**เตือนภัยมิจฉาชีพย่านสาทร** - มิจฉาชีพ...ไม่มี...วันหยุด

ก่อนหน้านี้ ผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจว่า ทำไมถึงมีคนถูกมิจฉาชีพหลอกเงินกันอยู่เรื่อยๆจนเป็นข่าวรายวัน  จนกระทั่งผมได้มาเจอกับตัวเอง ถึงได้เข้าใจว่าเหตุการณ์มันพาไปเรื่อยๆตั้งแต่ต้นจนจบ ไหนๆเรื่องก็เกิดขึ้นไปแล้ว แถมเงินหนึ่งพันบาทที่ผมเสียไป ก็ไม่น่าจะได้คืน ผมจึงอยากบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้และขอแชร์ข้อมูลที่พอหามาได้ เผื่อคนอื่นที่ได้เห็นหรือได้อ่านจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพคนนี้ซ้ำอีก

เหตุการณ์เกิดตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม (วันปิยมหาราชที่เพิ่งผ่านไป) เวลาประมาณ 15.45 น. ตรงซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 5 (ใกล้แยกสาทรและ BRT-BTS ช่องนนทรี) บริเวณด้านหลังตึก Bangkok City Tower และตึก Sathorn City Tower

ถ้าเป็นวันทำงาน บริเวณนี้ จะมีพนักงานออฟฟิศจำนวนมากตลอดเวลา แต่วันนั้นเป็นวันหยุด คนที่เดินผ่านไปมาทั้งวันคงมีจำนวนน้อยมาก และผมก็ดันได้รับเลือกจากมิจฉาชีพคนนี้ ช่างเป็นประสบการณ์ที่หวังว่าจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตจริงๆ

วันนั้นหลังจากที่ผมซื้อของที่ 7-11 บริเวณใกล้เคียงและกำลังจะเดินกลับคอนโดในซอย ก็มีผู้ชายแปลกหน้าคนนึงมาทักถามว่า พี่เป็นคนไทยหรือเปล่า พอผมตอบไปว่า ใช่ เค้าก็เริ่มเล่าเรื่องราวของเค้าทันทีพร้อมขอความช่วยเหลือ

เค้าบอกว่าพอดีเค้าเพิ่งทะเลาะกับแฟนรุนแรง แล้วทำประชดแฟน เดินลงจากรถมา เมื่อแฟนเค้าขับรถออกไปแล้ว เค้าเพิ่งนึกได้ว่าเผลอทิ้งกระเป๋าสตางค์และมือถือไว้บนรถด้วย เค้าเลยกลับไปที่หอพักตรง ABAC บางนาไม่ได้ (จริงๆผมน่าจะฉุกใจมากๆตรงนี้ว่า คนเรามันจะลืมของหมดทุกอย่างขนาดนั้นเลยเหรอ)

ผมฟังแล้วก็เออออไปแค่ว่า เอ้อ อยู่ไกลนะจากสาทร เค้าพยายามจะ relate กับผมต่อว่า เรียน ABAC เหมือนกันเหรอ แต่ผมตอบว่า เปล่า ผมแค่รู้ว่าอยู่ตรงไหนเฉยๆ (ผมกังวลว่าเค้าอาจจะยืมมือถือผมเพื่อขอโทรหาใครสักคนหรือเปล่า คือผมกลัวว่าถ้าเค้าเป็นมิจฉาชีพ เมื่อได้มือถือแล้วอาจจะวิ่งหนีไปเลย แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น)

สิ่งที่เค้าทำต่อคือ ยิ้มแหยๆและขอเงินผมเพื่อจะเดินทางกลับหอ ผมก็เอะใจนิดหน่อยว่าจะมาหลอกเงินหรือเปล่า แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าตอนนั้น ผมคงกะแค่ว่าจะตัดรำคาญ ก็เลยจะให้เงิน 100-200 บาทไป เพราะในกระเป๋าสตางค์ตอนนั้นมีแบงก์ 100 สองใบและแบงก์ 1,000 สองใบ
(ผมดันคิดตามเรื่องราวของเค้ามากไปหน่อยว่า ABAC บางนาอยู่ไกลมาก ถ้ามี 100-200 บาท ก็อาจจะกลับไปลำบากจริงๆ)

พอผมหลวมตัว หยิบกระเป๋าสตางค์จะเอาเงิน 200 บาทให้เค้า ซึ่งผมก็คิดว่าจะให้ไปเลย ไม่ได้กะว่าจะขอให้คืนเงินในภายหลัง (ตอนนี้เค้าคงมั่นใจแล้วว่า ผมเชื่อเรื่องราวของเค้าแล้ว เค้าจึงเริ่มออกลูกไม้ทันที) เค้าทำเป็นอิดออด ไม่อยากรับเงิน 200 บาท และบอกว่ามันน้อยไป เค้าคงเดินทางกลับไปถึง ABAC บางนาลำบาก เค้ายื่นข้อเสนอที่จะขอยืมเงินผม 1,000 บาทแทน และเดี๋ยวพอเค้ากลับถึงหอได้แล้ว จะโทรติดต่อกลับมาหาผมเพื่อขอเบอร์บัญชีและจะโอนเงินคืนมาให้ทันที

