มาคาลอฟ เดรเยอร์ ชื่อนี้คงคุ้นหูแฟนการ์ตูนเรื่องแฟรี่เทลเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นตัวละครสำคัญคนหนึ่งของเรื่องเลยก็ว่าได้ และเมื่อไม่นานมานี้เนื้อเรื่องหลักได้เฉลยให้ทุกคนรู้แล้วว่า ตัวละครนี้ได้ยุติบทบาทของตัวเองแล้ว แต่ภายใต้รอยยิ้มและคราบน้ำตาของทุกคนภายในกิลด์ และรวมถึงแฟนการ์ตูนทุกคน สิ่งเหล่านี้ยังสะท้อนให้เห็นความรัก ความผูกพัน และความภาคภูมิใจในตัวมาคาลอฟ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่เคียงข้างทุกคนจนถึงบทสรุปสุดท้ายของเรื่อง แต่ภาพแห่งความทรงจำสีจางนี้จะอยู่กับทุกคนตลอดไป

กระทู้นี้ผมจึงเขียนขึ้นจากใจจริงของคนเป็นแฟนการ์ตูน และติดตามเนื้อเรื่องมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ เราจะย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ต่างๆในอดีตที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนของมาคาลอฟ เดรเยอร์ ที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อกิลด์ และทุกคนในแฟรี่เทล

ก่อนอื่นผมจะขอเรียกมาคาลอฟว่า “ปู่” เพราะชื่อนี้ฟังคุ้นหู และทำให้เรารู้สึกว่าเขายังอยู่กับเราตลอดเวลา หากเราเปรียบเมวิสว่าเป็นแม่ของทุกคนในกิลด์แฟรี่เทล ปู่ก็คงต้องเป็นพ่อของทุกคนเหมือนกัน เพราะพ่อคนนี้ทำเพื่อลูกทุกคนในกิลด์มาโดยตลอด และมักนึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ

ในบรรดาทำเนียบกิลด์มาสเตอร์ทุกคนในแฟรี่เทล ดูเหมือนว่าปู่จะเป็นกำลังหลักคนสำคัญที่ทำให้กิลด์แฟรี่เทลเติบโตขึ้นมาเป็นกิลด์ที่ยิ่งใหญ่ และแข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน และปู่ก็เชื่อมั่นคนในกิลด์ทุกคน ไม่ว่าจะทำสิ่งที่ผิดหรือถูก ปู่จะยืนเคียงข้างทุกคนเสมอ และออกรับหน้าแทนทุกครั้ง เพื่อปกป้องคนที่ปู่รัก เพราะเราอยู่กันแบบครอบครัว ไม่ใช่กิลด์ ดังนั้นจึงขาดคนใดคนหนึ่งในครอบครัวไปไม่ได้

เหตุการณ์ศึกแฟนธ่อม ลอร์ดในตอนต้นของเรื่อง ทำให้เราเห็นความรักและความห่วงใยจากพ่อคนนี้ที่เป็นห่วงลูกทุกคนต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จนเป็นเดือดเป็นร้อนออกหน้าปกป้องทุกคน การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มต้นจากกิลด์แฟนธ่อม ลอร์ด ซึ่งเป็นคู่ปรับตลอดกาลของกิลด์แฟรี่เทลบุกมาโจมตีจนถึงที่ ซึ่งกลุ่มชาโดว์ เกียร์ ซึ่งเป็นสมาชิกของกิลด์แฟรี่เทล ประกอบไปด้วย เลวี่ แมคการ์เดน เจ็ต และดรอย ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนั้นคือ โจเซ่ โพล่า กิลด์มาสเตอร์ของแฟนธ่อม ลอร์ด ซึ่งโจเซ่ใช้ภารกิจการพาตัวลูซี่กลับไปหาพ่อของตัวเองตามการจ้างวานเป็นข้ออ้าง และซ้อนแผนเพื่อถือโอกาสทำลายกิลด์แฟรี่เทลให้สิ้นซาก

