สวัสดีค่าาาาาาาาาาาา
สำหรับกระทู้นี้จะมารีวิวเน้นๆ เต็มๆ กับ Skin care แบรนด์ของคนไทยเรานี่แหละค่ะ
ที่ช่วยให้ผิวหน้าพังๆของเราดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ! แท่นแท๊นนน เริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ
แบรนด์ที่พูดถึงก็คืออออ La Doctress (ลา ดอคเทรส) ค่าาา
เรารู้จักแบรนด์นี้เพราะว่าเคยเห็นจากที่
คุณกุ้ง อินเตอร์ รีวิวไว้
ยิ่งได้อ่าน concept ของแบรนด์ที่บอกว่า เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อผิวละเอียดสุขภาพดี ฉ่ำวาว และผลิตโดยกลุ่มคุณหมอและเภสัชกร เหมาะมากๆสำหรับผู้แพ้งาย มีปัญหาสิวเรื้อรัง ปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และปัญหา ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งเรามีปัญหาผิวทุกอย่างแบบที่แบรนด์บอกไว้หมดเลยยย ดังนั้นเลยไม่ลังเลที่จะลองใช้เลยค่ะ ทีนี้ก็ถึงเวลามาทำความรู้จักลูกรักของเรากันแล้ววว ชะวิ้งงงง
โดย set ที่เราได้ใช้นะคะ มีทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน ตามนี้เลยค่ะ
1. Miracellar Cleansing Water
2. Facial Cleansing Soap
3. Day & Night Essence
ทีนี้มาทำความรู้จักแต่ละตัวและวิธีการดูแลผิวของเราแบบละเอียดๆกันเลย
1. ทำความสะอาดผิวก่อนล้างหน้า
Miracellar Cleansing Water
หลักๆเลยนะคะที่ทำให้เกิดพวกสิวอุดตันคือการล้างหน้าไม่สะอาด จึงควรที่จะต้องเช็ดด้วยคลีนซิ่งก่อนการล้างหน้าทุกครั้งนะคะ
และที่ปลื้มคลียซิ่งตัวนี้มากๆก็คือ ไม่มีแอลกอฮอลล์ และสกัดจากดอกไม้ , สมุนไพรอีกเยอะแยะ เลยทำให้เหมาะมากๆสำหรับผิวแพ้ง่ายแบบเรา
ยังไม่หมดค่ะ!!!
คลีนซิ่งตัวนี้ยังช่วยดีทอกซ์สารพิษในผิวที่ติดสารเคมีเรื้อรัง ฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบ และการระคายเคือง ได้ด้วย เริ่ดไปอีกกกก!!
แค่เช็ดทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วก็ล้างหน้าตามปกติ ก็ดีทอกซ์ได้แล้วจ้า มาดูประสิทธิภาพของคลีนซิ่งตัวนี้กันค่ะ
ปาดลิปโลดดด
แปะสำลีเลยค่ะ แล้วทิ้งไว้แปปนึง
ออกหมดเลยจ้า ไม่ต้องออกแรงถูเลย
2.ล้างทำความสะอาดผิวหน้าด้วยสบู่
Facial Cleansing Soap
จริงๆ มันเต็มก้อนนะคะ ใหญ่มากกกก แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ตอนแรก T_T
สบู่ก้อนตัวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินที่ผิวออกไปนะคะ ยังช่วยลดจำนวนการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดสิวด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังช่วย ลดการอักเสบ และสมานแผลที่เกิดจากสิว ช่วยกำจัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขนด้วย ทำให้กระชับขึ้น แต่ที่เราชอบมากๆและเห็นชัดเลย
ก็คือผิวเรามีสีสม่ำเสมอขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ แถมล้างแล้วหน้าไม่แห้งด้วย รักกกมากกก
แอบบอกวิธีการล้างนิดนึงว่าใช้ทำอุณหภูมิห้องล้างจะดีที่สุดนะคะ ถ้าล้างด้วยน้ำอุ่น สิวผดมาแน่นอนค่ะ
