Eye of Agamotto ในหนัง Dr. Strange นี่ไม่สำคัญเหรอครับ ทำไมไม่มีใครในเรื่องสนใจเลย

วันนี้พึ่งดูหนัง Dr. Strange มา ติดใจมากเรื่องสร้อย Eye of Agamotto นี่ ทำไมไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญเท่าไหร่ ทั้งที่จริงแล้วมันเป็นถึงหนึ่งในสุดยอดอัญมณี infinite gems (น่าจะเป็น time gem สินะ) มีพลังเหนือกว่าจอมมารต่างโลกอย่าง Dormammu ด้วยซ้ำ ถึงขนาดดึง Dormammu ไปติดในห้วงแห่งเวลาได้ จนท่านดอต้องยอมสิโรราบเลยทีเดียว แต่แทบไม่มีใครในเรื่องสนใจเลย ตอนที่พระเอกหยิบมาใส่เล่น พวกศิษฐ์ร่วมสำนักมาเห็นก็ไม่เห็นตกใจ ไม่ทวงคืน ตกใจแค่เรื่องที่มันฝึกวิชาแก้ไขเวลา ปล่อยให้ใส่ไปแบบนั้น พอสู้กับตัวร้าย ตัวร้ายเจอหน้าเห็นสร้อยเต็มตา ยังไม่รู้สึกถึงความเทพของพระเอกเลย มองว่าพระเอกเป็นเด็กใหม่ไร้น้ำยา ตัวร้ายมันน่าจะเป็นอดีตตัวท๊อปของสำนักแล้ว น่าจะรู้กิตติศัพท์ของชิ้นนี้ดี จริงๆเห็นคนใส่มาไม่ว่าจะเคยเห็นหน้าหรือไม่เห็นหน้า น่าจะเกรงๆบ้าง แบบเอามาได้ไงวะ ทั้งที่จริงๆแล้วพลังมันมหาศาลมาก แต่ก็ไม่มีท่าทีจะแย่งเอามาเป็นของตัวเองเลยด้วยซ้ำ ท่านดอก็เหมือนกัน เป็นถึงแห่งจอมมารผู้มีพลังเวทย์สูงส่ง วางแผนหลอกใช้ตัวร้ายมาทำลายความสงบสุขของโลก แต่ไม่คิดจะทำอะไรกับสร้อยนี้เสียก่อน สุดท้ายก็แพ้ไปแบบน่าสงสาร น่าสงสารจริงๆนะ ผมดูละหดหู่แทนเลย มันทำอะไรเราไม่ได้แม้แต่นิดเดียวแท้ๆ แต่เราก็ทำอะไรมันไม่ได้เหมือนกัน เหมือนโดนเด็กเมื่อวานซืนมากวนประสาท โคตรเสียใจแทน จริงๆถ้าท่านดอเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์ให้ตาคลีเตเซียสมาขโมยสร้อยนี่ไปก่อน น่าจะชนะได้ง่ายๆ ทั้งๆที่จริงมันขโมยง่ายมากนะ ตอนบุกมาทีแรกก็ฆ่าคนเฝ้าเอาวิชาในคัมภีร์ไปแล้ว ถ้าเดินไปหยิบสร้อยติดมือกลับไปฝึกวิชาด้วยพวกพระเอกคงไม่มีอะไรจะสู้ จะบอกว่าไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรก็ไม่ได้ เพราะตอนจบตาหว่องแกก็เฉลยเองว่ามันคือ infinite gem