การที่ปู่ได้มาเห็นเหตุการณ์เหล่านั้น ทำให้ปู่รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากที่ไม่สามารถปกป้องทุกคนภายในกิลด์ของตัวเอง ดังนั้นเมื่อแฟนธ่อม ลอร์ดเป็นคนที่เริ่มก่อสงครามก่อน กิลด์แฟรี่เทลภายใต้การนำของปู่จึงตอบรับคำท้าประกาศสงครามกับกิลด์แฟนธ่อม ลอร์ดในที่สุด ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อศักดิ์ศรีของกิลด์ หรือเกียรติยศที่ถูกย่ำยีเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้และปกป้องในฐานะของคนเป็นพ่อที่เห็นลูกของตัวเองถูกทำร้ายอย่างไร้ความปราณี

การต่อสู้กับกิลด์แฟนธ่อม ลอร์ดเป็นเรื่องที่หนักมือสำหรับกิลด์แฟรี่เทลเหมือนกัน เพราะกิลด์แฟนธ่อม ลอร์ดในอดีตเคยเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาก่อน และในตอนนี้กิลด์แฟรี่เทลก็ได้มาแทนที่ตำแหน่งนั้นแล้ว ดังนั้นต่างฝ่ายจึงมีอาวุธกันครบมือ ไม่ว่าจะเป็นกิลด์มาสเตอร์ที่ติด 1 ใน 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่เหมือนกัน หรือแม้แต่จอมเวทระดับ S ก็ตาม แต่การต่อสู้กันครั้งนี้ดูเหมือนว่าฝ่ายกิลด์แฟนธ่อม ลอร์ดจะวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะรู้ว่าในที่สุดแฟรี่เทลก็ต้องประกาศสงครามอย่างแน่นอน จึงซ้อนแผนกิลด์แฟรี่เทลวางกับดักเพื่อตัดกำลังฝ่ายตรงข้าม โดยให้อาเรีย 1 ใน เอเลเมนท์โฟร์ ใช้เวทมนตร์ทำร้ายปู่จนได้รับบาดเจ็บ และสูญเสียพลังเวทมนตร์ไปทั้งหมด ทำให้กิลด์แฟรี่เทลไม่สามารถที่จะสู้กิลด์แฟนธ่อม ลอร์ดได้ และต้องช่วยเหลือปู่ให้ปลอดภัยก่อน จึงต้องกลับมาตั้งหลักเริ่มต้นกันใหม่ที่กิลด์แฟรี่เทล

แม้ว่าในตอนแรกปู่จะเสียท่า โดนโจเซ่ใช้กลอุบายจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และสูญเสียพลังเวทมนตร์ของตัวเองไปทั้งหมด แต่ก็ยังโชคดีที่ได้มิสกันเก็บรวบรวมพลังเวทมนตร์มาช่วยปู่ไว้ได้ทัน ในบทสรุปสุดท้ายของสงครามครั้งนี้ กิลด์แฟนธ่อม ลอร์ดได้บุกมาโจมตีกิลด์แฟรี่เทลอีกครั้ง ขณะเดียวกันเอลซ่าก็กำลังต่อสู่กับโจเซ่อย่างยากลำบาก ส่วนสมาชิกคนอื่นๆของกิลด์ก็กำลังต่อสู้กับเวทมนตร์ของโจเซ่อย่างสาหัสเช่นเดียวกัน ปู่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าโจเซ่กับเอลซ่าอีกครั้ง ทั้งโจเซ่และปู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด และเต็มกำลัง ไม่มีใครยอมใคร เพราะฝ่ายโจเซ่เองก็ต้องการทำลายกิลด์แฟรี่เทลให้สิ้นซาก ส่วนฝ่ายปู่เองก็ต้องการกู้ศักดิ์ศรีและเกียรติยศของทุกคนคืนเหมือนกัน ศึกครั้งนี้จึงจบลงที่ฝ่ายกิลด์แฟรี่เทลเป็นผู้ชนะ จาการใช้แฟรี่ลอว์ 1 ใน 3 มหาเวทของภูต เพื่อยุติสงครามนองเลือดที่เกิดขึ้น

