สวัสดีครับทุกคน เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเน๊อะ
นี่เป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตของผม อาจจะมีหลงบ้าง สถานที่ไม่ครบบ้าง
แต่ก็อยากให้สนุกไปกับการเดินทางครั้งนี้ด้วยกันครับ
ขออภัยไว้ก่อนเลย รูปเยอะนะครับ ฮ่าๆ
-----
ทริปนี้ใช้บริการ Airasia X ตั๋วโปรโมชั่น ไป-กลับ ดอนเมือง-โอซาก้า ราคาประมาณ 8,000 ครับ
ไฟลท์ขาไปเครื่องถึง KIX Airport 21.40 น. ถึงก็ดึกแล้ว ก็เลยแพลนว่าจะนอนที่สนามบินซะเลย
(ผมเลือกนอนที่ชั้น 2 ใกล้ๆ ร้าน lawson ตรงนี้คนเยอะ พลุกพล่านมาก แนะนำว่านอนอีกฝั่ง แถวๆ Family Mart ดูจะเงียบกว่า ฮ่าๆ)
ทริปนี้จะเดินเที่ยวรอบๆโอซาก้า นั่นคือ โกเบ-เกียวโต และ นารา Pass เลยซื้อ Pass ต่างๆ ตามนี้ฮ่ะ
- KANSAI THRU PASS 3 Days - 5,200 เยน
- Osaka Amazing Pass 1 Day - 2,300 เยน
ทั้ง 2 Pass ซื้อได้ที่ Kansai Tourist Information Center ชั้น 1
เนื่องจากตามแพลนวันแรกของเรา ตั้งใจจะไปโกเบ เลยเลือกจะเดินทางด้วย Bay Shuttle
เป็นเรือเฟอร์รี่ เดินทางจาก Kansai Airport ไปถึง Kobe Airport ใช้เวลาเพียง 30 นาที
ลดราคาสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยฮ่ะ จาก 1850 เยน เหลือ แค่ 1000 เยนเท่านั้น สะดวกดีเหมือนกัน
จาก Kobe Airport ก็อาศัญ Port Liner ต่อเข้ามาที่ สถานี Sannomiya(Port Liner)ได้เลย
เราฝากกระเป๋ากันที่นี่ ไม่ได้ถ่ายที่เก็บกระเป๋า ถ่ายมาแต่ลุงเท่ๆ1คน ฮะๆ
ออกจาก สถานี Sannomiya (Port Liner)ก็มาเดินเล่นที่ Kitano Ijinkan street ก่อนเลย
ที่นี่เป็นโซนที่เป็นบ้านพักของชาวต่างชาติ บ้านสวยๆเยอะมาก
ถ้าอยากเข้าไปดูข้างในบ้านก็ต้องจ่ายค่าเข้าชมครับ ส่วนเราเดินเล่นรอบๆพอ
เดินเล่นเพลินๆ หาอะไรกินไปเรื่อยๆ ก็มูฟไปต่อกันที่ Himeji Castle
โดยกลับมาที่ สถานี Sannomiya(Port Liner) ใช้รถไฟสาย Hanshin/Sanyo Line ไปลงที่ สถานี Sanyo Himeji
เดินจากสถานนีไปพอสมควร ก็จะเจอปราสาทสีขาวสวยมากๆ แสบตามาแต่ไกลเลย
Himeji Castle มีค่าเข้าชมในตัวปราสาท 1000 เยนฮ่ะ
ไกด์ กำลังเดินอยู่ตรงฐานของปราสาท
เสร็จจาก Himeji Castle เราก็นั่งรถไฟสายเดิม Hanshin/Sanyo Line มาลงที่สถานนี Maiko-koen
เพื่อมาชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่ Akashi-kaikyo bridge กับอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 20องศา
ลุงที่นั่งถ่ายรูปอยู่ข้างๆ ลุงแกชวนคุยไปสักพักก็เอารูปในกล้องให้ดู อยากจะบอกว่า
รูปลุงสวยมากๆ ไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มแล้ว จบหลังกล้องก็เทพแล้วครับ ยอมครับ ฮ่าๆ
วิวพระอาทิตย์กำลังตก
สะพาน Akashi-kaikyo bridge