ผมมองเค้าตั้งแต่หัวจรดเท้าไปหนึ่งรอบด้วยความไม่มั่นใจ ลักษณะเค้าเป็นคนไทยเชื้อสายจีนหน้าตี๋ๆไม่ต่างจากผม แต่ผิวขาวกว่า สูงพอๆกัน น่าจะประมาณ 165-170 ซม. ไม่อ้วนไม่ผอมสักเท่าไหร่ หน้าตาก็พอจะโมเมว่าเป็นนักศึกษา ABAC ได้ ถึงแม้จะดูอายุมากกว่านักศึกษาปริญญาตรีไปหน่อย คิดว่าน่าจะเกือบๆ 30 ปี นอกจากการแต่งตัวที่ใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงสามส่วน และรองเท้าแตะแบบที่มีสายรัดข้อเท้าแล้ว สิ่งเดียวที่ผมเห็นว่าเค้ามีคือ นาฬิกาข้อมือสีทอง แต่ผมก็คิดในใจว่ามันเป็นสีทองที่ดูเก๊มากๆ แบบพวกสีทองเหลือง

เค้าคงเห็นผมมีทีท่าลังเล ก็เลยรีบชิงพูดดักทาง บอกว่าผมมองเค้าตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยเหรอ ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงเค้ากลับไปหอแล้ว จะรีบโอนเงินคืนแน่นอน และบอกให้ผมเชื่อคำพูดของเค้าได้

ผมจำไม่ได้แล้วว่า ตอนนั้นทำไมถึงได้หยิบแบงก์พันให้เค้าไป แต่คิดว่าเป็นเพราะลักษณะภายนอกเค้าดูเหมือนคนที่พอจะมีเงินบ้าง คงไม่ได้จำเป็นต้องมาหลอกใครเพื่อเงินจำนวนไม่มากนัก และในใจผม เหมือนอยากจะลองเชื่อใจคนดูสักที ก็เลยเป็นเหตุให้ผมตกหลุมพรางและให้เงินเค้าไปโดยง่ายดาย (ถ้าได้ดูวีดีโอต่อจากนี้แล้ว ลองพิจารณาดูแล้วกันนะครับว่า เค้าหน้าตาดูน่าเชื่อถือหรือไม่ แต่ยังไง ผมก็คงเชื่อคนง่ายไปหน่อย)

เหตุการณ์ช่วงแรกที่ผมให้เงินเค้า น่าเสียดายที่ไม่มีภาพวีดีโอบันทึกไว้ เพราะวันนั้น ตึก Bangkok City Tower ดับไฟทั้งอาคาร ซึ่งทำให้กล้องวงจรปิดของตึกไม่ทำงานไปด้วย

ส่วนเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากนั้น มีภาพวีดีโอบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิดของตึก Sathorn City Tower พอดี
(ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อาคาร Sathorn City Tower ด้วยครับที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ในภาพวีดีโอ มิจฉาชีพคนนั้น (เสื้อดำ) พอรับเงินจากผมไปแล้ว ก็เดินไปขอเศษกระดาษจากป้อมยามบริเวณใกล้เคียงเพื่อจะจดชื่อและเบอร์มือถือผม (เหยื่อ - เสื้อขาว) จะได้โทรมาถามเบอร์บัญชีอีกทีเพื่อโอนเงินคืน แต่ผมจำเบอร์บัญชีของตัวเองได้อยู่แล้ว และบอกให้เค้าจดเบอร์บัญชีผมไปด้วย
จะได้โอนเงินคืนมาให้ได้เลย แล้วค่อยโทรมาบอกก็ได้ พอเค้าจดข้อมูลเสร็จ ก็ไหว้ขอบคุณผมและเดินจากไป
(ผมคิดในใจว่า ถ้าเค้าโอนเงินมาคืนจริงๆ ก็จะได้รู้สึกโอเคที่เชื่อใจเค้า แต่ถ้าไม่ก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อย)

จนผ่านวันที่ 23 และ 24 ไป ไม่มีเงินโอนคืนหรือมีใครโทรมาหาผมแต่อย่างใด ผมถึงได้รู้ตัวเสียทีว่าถูกมิจฉาชีพคนนั้นหลอกเงิน ตอนแรกผมก็คิดว่าจะทำใจว่าเสียรู้กลลวงของเค้าเฉยๆ ไม่ได้กะจะให้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่พอมาลอง search ในอินเตอร์เน็ตดู ก็ดันเจอกระทู้ที่เหตุการณ์เหมือนกันกับผมไม่ผิดเพี้ยนเลย

