รร ห้าดาวในภูเก็ต ค้นพบว่ามีพนักงานคนหนึ่งยักยอกเงิน รร โดยแอบอ้างรหัสเพื่อน แต่ไม่แจ้งตำรวจ และกล่าวขู่เก็บเงินเหยื่อ

ดิฉันทำงานในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งใน จ ภูเก็ต โรงแรมเป็นโรงแรมใหม่พึงเปิด ประกาศรับพนักงาน ยินดีที่รับพนักงานที่ไม่มีประสบการณด้นดรงกรมมาก่อน แต่ทั้งนี้เมื่อเวลาที่ดรงแรมเปิดมาสักพัก โดย ส่วนตัว ดิฉันเห็นว่าระบบการเทรนนิ่ง หรือการให้องค์ความรุ้แก่พนังงานใหม่ยังไม่แน่นนัก ถามว่าพิสุจน?ได้อย่างไร ดิฉันให้คุณตรวจสอบฝ่ายบุคคลได้เลยว่าเคยมีการเทรนนิ่งเด็กเรื่องอะไรบ้าง แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ประเด็นคือ
มีพนักงานคนหนึ่ง ยักยอกเงินของโรงแรมไป หลายหมื่นบาท โดยการลักลอบใช้รหัสของเพื่อนในการยักยอกเงิน  หลังจาที่ผู้จัดการทราบก็เรียกพนักงานคนดังกล่าวไปพูด คุยและไล่ออก โดยที่ไม่คิอแจ้งตำรวจ แต่ บอกว่าจะหักเงินค่าจ้างงวดสุดท้าย

แต่เรื่องไม่จบตรงที่โรงแรมรู้แล้วว่าพนักงานคนนั้นคือมิจฉาชีพ แต่ปล่อยไป เฉยๆๆ แต่หักงินยอดสุดท้าย ซึ่งเงินเดือนรอบสุดท้ายคืนประมาน 25000 บททแต่มุลค่าที่ นางสาว ก. ยักยอกไปคือ 50000 บาท.

ทั้งนี้โรงแรมเลือกที่จะเรียกนางสาว ข และ ค ผู้ตกเป็นเหยื่อ ที่ถูกนางสาว ก แอบอ้างใช้รหัสในการยักยอกเงินโรงแรม ไปให้ใบตัดเตือน และ เรียกเงิน 2500 บาท ในฐานะที่สมรุ้ร่วมคิด. ทังนี้ นางสาว ข และ ค ยืนยันว่าบริสุทใจไม่ได้สมรุ้ร่วมคิด แต่เหคุเป็นเพราะความรุ้เท่าไม่ถึงการร์และด้อยประสบการณ์จริงๆๆ เพราะถ้าหากสมรุ้ร่วมคิดด้วยจรงคงไม่ม่นังร้องไห้และเครียด แต่คงลาออกจากงานไปแล้ว

ถึงอย่างไรก็ดีหัวหน้างานกล่าวหาเด็กว่าพูดอย่างนี้ใครๆๆก็พูดได้ว่าหนุไม่รู้ เลยให้วอนนิ่งและถามเด็กว่าพรุ่งนี้เงินเดือนเข้าแล้ว หนุพร้อมจ่ายให้ดรงแรมเท่าไหร่

เรื่องเป็นอย่างนี้จะช่วย นส ข กับ ค อย่างไรดีค่ะ ดิฮีนสงสารเด็กที่ไม่มีทางสู้มากเลยค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่