ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ อุรุเวลา, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ PuPaKae ถูกใจ, คุณ ริมแม่โขง, คุณ สมาชิกหมายเลข 1399661, น้องนุ้ย ณวลี, คุณลิ ลายลิขิต, คุณโอ เขมปัณณ์
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทแรก - บทที่ 1
http://ppantip.com/topic/35638204
บทที่ 2 - บทที่ 3
http://ppantip.com/topic/35648626
บทที่ 4
http://ppantip.com/topic/35655325
บทที่ 5
http://ppantip.com/topic/35665748
บทที่ 6
http://ppantip.com/topic/35669708
บทที่ 7
http://ppantip.com/topic/35673616
บทที่ 8
http://ppantip.com/topic/35680516
บทที่ 9
http://ppantip.com/topic/35683775
บทที่ 10
http://ppantip.com/topic/35688063
บทที่ 11
http://ppantip.com/topic/35695077
บทที่ 12
http://ppantip.com/topic/35729742
บทที่ 13
http://ppantip.com/topic/35740950
บทที่ 14
ผู้หญิงคนนั้นแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรือนร่างค่อนไปทางสูงในชุดซิ่นผ้าปาเต๊ะและเสื้อแขนยาวสีนวลยังคงโปร่งบาง ใบหน้าสวยคมแทบไม่มีริ้วรอยของวัยที่สูงขึ้น หล่อนมาพร้อมพี่ชายและผู้ติดตามทั้งหญิงและชายอีกสามคน นั่นคงเป็นอีกอย่างที่ยังไม่เปลี่ยน ไม่ว่าหล่อนไปไหน และไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร หล่อนมีบริวารติดตามไปด้วยเสมอ
ขบวนผู้คนในชุดเครื่องแต่งกายแปลกตามาถึงด้วยรถหรูสองคัน เรียกความสนใจได้ถ้วนทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ผู้เป็นเจ้าของบ้าน
ไอรีนไม่แน่ใจว่าคุณอัสมารู้เรื่องคุณรามได้อย่างไรในเมื่อตั้งแต่ลาจากกันในครั้งนั้น ก็เหมือนตายจากกันไปเลย มีเพียงคุณอัมมาร์เท่านั้นที่ยังคงติดต่อกับคุณรามอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งเมื่อร่วมลงทุนทำสวนยางที่ปัตตานีด้วยกันก็ยิ่งสนิทสนมกันยิ่งขึ้น คุณรามลงไปปัตตานีบ่อยครั้งเพื่อดูแลกิจการ ส่วนใหญ่เธอไม่ได้ติดตามไปด้วย
หากสำหรับคุณอัสมานั้นกลับตรงกันข้าม หล่อนยังคงอยู่ลังกาวี และเท่าที่เธอรู้ หล่อนไม่ยอมพบคุณรามอีกเลย พอบอกได้หรอกว่าความหมองหมางนั้นฝังรากลึกเพียงไร คำพูดชนิดตัดขาดไม่เหลือเยื่อใยของคุณรามคงทำร้ายความรู้สึกของหล่อนอย่างรุนแรง แม้จะใช้วิธีการพูดที่อ้อมที่สุดแล้ว และโดยไม่ได้ดึงเอาหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้องเลยก็ตาม
ไอรีนจำวันนั้นได้ดี มะเจ๊ะมาลัย...มารดาของคุณอัมมาร์และคุณอัสมาป่วย คุณรามจึงพาเธอไปเยี่ยม และได้ร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วย เป็นครั้งแรกที่ท่านเลียบๆ เคียงๆ ถามเรื่องเธอกับคุณราม ต่อหน้าทุกๆ คน คุณรามเผยความในใจที่แม้แต่ตัวเธอก็ไม่เคยรู้มาก่อน
'ผมอยากได้ไอรีนตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้วครับมะเจ๊ะ ต้องเรียกว่าอยากได้ ถึงขนาดอยากเป็นเจ้าของนั่นแหละครับ'
ใบหน้าคมเกลื่อนรอยยิ้มเมื่อสารภาพอย่างตรงไปตรงมา นัยน์ตาเข้มเฉียบฉายประกายกล้าขณะทอดมองมาทางเธอ
