สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
หลายคนสับสนดพราะคนแปลซับและพากย์ใช้คำว่า ในมิติของดอร์มามูเวลาไม่มีความหมาย
หลายคนเลยตีความไปว่าเมื่อเวลาไม่มีความหมาย คืออยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งที่จริงคือใหล้เคียงแต่ผิด
ถ้าอ้างตามวิทยาศาสตร์ สิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่าเวลาไม่มีความหมายมากที่สุดคือ หลุมดำ และ แสง คือ หลุมดำนั้นคือมวลที่มีมหาศาลมาก ๆ มากจนทำให้แม้แต่แสงก็ไม่สามารถเร็วพอที่จะวิ่งหนีออกมาจากหลุมดำได้ ซึ่งสาเหตุเพราะหลุมดำมีแรงโน้มถ่วงมาก เมื่อแรงโน้มถ่วงมีมากขึ้นเวลาก็จะช้าลงจนถึงหยุดนิ่ง(คือไม่มีเวลา) ส่วนแสงเอง เมื่อมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงเวลาของมันจะหยุดนี่ง คือตราบใดที่ยังเคลื่อนที่อยู่ เวลาก็ไม่มีความหมายเพราะเวลาหยุดไปแล้ว
จากตรงนี้จะเห็นว่า แม้ทั้ง 2 สิ่งนั้นถือว่าเวลาไม่มีความหมาย แต่ก็ไม่หมายความว่าทั้ง 2 สิ่งอยู่เหนือกาลเวลา คือเวลาไม่มีผลกับทั้ง 2 สิ่ง แต่เมื่อใดที่ทั้ง 2 สิ่งนั้นออกจากสภาวะเดิมของมันเมื่อนั้นมันก็จะเปลี่ยนสภาพจนทำให้เวลามีผลขึ้นมา
เช่น หลุมดำตามทฤษฎีฮอว์กิ้ง หลุมดำจะสูญเสียมวลไปเรื่อย ๆ จากการแผ่รังสีฮอกิ้ง จนเมื่อถึงขณะหนึ่งก็จะไม่มีมวลมากพอที่จะดึงดดูดแสงเอาไว้ได้ ทำให้สภาพของการเป็นหลุมดำหมดไปและเวลาเริ่มเดิน ส่วนแสงเองนั้น เมื่อมันเคลื่อนที่ไปแล้วกระทบกับตัวกลางเช่นวัตถุ ดวงจา หรือฝุ่นผงในอวกาศ ก็ทำให้สูญเสียโมเมนตั้มและทำให้แสงกลายสภาพเป็นอนุภาคเมื่ออยู่ในสภาวะอนุภาค(โฟตอน) แสงก็สูญเสียความเร็วจนเวลาเริ่มเดินอีกครั้ง
ทีนี้พอเอาเข้ามาประยุกต์ใช้กับในเรื่องนี้
ดอร์มามูอยู่ในมิติที่เวลาไม่มีความหมาย คือแสดงว่าไร้กาลเวลา หรือเวลาหยุดนิ่ง(ไม่ใช่เหนือกาลเวลา) ทีนี้เมื่อมันออกจากมิติตัวเองเข้ามาในมิติของโลก ทำให้เวลาเริ่มมีผล(เวลาเริ่มเดิน) เมี่อเวลามีผลก็ทำให้หมอแปลกสามารถสร้างลูปของเวลาขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงทำให้ดอร์มามูดูกดึงเข้าไปอยู่ในลูปของมิติเวลา และไม่สามารถออกมาด้วยตัวเองได้ เพราะตัวมันเองไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำว่าเวลาคืออะไร(ก็มันเกิดในมิติที่ไม่มีเวลานี่นา) ทีนี้เมื่อมันไม่สามารถออกจากลูปเวลาได้ มันก็จำต้องทำข้อตกลงกับหมอแปลก เพราะมันเองคงจะเบื่อแล้วแน่ ๆ (ลองนึกภาพเด็กที่โตมาในบ้านที่รวยมาก ๆ เวลาหิวก็มีของให้กินเพราะทำเผื่อไว้อยู่แล้วสิ ถ้าให้เด็กแบบนี้ไปอยู่ในบ้านที่เวลาหิวแล้วต้องรอให้แม่ครัวทำอาหารให้หรือต้องทำเอง คิดว่าเด็กแบบนี้จะรอได้นานแค่ไหน) ก็คนไม่เคยรอ(ไม่มีเวลาไม่จำเป็นต้องรอ)