การตัดสินใจของปู่ในการใช้แฟรี่อลว์ ถือเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดมาก และการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการยุติปัญหาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการปกป้องทุกคนทั้งฝ่ายกิลด์แฟรี่เทล และกิลด์แฟนธ่อม ลอร์ด เพื่อหยุดการสูญเสียไม่ให้มีมากขึ้นไปกว่านี้ เพราะแต่ละฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ และสูญเสียมามากพอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย หรือทางจิตใจก็ตาม ปู่จึงเป็นคนที่รักกิลด์มาก และรักสมาชิกทุกคนของแฟรี่เทลเช่นกัน นึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ และไม่ใช่แค่พวกพ้องของตัวเองเท่านั้น แต่ยังนึกถึงคนอื่นที่อยู่รอบข้างอีกด้วย

เหตุการณ์ต่อมาก็คือ ศึกบนเกาะเทนโรว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นความรักและมิตรภาพของสมาชิกกิลด์แฟรี่เทลทุกคน ไม่ใช่แค่ความรักของปู่ที่มีต่อทุกคนเท่านั้น แต่ยังเป็นความรักของทุกคนที่มีต่อปู่ด้วย

เราทุกคนคงรู้กันดีว่าจุดเริ่มต้นของการเกิดศึกบนเกาะเทนโรว เริ่มต้นจากการทดสอบจอมเวทประจำปีของกิลด์แฟรี่เทล เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเลื่อนขั้นมาเป็นจอมเวทระดับ S ของกิลด์ และในการทดสอบครั้งนี้ได้ถูกกำหนดให้จัดการทดสอบขึ้นที่เกาะเทนโรว เกาะศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นตำนานและจุดกำเนิดของกิลด์แฟรี่เทล นอกจากนี้ยังเป็นที่เก็บหลุมฝังศพของเมวิส เวอร์มิลเลี่ยน กิลด์มาสเตอร์คนแรกของกิลด์แฟรี่เทลอีกด้วย

การทดสอบจอมเวทระดับ S ในรอบแรกบนเกาะเทนโรวผ่านไปได้ด้วยดี มีจอมเวทของกิลด์แฟรี่เทลหลายคนที่เป็นตัวเต็ง และสามารถผ่านการทดสอบรอบแรกไปได้ หลังจากการทดสอบรอบแรกสิ้นสุดลง การทดสอบรอบที่ 2 ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งในตอนนี้เองที่กิลด์แฟรี่เทลได้ถูกโจมตี โดยมีผู้นำคือ ฮาเดส กิลด์มาสเตอร์ของกริมมัวร์ ฮาร์ท และเป็นอดีตกิลด์มาสเตอร์รุ่นที่ 2 ของแฟรี่เทล ซึ่งสาเหตุที่กริมมัวร์ ฮาร์ทมาโจมตีแฟรี่เทลบนเกาะเทนโรว เพราะต้องการตัวของเซเรฟ และขุมพลังเวทมนตร์ด้านมืด เพื่อทำให้โลกเวทมนตร์กลับสู่ยุคมืดอีกครั้ง