จริงตั้งใจจะไปต่อที่ Kobe Port Tower ต่อหนาวมาก และเหนื่อยมากๆ เลยตัดสินใจกลับที่พัก
พักผ่อนเอาเเรงสำหรับวันต่อไปดีกว่า
Day 2 - เป้าหมายอยู่ที่ Arashiyama-Kyoto
วันนี้เราตื่นแต่เช้า มาตั้งต้นที่สถานนี Awaji เพื่อจะใช้ Hankyu Kyoto Lin + Randen Arashiyama Line
เพื่อพาตัวเองไปให้ถึงสถานนี Arashiyama (Randen/Tram way) ก่อนที่ทัวร์จะมา และคนจะเยอะแน่นป่าไผ่
Bamboo Grove ป่าไผ่สวยๆเรียงกันไปสุดทางเดิน
สุดทางเดินของป่าไผ่ จะเจอ Okochi-Sanso Villa ค่าเข้าชม 1000 เยน เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆ
น่าจะเป็นที่พักหรืออะไรสักอย่าง อยู่สะกลางป่าเลย
แล้วก็มาเดินเล่นข้างใน Tenryu-ji Temple ค่าเข้าชมวัด + สวน 800 เยน
เดินออกมาจากวัด ไปทางขวาสุดทางก็จะเจอ Togetsukyo bridge
ฝั่งตรงข้ามของสะพาน
เราออกจาก Arashiyama ด้วย Randen Arashiyama Line มาลงที่สถานนี NISHIOJI-SANJO
เพื่อต่อรถเมย์ สาย 205 ไปลง Kinkakuji-michi Station ราคา 230 เยนตลอดสาย
ลงรถเมย์ เดินนิดเดียวก็ถึง Kinkakuji Temple ฮ่ะ ค่าเข้าชม 400 เยน
Kinkakuji Temple ตัวอาคารสีทองเด่นตัดกับสีเขียวของป่า
วิวตามเส่นทางใน Kinkakuji
จากระยะไกลออกมานิดนึง
ต่อด้วย นั่งรถเมย์สาย12 จากหน้า Kinkakuji Temple มาถึง Gion-Shijo Station รถติดมากๆ หลับได้หลายตื่นเลย
เราก็จะเจอ Kamo River จุดนั่งพักนั่งชิลพร้อมกับบรรยากาศเก่าๆ
สวยดีเลยถ่ายเก็บไว้
Yasaka Shrine ระหว่างทางที่จะไป Kiyomizu-dera
ฝนตกตลอดทั้งวัน วันนี้ ฮ่าๆ
วันนี้ขอจบด้วยที่รูปนี้ครับ ( ทั้งคู่เดินผ่านมาพอดี เลยขอกดสัก1ชอต ) เพราะตอนเดินต่อไปฝนตกรัวๆ
แถมพอเดินไปถึง Kiyomizu-dera ก็ 5โมงกว่าๆ
เค้าจะปิดแล้ว ก็เลยคุยกันว่าจะมาพรุ่งนี้ใหม่อีกรอบ
Day 3 - Kyoto- Nara
ตื่นเช้าอีกแล้ว เพื่อต้องการหลบหลีกฝูงชน วันนี้ใช้ รถไฟสาย Keihan Main Line เพื่อพาตัวเองไปสถานนี FUSHIMIINARI
Fushimiinari Shrine เสาประตูสีส้มออกแดงเรียงยาวตามทางเดิน ขึ้นไปบนเขาจนสุดสายตา
ต้องจัดหลายๆมุมหน่อย
และวนกลับมาที่ Kiyomizu-dera จากที่เมื่อวานไม่ได้เข้า ค่าเข้า 400 เยน
ตรงจุดที่เห็นเราจะเห็นตัววัดได้ถนัดตา พี่เค้าก็ดันปิดปรับปรุงอีก จบเลยที่ตั้งใจมา ฮ่าๆ
ตรงทางเดินระหว่างทางขึ้นวัด ร้านขนมร้านนี้อร่อยคนต่อคิวเยอะพอสมควร ชิมแล้วอร่อยดีฮ่ะ
ตามทางเดินที่จะกลับไปสถานีรถไฟ
เดินไปเรื่อยๆ
เดินกลับมาจนถึงสถานนี Gion-Shijo ใช้รถไฟสาย Kintetsu Nara Line ไปสถานนี KINTETSU-NARA
Nara เมืองแห่งกวาง กวางที่นี่ชิลมากบอกเลย ฮ่าๆ
มอง
เดินตามทางไปเรื่อยๆก็มาถึง Todaiji Temple วัดที่เป็นอาคารไม้ ที่ใหญ่มากๆ ดูจากขนาดคนได้เลย
อีกมุมหนึ่ง