พอมาเจอลูปเวลาที่ต้องรอว่าใครจะทนได้นานกว่ากันระหว่างดอร์มามูกับหมอแปลก ก็ชัด ๆ อยู่แล้วว่าดอร์มามูรอให้หมอแปลกเหนื่อยจนปลดลูปเวลาเองไม่ได้แน่ ๆ ก็เหมือนกับเด็ที่รอไม่เป็น พอให้รอนาน ๆ ก็จะพาลอารมณ์เสียและยอมแพ้ได้ง่าย ๆ นั้นเอง
จากทั้งหมดที่ว่ามานี้คือจะชี้ให้เห็นว่า ดอร์มามูไม่ได้อยู่เหนือกาลเวลา เป็นการตีความผิดและเข้าใจผิดไปเอง ที่ถูกต้องคือดอร์มามูอยู่ในมิติที่เวลาไม่มีความหมายคือไม่มีเวลา หรือเวลาหยุดนิ่ง
สิ่งเดียวในเรื่องที่เหนือกาลเวลาคือ Eye of Agamotto เพราะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถบอดผันเวลาได้ (ย้อนเวลา หยุดเวลา เร่งเวลาได้)
ส่วนสาเหตุที่ไม่มีใครในสำนักสนใจ Eye of Agamotto ก็เราะมอร์โดบอกเอาไว้แล้วตอนที่สอนหมอแปลก ว่าผู้ใช้เวทย์ไม่ได้เลือกของวิเศษ แต่ของวิเศษเองต่างหากที่เลือกผู้ใช้ (ที่เห็นชัด ๆ เลยคือผู้คลุมและค้อนของธอร์) เพราะงั้นถึงแม้คนอื่นในสำนักจะรู้ว่า Eye of Agamotto ทำอะไรได้ แต่เมื่อตนเองใช้ไม่ได้(ในขณะที่มีของวิเศษอื่นอีกมหาศาลให้ใช้) แล้วจะยังต้องเอาสร้อยที่ใช้ไม่ได้ติดตัวไปทำไม
ส่วนไคซีเรียสเอง จากนิสัยคือหวังผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า อะไรไม่มีค่าพอก็พร้อมที่จะตัดทิ้ง เช่นฉีกหนังสือไปแค่หน้าเดียว หรือฆ่าลูกน้องเพื่อเอาชนะ The Ancient One เป็นต้น ดังนั้นแม้รู้ว่า Eye of Agamotto ทำอะไรได้ แต่ตัวเองใช้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะเอาไปทำไม และที่แน่ ๆ คือระดับอย่างไคซีเรียสน่าจะรู้ด้วยว่าการแทรกแซงเวลามีโอกาสสูงมากที่ผู้ใช้จะติดลูปของเวลาไปด้วย แล้วเขาจะพกเอาของอันตรายอย่างนั้นติดตัวไปด้วยทำไม
ในขณะที่ ดอร์มามูผู้ไม่รู้จักเวลา แล้วจะสนใจเครื่องมือควบคุมเวลาไปเพื่ออะไรเช่นกัน
ทีนี้จากตอนที่หมอแปลกสวมสร้อย ได้พักเดียว อาศรมลอนดอนก็โดนบุก หมอแปลกกระเด็นไปอาศรมนิวยอร์ค จนถึงไปช่วยป้องกันอาศรมฮ่องกง เวลามันต่อเนื่องกันตลอด หมอแปลกเลยยังเผลอใส่ Eye of Agamotto ติดตัวมาตั้งแต่นั้น
หลายคนเลยตีความไปว่าเมื่อเวลาไม่มีความหมาย คืออยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งที่จริงคือใหล้เคียงแต่ผิด
ถ้าอ้างตามวิทยาศาสตร์ สิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่าเวลาไม่มีความหมายมากที่สุดคือ หลุมดำ และ แสง คือ หลุมดำนั้นคือมวลที่มีมหาศาลมาก ๆ มากจนทำให้แม้แต่แสงก็ไม่สามารถเร็วพอที่จะวิ่งหนีออกมาจากหลุมดำได้ ซึ่งสาเหตุเพราะหลุมดำมีแรงโน้มถ่วงมาก เมื่อแรงโน้มถ่วงมีมากขึ้นเวลาก็จะช้าลงจนถึงหยุดนิ่ง(คือไม่มีเวลา) ส่วนแสงเอง เมื่อมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงเวลาของมันจะหยุดนี่ง คือตราบใดที่ยังเคลื่อนที่อยู่ เวลาก็ไม่มีความหมายเพราะเวลาหยุดไปแล้ว