ปู่ในฐานะผู้นำของกิลด์แฟรี่เทล จึงต้องออกโรงปกป้อง เพื่อให้สมาชิกทุกคนของกิลด์แฟรี่เทลปลอดภัยจากเงื้อมมือของฮาเดส ปู่จึงเปิดฉากการโจมตีก่อน แต่ก็ไม่เป็นผล ปู่จึงตัดสินใจใช้แฟรี่ลอว์ แต่ในขณะเดียวกันฮาเดสเองก็ใช้กริมมัวร์ ลอว์เช่นกัน ทำให้แต่ละฝ่ายไม่สามารถที่จะทำอะไรคู่ต่อสู้ได้ เพราะเป็นเวทมนตร์ที่ใช้หักล้างกัน ปู่ก็ไม่ยอมแพ้จึงใช้อามาเทระซึ ฮาเดสเองก็ใช้เวทมนตร์นี้เหมือนกัน และเป็นขั้นที่สูงกว่า การต่อสู้ครั้งนี้ปู่จึงเป็นฝ่ายแพ้ แต่ปู่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากลัคซัสที่กลับมาช่วยเหลือกิลด์แฟรี่เทลอีกครั้ง และพวกนัตสึที่ตามมาสมทบ จึงสามารถเอาชนะฮาเดสได้ และปกป้องเกาะเทนโรวได้อย่างปลอดภัย

แต่เหตุการณ์สำคัญของเรื่องในตอนนี้ ไม่ได้อยู่ที่การต่อสู้กับกิลด์กริมมัวร์ ฮาร์ท เพราะหลังจากที่ฮาเดสพ่ายแพ้ และนำกิลด์ของตัวเองออกจากเกาะเทนโรว อัคโนโลเกียก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ทำให้สถานการณ์ในตอนนั้นกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

ปู่จึงตัดสินใจบอกให้ทุกคนรีบหนีออกจากเกาะเทนโรว โดยที่ตัวเองจะเป็นคนจัดการอัคโนโลเกียเอง ปู่ในตอนนั้นจึงยอมสู้ตายเพื่อให้สมาชิกทุกคนของกิลด์แฟรี่เทลได้มีชีวิตรอดกลับไป เหตุการณ์ตอนนี้ทำให้เราเห็นแล้วว่าปู่ยอมเสียสละตัวเอง เพื่อให้ทุกคนได้มีชีวิตต่อไป เพราะกิลด์แฟรี่เทลยังต้องคงอยู่ ซึ่งมันสวนทางกับชีวิตของปู่ในตอนนี้ กิลด์แฟรี่เทลอยู่กันแบบครอบครัว ดังนั้นครอบครัวนี้จึงขาดผู้นำอย่างปู่ไปไม่ได้ ทุกคนจึงตัดสินใจหันหลังตรงทางออก และกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกคนในแฟรี่เทลจึงพร้อมใจยืนหยัดเคียงข้างต่อสู้ด้วยกัน แม้ว่าความหวังนั้นแทบจะไม่มีเลยก็ตาม

เพราะความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคน จึงส่งต่อเจตนารมณ์อย่างแรงกล้า ทำให้แฟรี่สเฟียร์ 1 ใน 3 มหาเวทของภูตตอบรับต่อคำร้องขอ และสานต่อเจตนารมณ์เหล่านั้นในอีก 7 ปี ต่อมา เราจะเห็นว่าในสถานการณ์ที่คับขัน การเชื่อใจเป็นสิ่งที่สำคัญ และคำว่าพวกพ้องก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ถ้าจะรอดก็ต้องรอดด้วยกัน ถ้าจะตายก็ต้องตายร่วมกัน แม้ว่าปู่จะยอมทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าปู่จะเป็นแค่ผู้ให้เพียงอย่างเดียว หรือทุกคนในกิลด์แฟรี่เทลเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นว่าการเป็นผู้ให้หรือผู้รับไม่สำคัญ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราควรให้ในสิ่งที่ควรให้ และควรรับในสิ่งที่ควรรับ เหมือนกับที่ปู่ได้ให้โอกาสทุกคนได้มีชีวิตรอด และทุกคนในแฟรี่เทลได้รับโอกาสนั้นมา เพื่อนำกลับไปให้ปู่อีกครั้ง เพราะทุกคนต่างมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเหมือนกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้า มันมีความสุขมากกว่าการที่ต้องสูญเสียใครคนใดคนหนึ่งไป

โปรดติดตามตอนต่อไป To be continued.....

ใครมีความคิดเห็นอย่างไรมาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ยินดีรับฟังเสมอ ^^