'…รู้ตั้งแต่แรกว่าผมรักเขา ยิ่งเห็นหลายครั้งก็ยิ่งแน่ใจ ผมหาเหตุไปบ้านเขาได้เรื่อยๆ นั่นแหละครับ อ้างโน่นอ้างนี่เพื่อให้ได้ไปหาเขาได้เรื่อยๆ ขอแค่ได้เห็นหน้าก็ยังดี ก็รักนี่ครับ ไม่เคยรักใครมาก่อนด้วย จนมาเจอเขานี่แหละ ตอนที่ขอไอรีนแต่งงานผมสัญญาว่าถ้าเขายอมแต่งงานกับผม ผมจะมีเขาคนเดียว'
นั่นเป็นอีกด้านของคุณรามซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อน เขาบอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อเธอให้มะเจ๊ะมาลัยฟังเหมือนเด็กหนุ่มมีความรักครั้งแรก และรักนั้นก็กำลังล้นอกจนต้องระบายให้ใครสักคนได้ร่วมรับรู้
เธอเองเสียอีกที่อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ยิ่งเมื่อมือใหญ่ๆ วางทาบลงบนหลังมือเพื่อยืนยันคำพูดด้วยแล้ว เธอยิ่งต้องก้มหน้างุดเพื่อหลบสายตาผู้ร่วมโต๊ะอาหาร หากในเวลาเดียวกันก็อุ่นวาบไปทั้งตัว อุ่นจนร้อนเลยทีเดียว เข้าใจด้วยว่านั่นคือวิธีซึ่งคุณรามใช้ปฏิเสธความปรารถนาของคุณอัสมาอย่างนุ่มนวลที่สุด
และในวินาทีนั้น ในท่ามกลางความน่าสะพรึงกลัวของสงครามซึ่งนับวันก็มีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้น ไอรีนรู้ว่าคิดไม่ผิดเลยที่เสี่ยงภัยมาตามหาเขา ยิ่งประโยคต่อมาที่เขาบอกมารดาคุณอัสมา เธอก็รู้แล้วว่าเขาตั้งใจบอกเป็นนัยๆ ให้ใครได้รู้
'ผมตั้งใจว่าอย่างนั้นจริงๆ ครับมะเจ๊ะ ในชีวิตนี้ผมจะไม่มีใครอีก ไม่เคยคิดจะมีด้วยครับ'
ไอรีนไม่เคยลืมสายตาที่คุณรามมองเธอในค่ำคืนนั้น แววตาคมสะท้อนความมาดมั่นที่จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ทั้งหมดนั้นสร้างความมั่นใจให้เธอยิ่งกว่าคำพูดและการกระทำใดๆ ทั้งหมดของเขาที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันว่าสองปีนับแต่เขาหนีออกมาจากเกาะตะรุเตา และไปๆ มาๆ ระหว่างลังกาวีกับปีนังนั้น เขาไม่เคยมีใครอื่นเลย และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณอัสมาที่เธอสงสัยนับแต่มาถึงนั้นล้วนมาจากความหวาดระแวงของตัวเองทั้งสิ้น
แต่ก็นั่นแหละ จะไม่ให้ระแวงได้อย่างไรในเมื่อเธอเคยเผชิญกับเรื่องแบบนั้นมาก่อน และเห็นได้ชัดแล้วว่าคุณอัสมามีใจให้คุณรามขนาดไหน มะเจ๊ะมาลัยเองก็หวังว่าลูกสาวคนเดียวคงได้ออกเรือนในคราวนี้ มะเจ๊ะมาลัยชอบคุณราม เธอคิดว่าคุณรามเองก็คงรู้ ก็ในเมื่อเคยถามตรงๆ
'เรื่องแบบนี้อยู่ที่คนกลางไม่ใช่หรือไอรีน ใครจะบังคับจิตใจใครได้ ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้วนี่' คำตอบนั้นของเขาสรุปทุกสิ่งทุกอย่างได้ในที่สุด
นั่นหลังจากที่เขาตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาดด้วยการพาเธอไปอยู่เสียที่ปีนัง กลับมาลังกาวีอีกครั้งก็นานทีเดียวหลังจากนั้น และเมื่อกลับมา คุณรามสร้างบ้านของตัวเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องไปอาศัยอยู่บ้านของคุณอัสมาหรือของใครอีก
ในฝั่งฝัน (บทที่ 14)