จากตรงนี้จะเห็นว่า แม้ทั้ง 2 สิ่งนั้นถือว่าเวลาไม่มีความหมาย แต่ก็ไม่หมายความว่าทั้ง 2 สิ่งอยู่เหนือกาลเวลา คือเวลาไม่มีผลกับทั้ง 2 สิ่ง แต่เมื่อใดที่ทั้ง 2 สิ่งนั้นออกจากสภาวะเดิมของมันเมื่อนั้นมันก็จะเปลี่ยนสภาพจนทำให้เวลามีผลขึ้นมา
เช่น หลุมดำตามทฤษฎีฮอว์กิ้ง หลุมดำจะสูญเสียมวลไปเรื่อย ๆ จากการแผ่รังสีฮอกิ้ง จนเมื่อถึงขณะหนึ่งก็จะไม่มีมวลมากพอที่จะดึงดดูดแสงเอาไว้ได้ ทำให้สภาพของการเป็นหลุมดำหมดไปและเวลาเริ่มเดิน ส่วนแสงเองนั้น เมื่อมันเคลื่อนที่ไปแล้วกระทบกับตัวกลางเช่นวัตถุ ดวงจา หรือฝุ่นผงในอวกาศ ก็ทำให้สูญเสียโมเมนตั้มและทำให้แสงกลายสภาพเป็นอนุภาคเมื่ออยู่ในสภาวะอนุภาค(โฟตอน) แสงก็สูญเสียความเร็วจนเวลาเริ่มเดินอีกครั้ง
ทีนี้พอเอาเข้ามาประยุกต์ใช้กับในเรื่องนี้
ดอร์มามูอยู่ในมิติที่เวลาไม่มีความหมาย คือแสดงว่าไร้กาลเวลา หรือเวลาหยุดนิ่ง(ไม่ใช่เหนือกาลเวลา) ทีนี้เมื่อมันออกจากมิติตัวเองเข้ามาในมิติของโลก ทำให้เวลาเริ่มมีผล(เวลาเริ่มเดิน) เมี่อเวลามีผลก็ทำให้หมอแปลกสามารถสร้างลูปของเวลาขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงทำให้ดอร์มามูดูกดึงเข้าไปอยู่ในลูปของมิติเวลา และไม่สามารถออกมาด้วยตัวเองได้ เพราะตัวมันเองไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำว่าเวลาคืออะไร(ก็มันเกิดในมิติที่ไม่มีเวลานี่นา) ทีนี้เมื่อมันไม่สามารถออกจากลูปเวลาได้ มันก็จำต้องทำข้อตกลงกับหมอแปลก เพราะมันเองคงจะเบื่อแล้วแน่ ๆ (ลองนึกภาพเด็กที่โตมาในบ้านที่รวยมาก ๆ เวลาหิวก็มีของให้กินเพราะทำเผื่อไว้อยู่แล้วสิ ถ้าให้เด็กแบบนี้ไปอยู่ในบ้านที่เวลาหิวแล้วต้องรอให้แม่ครัวทำอาหารให้หรือต้องทำเอง คิดว่าเด็กแบบนี้จะรอได้นานแค่ไหน) ก็คนไม่เคยรอ(ไม่มีเวลาไม่จำเป็นต้องรอ)
พอมาเจอลูปเวลาที่ต้องรอว่าใครจะทนได้นานกว่ากันระหว่างดอร์มามูกับหมอแปลก ก็ชัด ๆ อยู่แล้วว่าดอร์มามูรอให้หมอแปลกเหนื่อยจนปลดลูปเวลาเองไม่ได้แน่ ๆ ก็เหมือนกับเด็ที่รอไม่เป็น พอให้รอนาน ๆ ก็จะพาลอารมณ์เสียและยอมแพ้ได้ง่าย ๆ นั้นเอง
จากทั้งหมดที่ว่ามานี้คือจะชี้ให้เห็นว่า ดอร์มามูไม่ได้อยู่เหนือกาลเวลา เป็นการตีความผิดและเข้าใจผิดไปเอง ที่ถูกต้องคือดอร์มามูอยู่ในมิติที่เวลาไม่มีความหมายคือไม่มีเวลา หรือเวลาหยุดนิ่ง
