สวัสดีค่ะ ดิฉันมีเรื่องกลุ้มใจจะขอทำการปรึกษากับผู้รู้เรื่องด้านกฎหมายหน่อยนะคะ พอดีเหตุเพิ่งเกิดขึ้นวันที่ 30 ตุลคม 2559 ช่วงเวลา บ่ายสามโมงห้าสิบกว่าหรือสี่โมงเย็นนี่แหละค่ะ ที่ช่วงติดไฟแดงใหญ่แยกเดอะมอลล์บางแค ซึ่งถนนเส้นนี้จะแบ่งออกเป็น 3 เลนส์ ส่วนรถของดิฉันอยู่เลนส์ในสุดที่ 3 ซึ่งทางดิฉันต้องการที่จะเปลี่ยนเลนส์รถเพื่อที่จะทำการเข้าห้างเดอะมอลล์ ซึ่ง ณ ตอนนั้นไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดีแล้วมันมีช่วงให้รถสามารถแทรกเข้าไปทางเลนส์ฝั่งซ้ายที่สองได้ แต่ดิฉันยอมรับผิดกับทางตำรวจและทางคู่กรณีไปว่าดิฉันผิดที่เปิดไฟเลี้ยวแล้วเปลี่ยนกระทันหันจริงๆ ทางคู่กรณีเค้าก็ได้บีบแตรเพื่อแสดงถึงความไม่พอใจ หลังจากนั้นทางคู่กรณีได้ทำการเปลี่ยนเลนส์จากเลนส์กลางที่ 2 เป็นเลนส์ที่ 3 เพื่อที่จะแซงขึ้นมาหน้ารถของเรา แต่ ณ เวลานั้นไฟเขียวบวกกับรถแต่ละคันต่างขับกันแบบรีบเร่ง ทางคู่กรณีก็เปลี่ยนเลนส์จากฝั่งซ้ายเลนส์ในสุดเข้ามาปาดหน้าของเรา แต่ว่าคู่กรณีแซงไม่พ้น ผลที่ได้คือรถชนกันนั่นเองค่ะ รถของชั้นเสียหายที่ไฟหน้ารถฝั่งขวา ช่วงรถฝั่งหน้าด้านขวาและกันชนหน้าช่วงมุมด้านขวา ส่วนของคู่กรณีเสียหายที่กันชนท้ายด้านซ้ายและฝั่งซ้ายด้านท้ายของรถ ซึ่งทางคู่กรณีได้เรียกประกันมาเรียบร้อยแต่ทางคู่กรณีไม่ยอมที่จะทำการรับผิดชอบ เพราะเค้าว่าเราเป็นคนผิด ทางประกันเลยให้ทั้งสองฝ่ายไปคุยกันที่สถานีตำรวจ ซึ่งจากการให้ปากคำกับตำรวจ คู่กรณีได้แจ้งว่าทางดิฉันปาดหน้ารถเค้ามาจากฝั่งเลนส์ในสุดเข้ามาในเลนส์ของเค้า แล้วเค้าเลยชะงักรถหลบไปเลนฝั่งในสุด เสร็จแล้วเค้าเลยขับรถแซงขึ้นมาที่เลนส์ที่สองของหน้ารถเรา เค้าบอกว่ารถเค้าอยู่ในเลนส์ที่สองหน้าเราแล้วเราก็ชนรถเค้าจากทางข้างหลัง ทางตำรวจเลยขอทำการยึดรถเพื่อรอตรวจสภาพรถก่อนแล้วจึงให้นำรถกลับบ้านได้ ซึ่งกล้องหน้ารถของเราก็ดันมาเสียด้วยเลยไม่มีหลักฐานเป็นรูปภาพให้ทางตำรวจได้ดู ซึ่งทางตำรวจก็บอกกับทางเราเหมือนกันว่าจากรูปรอยของการชนก็รู้ว่าคู่กรณีของเราไม่ยอมรับแต่เค้ากลับหาว่าเราชนรถเค้าแทน ไม่ทราบว่าแบบนี้ต้องทำอย่างไรดีคะ