ขอบคุณ คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ อุรุเวลา, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ PuPaKae ถูกใจ, คุณ ริมแม่โขง, คุณ สมาชิกหมายเลข 1399661, น้องนุ้ย ณวลี, คุณลิ ลายลิขิต, คุณโอ เขมปัณณ์
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทแรก - บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/35638204
บทที่ 2 - บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/35648626
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/35655325
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/35665748
บทที่ 6 http://ppantip.com/topic/35669708
บทที่ 7 http://ppantip.com/topic/35673616
บทที่ 8 http://ppantip.com/topic/35680516
บทที่ 9 http://ppantip.com/topic/35683775
บทที่ 10 http://ppantip.com/topic/35688063
บทที่ 11 http://ppantip.com/topic/35695077
บทที่ 12 http://ppantip.com/topic/35729742
บทที่ 13 http://ppantip.com/topic/35740950
ผู้หญิงคนนั้นแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรือนร่างค่อนไปทางสูงในชุดซิ่นผ้าปาเต๊ะและเสื้อแขนยาวสีนวลยังคงโปร่งบาง ใบหน้าสวยคมแทบไม่มีริ้วรอยของวัยที่สูงขึ้น หล่อนมาพร้อมพี่ชายและผู้ติดตามทั้งหญิงและชายอีกสามคน นั่นคงเป็นอีกอย่างที่ยังไม่เปลี่ยน ไม่ว่าหล่อนไปไหน และไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร หล่อนมีบริวารติดตามไปด้วยเสมอ
ขบวนผู้คนในชุดเครื่องแต่งกายแปลกตามาถึงด้วยรถหรูสองคัน เรียกความสนใจได้ถ้วนทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ผู้เป็นเจ้าของบ้าน
ไอรีนไม่แน่ใจว่าคุณอัสมารู้เรื่องคุณรามได้อย่างไรในเมื่อตั้งแต่ลาจากกันในครั้งนั้น ก็เหมือนตายจากกันไปเลย มีเพียงคุณอัมมาร์เท่านั้นที่ยังคงติดต่อกับคุณรามอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งเมื่อร่วมลงทุนทำสวนยางที่ปัตตานีด้วยกันก็ยิ่งสนิทสนมกันยิ่งขึ้น คุณรามลงไปปัตตานีบ่อยครั้งเพื่อดูแลกิจการ ส่วนใหญ่เธอไม่ได้ติดตามไปด้วย
หากสำหรับคุณอัสมานั้นกลับตรงกันข้าม หล่อนยังคงอยู่ลังกาวี และเท่าที่เธอรู้ หล่อนไม่ยอมพบคุณรามอีกเลย พอบอกได้หรอกว่าความหมองหมางนั้นฝังรากลึกเพียงไร คำพูดชนิดตัดขาดไม่เหลือเยื่อใยของคุณรามคงทำร้ายความรู้สึกของหล่อนอย่างรุนแรง แม้จะใช้วิธีการพูดที่อ้อมที่สุดแล้ว และโดยไม่ได้ดึงเอาหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้องเลยก็ตาม
ไอรีนจำวันนั้นได้ดี มะเจ๊ะมาลัย...มารดาของคุณอัมมาร์และคุณอัสมาป่วย คุณรามจึงพาเธอไปเยี่ยม และได้ร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วย เป็นครั้งแรกที่ท่านเลียบๆ เคียงๆ ถามเรื่องเธอกับคุณราม ต่อหน้าทุกๆ คน คุณรามเผยความในใจที่แม้แต่ตัวเธอก็ไม่เคยรู้มาก่อน
'ผมอยากได้ไอรีนตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้วครับมะเจ๊ะ ต้องเรียกว่าอยากได้ ถึงขนาดอยากเป็นเจ้าของนั่นแหละครับ'