ด้านในของอาคารที่ตั้งเด่นตรงกลางคือ หลวงพ่อโต หรือ ไดบุตสึเดน สูงตั่ง 15 เมตร
มีด้านข้างก็ต้องมีด้านตรง
แถวๆทางเข้าวัดครับ
พอเสร็จจากที่วัด ก็พากันนั่งรถไฟกลับมาโอซาก้า มาเดินเล่นกันต่อที่แถว Namba,Shisaibashi,Todonbori
สถานที่แสงสีเสียง ร้านอาหารเยอะร้านขายของก็เยอะ
Glico Man
เดินเล่นรอบๆ
จบอีกวัน กลับที่พัก นอนได้แล้วๆ
Day 4 - Osaka
วันนี้ใช้ Osaka Amazing Pass เที่ยวรอบๆ โอซาก้ากัน ก่อนที่จะต้องกลับบ้าน
ขึ้นรถไฟมาลงที่ Osakako Station
เดินตามทางมาสักพักก็เจอ Tempozan Ferris wheel แต่ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนครับ
จาก Tempozan ก็เดินขยับมาอีกหน่อยเราก็เข้าไปเดิน
Osaka Aquarium Kaiyukan ค่าเข้า 2300 เยน
ว่าไงเจ้านาค
พี่ใหญ่ ฉลามวาฬ
นี่ตัวอะไร ให้ทายๆ
เจ้าแมวน้ำนั่นเอง ฮ่าๆ
ที่มันดูตัวใหญ่ๆไม่ใช่อะไร กระจกมันโค้งครับ
จัดพี่ใหญ่อีกสักชอต
ที่ชั้นล่างสุดจะมีแก๊งแมงกะพรุนคอยรับแขก
พอเดินมาไกล้จะถึงทางออก ก็เจอแมวน้ำส่งยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
แถมมาเจอ เพนกวิ้น
พอเสร็จจาก Aquarium ก็ขึ้นรถไฟมาต่อที่ Umeda sky building 1000 เยน
วิวข้างบนมองเห็นเมืองได้ 360องศา
และสุดท้าย แล้วเราก็ขึ้นรถไฟมาจบที่ Osaka Castle ไม่ได้เข้าไปข้างในครับ อาคารเค้าปิดพอดี ฮ่าๆ
-----
[CR] [CR] " Japan, Kansai " " 5วัน 4คืน แบกเป้แล้วไปเที่ยวกัน "
นี่เป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตของผม อาจจะมีหลงบ้าง สถานที่ไม่ครบบ้าง
แต่ก็อยากให้สนุกไปกับการเดินทางครั้งนี้ด้วยกันครับ
ขออภัยไว้ก่อนเลย รูปเยอะนะครับ ฮ่าๆ
-----
ทริปนี้ใช้บริการ Airasia X ตั๋วโปรโมชั่น ไป-กลับ ดอนเมือง-โอซาก้า ราคาประมาณ 8,000 ครับ
ไฟลท์ขาไปเครื่องถึง KIX Airport 21.40 น. ถึงก็ดึกแล้ว ก็เลยแพลนว่าจะนอนที่สนามบินซะเลย
(ผมเลือกนอนที่ชั้น 2 ใกล้ๆ ร้าน lawson ตรงนี้คนเยอะ พลุกพล่านมาก แนะนำว่านอนอีกฝั่ง แถวๆ Family Mart ดูจะเงียบกว่า ฮ่าๆ)
ทริปนี้จะเดินเที่ยวรอบๆโอซาก้า นั่นคือ โกเบ-เกียวโต และ นารา Pass เลยซื้อ Pass ต่างๆ ตามนี้ฮ่ะ
- KANSAI THRU PASS 3 Days - 5,200 เยน
- Osaka Amazing Pass 1 Day - 2,300 เยน
ทั้ง 2 Pass ซื้อได้ที่ Kansai Tourist Information Center ชั้น 1
เนื่องจากตามแพลนวันแรกของเรา ตั้งใจจะไปโกเบ เลยเลือกจะเดินทางด้วย Bay Shuttle
เป็นเรือเฟอร์รี่ เดินทางจาก Kansai Airport ไปถึง Kobe Airport ใช้เวลาเพียง 30 นาที
ลดราคาสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยฮ่ะ จาก 1850 เยน เหลือ แค่ 1000 เยนเท่านั้น สะดวกดีเหมือนกัน
จาก Kobe Airport ก็อาศัญ Port Liner ต่อเข้ามาที่ สถานี Sannomiya(Port Liner)ได้เลย
