สวัสดีค่ะ เรามีประสบการณ์ที่ถือว่าเป็นช่วงที่เลวร้ายของชีวิตเพราะอยากสวยอยากงามมาเล่าให้ฟังค่ะ ก่อนอื่นออกตัวก่อนเลยนะคะว่าไม่ได้จะดิสเครดิตใครอะไรทั้งนั้น และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคลินิกอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ที่อยากเล่าเพราะหลังจากที่พลาดมา เรากลายเป็นคนที่รู้เรื่องเหล่านี้มากยิ่งขึ้น และไม่ใช่มีแค่เราคนเดียวที่เจอปัญหานี้ ! เราอยากให้คนที่ประสบชะตากรรมเดียวกับเราแล้ว search ข้อมูลใน Google เจอว่าอยากเป็นกำลังใจให้ เราเข้าใจหัวอกคุณ เพราะเราก็เคยเครียดเป็นบ้าบอนั่งหาข้อมูลลบคิ้วจนสว่างคาตา จิตตกเครียดสุด ๆ มาแล้ว แต่เราก็ผ่านมาได้ เพราะฉะนั้นต้องสู้และจัดการกับมันอย่างถูกวิธีค่ะ
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าตอนนั้นอยู่ดี ๆ เราก็อยากสักปากขึ้นมาค่ะ เพราะปากเราซีดมาก แต่ไม่ถึงกับคล้ำดำปี๋นะคะ เอาเป็นว่าถ้าวันไหนเราไม่ทาลิปจะต้องถูกเพื่อนร่วมงานไล่ให้ไปทา วันนั้นวันหยุดพอดีเลยนั่งว่าง ๆ ส่องกระจกดูปากตัวเองเลยตัดสินใจไปสักเลยค่ะ เผอิญว่ามีร้านอยู่ในใจอยู่แล้ว เป็นร้านชื่อดังเพื่อนเราก็ไปสักคิ้วที่นั่นก่อนไปเที่ยวกันที่ญี่ปุ่น ดูสวยเป็นธรรมชาติมาก เราคุยกับเพื่อนอยู่นาน และดูรีวิวในเฟสบุ๊คก็ดูเข้าท่ามาก เลยจัดการโทรไปสอบถามและจะเข้าไปทำเลย ตอนแรก(เข้าใจว่าเป็นเจ้าของร้านรับสาย) บอกว่าให้เข้ามาเลยมีคิวว่าง เราก็ขับรถไปใกล้ถึงแล้วโทรมาหาเราบอกว่าไม่ต้องไปที่ร้านให้ไปอีกที่นึงด้วยความที่อารมร์ตอนนั้นมันอยากทำ และไว้ใจทางร้านว่าเป็นร้านใหญ่โตอาจจะเปิดหลายสาขา เลยขับตามไปยังสถานที่ที่เค้าบอก ซึ่งค่อนข้างไกลมาก ไปถึงก็งงว่าเป็นชื่อร้านอีกร้านนึงเลย เห็นตอนแรกก็งงและคิดว่าจะถอยแล้ว แต่เค้าเข้าทักทายเราก่อนพูดจาดีมาก เอาปากลูกมืออีกคนนึงให้ดูสีสวยมาก เลยอ่อนลงและตัดสินใจแบบฉับพลับว่าเอาวะ..ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว อุตส่าห์ถ่อมาตั้งไกล (แอบโมโหในใจว่าทำไมไม่บอกว่าส่งเรามาทำกับลูกน้องที่แยกไปเปิดร้านเป็นของตัวเอง)...เจ็บครั้งที่ 1
หลังจากที่ตกลงปลงใจทำ ตกลงเรื่องราคาเสร็จสรรพ เค้าก็พูดขึ้นมาว่าไม่สนใจทำคิ้วไปด้วยเลยเหรอ เอารูปคิ้วคิ้วที่เค้าเคยสักมาให้ดู ตอนนั้นเราไม่มีความคิดเรื่องการสักคิ้วอยู่ในหัว เลยตอบไปว่าเดี๋ยวขอให้กันคิ้วให้ดูก่อนแล้วกันค่ะตอนนี้ขอสักปากก่อน.... จากนั้นก็เริ่มบรรเลงเลยค่ะ เค้าแนะนำเป็นสีชมพูอมส้ม จัดแจงป้ายยาชาและลงมือสัก ขอบอกว่าเจ็บพอสมควรค่ะ ซ้ำอยู่ประมาณสามรอบถ้าจำไม่ผิด พอเสร็จก็ให้เราส่องกระจกดู เราบอกว่าทำไมขอบปากเราไม่เต็ม เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเติมให้ แล้วก็ลงมือเติม ตอนนั้นเอากระจกให้เราดูตอนนี้ปากเราบวมแทบมองไม่ออกถึงจุดสิ้นสุดของสีแล้วเลยบอกว่าพอแล้ว (เสียดายมากค่ะ เราไม่ได้เก็บภาพตอนนี้ไว้ T_T)....เจ็บครั้งที่ 2
