม่อิ่มและจะกลายเป็นครึ่งๆกลางๆกับมื้ออาหารด้วย เราขอกินนิดนึงละกลับบ้านไปกินข้าวกับครอบครัวเราต่อละกัน แต่ก็จะเป็นงี้บ่อยๆ อยู่ดี หลังๆแกเปลี่ยนเป็นเกี๊ยว 7-11 บ้าง ลูกชิ้นบ้าง แต่มันไม่ช่วยอะค่ะ ไงๆก็ไม่อยู่ท้อง อยากกลับบ้านกินข้าวมากกว่า จะชวนแกไปกินข้าวบ้านด้วย ที่บ้านก็ไม่สะดวกรับแขกเท่าไร
- เคยครั้งนึงป้าเขามากดออดหา บอกว่ามือถือโทร.ออกไม่ได้เพราะเพิ่งกลับจากต่างประเทศ ลูกเขาไปset ปิดการโทรเข้า-ออกไว้
ให้เราไปดูที่บ้านเขาให้หน่อย เราก็ไปดูให้ ทำไงก็หาไม่เจอ จนป้าแกเอาโทรศัพท์อีกเครื่องโทร.หาลูกเขาให้ บอกว่า แม่โทร.ออกไม่ได้เลยให้เพื่อนบ้านมาช่วยดูให้ ลูกคุยกับเพื่อนบ้านนะ ลูกเขารับสายละก็บอกห้วนๆว่าไปดูตรงเซตติ้งเครือข่าย แล้วก็วางสายไปเลย ป้าเขาบอก "สงสัยติดประชุมเลยไม่สะดวกคุย" เราก็คลำเองต่อจนเจอ หลังจากนั้น เราก็เคยเจอลูกเขาตอนมาเยี่ยมป้าแกครั้งนึง แต่เขาไม่ได้ทักอะไรเราเลยจนสงสัยว่าป้าแกคงไม่เคยเล่าเรื่องเราให้ลูกชายเขาฟังล่ะมั้ง ไม่งั้นคงต้องมาทักกันบ้างแล้วล่ะ
หลังๆแม่เราเลยเริ่มหงุดหงิดแทนอย่างที่บอกอะค่ะ แม่บอกว่า เขาไม่มีมารยาทเกินไป เดี๋ยวก็มากดออดตอนเช้า เดี๋ยวก็มากวนตอนเวลากินข้าวเย็น
และบ้านก็มีฐานะ แต่กลับเอาของไม่สมฐานะมาบริการเพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือเสมอได้ไง แถมลูกเขาเวลามาเยี่ยมแม่ตัวเองก็ไม่เคยมาขอบคุณสักครั้ง (แม่เราไม่ได้อยากได้อะไรนะคะ แต่เหมือนกับว่า อยากรู้ว่าป้าแกเล่าให้ลูกฟังบ้างมั้ยว่าต้องขอความช่วยเหลือคนอื่นบ่อยๆแบบนี้ เพราะดูแกเกรงใจลูกตัวเอง เลยไม่ค่อยกล้ารบกวนลูกตัวเองแต่จะมาขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านแทน ซึ่งแม่เรามองว่าถ้าไม่เคยเล่าก็ควรเล่า ลูกตัวเองจะได้หาทางแก้ไข แต่ถ้าลูกเขารู้แล้วยังไม่คิดจะมาขอบคุณสักครั้ง ก็น่าโมโหลูกเขา)