เราฝากกระเป๋ากันที่นี่ ไม่ได้ถ่ายที่เก็บกระเป๋า ถ่ายมาแต่ลุงเท่ๆ1คน ฮะๆ
ออกจาก สถานี Sannomiya (Port Liner)ก็มาเดินเล่นที่ Kitano Ijinkan street ก่อนเลย
ที่นี่เป็นโซนที่เป็นบ้านพักของชาวต่างชาติ บ้านสวยๆเยอะมาก
ถ้าอยากเข้าไปดูข้างในบ้านก็ต้องจ่ายค่าเข้าชมครับ ส่วนเราเดินเล่นรอบๆพอ
เดินเล่นเพลินๆ หาอะไรกินไปเรื่อยๆ ก็มูฟไปต่อกันที่ Himeji Castle
โดยกลับมาที่ สถานี Sannomiya(Port Liner) ใช้รถไฟสาย Hanshin/Sanyo Line ไปลงที่ สถานี Sanyo Himeji
เดินจากสถานนีไปพอสมควร ก็จะเจอปราสาทสีขาวสวยมากๆ แสบตามาแต่ไกลเลย
Himeji Castle มีค่าเข้าชมในตัวปราสาท 1000 เยนฮ่ะ
ไกด์ กำลังเดินอยู่ตรงฐานของปราสาท
เสร็จจาก Himeji Castle เราก็นั่งรถไฟสายเดิม Hanshin/Sanyo Line มาลงที่สถานนี Maiko-koen
เพื่อมาชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่ Akashi-kaikyo bridge กับอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 20องศา
ลุงที่นั่งถ่ายรูปอยู่ข้างๆ ลุงแกชวนคุยไปสักพักก็เอารูปในกล้องให้ดู อยากจะบอกว่า
รูปลุงสวยมากๆ ไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มแล้ว จบหลังกล้องก็เทพแล้วครับ ยอมครับ ฮ่าๆ
วิวพระอาทิตย์กำลังตก
สะพาน Akashi-kaikyo bridge
จริงตั้งใจจะไปต่อที่ Kobe Port Tower ต่อหนาวมาก และเหนื่อยมากๆ เลยตัดสินใจกลับที่พัก
พักผ่อนเอาเเรงสำหรับวันต่อไปดีกว่า
Day 2 - เป้าหมายอยู่ที่ Arashiyama-Kyoto
วันนี้เราตื่นแต่เช้า มาตั้งต้นที่สถานนี Awaji เพื่อจะใช้ Hankyu Kyoto Lin + Randen Arashiyama Line
เพื่อพาตัวเองไปให้ถึงสถานนี Arashiyama (Randen/Tram way) ก่อนที่ทัวร์จะมา และคนจะเยอะแน่นป่าไผ่
Bamboo Grove ป่าไผ่สวยๆเรียงกันไปสุดทางเดิน
สุดทางเดินของป่าไผ่ จะเจอ Okochi-Sanso Villa ค่าเข้าชม 1000 เยน เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆ
น่าจะเป็นที่พักหรืออะไรสักอย่าง อยู่สะกลางป่าเลย
แล้วก็มาเดินเล่นข้างใน Tenryu-ji Temple ค่าเข้าชมวัด + สวน 800 เยน
เดินออกมาจากวัด ไปทางขวาสุดทางก็จะเจอ Togetsukyo bridge
ฝั่งตรงข้ามของสะพาน
เราออกจาก Arashiyama ด้วย Randen Arashiyama Line มาลงที่สถานนี NISHIOJI-SANJO
เพื่อต่อรถเมย์ สาย 205 ไปลง Kinkakuji-michi Station ราคา 230 เยนตลอดสาย
ลงรถเมย์ เดินนิดเดียวก็ถึง Kinkakuji Temple ฮ่ะ ค่าเข้าชม 400 เยน
Kinkakuji Temple ตัวอาคารสีทองเด่นตัดกับสีเขียวของป่า
วิวตามเส่นทางใน Kinkakuji
จากระยะไกลออกมานิดนึง
ต่อด้วย นั่งรถเมย์สาย12 จากหน้า Kinkakuji Temple มาถึง Gion-Shijo Station รถติดมากๆ หลับได้หลายตื่นเลย