หลังจากที่เราสักปากเสร็จ เค้าก็ถามเราว่าสักคิ้วด้วยไหม เอาเป็นแบบสไลด์พอลอกออกจะฟุ้ง ๆ เหมือนเราปัดด้วยอายแชร์โดว์คิ้วสวย ๆ วันไหนรีบ ๆ หยิบมาปัด ๆ ก็เสร็จ ไม่ต้องเสียเวลาเขียวคิ้วเพราะว่าเรามีโครงอยู่แล้ว เราก็เริ่มคล้อยตามเอาวะ..ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว (รอบที่ 2) เลยตอบตกลงไป สรุปว่าเราทำทั้งคิ้วและปาก จากนั้นเค้าก็มากันคิ้วเรา และวาดให้ดู เรารู้สึกว่าทรงยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เค้าบอกว่าคิ้วของเราไม่เท่ากัน ด้านซ้ายต่ำกว่า -_- กันไปกันมาเหลือคิ้วนิดเดียว เค้าก็บอกว่าเท่ากันแล้วและลงมือสัก ตอนทำคิ้วเราเจ็บมาก ๆ เจ็บกว่าตอนสักปากอีกจนต้องยกมือบอกว่าไม่ไหว เค้าก็ลงยาชาเพิ่มให้ หลังจากที่เสร็จก็หมักสีทิ้งไว้ พอเช็ดออกเอากระจกให้เราดู เราตกใจมากด้านซ้ายเป็นทรงตรง ส่วนด้านขวาท้องคิ้วเป็นทรงโค้ง จะบ้าตาย เราก็รีบบอกเลยว่าทำไมมันไม่เท่ากันคะ เค้าก็มาพินิจดูแล้วก็บอกว่าเติมด้านขวาให้ คราวนี้เราเจ็บมาก ๆ เพราะยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ พอเติมเสร็จเค้าบอกว่าเดี๋ยวรอบสองมาเติมเก็บรายละเอียดอีกได้ ซึ่งเราก็เข้าใจนะว่าอยากให้เป๊ะจริง ๆ ต้องมาเก็บรายละเอียด แต่ถ้าคนสักพูดแบบนี้แสดงว่ารอบแรกคงไม่สวยแน่นอน (เจ็บครั้งที่ 3)
เรากลับมาถึงที่พักก็รับส่องกระจกดูตรงไปที่สว่าง ๆ ดูไม่จืดเลยทั้งคิ้วและปาก หลังจากลอกเสร็จเท่านั้นแหละเราหาที่ลบทันที ไม่เอาแล้ว มันน่าเกลียดมาก ๆ คิ้วไม่เท่ากันอย่างแรง พอสักพักขนคิ้วขึ้นรอยสักเรามันเหินขึ้นเหนือขนคิ้วจริง ด้านซ้ายทรงตรง ด้านขวาโค้ง เราต้องเติมด้านขวาเพื่อให้มันเท่ากัน กลับหลายเป็นว่าทำคิ้วแล้วเสียเวลากว่าเดิม (ภาพหลังจากที่คิ้วและปากลอกหมด และผ่านมาระยะเวลานึงนะคะ)
น่าเกลียดมาก ๆ สีเป็นปื้น ๆ ทุเรศกว่าตอนยังไม่ทำพันเท่า เหมือนคนปากเบี้ยว เพราะช่างสักไม่เต็มขอบปาก
มันไม่เท่ากันแบบนี้เราจะใช้ชีวิตยังไง แถมดูหน้าแก่กว่าตอนไม่ทำอีก เครียดมากจนเกลียดหน้าตัวเองไปเลย