"**** เตือนภัย :: คนชื่อกอล์ฟตี๋ๆ มาขอยืมเงิน"
http://ppantip.com/topic/32676614
แถมเหตุการณ์ดันเกิดมานานตั้ง 2 ปีแล้วในบริเวณใกล้เคียงกันมากๆ และเป็นข่าวช่วงนั้นด้วย

"เตือน หนุ่มตี๋อ้างเป็น นศ. ม.ดัง หลอกเอาตังค์ผู้ใจบุญทั่วกรุง"
http://news.mthai.com/hot-news/general-news/404662.html
ก็เป็นไปได้ว่าจะมีเหยื่อที่โดนหลอกเงินอีกหลายราย โดยไม่มีภาพหน้าตาของมิจฉาชีพคนนี้ให้เห็นในข่าว ถ้ายังคงมีคนที่พลาดหลงเชื่อเค้าอีกเหมือนผม เค้าก็คงทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุดสักที

ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าหลังตึกแถวนั้นน่าจะมีกล้องวงจรปิดอยู่หลายตัว เพราะเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และก็คิดไม่ผิดจริงๆ ถึงแม้คุณภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ได้มาจะไม่ดีมากนัก แต่การที่มิจฉาชีพคนนั้นเล่นบทบาทของเค้าด้วยการเดินมาขอกระดาษที่ป้อมยามกลับทำให้เค้ามีภาพปรากฎในกล้องวงจรปิดของตึก Sathorn City Tower ทั้งที่ตอนแรก ผมและเค้ายืนอยู่ตรงบริเวณตึก Bangkok City Tower ที่กล้องวงจรปิดไม่ทำงาน

ผมรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ (ครั้งแรกในชีวิต) เพื่อลงบันทึกประจำวันและขอเอกสารขอความร่วมมือในการดูกล้องวงจรปิดจากทั้งสองตึก เพราะไม่แน่ใจว่าข้อมูลจะมีการเก็บบันทึกไว้นานขนาดไหน

จากที่ผมสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากผมไม่รู้ชื่อนามสกุลของมิจฉาชีพคนนี้ รวมถึงเบอร์มือถือที่เค้าให้เหยื่อรายอื่นๆก่อนหน้านี้ ก็เป็นเบอร์ที่ระงับไปแล้ว เมื่อหลักฐานมีแค่ภาพวีดีโอ ก็อาจจะยากในการติดตามตัวคนร้าย และต่อให้จับกุมเค้าได้จริงๆ โทษสูงสุดที่เค้าจะได้รับ ก็คงไม่มากมายนัก เพราะเป็นคดีเล็กน้อย ผมจึงคิดว่าการแชร์ภาพและเรื่องราวของเค้าออกไปในวงกว้าง น่าจะได้ผลที่ดีมากกว่า อาจจะมีใครสักคนที่รู้จักเค้าก็เป็นได้

เนื่องจากผมรู้เวลาและสถานที่ที่เกิดเหตุแน่นอนจาก location history ในมือถือของผม การค้นหาภาพวีดีโอกล้องวงจรปิดจากทางตึกเลยไม่ได้ยากสักเท่าไหร่ ผมได้ขอบันทึกภาพออกมาเพื่อจะเอามาแชร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าเผื่อมีคนได้เห็นภาพของมิจฉาชีพคนนี้มากๆ ต่อให้เราจับเค้าไม่ได้ ก็อาจจะช่วยให้มีเหยื่อน้อยลงสักคนก็ยังดี

สรุปวิธีการของมิจฉาชีพคนนี้จากกระทู้เตือนภัยก่อนๆ
ชื่อ: กอล์ฟ (จากกระทู้ในพันทิป แต่อาจเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆก็ได้)
สถานที่พบเจอ: หลักๆคือสาทร แถวๆ BTS ช่องนนทรี นอกจากนี้ยังมีคนเจอแถวสยาม MBK พระราม 3  BTS กรุงธนบุรี และสุทธิสารด้วย
วิธีการหลอกขอเงิน: อ้างว่าทะเลาะกับแฟน แฟนขับรถหนีไปซึ่งมีกระเป๋าตังค์และมือถือของตัวเองอยู่ในรถ เลยจะขอยืมเงินกลับหอพักที่ ABAC บางนา และจะโอนเงินคืนให้ทีหลัง
เบอร์โทรศัพท์ที่ทิ้งไว้ให้: 083-935-2512, 083-896-0512, 084-524-2412
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่