เราก็จะเจอ Kamo River จุดนั่งพักนั่งชิลพร้อมกับบรรยากาศเก่าๆ
สวยดีเลยถ่ายเก็บไว้
Yasaka Shrine ระหว่างทางที่จะไป Kiyomizu-dera
ฝนตกตลอดทั้งวัน วันนี้ ฮ่าๆ
วันนี้ขอจบด้วยที่รูปนี้ครับ ( ทั้งคู่เดินผ่านมาพอดี เลยขอกดสัก1ชอต ) เพราะตอนเดินต่อไปฝนตกรัวๆ
แถมพอเดินไปถึง Kiyomizu-dera ก็ 5โมงกว่าๆ
เค้าจะปิดแล้ว ก็เลยคุยกันว่าจะมาพรุ่งนี้ใหม่อีกรอบ
Day 3 - Kyoto- Nara
ตื่นเช้าอีกแล้ว เพื่อต้องการหลบหลีกฝูงชน วันนี้ใช้ รถไฟสาย Keihan Main Line เพื่อพาตัวเองไปสถานนี FUSHIMIINARI
Fushimiinari Shrine เสาประตูสีส้มออกแดงเรียงยาวตามทางเดิน ขึ้นไปบนเขาจนสุดสายตา
ต้องจัดหลายๆมุมหน่อย
และวนกลับมาที่ Kiyomizu-dera จากที่เมื่อวานไม่ได้เข้า ค่าเข้า 400 เยน
ตรงจุดที่เห็นเราจะเห็นตัววัดได้ถนัดตา พี่เค้าก็ดันปิดปรับปรุงอีก จบเลยที่ตั้งใจมา ฮ่าๆ
ตรงทางเดินระหว่างทางขึ้นวัด ร้านขนมร้านนี้อร่อยคนต่อคิวเยอะพอสมควร ชิมแล้วอร่อยดีฮ่ะ
ตามทางเดินที่จะกลับไปสถานีรถไฟ
เดินไปเรื่อยๆ
เดินกลับมาจนถึงสถานนี Gion-Shijo ใช้รถไฟสาย Kintetsu Nara Line ไปสถานนี KINTETSU-NARA
Nara เมืองแห่งกวาง กวางที่นี่ชิลมากบอกเลย ฮ่าๆ
มอง
เดินตามทางไปเรื่อยๆก็มาถึง Todaiji Temple วัดที่เป็นอาคารไม้ ที่ใหญ่มากๆ ดูจากขนาดคนได้เลย
อีกมุมหนึ่ง
ด้านในของอาคารที่ตั้งเด่นตรงกลางคือ หลวงพ่อโต หรือ ไดบุตสึเดน สูงตั่ง 15 เมตร
มีด้านข้างก็ต้องมีด้านตรง
แถวๆทางเข้าวัดครับ
พอเสร็จจากที่วัด ก็พากันนั่งรถไฟกลับมาโอซาก้า มาเดินเล่นกันต่อที่แถว Namba,Shisaibashi,Todonbori
สถานที่แสงสีเสียง ร้านอาหารเยอะร้านขายของก็เยอะ
Glico Man
เดินเล่นรอบๆ
จบอีกวัน กลับที่พัก นอนได้แล้วๆ
Day 4 - Osaka
วันนี้ใช้ Osaka Amazing Pass เที่ยวรอบๆ โอซาก้ากัน ก่อนที่จะต้องกลับบ้าน
ขึ้นรถไฟมาลงที่ Osakako Station
เดินตามทางมาสักพักก็เจอ Tempozan Ferris wheel แต่ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนครับ
จาก Tempozan ก็เดินขยับมาอีกหน่อยเราก็เข้าไปเดิน
Osaka Aquarium Kaiyukan ค่าเข้า 2300 เยน
ว่าไงเจ้านาค
พี่ใหญ่ ฉลามวาฬ
นี่ตัวอะไร ให้ทายๆ
เจ้าแมวน้ำนั่นเอง ฮ่าๆ
ที่มันดูตัวใหญ่ๆไม่ใช่อะไร กระจกมันโค้งครับ
จัดพี่ใหญ่อีกสักชอต
ที่ชั้นล่างสุดจะมีแก๊งแมงกะพรุนคอยรับแขก
พอเดินมาไกล้จะถึงทางออก ก็เจอแมวน้ำส่งยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
แถมมาเจอ เพนกวิ้น
พอเสร็จจาก Aquarium ก็ขึ้นรถไฟมาต่อที่ Umeda sky building 1000 เยน
วิวข้างบนมองเห็นเมืองได้ 360องศา
และสุดท้าย แล้วเราก็ขึ้นรถไฟมาจบที่ Osaka Castle ไม่ได้เข้าไปข้างในครับ อาคารเค้าปิดพอดี ฮ่าๆ
-----