เราจิตตกมาก นั่งหากระทู้เกี่ยวกับเรื่องลบคิ้วทั้งวัน จนเข้าขั้นหมดมุ่นเป็นบ้าเป็นหลัง จนเจอที่หนึ่งหลังจากที่อ่านอยู่นาน บอกรายละเอียดดีมาก เราเลยตัดสินใจจองโทรจองคิวและจองตั๋วเครื่องบินไปกลับทันที (บ้ามาก) พอถึงวันเราก็ไปลบกับเค้า เจ็บมาก เจ็บสุด ๆ มันแสบ เค้าบอกว่าต้องรอเวลาให้น้ำยามันทำงาน มันจะจางลงเรื่อย ๆ จนครบกำหนดเวลาอีกสองเดือน มันจางลงจริง ๆ แต่นิดเดียว ย้ำว่านิดเดียว ! เมื่อเทียบกับราคาที่เสียไปกับการทำครั้งละเกือบหลักหมื่น (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) เราเลยเข็ด พอเลย กอปรกับเราเจอกัลยาณมิตรท่านหนึ่งซึ่งน่ารักมาก เราเจอกันในคลิปดังถ้าใครจำได้ (สักคิ้วผิดคิดจนตัวตาย) เค้าก็ประสบปัญหาเหมือนกันกับเรา แต่เป็นมากกว่าอีก เค้าบอกว่าคนแย่กว่าเราก็มีเยอะอย่าไปคิดมาก คิดบวกมาก เค้าก็แนะนำเราว่าให้เลเซอร์ออก แต่ตอนนั้นเราไม่ฟัง เพราะเราจองตั๋วแล้ว ผลเป็นไง..ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไม่พอ หางคิ้วเราเป็นแผลลึกลงไปอีก (เจ็บครั้งที่ 4)
หาเหาใส่หัวจริง ๆ ทีนี้ต้องมานั่งรักษารอยแผลเป็นเพิ่ม และกังวลว่าจะเกิดแผลคีลอยด์เพิ่ม กรรมจริง ๆ
เราเว้นกับเรื่องนี้ไปนานหลายเดือนพอสมควรเลย ปากเรายังพอทาลิปกลบได้ แต่คิ้วต้องวาด ๆ ลบ ๆ จากที่เคยแต่งแบบง่าย ๆ จนทนไม่ไหว เพราะต้องมานั่งแก้คิ้วทุกวัน เลยตัดสินใจไปเลเซอร์ออกหลังจากที่คุยปรึกษากับกัลยาณมิตรท่านนั้นอยู่นาน ซึ่งโชคดีมาก แถวบ้านมีคลินิกใหม่มาเปิด เราเห็นเค้าติดป้ายว่าลบรอยสัก เราเลยโทรไปถามว่าลบรอยสักคิ้วได้ไหม เค้าบอกว่าได้ เราก็นัดวันเวลาเลย เค้าขอโกนคิ้วเราออก เราก็จัดให้เลยขอเจ็บแต่จบ เราสะดุ้งทุกครั้งที่ยิง เหมือนหนังยางดีดคิ้วเรา เสียไป 6,000 บาท ได้ 2 ครั้ง (ภาพประกอบน่ากลัวนิดนึงนะคะ) เราส่งรูปรายงานผลให้กัลยาณมิตรเราดูตลอด (เค้าลบมาหลายครั้งแล้ว) เค้าบอกว่าที่คลินิกยิงแรงไป เครื่องเลเซอร์มีหลายแบบ เค้าเชี่ยวชาญมาก คือหลังจากที่เจ็บมาก็ศึกษาจนพรุน เดชะบุญหลังจากที่ครบกำหนดระยะจะไปยิงรอบต่อไป ปรากฏว่าเครื่องเลเซอร์เสีย เค้าคืนเงิน 3,000 ที่เหลือให้เรา แล้วจะไปลบที่ไหนล่ะทีนี้ เพราะเราบ้ายกลับมาอยู่บ้าน บ้านเราก็ไม่มีคลินิกทำอะไรแบบนี้เสียด้วย เราเลยหาข้อมูลจังหวัดที่ใกล้เคียง เพราะน้องเราต้องไปเรียนทุกวันเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว (เจ็บครั้งที่ 4) ภาพประกอบน่ากลัวนิดนึงนะคะขอใส่ spoil ไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สองภาพนี้คือตอนที่เราไปลบที่แรกนะคะ ตอนนั้นตัดผมหน้าม้าเลย (หน้ายิ่งบาน ๆ อยู่) ช่วงนั้นเก็บเนื้อเก็บตัวมาก ทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้าน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว มันส่งผลกระทบไปหมดจริง ๆ ไม่อยากไปไหนเลยช่วงนั้น