อ้อ อีกเรื่องนึงที่ผมอดฮาไม่ได้ คือสรุปแล้วพระเอกสำเร็จวิชาสุดยอดพลังเวทย์ได้เพราะใช้ surface ใช่ไหมครับ เห็นใช้ surface เด่นมาทั้งเรื่อง สุดท้ายได้ Eye of Agamotto ไปจึงสำเร็จวิชาเสก Surface Dial มากรอเวลาไปมาได้ คนอื่นยังอึ้งเลยว่าทำได้ไงวะ ขนาดพระเอกเคลมว่าสงสัยเพราะเป็นหมอ มีความจำแบบรูปถ่าย พวกนั้นยังคิดว่าไม่น่าใช่แล้วก็ปล่อยเป็นคำถามค้างคาไว้แบบนั้นจนจบ สรุปคือมันเฉลยตั้งแต่ตอนที่ถ่ายให้เห็นว่าพระเอกเป็นติ่ง surface แล้วใช่ไหมครับ ขนาดออกเดินทางไปรักษามือ ไม่เหลือเงินเลยสักบาท เหลือแค่นาฬิกาอย่างเดียว ยังหาเซอเฟชแถวนั้นมาใช้อีก (เครื่องแรกมันปัดทิ้งไปตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว แรงขนาดนั้นคงพัง น่าจะเป็นคนละเครื่องกันนะ) พวกนักเวทย์คนอื่นมันเป็นติ่ง Apple รู้จักแต่งเอานิ้วขีดๆเขียนๆลากวงเวทย์วาร์ปไปมา แต่ไม่รู้จัก Dial เลยใช้พลังของ Eye of Agamotto ไม่ได้นี่เอง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
หลายคนสับสนดพราะคนแปลซับและพากย์ใช้คำว่า ในมิติของดอร์มามูเวลาไม่มีความหมาย
หลายคนเลยตีความไปว่าเมื่อเวลาไม่มีความหมาย คืออยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งที่จริงคือใหล้เคียงแต่ผิด

ถ้าอ้างตามวิทยาศาสตร์ สิ่งที่ใกล้เคียงกับคำว่าเวลาไม่มีความหมายมากที่สุดคือ หลุมดำ และ แสง คือ หลุมดำนั้นคือมวลที่มีมหาศาลมาก ๆ มากจนทำให้แม้แต่แสงก็ไม่สามารถเร็วพอที่จะวิ่งหนีออกมาจากหลุมดำได้ ซึ่งสาเหตุเพราะหลุมดำมีแรงโน้มถ่วงมาก เมื่อแรงโน้มถ่วงมีมากขึ้นเวลาก็จะช้าลงจนถึงหยุดนิ่ง(คือไม่มีเวลา) ส่วนแสงเอง เมื่อมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงเวลาของมันจะหยุดนี่ง คือตราบใดที่ยังเคลื่อนที่อยู่ เวลาก็ไม่มีความหมายเพราะเวลาหยุดไปแล้ว

จากตรงนี้จะเห็นว่า แม้ทั้ง 2 สิ่งนั้นถือว่าเวลาไม่มีความหมาย แต่ก็ไม่หมายความว่าทั้ง 2 สิ่งอยู่เหนือกาลเวลา คือเวลาไม่มีผลกับทั้ง 2 สิ่ง แต่เมื่อใดที่ทั้ง 2 สิ่งนั้นออกจากสภาวะเดิมของมันเมื่อนั้นมันก็จะเปลี่ยนสภาพจนทำให้เวลามีผลขึ้นมา
เช่น หลุมดำตามทฤษฎีฮอว์กิ้ง หลุมดำจะสูญเสียมวลไปเรื่อย ๆ จากการแผ่รังสีฮอกิ้ง จนเมื่อถึงขณะหนึ่งก็จะไม่มีมวลมากพอที่จะดึงดดูดแสงเอาไว้ได้ ทำให้สภาพของการเป็นหลุมดำหมดไปและเวลาเริ่มเดิน ส่วนแสงเองนั้น เมื่อมันเคลื่อนที่ไปแล้วกระทบกับตัวกลางเช่นวัตถุ ดวงจา หรือฝุ่นผงในอวกาศ ก็ทำให้สูญเสียโมเมนตั้มและทำให้แสงกลายสภาพเป็นอนุภาคเมื่ออยู่ในสภาวะอนุภาค(โฟตอน) แสงก็สูญเสียความเร็วจนเวลาเริ่มเดินอีกครั้ง