ใบหน้าคมเกลื่อนรอยยิ้มเมื่อสารภาพอย่างตรงไปตรงมา นัยน์ตาเข้มเฉียบฉายประกายกล้าขณะทอดมองมาทางเธอ
'…รู้ตั้งแต่แรกว่าผมรักเขา ยิ่งเห็นหลายครั้งก็ยิ่งแน่ใจ ผมหาเหตุไปบ้านเขาได้เรื่อยๆ นั่นแหละครับ อ้างโน่นอ้างนี่เพื่อให้ได้ไปหาเขาได้เรื่อยๆ ขอแค่ได้เห็นหน้าก็ยังดี ก็รักนี่ครับ ไม่เคยรักใครมาก่อนด้วย จนมาเจอเขานี่แหละ ตอนที่ขอไอรีนแต่งงานผมสัญญาว่าถ้าเขายอมแต่งงานกับผม ผมจะมีเขาคนเดียว'
นั่นเป็นอีกด้านของคุณรามซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อน เขาบอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อเธอให้มะเจ๊ะมาลัยฟังเหมือนเด็กหนุ่มมีความรักครั้งแรก และรักนั้นก็กำลังล้นอกจนต้องระบายให้ใครสักคนได้ร่วมรับรู้
เธอเองเสียอีกที่อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ยิ่งเมื่อมือใหญ่ๆ วางทาบลงบนหลังมือเพื่อยืนยันคำพูดด้วยแล้ว เธอยิ่งต้องก้มหน้างุดเพื่อหลบสายตาผู้ร่วมโต๊ะอาหาร หากในเวลาเดียวกันก็อุ่นวาบไปทั้งตัว อุ่นจนร้อนเลยทีเดียว เข้าใจด้วยว่านั่นคือวิธีซึ่งคุณรามใช้ปฏิเสธความปรารถนาของคุณอัสมาอย่างนุ่มนวลที่สุด
และในวินาทีนั้น ในท่ามกลางความน่าสะพรึงกลัวของสงครามซึ่งนับวันก็มีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้น ไอรีนรู้ว่าคิดไม่ผิดเลยที่เสี่ยงภัยมาตามหาเขา ยิ่งประโยคต่อมาที่เขาบอกมารดาคุณอัสมา เธอก็รู้แล้วว่าเขาตั้งใจบอกเป็นนัยๆ ให้ใครได้รู้
'ผมตั้งใจว่าอย่างนั้นจริงๆ ครับมะเจ๊ะ ในชีวิตนี้ผมจะไม่มีใครอีก ไม่เคยคิดจะมีด้วยครับ'
ไอรีนไม่เคยลืมสายตาที่คุณรามมองเธอในค่ำคืนนั้น แววตาคมสะท้อนความมาดมั่นที่จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ทั้งหมดนั้นสร้างความมั่นใจให้เธอยิ่งกว่าคำพูดและการกระทำใดๆ ทั้งหมดของเขาที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันว่าสองปีนับแต่เขาหนีออกมาจากเกาะตะรุเตา และไปๆ มาๆ ระหว่างลังกาวีกับปีนังนั้น เขาไม่เคยมีใครอื่นเลย และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณอัสมาที่เธอสงสัยนับแต่มาถึงนั้นล้วนมาจากความหวาดระแวงของตัวเองทั้งสิ้น
แต่ก็นั่นแหละ จะไม่ให้ระแวงได้อย่างไรในเมื่อเธอเคยเผชิญกับเรื่องแบบนั้นมาก่อน และเห็นได้ชัดแล้วว่าคุณอัสมามีใจให้คุณรามขนาดไหน มะเจ๊ะมาลัยเองก็หวังว่าลูกสาวคนเดียวคงได้ออกเรือนในคราวนี้ มะเจ๊ะมาลัยชอบคุณราม เธอคิดว่าคุณรามเองก็คงรู้ ก็ในเมื่อเคยถามตรงๆ
'เรื่องแบบนี้อยู่ที่คนกลางไม่ใช่หรือไอรีน ใครจะบังคับจิตใจใครได้ ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้วนี่' คำตอบนั้นของเขาสรุปทุกสิ่งทุกอย่างได้ในที่สุด
นั่นหลังจากที่เขาตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาดด้วยการพาเธอไปอยู่เสียที่ปีนัง กลับมาลังกาวีอีกครั้งก็นานทีเดียวหลังจากนั้น และเมื่อกลับมา คุณรามสร้างบ้านของตัวเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องไปอาศัยอยู่บ้านของคุณอัสมาหรือของใครอีก