ส่วนตัวเราเองค่อนข้างจะโมโหลูกเขามากกว่า ว่าต่อให้คนเป็นแม่ไม่เล่าว่าตัวเองเป็นยังไง แต่เป็นลูกก็ต้องคิดสิ พวกอุปกรณ์สมัยใหม่คนแก่จะใช้งานได้ตลอดโดยไม่ขอความช่วยเหลือเด็กรุ่นใหม่ได้ยังไง ขนาดแม่เราไปต่างประเทศแล้วเราไม่ได้ไปด้วย เรายังต้องฝากฝังให้คนอื่นช่วยดูแล ฝากแล้วฝากอีก วิธีใช้มือถือ หรือ กล้องถ่ายรูปก็พิมพ์แล้วปรินท์ไว้ให้เป็นชุด แม่จะได้ไม่งงเวลาไม่มีคนช่วยทำให้ แล้วแม่เขาแก่กว่าแม่เราอีก ต่อให้สุขภาพยังแข็งแรงก็มีหลายอย่างที่จำเป็นต้องพึ่งคนอื่นมั้ยอะ ถ้าไม่มีลูกก็แล้วไป แต่นี่มีลูก แต่ลูกไม่สนใจเลยเหรอ
ขณะที่ตัวแม่เราโมโหคนเป็นแม่ ว่าทำไมถึงเกรงใจลูกตัวเองแต่ไม่เกรงใจลูกคนอื่นบ้าง (คิดสลับกันกับเรา)
แม่บอกวันหลังถ้าเขามากดออดตอนเช้าถ้าเรายังไม่ตื่นก็ไม่ต้องลงไปเปิด ไม่ต้องรับสาย
ยุ่งอยู่ก็ไม่ต้องเปิดรั้วไปคุยแต่แรก ตอนเย็นเวลากินข้าวไม่ต้องไปหาแกแล้ว
ให้ป้าแกขอความช่วยเหลือจากลูกตัวเองซะบ้าง ลูกแกจะได้มาดูแล
แม่เราพูดว่า "เค้าทำแบบนี้น่ะ จะสร้างบาปกรรมให้ลูกตัวเอง" TvT
แม่เราแรงไปมั้ยคะ หรือเราควรปล่อยป้าไปตามที่แม่เราบอก ลูกเขาจะได้หันมาดูแลแม่เขาบ้าง
แต่แบบนั้นกว่าลูกเขาจะรู้สึกตัว ป้าแกไม่ลำบากแย่เหรอ คิดถึงตอนที่น้ำเจิ่งบ้านงี้ก็อันตรายจริงๆ เกิดล้มหรือเป็นไรขึ้นมาจะทำไง
แต่...เรื่องอื่นๆ บางทีป้าแกก็เริ่มมาเยอะขึ้นเรื่อยๆจริงๆอะค่ะ
หาจุดตรงกลางยังไงดีคะ เห้อ
เพื่อนบ้านสูงวัยมาขอความช่วยเหลือบ่อยๆ สงสารแต่บางทีก็ลำบากใจ ทำไงดี
ป้าแกมาขอความช่วยเหลือเราบ่อยๆ แต่ละอย่างที่เขาขอความช่วยเหลือ ถ้าเราไม่ช่วยแกคงทำเองไม่ได้
เช่น ทีวีดิจิตอลสัญญาณหาย ต้องจูนใหม่, ไวไฟไม่ขึ้น, ส่งไลน์แล้วข้อความไม่ไป อะไรงี้
บางทีก็เป็นเรื่องฉุกเฉินอย่าง ท่อประปาแตก น้ำเจิ่งเต็มบ้านตอน 5 ทุ่ม แกโทร.หาเราไม่รู้จะแก้ไง เราก็รีบไปช่วยอุดท่อและเช็ดพื้นให้ กลัวแกล้มอะค่ะ
แม่เราแรกๆก็ไม่อะไร บอกว่าดีที่ช่วยเขาบ้างแต่มาหลังๆไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆเพราะ รู้สึกว่าเขารบกวนเรามากเกิน
เช่น
- 7 โมงเช้าวันอาทิตย์แกมากดออด ที่บ้านยังไม่มีใครตื่น ผู้ใหญ่เค้าก็หงุดหงิดกัน ว่าบ้านยังไม่เปิดประตูเลยมากดออดนี่ไม่คิดเหรอว่ารบกวน
พอไม่มีใครลงไปเปิด ป้าแกเลยโทรหาเรา มือถือวางอยู่กลางบ้าน เสียงดังไปอีก เดินงัวเงียไปกดทิ้ง สักพักโทรมาใหม่อีกอะไรงี้