หลังจากที่หาข้อมูลคลินิคเลเซอร์ที่ใหม่ได้เราก็โทรไปสอบถาม และขับรถไปพร้อมน้องสาวเลยในอาทิตย์ถัดมา คลินิกดูสะอาด และยิงดีมาก ต่างกับที่แรกลิบลับ เราตัดสินใจซื้อเป็นครอสเลย เพราะเราถามเค้าว่ายิงปากได้ไหม เค้าบอกว่ายิงได้ จะทำให้สีแตกตัวและดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น เค้าแนะนำให้เราซื้อครอสได้ 6 ครั้ง ยิงทั้วคิ้วและปาก ถ้าคิ้วหายก็เก็บไว้ยิงปากในราคา 5,000 บาท เราไม่ลังเลเลย เพราะที่แรกที่เราไปยิงครั้งละตั้ง 3,000 บาท ที่สำคัญคือมันมีแผลน้อยมาก ครั้งนี้เราโดนขนคิ้วเองกับมือ (พนักงานยังไม่กล้าโกนให้เรา) ที่โกนเพราะว่าอยากให้เห็นสีชัด ๆ บางทีขนคิ้วมันบัง และมีความรู้สึกว่าโกนแล้วสีมันจะเกลี้ยงกว่า แต่ถ้าไม่โกนก็ได้ พอถูกแสงเลเซอร์ขนคิ้วเรามันก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ประมาณสัปดาห์มันก็กลับมาปกติ บางทีเราก็เล็ม ๆ ปลายที่ขาวออกก็ได้ การยิงเลเซอร์ครั้งนี้เราพอใจมาก เพราะว่าไม่มีแผลเหวะหวะเหมือนครั้งแรก และที่สำคัญคือหลังจากที่ลอกสีหลุดเกือบหมด เราคิดว่าเครื่องเลเซอร์มีผลต่อแผลจริง ๆ
สีที่เหลือหลังจากที่ทำเลเซอร์คลินิคที่แรก
ทำครั้งที่ 2 kkc อุดรฯ ไม่เจ็บปวดเท่าครั้งแรก แผลสวย
หลังจากลอกหมด เหลือนิดเดียวดีใจมาก
เดี๋ยวเรามาต่อนะคะ มันชอบเด้ง กลัวหายหมดค่ะ
ขอแท็กเตือนภัย เพราะมันเกี่ยวกับการสัก และมันก็ลบยากเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นควรคิดให้รอบคอบ ใช้เวลาแก้นานมากค่ะ
แท็กปัญหาชีวิต เพราะช่วงนั้นเราทุกข์ใจมาก ทำให้พลาดอะไรไปหลาย ๆอย่างรวมถึงสุขภาพจิตพลอยแย่ไปเลย นอนดึก หมกมุ่นแต่เรื่องพวกนี้ วัน ๆ นั่งดูแต่กระทู้เกี่ยวกับลบคิ้ว สักปาก (แท็กสุขภาพจิต)
แท็กสักคิ้ว 3 มิติ คนสักสวยก็ดีไป แต่พลาดมานี่เจ็บเหมือนกันนะคะ เหมือนเป็นการซื้อหวยยังไงยังงั้น
และสุดท้ายแท็กศัลยกรรมความงาม เพราะเราไปลบที่คลินิกความงาม
และอยากขอบคุณกลัยาณมิตรท่านนั้นของเรา ขอบคุณโลกออนไลน์ที่ทำให้เราได้กัน ให้คำแนะนำดี ๆ ทำให้เรากล้าตัดสินใจ จนตอนนี้เราคิดว่าเราตัดสินใจไม่ผิดเลย เรามีกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความทุกข์เรื่องเดียวกันคุยกัน คอยให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน จนหายไปพร้อมกัน ขอบคุณมา ณ ที่นี้นะคะ
ขอแก้ไขเพิ่มเติมค่ะ...หลังไมค์มาเยอะมาก ๆ ว่ากลุ่มเราคุยคืออะไร ตอนแรกเป็นกลุ่มในไลน์เล็ก ๆ แต่ตอนนี้พวกเราเพิ่งตั้งกลุ่มขึ้นใหม่ค่ะชื่อกลุ่มคน"ชมรมสักคิ้วพลาด" ในเฟสบุ๊คนะคะ สอบถามเรื่องการลบด้วยเลเซอร์ได้ค่ะ มีกัลยาณมิตรเราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวเรื่องคิ้วจนเรายกให้เค้าเป็นผผู้เชี่ยวชาญคอยตอบค่ะ