เป็นสีขาวๆ นวลๆ กลิ่นหอมแบบดอกไม้เลยจ้า
ฟองนุ่มสุดดด ไม่บาดหน้า ล้างแล้วไม่แห้ง
3.บำรุงผิว
Day & Night Essence
ขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ
ตัวนี้เป็นโลชั่นสำหรับบำรุงผิวหน้าโดยที่เราใช้เป็นประจำทั้งกลางวันและกลางคืน เนื้อบางเบามากซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ
เหมาะกับทุกสภาพผิว ใช้แล้วรู้สึกเลยว่าผิวเงาๆ ดูสุขภาพดี รูขมขนกระชับขึ้นมากก ผิวดูฟูๆ สีผิวสม่ำเสมอขึ้นเยอะเลยค่ะ
แถมมมม!! มาดูกันว่าระหว่างโลชั่นของ la doctress กับ แบรนด์อื่น ใครจะซึมง่าย และ ไม่มัน
ซึมไวพอๆกัน
แปะด้วยกระดาษซับมัน
ผลก็ตามนี้เลยจ้าาา ซึมไวไม่มันด้วย
สุดท้ายยยแล้ววว
มาดูความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้ากันเลยค่ะ *สยองเล็กน้อยนะคะ5555*
เราใช้ 1 เดือนเต็มๆ ผลที่ได้คือ รอยจางลงชัดมากกก หน้าฟูขึ้น ไม่แห้ง สีผิวสม่ำเสมอขึ้นเยอะเลยค่ะ
แต่งหน้าแล้วเรียบขึ้นเยอะค่ะ 555555
จบแล้วววววววว
อยากจะบอกว่าแบรนด์ไทยดีๆมีเยอะมากกกกเลยนะคะ เหมาะกับผิวคนไทยด้วย
สรุปเลยเนอะ ยกให้ la doctress ไปเลย 555555 เพราะไม่เคยใช้แบรนด์ไหนแล้วได้ผลเท่าแบรนด์นี้มาก่อน 55555
[SR] Review :: กู้หน้าพังมาเกือบทั้งชีวิตด้วย Skin care แบรนด์ไทย!
สำหรับกระทู้นี้จะมารีวิวเน้นๆ เต็มๆ กับ Skin care แบรนด์ของคนไทยเรานี่แหละค่ะ
ที่ช่วยให้ผิวหน้าพังๆของเราดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ! แท่นแท๊นนน เริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ
แบรนด์ที่พูดถึงก็คืออออ La Doctress (ลา ดอคเทรส) ค่าาา
เรารู้จักแบรนด์นี้เพราะว่าเคยเห็นจากที่ คุณกุ้ง อินเตอร์ รีวิวไว้
ยิ่งได้อ่าน concept ของแบรนด์ที่บอกว่า เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อผิวละเอียดสุขภาพดี ฉ่ำวาว และผลิตโดยกลุ่มคุณหมอและเภสัชกร เหมาะมากๆสำหรับผู้แพ้งาย มีปัญหาสิวเรื้อรัง ปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และปัญหา ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งเรามีปัญหาผิวทุกอย่างแบบที่แบรนด์บอกไว้หมดเลยยย ดังนั้นเลยไม่ลังเลที่จะลองใช้เลยค่ะ ทีนี้ก็ถึงเวลามาทำความรู้จักลูกรักของเรากันแล้ววว ชะวิ้งงงง
โดย set ที่เราได้ใช้นะคะ มีทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน ตามนี้เลยค่ะ
1. Miracellar Cleansing Water
2. Facial Cleansing Soap
3. Day & Night Essence
ทีนี้มาทำความรู้จักแต่ละตัวและวิธีการดูแลผิวของเราแบบละเอียดๆกันเลย
1. ทำความสะอาดผิวก่อนล้างหน้า
Miracellar Cleansing Water
หลักๆเลยนะคะที่ทำให้เกิดพวกสิวอุดตันคือการล้างหน้าไม่สะอาด จึงควรที่จะต้องเช็ดด้วยคลีนซิ่งก่อนการล้างหน้าทุกครั้งนะคะ
และที่ปลื้มคลียซิ่งตัวนี้มากๆก็คือ ไม่มีแอลกอฮอลล์ และสกัดจากดอกไม้ , สมุนไพรอีกเยอะแยะ เลยทำให้เหมาะมากๆสำหรับผิวแพ้ง่ายแบบเรา
ยังไม่หมดค่ะ!!!