- ป้าแกบอกทรูฯมีโปรแลกขนมอะไรสักอย่างในทรูคาเฟ่ แต่แกไม่ได้เข้าห้างเท่าไรเลย เลยจะเอามือถือฝากให้แม่เรา(ซึ่งขับรถผ่านห้างบ่อย)
ไปแลกขนมมาให้แกหน่อย แต่สุดท้ายแม่เราก็ไม่ได้รับมานะคะ เพราะถึงจะผ่านห้างบ่อยแต่ไม่ได้เข้าบ่อยขนาดนั้น ไม่รู้จะเข้าอีกเมื่อไร
- พอเย็นๆ 6โมง - 2ทุ่ม แกชอบเรียกเราไปช่วยจุกจิกแกที่บ้านอย่างเคย เราไปกดๆแปบเดียวก็เสร็จ จะกลับบ้านแกก็รั้งไว้ให้กินขนมด้วยกัน แต่แกกินพวกขนมจุกจิกเป็นมื้อเย็น บางวันข้าวต้มมัด กะว่าแบ่งกันกิน เรา3ก้อน เขา 2 ก้อน บางวันฟักทอง+ข้าวโพดฝัก บางวันขนมถุง 10 บาทแบ่งกันคนละ2 ถุง ซึ่งเราไม่อิ่ม และมันเป็นเวลาข้าวเย็นด้วย เราเลยจะขอกินแค่นิดเดียวพอเป็นเพื่อนเค้า ละกลับบ้านมากินข้าวเป็นเรื่องราวต่อกับครอบครัว
แต่พอจะกลับแกก็ว่า "อะไร กินนี่ไม่อิ่มเหรอ กินหมดตรงนี้ละก็ไม่ต้องกินข้าวเย็นแล้วมั้ง" แกก็กินแบบนี้แทนข้าวเย็นได้นะ เราบอกไม่ไหวหรอก เรายังวัยทำงานอะ ยังต้องกินเป็นมื้อๆ ถึงกินตรงนี้หมดก็ยังไม่อิ่มและจะกลายเป็นครึ่งๆกลางๆกับมื้ออาหารด้วย เราขอกินนิดนึงละกลับบ้านไปกินข้าวกับครอบครัวเราต่อละกัน แต่ก็จะเป็นงี้บ่อยๆ อยู่ดี หลังๆแกเปลี่ยนเป็นเกี๊ยว 7-11 บ้าง ลูกชิ้นบ้าง แต่มันไม่ช่วยอะค่ะ ไงๆก็ไม่อยู่ท้อง อยากกลับบ้านกินข้าวมากกว่า จะชวนแกไปกินข้าวบ้านด้วย ที่บ้านก็ไม่สะดวกรับแขกเท่าไร
- เคยครั้งนึงป้าเขามากดออดหา บอกว่ามือถือโทร.ออกไม่ได้เพราะเพิ่งกลับจากต่างประเทศ ลูกเขาไปset ปิดการโทรเข้า-ออกไว้
ให้เราไปดูที่บ้านเขาให้หน่อย เราก็ไปดูให้ ทำไงก็หาไม่เจอ จนป้าแกเอาโทรศัพท์อีกเครื่องโทร.หาลูกเขาให้ บอกว่า แม่โทร.ออกไม่ได้เลยให้เพื่อนบ้านมาช่วยดูให้ ลูกคุยกับเพื่อนบ้านนะ ลูกเขารับสายละก็บอกห้วนๆว่าไปดูตรงเซตติ้งเครือข่าย แล้วก็วางสายไปเลย ป้าเขาบอก "สงสัยติดประชุมเลยไม่สะดวกคุย" เราก็คลำเองต่อจนเจอ หลังจากนั้น เราก็เคยเจอลูกเขาตอนมาเยี่ยมป้าแกครั้งนึง แต่เขาไม่ได้ทักอะไรเราเลยจนสงสัยว่าป้าแกคงไม่เคยเล่าเรื่องเราให้ลูกชายเขาฟังล่ะมั้ง ไม่งั้นคงต้องมาทักกันบ้างแล้วล่ะ
หลังๆแม่เราเลยเริ่มหงุดหงิดแทนอย่างที่บอกอะค่ะ แม่บอกว่า เขาไม่มีมารยาทเกินไป เดี๋ยวก็มากดออดตอนเช้า เดี๋ยวก็มากวนตอนเวลากินข้าวเย็น