ทีนี้พอเอาเข้ามาประยุกต์ใช้กับในเรื่องนี้
ดอร์มามูอยู่ในมิติที่เวลาไม่มีความหมาย คือแสดงว่าไร้กาลเวลา หรือเวลาหยุดนิ่ง(ไม่ใช่เหนือกาลเวลา) ทีนี้เมื่อมันออกจากมิติตัวเองเข้ามาในมิติของโลก ทำให้เวลาเริ่มมีผล(เวลาเริ่มเดิน) เมี่อเวลามีผลก็ทำให้หมอแปลกสามารถสร้างลูปของเวลาขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงทำให้ดอร์มามูดูกดึงเข้าไปอยู่ในลูปของมิติเวลา และไม่สามารถออกมาด้วยตัวเองได้ เพราะตัวมันเองไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำว่าเวลาคืออะไร(ก็มันเกิดในมิติที่ไม่มีเวลานี่นา) ทีนี้เมื่อมันไม่สามารถออกจากลูปเวลาได้ มันก็จำต้องทำข้อตกลงกับหมอแปลก เพราะมันเองคงจะเบื่อแล้วแน่ ๆ (ลองนึกภาพเด็กที่โตมาในบ้านที่รวยมาก ๆ  เวลาหิวก็มีของให้กินเพราะทำเผื่อไว้อยู่แล้วสิ ถ้าให้เด็กแบบนี้ไปอยู่ในบ้านที่เวลาหิวแล้วต้องรอให้แม่ครัวทำอาหารให้หรือต้องทำเอง คิดว่าเด็กแบบนี้จะรอได้นานแค่ไหน) ก็คนไม่เคยรอ(ไม่มีเวลาไม่จำเป็นต้องรอ)
   พอมาเจอลูปเวลาที่ต้องรอว่าใครจะทนได้นานกว่ากันระหว่างดอร์มามูกับหมอแปลก ก็ชัด ๆ อยู่แล้วว่าดอร์มามูรอให้หมอแปลกเหนื่อยจนปลดลูปเวลาเองไม่ได้แน่ ๆ ก็เหมือนกับเด็ที่รอไม่เป็น พอให้รอนาน ๆ ก็จะพาลอารมณ์เสียและยอมแพ้ได้ง่าย ๆ นั้นเอง


จากทั้งหมดที่ว่ามานี้คือจะชี้ให้เห็นว่า ดอร์มามูไม่ได้อยู่เหนือกาลเวลา เป็นการตีความผิดและเข้าใจผิดไปเอง ที่ถูกต้องคือดอร์มามูอยู่ในมิติที่เวลาไม่มีความหมายคือไม่มีเวลา หรือเวลาหยุดนิ่ง
สิ่งเดียวในเรื่องที่เหนือกาลเวลาคือ Eye of Agamotto  เพราะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถบอดผันเวลาได้ (ย้อนเวลา หยุดเวลา เร่งเวลาได้)


ส่วนสาเหตุที่ไม่มีใครในสำนักสนใจ Eye of Agamotto  ก็เราะมอร์โดบอกเอาไว้แล้วตอนที่สอนหมอแปลก ว่าผู้ใช้เวทย์ไม่ได้เลือกของวิเศษ แต่ของวิเศษเองต่างหากที่เลือกผู้ใช้ (ที่เห็นชัด ๆ เลยคือผู้คลุมและค้อนของธอร์) เพราะงั้นถึงแม้คนอื่นในสำนักจะรู้ว่า Eye of Agamotto ทำอะไรได้ แต่เมื่อตนเองใช้ไม่ได้(ในขณะที่มีของวิเศษอื่นอีกมหาศาลให้ใช้) แล้วจะยังต้องเอาสร้อยที่ใช้ไม่ได้ติดตัวไปทำไม
ส่วนไคซีเรียสเอง จากนิสัยคือหวังผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า อะไรไม่มีค่าพอก็พร้อมที่จะตัดทิ้ง เช่นฉีกหนังสือไปแค่หน้าเดียว หรือฆ่าลูกน้องเพื่อเอาชนะ The Ancient One เป็นต้น ดังนั้นแม้รู้ว่า Eye of Agamotto ทำอะไรได้ แต่ตัวเองใช้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะเอาไปทำไม และที่แน่ ๆ คือระดับอย่างไคซีเรียสน่าจะรู้ด้วยว่าการแทรกแซงเวลามีโอกาสสูงมากที่ผู้ใช้จะติดลูปของเวลาไปด้วย แล้วเขาจะพกเอาของอันตรายอย่างนั้นติดตัวไปด้วยทำไม
ในขณะที่ ดอร์มามูผู้ไม่รู้จักเวลา แล้วจะสนใจเครื่องมือควบคุมเวลาไปเพื่ออะไรเช่นกัน


ทีนี้จากตอนที่หมอแปลกสวมสร้อย ได้พักเดียว อาศรมลอนดอนก็โดนบุก หมอแปลกกระเด็นไปอาศรมนิวยอร์ค จนถึงไปช่วยป้องกันอาศรมฮ่องกง เวลามันต่อเนื่องกันตลอด หมอแปลกเลยยังเผลอใส่ Eye of Agamotto ติดตัวมาตั้งแต่นั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่