ส่วนเรื่องที่หลังไมค์มาถามกันมากและเราตอบไม่ไหวคือ kkc อุดรฯคืออะไร? เป็นชื่อย่อของคลินิคที่เราไปทำค่ะ เรากลัวหาว่าโฆษณาเลยบอกชื่อย่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ของขวัญคลินิกค่ะ เพราะว่าเราสะดวกไปที่นั่น เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่อย่างใด
แชร์ประสบการณ์สักคิ้ว&ปากที่พลาด...เมื่อพลาดแล้วก็ต้องลบ [เจ็บนี้อีกนาน..เจ็บนี้ไม่ลืม]
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าตอนนั้นอยู่ดี ๆ เราก็อยากสักปากขึ้นมาค่ะ เพราะปากเราซีดมาก แต่ไม่ถึงกับคล้ำดำปี๋นะคะ เอาเป็นว่าถ้าวันไหนเราไม่ทาลิปจะต้องถูกเพื่อนร่วมงานไล่ให้ไปทา วันนั้นวันหยุดพอดีเลยนั่งว่าง ๆ ส่องกระจกดูปากตัวเองเลยตัดสินใจไปสักเลยค่ะ เผอิญว่ามีร้านอยู่ในใจอยู่แล้ว เป็นร้านชื่อดังเพื่อนเราก็ไปสักคิ้วที่นั่นก่อนไปเที่ยวกันที่ญี่ปุ่น ดูสวยเป็นธรรมชาติมาก เราคุยกับเพื่อนอยู่นาน และดูรีวิวในเฟสบุ๊คก็ดูเข้าท่ามาก เลยจัดการโทรไปสอบถามและจะเข้าไปทำเลย ตอนแรก(เข้าใจว่าเป็นเจ้าของร้านรับสาย) บอกว่าให้เข้ามาเลยมีคิวว่าง เราก็ขับรถไปใกล้ถึงแล้วโทรมาหาเราบอกว่าไม่ต้องไปที่ร้านให้ไปอีกที่นึงด้วยความที่อารมร์ตอนนั้นมันอยากทำ และไว้ใจทางร้านว่าเป็นร้านใหญ่โตอาจจะเปิดหลายสาขา เลยขับตามไปยังสถานที่ที่เค้าบอก ซึ่งค่อนข้างไกลมาก ไปถึงก็งงว่าเป็นชื่อร้านอีกร้านนึงเลย เห็นตอนแรกก็งงและคิดว่าจะถอยแล้ว แต่เค้าเข้าทักทายเราก่อนพูดจาดีมาก เอาปากลูกมืออีกคนนึงให้ดูสีสวยมาก เลยอ่อนลงและตัดสินใจแบบฉับพลับว่าเอาวะ..ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว อุตส่าห์ถ่อมาตั้งไกล (แอบโมโหในใจว่าทำไมไม่บอกว่าส่งเรามาทำกับลูกน้องที่แยกไปเปิดร้านเป็นของตัวเอง)...เจ็บครั้งที่ 1
หลังจากที่ตกลงปลงใจทำ ตกลงเรื่องราคาเสร็จสรรพ เค้าก็พูดขึ้นมาว่าไม่สนใจทำคิ้วไปด้วยเลยเหรอ เอารูปคิ้วคิ้วที่เค้าเคยสักมาให้ดู ตอนนั้นเราไม่มีความคิดเรื่องการสักคิ้วอยู่ในหัว เลยตอบไปว่าเดี๋ยวขอให้กันคิ้วให้ดูก่อนแล้วกันค่ะตอนนี้ขอสักปากก่อน.... จากนั้นก็เริ่มบรรเลงเลยค่ะ เค้าแนะนำเป็นสีชมพูอมส้ม จัดแจงป้ายยาชาและลงมือสัก ขอบอกว่าเจ็บพอสมควรค่ะ ซ้ำอยู่ประมาณสามรอบถ้าจำไม่ผิด พอเสร็จก็ให้เราส่องกระจกดู เราบอกว่าทำไมขอบปากเราไม่เต็ม เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเติมให้ แล้วก็ลงมือเติม ตอนนั้นเอากระจกให้เราดูตอนนี้ปากเราบวมแทบมองไม่ออกถึงจุดสิ้นสุดของสีแล้วเลยบอกว่าพอแล้ว (เสียดายมากค่ะ เราไม่ได้เก็บภาพตอนนี้ไว้ T_T)....เจ็บครั้งที่ 2