คลีนซิ่งตัวนี้ยังช่วยดีทอกซ์สารพิษในผิวที่ติดสารเคมีเรื้อรัง ฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบ และการระคายเคือง ได้ด้วย เริ่ดไปอีกกกก!!
แค่เช็ดทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วก็ล้างหน้าตามปกติ ก็ดีทอกซ์ได้แล้วจ้า มาดูประสิทธิภาพของคลีนซิ่งตัวนี้กันค่ะ
ปาดลิปโลดดด
แปะสำลีเลยค่ะ แล้วทิ้งไว้แปปนึง
ออกหมดเลยจ้า ไม่ต้องออกแรงถูเลย
2.ล้างทำความสะอาดผิวหน้าด้วยสบู่
Facial Cleansing Soap
จริงๆ มันเต็มก้อนนะคะ ใหญ่มากกกก แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ตอนแรก T_T
สบู่ก้อนตัวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินที่ผิวออกไปนะคะ ยังช่วยลดจำนวนการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดสิวด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังช่วย ลดการอักเสบ และสมานแผลที่เกิดจากสิว ช่วยกำจัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขนด้วย ทำให้กระชับขึ้น แต่ที่เราชอบมากๆและเห็นชัดเลย
ก็คือผิวเรามีสีสม่ำเสมอขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ แถมล้างแล้วหน้าไม่แห้งด้วย รักกกมากกก
แอบบอกวิธีการล้างนิดนึงว่าใช้ทำอุณหภูมิห้องล้างจะดีที่สุดนะคะ ถ้าล้างด้วยน้ำอุ่น สิวผดมาแน่นอนค่ะ
เป็นสีขาวๆ นวลๆ กลิ่นหอมแบบดอกไม้เลยจ้า
ฟองนุ่มสุดดด ไม่บาดหน้า ล้างแล้วไม่แห้ง
3.บำรุงผิว
Day & Night Essence
ขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ
ตัวนี้เป็นโลชั่นสำหรับบำรุงผิวหน้าโดยที่เราใช้เป็นประจำทั้งกลางวันและกลางคืน เนื้อบางเบามากซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ
เหมาะกับทุกสภาพผิว ใช้แล้วรู้สึกเลยว่าผิวเงาๆ ดูสุขภาพดี รูขมขนกระชับขึ้นมากก ผิวดูฟูๆ สีผิวสม่ำเสมอขึ้นเยอะเลยค่ะ
แถมมมม!! มาดูกันว่าระหว่างโลชั่นของ la doctress กับ แบรนด์อื่น ใครจะซึมง่าย และ ไม่มัน
ซึมไวพอๆกัน
แปะด้วยกระดาษซับมัน
ผลก็ตามนี้เลยจ้าาา ซึมไวไม่มันด้วย
สุดท้ายยยแล้ววว
มาดูความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้ากันเลยค่ะ *สยองเล็กน้อยนะคะ5555*
เราใช้ 1 เดือนเต็มๆ ผลที่ได้คือ รอยจางลงชัดมากกก หน้าฟูขึ้น ไม่แห้ง สีผิวสม่ำเสมอขึ้นเยอะเลยค่ะ
แต่งหน้าแล้วเรียบขึ้นเยอะค่ะ 555555
จบแล้วววววววว
อยากจะบอกว่าแบรนด์ไทยดีๆมีเยอะมากกกกเลยนะคะ เหมาะกับผิวคนไทยด้วย
สรุปเลยเนอะ ยกให้ la doctress ไปเลย 555555 เพราะไม่เคยใช้แบรนด์ไหนแล้วได้ผลเท่าแบรนด์นี้มาก่อน 55555