และบ้านก็มีฐานะ แต่กลับเอาของไม่สมฐานะมาบริการเพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือเสมอได้ไง แถมลูกเขาเวลามาเยี่ยมแม่ตัวเองก็ไม่เคยมาขอบคุณสักครั้ง (แม่เราไม่ได้อยากได้อะไรนะคะ แต่เหมือนกับว่า อยากรู้ว่าป้าแกเล่าให้ลูกฟังบ้างมั้ยว่าต้องขอความช่วยเหลือคนอื่นบ่อยๆแบบนี้ เพราะดูแกเกรงใจลูกตัวเอง เลยไม่ค่อยกล้ารบกวนลูกตัวเองแต่จะมาขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านแทน ซึ่งแม่เรามองว่าถ้าไม่เคยเล่าก็ควรเล่า ลูกตัวเองจะได้หาทางแก้ไข แต่ถ้าลูกเขารู้แล้วยังไม่คิดจะมาขอบคุณสักครั้ง ก็น่าโมโหลูกเขา)
ส่วนตัวเราเองค่อนข้างจะโมโหลูกเขามากกว่า ว่าต่อให้คนเป็นแม่ไม่เล่าว่าตัวเองเป็นยังไง แต่เป็นลูกก็ต้องคิดสิ พวกอุปกรณ์สมัยใหม่คนแก่จะใช้งานได้ตลอดโดยไม่ขอความช่วยเหลือเด็กรุ่นใหม่ได้ยังไง ขนาดแม่เราไปต่างประเทศแล้วเราไม่ได้ไปด้วย เรายังต้องฝากฝังให้คนอื่นช่วยดูแล ฝากแล้วฝากอีก วิธีใช้มือถือ หรือ กล้องถ่ายรูปก็พิมพ์แล้วปรินท์ไว้ให้เป็นชุด แม่จะได้ไม่งงเวลาไม่มีคนช่วยทำให้ แล้วแม่เขาแก่กว่าแม่เราอีก ต่อให้สุขภาพยังแข็งแรงก็มีหลายอย่างที่จำเป็นต้องพึ่งคนอื่นมั้ยอะ ถ้าไม่มีลูกก็แล้วไป แต่นี่มีลูก แต่ลูกไม่สนใจเลยเหรอ
ขณะที่ตัวแม่เราโมโหคนเป็นแม่ ว่าทำไมถึงเกรงใจลูกตัวเองแต่ไม่เกรงใจลูกคนอื่นบ้าง (คิดสลับกันกับเรา)
แม่บอกวันหลังถ้าเขามากดออดตอนเช้าถ้าเรายังไม่ตื่นก็ไม่ต้องลงไปเปิด ไม่ต้องรับสาย
ยุ่งอยู่ก็ไม่ต้องเปิดรั้วไปคุยแต่แรก ตอนเย็นเวลากินข้าวไม่ต้องไปหาแกแล้ว
ให้ป้าแกขอความช่วยเหลือจากลูกตัวเองซะบ้าง ลูกแกจะได้มาดูแล
แม่เราพูดว่า "เค้าทำแบบนี้น่ะ จะสร้างบาปกรรมให้ลูกตัวเอง" TvT
แม่เราแรงไปมั้ยคะ หรือเราควรปล่อยป้าไปตามที่แม่เราบอก ลูกเขาจะได้หันมาดูแลแม่เขาบ้าง
แต่แบบนั้นกว่าลูกเขาจะรู้สึกตัว ป้าแกไม่ลำบากแย่เหรอ คิดถึงตอนที่น้ำเจิ่งบ้านงี้ก็อันตรายจริงๆ เกิดล้มหรือเป็นไรขึ้นมาจะทำไง
แต่...เรื่องอื่นๆ บางทีป้าแกก็เริ่มมาเยอะขึ้นเรื่อยๆจริงๆอะค่ะ
หาจุดตรงกลางยังไงดีคะ เห้อ