หลังจากที่เราสักปากเสร็จ เค้าก็ถามเราว่าสักคิ้วด้วยไหม เอาเป็นแบบสไลด์พอลอกออกจะฟุ้ง ๆ เหมือนเราปัดด้วยอายแชร์โดว์คิ้วสวย ๆ วันไหนรีบ ๆ หยิบมาปัด ๆ ก็เสร็จ ไม่ต้องเสียเวลาเขียวคิ้วเพราะว่าเรามีโครงอยู่แล้ว เราก็เริ่มคล้อยตามเอาวะ..ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว (รอบที่ 2) เลยตอบตกลงไป สรุปว่าเราทำทั้งคิ้วและปาก จากนั้นเค้าก็มากันคิ้วเรา และวาดให้ดู เรารู้สึกว่าทรงยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เค้าบอกว่าคิ้วของเราไม่เท่ากัน ด้านซ้ายต่ำกว่า -_- กันไปกันมาเหลือคิ้วนิดเดียว เค้าก็บอกว่าเท่ากันแล้วและลงมือสัก ตอนทำคิ้วเราเจ็บมาก ๆ เจ็บกว่าตอนสักปากอีกจนต้องยกมือบอกว่าไม่ไหว เค้าก็ลงยาชาเพิ่มให้ หลังจากที่เสร็จก็หมักสีทิ้งไว้ พอเช็ดออกเอากระจกให้เราดู เราตกใจมากด้านซ้ายเป็นทรงตรง ส่วนด้านขวาท้องคิ้วเป็นทรงโค้ง จะบ้าตาย เราก็รีบบอกเลยว่าทำไมมันไม่เท่ากันคะ เค้าก็มาพินิจดูแล้วก็บอกว่าเติมด้านขวาให้ คราวนี้เราเจ็บมาก ๆ เพราะยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ พอเติมเสร็จเค้าบอกว่าเดี๋ยวรอบสองมาเติมเก็บรายละเอียดอีกได้ ซึ่งเราก็เข้าใจนะว่าอยากให้เป๊ะจริง ๆ ต้องมาเก็บรายละเอียด แต่ถ้าคนสักพูดแบบนี้แสดงว่ารอบแรกคงไม่สวยแน่นอน (เจ็บครั้งที่ 3)
เรากลับมาถึงที่พักก็รับส่องกระจกดูตรงไปที่สว่าง ๆ ดูไม่จืดเลยทั้งคิ้วและปาก หลังจากลอกเสร็จเท่านั้นแหละเราหาที่ลบทันที ไม่เอาแล้ว มันน่าเกลียดมาก ๆ คิ้วไม่เท่ากันอย่างแรง พอสักพักขนคิ้วขึ้นรอยสักเรามันเหินขึ้นเหนือขนคิ้วจริง ด้านซ้ายทรงตรง ด้านขวาโค้ง เราต้องเติมด้านขวาเพื่อให้มันเท่ากัน กลับหลายเป็นว่าทำคิ้วแล้วเสียเวลากว่าเดิม (ภาพหลังจากที่คิ้วและปากลอกหมด และผ่านมาระยะเวลานึงนะคะ)
น่าเกลียดมาก ๆ สีเป็นปื้น ๆ ทุเรศกว่าตอนยังไม่ทำพันเท่า เหมือนคนปากเบี้ยว เพราะช่างสักไม่เต็มขอบปาก
มันไม่เท่ากันแบบนี้เราจะใช้ชีวิตยังไง แถมดูหน้าแก่กว่าตอนไม่ทำอีก เครียดมากจนเกลียดหน้าตัวเองไปเลย
เราจิตตกมาก นั่งหากระทู้เกี่ยวกับเรื่องลบคิ้วทั้งวัน จนเข้าขั้นหมดมุ่นเป็นบ้าเป็นหลัง จนเจอที่หนึ่งหลังจากที่อ่านอยู่นาน บอกรายละเอียดดีมาก เราเลยตัดสินใจจองโทรจองคิวและจองตั๋วเครื่องบินไปกลับทันที (บ้ามาก) พอถึงวันเราก็ไปลบกับเค้า เจ็บมาก เจ็บสุด ๆ มันแสบ เค้าบอกว่าต้องรอเวลาให้น้ำยามันทำงาน มันจะจางลงเรื่อย ๆ จนครบกำหนดเวลาอีกสองเดือน มันจางลงจริง ๆ แต่นิดเดียว ย้ำว่านิดเดียว ! เมื่อเทียบกับราคาที่เสียไปกับการทำครั้งละเกือบหลักหมื่น (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) เราเลยเข็ด พอเลย กอปรกับเราเจอกัลยาณมิตรท่านหนึ่งซึ่งน่ารักมาก เราเจอกันในคลิปดังถ้าใครจำได้ (สักคิ้วผิดคิดจนตัวตาย) เค้าก็ประสบปัญหาเหมือนกันกับเรา แต่เป็นมากกว่าอีก เค้าบอกว่าคนแย่กว่าเราก็มีเยอะอย่าไปคิดมาก คิดบวกมาก เค้าก็แนะนำเราว่าให้เลเซอร์ออก แต่ตอนนั้นเราไม่ฟัง เพราะเราจองตั๋วแล้ว ผลเป็นไง..ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไม่พอ หางคิ้วเราเป็นแผลลึกลงไปอีก (เจ็บครั้งที่ 4)
หาเหาใส่หัวจริง ๆ ทีนี้ต้องมานั่งรักษารอยแผลเป็นเพิ่ม และกังวลว่าจะเกิดแผลคีลอยด์เพิ่ม กรรมจริง ๆ
เราเว้นกับเรื่องนี้ไปนานหลายเดือนพอสมควรเลย ปากเรายังพอทาลิปกลบได้ แต่คิ้วต้องวาด ๆ ลบ ๆ จากที่เคยแต่งแบบง่าย ๆ จนทนไม่ไหว เพราะต้องมานั่งแก้คิ้วทุกวัน เลยตัดสินใจไปเลเซอร์ออกหลังจากที่คุยปรึกษากับกัลยาณมิตรท่านนั้นอยู่นาน ซึ่งโชคดีมาก แถวบ้านมีคลินิกใหม่มาเปิด เราเห็นเค้าติดป้ายว่าลบรอยสัก เราเลยโทรไปถามว่าลบรอยสักคิ้วได้ไหม เค้าบอกว่าได้ เราก็นัดวันเวลาเลย เค้าขอโกนคิ้วเราออก เราก็จัดให้เลยขอเจ็บแต่จบ เราสะดุ้งทุกครั้งที่ยิง เหมือนหนังยางดีดคิ้วเรา เสียไป 6,000 บาท ได้ 2 ครั้ง (ภาพประกอบน่ากลัวนิดนึงนะคะ) เราส่งรูปรายงานผลให้กัลยาณมิตรเราดูตลอด (เค้าลบมาหลายครั้งแล้ว) เค้าบอกว่าที่คลินิกยิงแรงไป เครื่องเลเซอร์มีหลายแบบ เค้าเชี่ยวชาญมาก คือหลังจากที่เจ็บมาก็ศึกษาจนพรุน เดชะบุญหลังจากที่ครบกำหนดระยะจะไปยิงรอบต่อไป ปรากฏว่าเครื่องเลเซอร์เสีย เค้าคืนเงิน 3,000 ที่เหลือให้เรา แล้วจะไปลบที่ไหนล่ะทีนี้ เพราะเราบ้ายกลับมาอยู่บ้าน บ้านเราก็ไม่มีคลินิกทำอะไรแบบนี้เสียด้วย เราเลยหาข้อมูลจังหวัดที่ใกล้เคียง เพราะน้องเราต้องไปเรียนทุกวันเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว (เจ็บครั้งที่ 4) ภาพประกอบน่ากลัวนิดนึงนะคะขอใส่ spoil ไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สองภาพนี้คือตอนที่เราไปลบที่แรกนะคะ ตอนนั้นตัดผมหน้าม้าเลย (หน้ายิ่งบาน ๆ อยู่) ช่วงนั้นเก็บเนื้อเก็บตัวมาก ทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้าน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว มันส่งผลกระทบไปหมดจริง ๆ ไม่อยากไปไหนเลยช่วงนั้น