สิ่งเดียวในเรื่องที่เหนือกาลเวลาคือ Eye of Agamotto เพราะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถบอดผันเวลาได้ (ย้อนเวลา หยุดเวลา เร่งเวลาได้)
ส่วนสาเหตุที่ไม่มีใครในสำนักสนใจ Eye of Agamotto ก็เราะมอร์โดบอกเอาไว้แล้วตอนที่สอนหมอแปลก ว่าผู้ใช้เวทย์ไม่ได้เลือกของวิเศษ แต่ของวิเศษเองต่างหากที่เลือกผู้ใช้ (ที่เห็นชัด ๆ เลยคือผู้คลุมและค้อนของธอร์) เพราะงั้นถึงแม้คนอื่นในสำนักจะรู้ว่า Eye of Agamotto ทำอะไรได้ แต่เมื่อตนเองใช้ไม่ได้(ในขณะที่มีของวิเศษอื่นอีกมหาศาลให้ใช้) แล้วจะยังต้องเอาสร้อยที่ใช้ไม่ได้ติดตัวไปทำไม
ส่วนไคซีเรียสเอง จากนิสัยคือหวังผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า อะไรไม่มีค่าพอก็พร้อมที่จะตัดทิ้ง เช่นฉีกหนังสือไปแค่หน้าเดียว หรือฆ่าลูกน้องเพื่อเอาชนะ The Ancient One เป็นต้น ดังนั้นแม้รู้ว่า Eye of Agamotto ทำอะไรได้ แต่ตัวเองใช้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะเอาไปทำไม และที่แน่ ๆ คือระดับอย่างไคซีเรียสน่าจะรู้ด้วยว่าการแทรกแซงเวลามีโอกาสสูงมากที่ผู้ใช้จะติดลูปของเวลาไปด้วย แล้วเขาจะพกเอาของอันตรายอย่างนั้นติดตัวไปด้วยทำไม
ในขณะที่ ดอร์มามูผู้ไม่รู้จักเวลา แล้วจะสนใจเครื่องมือควบคุมเวลาไปเพื่ออะไรเช่นกัน
ทีนี้จากตอนที่หมอแปลกสวมสร้อย ได้พักเดียว อาศรมลอนดอนก็โดนบุก หมอแปลกกระเด็นไปอาศรมนิวยอร์ค จนถึงไปช่วยป้องกันอาศรมฮ่องกง เวลามันต่อเนื่องกันตลอด หมอแปลกเลยยังเผลอใส่ Eye of Agamotto ติดตัวมาตั้งแต่นั้น
แสดงความคิดเห็น
Eye of Agamotto ในหนัง Dr. Strange นี่ไม่สำคัญเหรอครับ ทำไมไม่มีใครในเรื่องสนใจเลย
อ้อ อีกเรื่องนึงที่ผมอดฮาไม่ได้ คือสรุปแล้วพระเอกสำเร็จวิชาสุดยอดพลังเวทย์ได้เพราะใช้ surface ใช่ไหมครับ เห็นใช้ surface เด่นมาทั้งเรื่อง สุดท้ายได้ Eye of Agamotto ไปจึงสำเร็จวิชาเสก Surface Dial มากรอเวลาไปมาได้ คนอื่นยังอึ้งเลยว่าทำได้ไงวะ ขนาดพระเอกเคลมว่าสงสัยเพราะเป็นหมอ มีความจำแบบรูปถ่าย พวกนั้นยังคิดว่าไม่น่าใช่แล้วก็ปล่อยเป็นคำถามค้างคาไว้แบบนั้นจนจบ สรุปคือมันเฉลยตั้งแต่ตอนที่ถ่ายให้เห็นว่าพระเอกเป็นติ่ง surface แล้วใช่ไหมครับ ขนาดออกเดินทางไปรักษามือ ไม่เหลือเงินเลยสักบาท เหลือแค่นาฬิกาอย่างเดียว ยังหาเซอเฟชแถวนั้นมาใช้อีก (เครื่องแรกมันปัดทิ้งไปตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว แรงขนาดนั้นคงพัง น่าจะเป็นคนละเครื่องกันนะ) พวกนักเวทย์คนอื่นมันเป็นติ่ง Apple รู้จักแต่งเอานิ้วขีดๆเขียนๆลากวงเวทย์วาร์ปไปมา แต่ไม่รู้จัก Dial เลยใช้พลังของ Eye of Agamotto ไม่ได้นี่เอง