หลังจากที่หาข้อมูลคลินิคเลเซอร์ที่ใหม่ได้เราก็โทรไปสอบถาม และขับรถไปพร้อมน้องสาวเลยในอาทิตย์ถัดมา คลินิกดูสะอาด และยิงดีมาก ต่างกับที่แรกลิบลับ เราตัดสินใจซื้อเป็นครอสเลย เพราะเราถามเค้าว่ายิงปากได้ไหม เค้าบอกว่ายิงได้ จะทำให้สีแตกตัวและดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น เค้าแนะนำให้เราซื้อครอสได้ 6 ครั้ง ยิงทั้วคิ้วและปาก ถ้าคิ้วหายก็เก็บไว้ยิงปากในราคา 5,000 บาท เราไม่ลังเลเลย เพราะที่แรกที่เราไปยิงครั้งละตั้ง 3,000 บาท ที่สำคัญคือมันมีแผลน้อยมาก ครั้งนี้เราโดนขนคิ้วเองกับมือ (พนักงานยังไม่กล้าโกนให้เรา) ที่โกนเพราะว่าอยากให้เห็นสีชัด ๆ บางทีขนคิ้วมันบัง และมีความรู้สึกว่าโกนแล้วสีมันจะเกลี้ยงกว่า แต่ถ้าไม่โกนก็ได้ พอถูกแสงเลเซอร์ขนคิ้วเรามันก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ประมาณสัปดาห์มันก็กลับมาปกติ บางทีเราก็เล็ม ๆ ปลายที่ขาวออกก็ได้ การยิงเลเซอร์ครั้งนี้เราพอใจมาก เพราะว่าไม่มีแผลเหวะหวะเหมือนครั้งแรก และที่สำคัญคือหลังจากที่ลอกสีหลุดเกือบหมด เราคิดว่าเครื่องเลเซอร์มีผลต่อแผลจริง ๆ
สีที่เหลือหลังจากที่ทำเลเซอร์คลินิคที่แรก
ทำครั้งที่ 2 kkc อุดรฯ ไม่เจ็บปวดเท่าครั้งแรก แผลสวย
หลังจากลอกหมด เหลือนิดเดียวดีใจมาก
เดี๋ยวเรามาต่อนะคะ มันชอบเด้ง กลัวหายหมดค่ะ
ขอแท็กเตือนภัย เพราะมันเกี่ยวกับการสัก และมันก็ลบยากเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นควรคิดให้รอบคอบ ใช้เวลาแก้นานมากค่ะ
แท็กปัญหาชีวิต เพราะช่วงนั้นเราทุกข์ใจมาก ทำให้พลาดอะไรไปหลาย ๆอย่างรวมถึงสุขภาพจิตพลอยแย่ไปเลย นอนดึก หมกมุ่นแต่เรื่องพวกนี้ วัน ๆ นั่งดูแต่กระทู้เกี่ยวกับลบคิ้ว สักปาก (แท็กสุขภาพจิต)
แท็กสักคิ้ว 3 มิติ คนสักสวยก็ดีไป แต่พลาดมานี่เจ็บเหมือนกันนะคะ เหมือนเป็นการซื้อหวยยังไงยังงั้น
และสุดท้ายแท็กศัลยกรรมความงาม เพราะเราไปลบที่คลินิกความงาม
และอยากขอบคุณกลัยาณมิตรท่านนั้นของเรา ขอบคุณโลกออนไลน์ที่ทำให้เราได้กัน ให้คำแนะนำดี ๆ ทำให้เรากล้าตัดสินใจ จนตอนนี้เราคิดว่าเราตัดสินใจไม่ผิดเลย เรามีกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความทุกข์เรื่องเดียวกันคุยกัน คอยให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน จนหายไปพร้อมกัน ขอบคุณมา ณ ที่นี้นะคะ
ขอแก้ไขเพิ่มเติมค่ะ...หลังไมค์มาเยอะมาก ๆ ว่ากลุ่มเราคุยคืออะไร ตอนแรกเป็นกลุ่มในไลน์เล็ก ๆ แต่ตอนนี้พวกเราเพิ่งตั้งกลุ่มขึ้นใหม่ค่ะชื่อกลุ่มคน"ชมรมสักคิ้วพลาด" ในเฟสบุ๊คนะคะ สอบถามเรื่องการลบด้วยเลเซอร์ได้ค่ะ มีกัลยาณมิตรเราที่ผ่านร้อนผ่านหนาวเรื่องคิ้วจนเรายกให้เค้าเป็นผผู้เชี่ยวชาญคอยตอบค่ะ
ส่วนเรื่องที่หลังไมค์มาถามกันมากและเราตอบไม่ไหวคือ kkc อุดรฯคืออะไร? เป็นชื่อย่อของคลินิคที่เราไปทำค่ะ เรากลัวหาว่าโฆษณาเลยบอกชื่อย่อไป [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพราะว่าเราสะดวกไปที่นั่น เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่อย่างใด